นักแสดง นาตาลี พอร์ทแมน เธอกลับมาร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างชุดนี้อีกครั้ง หลังจากผลงานชิ้นก่อน Paris je taime และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอยังรักษาการแสดงได้ดีตามมาตรฐานครับ
ตอนนี้ได้ผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ จาก Love Letter , Aprils Story และ Hana and Alice มากำกับ ครับ ส่วนนักแสดงสาว คริสติน่า ริชชี่ ผู้ชมจะได้เห็นหน้าเธอเพียงแวปเดียวในฉากจบของตอนนี้ แบบเดียวกับที่พระเอกในเรื่องของเราได้เห็น ซึ่งตรงนี้เราจะเข้าใจถึงอารมณ์ของตัวละครนักดนตรีหนุ่มได้ในทันที อารมณ์ของคนที่มืดแปดด้านไม่รู้จะหันไปพึ่งใครและเมื่อเปิดประตูมาพบความช่วยเหลือที่มาพร้อมรอยยิ้มของคนที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอดมา
เรื่องที่ 4
Soho - อีวอง อัตตาล
ผู้กำกับ อีวอง อัตตาล แบ่งเรื่องราวของตัวเองเป็น 2 เรื่องครับใน New York, I Love You
ตอนนี้ก็เป็น 1 ใน 3 ตอนของเรื่องที่ผมชอบมากที่สุด หรือ จะเรียกว่าชอบที่สุดใน New York, I Love You เลยก็คงไม่ผิดครับ ผู้กำกับ เบร็ท แรทเนอร์ สร้างสรรค์มุกตลก และ การดำเนินเรื่องที่ลงตัวอย่างที่สุด รวมไปถึงการคัดเลือกนักแสดงทั้งสองที่ฉายแววอย่างสุดขีดจากบทเด่นทั้งสอง โดยฝ่ายชาย แอนตัน เยลชิน ดาวรุ่งพุ่งแรงที่ปีนี้มาแรงกับหนังฟอม์รยักษ์อย่าง Star Trek (2009) และ Terminator Salvation (2009) ในบทชายหนุ่มใส ๆซื่อ ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงสาว โอลิเวีย เธิร์ลบี ที่ดูเป็นตัวละครหญิงที่สดใสที่สุดจากทั้งหมด 10 เรื่องใน New York, I Love You เลยทีเดียว และที่สำคัญในตอนนี้ยังได้สาว เบล็ค ไลฟ์ลี่ ควิสเอสจากซี่รี่ย์สาวแสบ "Gossip Girl" มาสร้างสีสันในบทแฟนเก่าของพระเอกอีกด้วย แม้จะโผล่มาเพียงฉากเดียวแต่ก็ขโมยซีนเลยทีเดียวครับ
นักแสดงหนุ่ม แบรดลีย์ คูเปอร์ เพิ่งผ่านงานแนวรักอย่าง He's Just Not That Into You มาเมื่อต้นปี ตามมาด้วยหนังสุดฮาอย่าง The Hangover และผลงานอีกสารพัดที่เข็นออกมาในช่วงนี้ จัดได้ว่าเป็นดาราคิวทองอีกคนในตอนนี้ก็คงจะว่าได้ และพี่แกก็ดูจะเหมาะกับบทในหนังแนวนี้สะด้วยสิ
โดยใน New York, I Love You นั้น จะมีตัวละครร่วมอยู่ตัวหนึ่งก็คือตากล้องสาวที่รับบทโดย เอมิลี่ โอฮาน่า เป็นตัวเชื่อมตัวละครต่างๆในเรื่องครับ และเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดฉากจบของเรื่องขึ้น
สุดท้ายแล้ว New York, I Love You จัดเป็นหนังโรแมนติกที่อาศัยเรื่องราวความหฤหรรษ์ของ ความรัก และ เสน่ห์ของเมืองนิวยอร์ก มาผสมกันได้อย่างค่อนข้างลงตัวครับ เหมาะแก่คนที่อยากพาตัวเองไปลองสัมผัสกับหลายแง่มุมรักที่แฝงอยู่ในเมืองแห่งนี้ และเมื่อดูจบคุณอาจจะพบแง่มุมความรักที่คุณเคยมองข้ามไปก็ได้ครับ
บอกตามตรงว่าไม่ได้ติดใจ Paris je taime เท่าไหร่นัก แต่กับ New York, I Love You ส่วนตัวคิดว่าอารมณ์มันง่ายต่อการเข้าถึงมากกว่า และ ลงตัวกว่าในหลายแง่ครับ ^^