Bloggang.com : negima_xx : "TRANSPORTER 3" - คนแหกกฎ กับ ภารกิจแหกระห่ำ

"TRANSPORTER 3" - คนแหกกฎ กับ ภารกิจแหกระห่ำ

TRANSPORTER 3 / เพชฌฆาตสัญชาติเทอร์โบ

แฟรงค์ มาร์ติน (เจสัน สเตทแฮม ) กลับมารับภารกิจส่งของสุดระห่ำแบบตกกระไดพลอยโจรโดยถูกบีบให้ลักพาตัว วาเลนติน่า (นาตาลย่า รุดดาโคว่า) ลูกสาวของ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมนาม วาสิเลฟ (เยอร์เรียน แครบเบ้) ในยูเครน ข้ามจากมาร์เซย ผ่านสตุทการ์ท ตะลุยบูดาเปสต์ กว่าจะไปส่งที่จุดหมายปลายทาง ณ โอเดสซ่า ริมทะเลดำ ตลอดเส้นทางของภารกิจนี้ แฟรงค์ ได้รับความช่วยเหลือจาก นักสืบทาร์โคนี่ (ฟรังซัว เบอร์เลี่ยน ) เป็นอย่างดีในการรับมือ จอห์นสัน (โรเบิร์ต เน็พเปอร์) ผู้บงการภารกิจครั้งนี้ ในขณะที่ วาสิเลฟ ส่งลูกน้องเข้ามาขัดขวางหวังชิงตัวลูกสาวคืน วาเลนติน่าเองก็ขัดขืนเต็มกำลัง แต่ถึงเธอจะปากร้ายและเขาเองก็ไม่อยากเกี่ยวข้องกับบุคคลในภารกิจ แต่แฟรงค์ไม่วายตกหลุมรักวาเลนติน่าเต็มเปา ทั้ง ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามหนีเอาชีวิตให้รอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานทั้งหลายแหล่ที่ประดังเข้ามาจุดชนวนความระห่ำอีกครั้ง…

แค่ชื่อ “Luc Besson” กับ “Jason Stantham” กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วแก่การตีตั่วเข้าไปชมหนังเรื่องนี้ ซึ่งเผลอแป็บเดียวหนังแฟรนไชส์เรื่องของนักขับรถส่งของบ้าระห่ำ TRANSPORTER ก็มาถึงภาคที่ 3 เข้าไปแล้ว ซึ่งส่วนตัวแม้ไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของหนังเรื่องนี้แต่ตอนที่TRANSPORTER ภาคแรกออกฉายในบ้านเรานั้นก็ถือว่าสร้างกระแสพอตัว รวมไปถึงส่งให้ “Jason Stantham” แจ้งเกิดในบทนำพระเอกหนังแอคชั่นอย่างเต็มตัว ซึ่งภาคแรกได้ “ซู ฉี” มารับบทเป็นนางเอกเสียด้วย (ชื่อไทยเท่มากครับ “ขนระห่ำ...ไปบี้นรก” ประมาณว่าหนังเรื่องนี้บู๊ล้างผลาญ100% ) ภาคต่อมาก็กลับมาพร้อมฉากแอคชั่นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะฉากขับรถคล่อมตึก 2 ตึก ไอเดียและมุมกล้องเจ๋งมากครับในส่วนนี้ และก็มาถึงภาคใหม่นี้ ก็คล้ายๆกับภาคที่ 2 เสียมากกว่าแต่จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของ แฟรงค์ และ วาเลนติน่า ผสมปนเปไปกับการขายฉากแอคชั่นเท่ๆที่มาพร้อมไอเดียที่สดขึ้น(แต่ก็ไม่มาก)

ส่วนสำคัญที่ภาคใหม่น่าจะได้เปรียบกว่า 2 ภาคที่ผ่านมาก็คงจะเป็นเพราะในภาคนี้มีความ “กลมกล่อม” ในส่วนของการแบ่งสัดส่วนเนื้อหาได้ดีขึ้น แม้หลายคนจะมองว่าหนังแฟรนไชส์เรื่องนี้เป็นประเภท บู้ 10 นาที คุยกัน 5 นาที แล้วก็กลับมาบู๊กันต่อ 10 แล้วคุยกัน 5 นาที วนไปวนมาจนจบเรื่อง (ก็เป็นสูตรตายตัวของหนังแนวนี้นี่หว่า) แต่เหมือนทางผู้กำกับ “Olivier Megaton” และ “Luc Besson” สามารถทำการบ้านมาได้ดีในเรื่องนี้ ทำให้ตัวหนังดูมีความน่าติดตามและสร้างอารมณ์ร่วมได้ในระดับที่น่าพอใจ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ TRANSPORTER ดูมีเสน่ห์ก็คือตัวละครเอกอย่าง “แฟรงค์ มาร์ติน” ซึ่งมีลักษณะเป็นคนขอบคอบ สุขุม แต่แฝงไปด้วยความเก่งทั้งในการต่อสู้และในเรื่องการขับรถ รวมไปถึงนิสัยการเป็นคนเจ้าระเบียบที่ดูจะขัดกับหน้าตาและอาชีพพี่แกเสียเหลือเกิน สังเกตจากถ้าใครขึ้นรถมากับพี่แกแล้วไม่ทำตามรับรองเจอใช้กำลังเป็นแน่ (ยิ่งเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยซึ่งพี่แฟรงค์มักจะหัวเสียเสมอเวลาคนมาขึ้นรถแกแล้วไม่ยอมคาด แถมบางทียังไม่ยอมออกรถอีกต่างหาก) เสื้อผ้าก็ต้องเนี๊ยบตลอดเวลา อีกเรื่องคือเรื่องของ “กฎ” ที่แฟรงค์เป็นคนตั้งขึ้นและให้ความเคารพต่อกฎนั้นเสมอมา แม้ในภาคใหม่นี้(รวมไปถึง2ภาคแรกก็ว่าได้) จะมีเหตุให้เขาต้องฝืนกฎของตนเองอยู่เรื่อย แต่นั่นก็เพราะเป็นการตัดสินใจเพื่อรับภาระทั้งหมดมาไว้ที่ตนเอง คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน

เสน่ห์อีกอย่างคือการได้รุ่นใหญ่อย่าง “Luc Besson” มาคุมบังเหียดก็ทำให้หายห่วงในเรื่องคุณภาพและฝีมือการสร้างได้เลย ส่วนตัวคิดว่า TRANSPORTER นี่ก็คล้ายๆผลงานเก่าๆของแกอย่าง “Taxi” เหมือนกันแหะ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม “จุดแข็ง” ที่สุดของหนังก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของฉากแอคชั่นวินาศสันตะโลทั้งหลายในเรื่อง ซึ่งลืมเรื่องของ “ความเป็นจริง” ไว้เบื้องหลังได้เลย และนอกจากจะเวอร์สุดๆแล้ว ยังดูเท่อีกต่างหาก ไล่กันไปตั้งแต่ฉากที่ผมชอบมาที่สุดอย่าง ตอนที่ แฟรงค์ ปั่นจักยานไล่ตามรถยนต์ผ่านตลาดและลัดไปตามตึกราต่างๆ ให้ความรู้สึกลุ้นและลุ้นเป็นอย่างมาก , ฉากเอาตัวรอดจากการขับรถตกสะพานลงแม่น้ำ ที่ดูแล้วบอกกับตัวเองเลยว่า “ไอนี่มันจะเทพไปไหนฟระ” ยิ่งฉากไฮไลท์ขับรถบนหนังคารถไฟแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง คือถ้าจะมีคนเก่งกว่าพี่แฟรงค์ก็คงมี Zohan (ยอดมนุษย์บ้าพลัง จาก You Don't Mess with the Zohan )คนเดียวกระมั้งเนี่ย แต่ทุกฉากที่กล่าวมาก็คงปฏิเสษไม่ได้ว่าล้วนเป็นจุดขายที่หนังทำออกมาได้อย่างมีระดับครับ เทคนิกค่อนข้างเนียนและดูสมจริงพอสมควร

นอกจากฉากบู้แอคชั่นแล้วเรื่องของ “มุขตลก” ในหนังสไตล์ “Luc Besson” ก็ยังคงเสน่ห์อยู่ในภาคใหม่นี้ครับ

มองในส่วนของนักแสดงนั้น “Jason Stantham” พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากผลงานทั้ง 2 ภาคแรก รวมไปถึงงานอย่าง Crank หรือล่าสุดที่เพิ่งเข้าฉายไปอย่าง Death Race ยิ่งเรื่องนี้กลับมาร่วมงานกับ “Luc Besson” ด้วยแล้วไม่ต้องห่วงเลย ฉากแอคชั่นด้วยมือเปล่ายังคงดูดุดันอยู่ (ก็กล้ามใหญ่สะขนาดนั้น) เวลาเล่นมุขในหนังหน้าก็ดูกวนๆดี ส่วนนางเอกสาวสวยผู้หญิงหนึ่งเดียวในหนังเรื่องนี้ “Natalya Rudakova” นั้นก็ถือว่าน่าพอใจกับผลงานการแสดงครั้งแรกของเธอครับ เสียอย่างเดียวรู้สึกหน้าจะมีกระมากไปหน่อย อีกคนที่คิดว่าเล่นได้ดีมากก็คือรายของ “Robert Knepper” ที่โด่งดังกับบทไอ้โรคจิต 'T-Bag' จากซีรี่ย์แหกคุกที่ดูแล้วไม่ได้หลับได้นอนอย่าง "Prison Break" ในบท “Johnson” วายร้ายในภาคนี้ ทั้งสีหน้าและท่าทางดูร้ายจริงๆครับ พี่แกเหมาะกับบทแนวนี้อย่างแท้จริง ยิ่งถ้าเทียบกับบทหัวหน้าฝ่ายทหารในหนังฟอม์ทยักษ์ The Day the Earth Stood Still ที่เล่นไว้แล้ว จะยิ่งเห็นความแตกต่างชัดเจน และ “François Berléand” ในบทเดิมเจ้าหน้าที่ “Tarconi” ก็ยังรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ (แต่บทช่างน้อยเสียเหลือเกิน)

ข้อคิดอย่างหนึ่งที่หนังเรื่องนี้บอกกับเราก็คือ บางครั้งการ “แหกกฏ” ที่เราตั้งไว้ มันก็ยังไม่เลวร้ายไป กว่าการที่เราเลือกที่จะทำตามกฎแล้วผลที่ออกมาคือทำให้คนอื่นหรือตัวเราเองต้องผิดหวังในภายหลัง เพราะ “กฎ” ก็เป็นเพียงแค่เกาะป้องกันที่คนเราสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเซฟตัวเองขั้นต้นเท่านั้นเอง ให้เราได้มีเวลาคิดทบทวนกับเรื่องตรงหน้ามากขึ้น และถ้าการใช้กฎบังหน้าเพื่อให้ตนเองปลอดภัยแต่คนรอบข้างต้องเดือดร้อนไปทั่ว เราก้คงเป้นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด ฉะนั้น “การแหกกฎ” เมื่อเห็นสมควรอย่างตัวละคร แฟรงค์ ในเรื่องแม้จะเหมือนโดนสถานะการณ์บีบให้กฎของตนเองสั่นคลอ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็ควรจะทำให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้มีใครต้องเสียใจภายหลังนั่นเอง

สรุปแล้ว TRANSPORTER 3 ถือเป็นหนังแอคชั่นที่มีความขึงขังในตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งยังได้ผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงแอคชั่นแห่งยุคมารวมกัน ถ้าอยากดูหนังที่เอาความมันส์อย่างเดียว แล้วโยนเรื่องความเครียดออกจากหัว มาชมภาพเท่ๆ ฉากขับรถผาดโผน แบบพอดีๆ หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าหากต้องการความสมจริงหรือเหตุผลแล้วละก็ เปลี่ยนตั๋งหน้าโรงฯก็ยังทันน่ะครับ

Create Date : 26 ธันวาคม 2551

Last Update : 12 เมษายน 2553 13:10:22 น.

1 comments

Counter : 3902 Pageviews.

จะตามมาเลือกดูค่ะ ว่าปีนี้ จะดูหนังอะไรดี

โดย: แม่ภูมิไทย (Artagold

) วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:20:49:39 น.