Movie Review by negima
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

Outlander - "ไซไฟ ไวกิ้ง ปะทะมังกร ที่เจ๋งทั้งแนวคิดและการผูกเรื่อง"



Outlander / ไวกิ้ง ปีศาจมังกรไฟ


คริสตศักราช 709 ประเทศนอร์เวย์ ยุคสมัยของชนเผ่าไวกิ้งที่กำลังเฟื่องฟูและเรืองอำนาจ ณ หมู่บ้านเฮร็อต ผู้คนในหมู่บ้านต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของ กษัตริย์เฮลก้า ซึ่ง “วูล์ฟฟริค” (Jack Huston) ทายาทผู้กระหายสงคราม แต่ยังขาดความชาญฉลาดในการปกครองคน ซึ่ง “ฮร็อตการ์” (John Hurt) ผู้ปกครองของที่นี่ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ และพยายามให้ “เฟร์ย่า” (Sophia Myles) ลูกสาวแต่งงานกับวูล์ฟฟริคเพื่อที่จะให้เขาปกครองอาณาจักรและให้ลูกสาวได้ปกครองวูล์ฟฟริคไม่ให้ทำอะไรนอกลู่นอกทางอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน ข้ามผ่านเส้นขอบฟ้าไปสู่ห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ก็มียานอวกาศลำหนึ่งตกลงมาในเขตเดียวกัน ซึ่งในซากของยาวอวกาศลำนั้น ก็มีผู้รอดชีวิตที่ชื่อว่า “ไคแนน” (James Caviezel) เขาเป็นนักรบจากต่างดาว และไม่ใช่เขาผู้เดียวที่โดยสารมากับยานลำนี้ ! มันก็ยังมีผู้โดยสารที่ไม่ได้รับเชิญอีกหนึ่งชีวิต “มัวร์เวน” คือสัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายมังกรสุดกระหายเลือด และทรงพลัง ที่ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธ์ของ ไคแนน มาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเมื่อ มันได้หลุดออกมา มันก็ได้บุกทำลายล้างชนเผ่าไวกิ้งจนแทบหมดสิ้น ในที่สุด ไคแนน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากร่วมมือกับชนเผ่า ไวกิ้งผู้กล้า ทำสงครามกับปีศาจร้ายตัวนั้นก่อนที่มันจะฆ่าทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ !




สิ่งแรกที่ต้องขอชมสำหรับ Outlander คือการนำเรื่องราวที่ไม่น่าจะเข้ากันได้อย่าง มนุษย์ต่างดาว ไวกิ้ง และ มังกรไฟ มาผสมผูกเหตุการณ์อยู่ในหนังเรื่องเดียวกันได้ คือแค่คิดเนี่ยก็สนุกแล้ว เพราะเนื้อหาแบบนี้ส่วนมากมักจะไปปรากฎในรูปแบบเกมส์เสียมากกว่า แต่นั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นคือ “แนวคิด” ที่น่าสนใจและมีความ “แปลกใหม่” อยู่ในระดับหนึ่ง และก็จากการที่หนังเรื่องนี้มีความหลากหลายมาก มันจึงทำให้เราได้นึกถึงหนังเก่าๆหลายเรื่อง อาทิ ในส่วนของสัตว์ประหลาดที่ให้อารมณ์เหมือน Alien, Predator และ Godzilla รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศนอร์เวย์ และไวกิ้ง ทำให้นึกไปถึงตำนานของ Beowulf บุรุษผู้ทรงพลังที่ออกไล่ฆ่าสัตว์ประหลาด ซึ่งหลังจากได้ไปค้นประวัติของ “Howard McCain” ผู้กำกับหนังเรื่องนี้จึงทำให้รู้ว่า พี่แกเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของ Beowulf เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ครั้งจะเขียนเป็นบทภาพยนตร์ก็ต้องการให้มีความแปลกใหม่ที่คนอื่นคาดไม่ถึง จึงได้หาแนวร่วมอีกคนคือนาย “Dirk Blackman” ที่ชื่นชอบเรื่องทำนองเดียวกันมาร่วมวงเสริมแต่งเรื่องราวโดยการใส่ความเป็นไซไฟ เทคโนโลยีขั้นสูงในเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่รูปร่างเหมือนมนุษย์กับยานอวกาศ ใส่ความดิบเถื่อนในเรื่องของตำนานพวกไวกิ้ง และสัตว์ประหลาดมังกรไฟ (ที่ในเรื่องควรเรียกว่า เอเลี่ยน ถึงจะถูก) จนในที่สุดก็กลายมาเป็นภาพยนตร์แอกชั่นเรื่องนี้





Outlander ถือเป็นหนังฟอมร์ระดับกลางๆ แต่ถึงกระนั้นหนังก็ยังมีสเปเชี่ยวแอฟเฟ็กที่อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ขี้เหล่เท่าไรนัก ซึ่งสิ่งที่ทำออกมาได้ดีที่สุดก็คือในฉากที่ตัวละคร “ไคแนน” เล่าให้ “เฟร์ย่า” ฟังการล่าอาณานิคมของเผ่าพันธ์เขาที่ต้องทำลายล้างเผ่าพันธ์ของ “มัวร์เวน” เพียงเพื่อต้องการดาวของพวกมันมาสร้างอาณานิคมตนเอง ที่ทำออกมาได้น่าตื่นตาทีเดียว แม้จะน่าเสียดายที่ฉากที่ว่ามีเพียงไม่กี่นาที ในส่วนของ “สัตว์ประหลาด” ในเรื่องแม้ในช่วงแรกๆของหนังจะใช่เทกนิคสไตล์หนังเกรดบีประเภทสัตว์ประหลาดโผล่มาอาละวาดตอนกลางคืนที่ให้เราเห็นแบบ วับๆแวมๆ ไม่ชัดมาก แต่ในช่วงหลังของหลังผู้สร้างก็ได้มาเน้นการปรากฎตัวของสัตว์ประหลาดที่ชัดเจนขึ้น (แม้ในเรื่องจะบอกว่าเป็นมังกรไฟ หรือเอเลี่ยนเมื่อว่ากันตามจริงที่รูปร่างคล้าย Godzilla) และฉากที่คิดว่าทำออกมาได้ดีอีกฉากก็คือการวางกับดักจับ “มัวร์เวน” ที่ทำออกมาได้น่าติดตามและงานด้านภาพในช่วงนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะฉากที่ “มัวร์เวน” กระโดดออกจากเปลวเพลิงกลายเป็นมังกรไฟทำลายหมู่บ้าน รวมไปถึงฉากรังของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ดูหลอน ลึกลับ แต่ก็ดึงดูดสายตาดีทีเดียว

ถึงจะบอกว่า “แนวคิด” เป็นสิ่งที่หนังเรื่องนี้ได้เปรียบและน่าชื่นชมที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “บท” จะดีตามไปด้วย เพราะในหนังยังมีช่องโหว่งหลายจุดนัก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “วูล์ฟฟริค” “เฟร์ย่า” และ “ไคแนน” ที่ยังดูไร้ความลึกเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งฉากจบที่ “ไคแนน” ตัดสินใจทำลายเครื่องส่งสัญญาณ เพื่อที่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้ ที่ทำให้แอบคิดว่า ยานช่วยเหลือก็มาถึงโลกแล้วทำไมตัดใจจากไปโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลย (พูดชัดๆก็คือ มาง่ายไปง่าย นั่นเอง) แต่หนังกลับสร้างปมการกระทำของเจ้าสัตว์ประหลาด “มัวร์เวน” ได้อย่างมีเหตุมีผล เพราะหนังสัตว์ประหลาดบางเรื่องมักจะเน้นแต่การสร้างเทกนิคจนลืมเรื่องของ “แรงจูงใจ” ไปสะส่วนใหญ่



ส่วนนักแสดงในเรื่องก็ถือว่าพอมีชื่อครับ เริ่มจาก James Caviezel ในบท “ไคแนน” ที่โด่งดังจากบทพระเยซูใน The Passion of the Christ (2004) ,Highwaymen (2003) หนังไล่ล่าคนขับรถโรคจิต และ Deja Vu (2006)หนังล่าทะลุเวลาทุนสูง ซึ่งใน Outlander ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่พี่แกได้เป็นดารานำแอกชั่นอย่างเต็มตัวครั้งแรกก็ว่าได้ ส่วนเรื่องการแสดงนั้นก็ถือว่าสอบผ่าน แม้จะดูเป็นแอกชั่นหน้าตายไปหน่อยก็ตาม อีกคนคือ Sophia Myles ในบท “เฟร์ย่า” ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเธอจากซี่รี่ย์แวมไพร์ Moonlight , Tristan + Isolde (2006) หนังย้อนยุคที่ประกบดาราอย่าง James Franco และ หนังสงครามต่างพันธุ์เท่ๆอย่าง Underworld ทั้ง 2 ภาค ซึ่งเธอก็ดูเหมาะกับบทหญิงสาวที่เป็นทั้งนักรบและดูอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน และรุ่นใหญ่ John Hurt ในบท “ฮร็อตการ์” ที่แม้บทจะไม่มากแต่ก็ถือว่าดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือกับบทผู้ปกครองเฮร็อตครับ

โดยรวมแล้ว Outlander เป็นหนังแอกชั่นที่มีความสดในด้านเนื้อหา แต่ก็มีการดำเนินเรื่องแบบสูตรสำเร็จไปหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังสัตว์ประหลาดนิดๆ ไซไฟหน่อยๆ ที่มีฉากหลังแนวย้อนยุค ทั้งนี้ Outlander ถือเป็นหนังที่มีความพยายามของผู้สร้างในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆในวงการภาพยนตร์ ซึ่งแม้ผลลัพธ์ที่ได้มาอาจะไม่ได้ดั่งใจผู้ชมมากนัก แต่ก็ถือเป็นความบันเทิงในระดับที่น่าพอใจแล้ว ยิ่งเมื่อเทียบกับหนังฟอร์มเดียวกันเรื่องก่อนๆ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
5 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 12:31:14 น.
Counter : 9717 Pageviews.

 

 

โดย: praewa cute 26 กุมภาพันธ์ 2552 1:40:18 น.  

 

มาแล้วค่ะ ยกมาเสริฟถึงหน้าบ้านกับราเมงร้อนๆ
หายหน้าไปหมักส่วนผสมซะนานเลยค่ะ




 

โดย: praewa cute 1 มีนาคม 2552 4:08:24 น.  

 

สวัสดีค่ะ

เมนูวันนี้ มีข้าวหมูทอดอบซอสญี่ปุ่นค่ะ ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อน
จะยกมาเสริฟบ่อยๆค่ะ




 

โดย: praewa cute 2 มีนาคม 2552 23:46:11 น.  

 

อืมม ชอบฉากดักเจ้าสัตว์ประหลาดจริงๆแหละ คิดว่าเป็นฉากที่ทำให้เรามีความรู้สึกว่าหนังมันเท่จริงๆ (ส่วนฉากอื่นๆก็...น่ะ พอไหวๆ)

อ้อ ชอบฉากแฟลชแบ็คด้วย (ซึ่งเราที่เห็นในทีเซอร์ก็ครอบคลุมหมดแล้วมั้ง ฮา...) ดูแล้วรู้สึกว่าความเนิร์ดที่หลับอยู่ในจิตใจ มันจะออกมาเต้นเริงร่าได้อยู่เหมือนกัน

 

โดย: BloodyMonday 8 มีนาคม 2552 20:47:01 น.  

 

แต่พวกเขาต้องการยึดดาวของพวกสัตว์เหล้านั้น ยึดด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ บาปกรรม ทุกสิ่งในจักรวาลนี้อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น มนุษย์ผู้มีจิตใจที่ต่ำทรามยิ่งกว่าสัตว์นรก

 

โดย: bigluckyfx IP: 27.145.28.47 17 กุมภาพันธ์ 2566 19:37:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


negima_xx
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




!#@# สวัสดีครับ กับทุกๆคนที่เข้ามาสู่ Blog นี้ของผม ขอให้สนุกกับการอ่านรีวิวภาพยนตร์ต่างๆนะครับ อาจจะมีถูกใจมั้ง ไม่ถูกใจมั้ง เพื่อนๆคนไหนคิดเห็นเหมือนกัน หรือแตกต่างกันตรงไหนก็บอกกล่าวกันได้ครับ ^^ #@#!