Movie Review by negima
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

Elizabeth The Golden Age



Elizabeth The Golden Age - อลิซาเบธ ราชินีบัลลังก์ทอง


อลิซาเบธ Elizabeth ภาคแรกกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนอลิซาเบธขึ้นเป็นราชินี ซึ่งอังกฤษเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีการแบ่งแยกระหว่างศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (ขึ้นกับคริสตจักร) กับนิกายโปรแตสแตนด์ (ไม่ยอมขึ้นกับคริสตจักร) ซึ่งสมัยนั้นพวกคาทอลิกจะกล่าวหาว่า โปรแตสแตนด์ คือพวกนอกรีต ราชินีก่อนคือพระนางแมรี่ พี่สาวต่างมารดาของอลิซาเบธ เป็นผู้เคร่งครัดในคาทอลิก พระนางได้สั่งปราบพวกโปรแตสแตนด์อย่างเด็ดขาด โดยการจับไปเผาทั้งเป็นหลายร้อยราย จึงได้รับฉายา"แมรี่กระหายเลือด" พระนางมีความเกลียดชัง อลิซาเบธ ผู้นับถือโปรแตสแตนด์ (ตามแม่ คือพระนางแอนด์ โบลีน) แต่เมื่อพระนางแมรี่สวรรคตด้วยเนื้องอกในท้อง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป พระนางอลิซาเบธได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากแมรี่ ท่ามกลางความไม่พอใจของพวกคาทอลิกในราชสำนัก และพยายามหาทางกำจัดพระนางลงจากบัลลังก์ ซึ่งระหว่างการครองราชย์ของพระนางในระยะแรกเต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่มั่นคง ถูกกดดันให้อภิเษกสมรสเพราะการเมือง ความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับคนรัก การถูกปองร้ายจากทั้งภายในและภายนอก ซึ่งเรื่องจบลงที่การสังหารผู้ปองร้ายพระนางอลิซาเบธในราชสำนักจนหมดสิ้น ภายใต้การสนับสนุนขององครักษ์วอลซิ่งแฮม ผู้เฉลียวฉลาด เงียบขรึม โหดเหี้ยม และพระนางได้ตัดสินใจครองตนเป็นพรหมจรรย์นับแต่นั้นมา หลังจากครองราชย์ได้ 5 ปี....



(รัชสมัยพระนางอลิซาเบธยาวนานเกือบ 45 ปี ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 40 ปี)

และในภาคต่อนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น ซึ่งพระนางได้พัฒนาจากสาวน้อยที่อ่อนต่อโลกในภาคแรก กลายมาเป็นนางพญาเต็มตัว ต้องเผชิญหน้ากับกษัตริย์สเปน ฟิลิปที่ 2 ผู้ทรงอำนาจที่สุดในยุโรปขณะนั้น พระนางได้นำประเทศอังกฤษจากที่เคยมืดหม่น ถูกต่างชาติจ้องเขมือบ ไปสู่ยุคที่ประเทศเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งด้านศิลปะวรรณกรรมและการทหาร เรียกว่ายุคทองของอังกฤษ (The Golden Age)....




เรื่องราวของการทรยศและความรักในยุคของราชินีผู้ยิ่งใหญ่ เดอะ เวอร์จิ้น ควีน อลิซาเบธ แห่งอังกฤษ ใน อลิซาเบธ ราชินีบัลลังก์ทอง ELIZABETH : THE GOLDEN AGE ภาคต่อที่ว่าด้วยยุคที่ทองรุ่งเรืองของพระองค์ เสริมด้วยดาราชายเจ้าบทบาท ไคล์ฟ โอเว่น ที่แสดงเป็น เซอร์ วอลเตอร์ ราเลจห์ กัปตันเรือเดินสมุทร ที่จะมาเติมสีสันให้กับเรื่องราวในครั้งนี้....


หลังจากขึ้นครองบัลลังก์แล้ว ราชินีอลิซาเบธ (แสดงโดย เคต เบลนเช็ตต์) ได้ปกครองอาณาจักรอย่างรุ่งเรือง แต่ทว่ายังมีพวกที่หวังจะโค่นล้มพระองค์ด้วยเช่นกัน ทั้งจากเชื้อสายภายใน และ จากอาณาจักรภายนอกที่มีความขัดแย้งในเรื่องของศาสนาและการเมืองในยุคศตวรรษที่ 16 ของยุโรป โดยเฉพาะกษัตริย์แห่งสเปน คิงฟิลลิปที่สอง (แสดงโดย จอร์ดี้ มอลล่า) ที่หวังจะบุกยึดอังกฤษด้วยกองกำลังเรือศึกที่เชี่ยวชาญทางทะเล....





ในฐานะของกษัตริย์ที่ต้องเตรียมนำทัพออกศึกนั้น อลิซาเบธก็ได้พบกับกัปตันเรือเดินสมุทรผู้นำข้อมูลของข้าศึกมาทูลกับพระองค์ แม้จะเกิดความรู้สึกชอบพอในตัวเซอร์ วอลเตอร์ ราเลจห์ นักสำรวจผู้เก่งกาจและชาญฉลาดผู้นี้เพียงใด แต่พระองค์ก็ไม่สามารถสมรักกับเขาได้ เนื่องจากพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับแผ่นดิน พระองค์จึงให้สาวใช้คนสนิท เบสส์ (แสดงโดย แอบบี้ คอร์นิช) คอยดูแลต้อนรับเซอร์ วอลเตอร์ เพื่อให้เขาได้อยู่ในสายตาของพระองค์ แต่ทั้งคู่กลับทำให้พระองค์ต้องเจ็บช้ำด้วยการทรยศแอบลักลอบรักกันเอง....


นอกจากนี้ เซอร์ ฟรานซิส วอลซิ่งแฮม ขุนนางที่พระองค์ไว้วางพระทัยที่สุด ยังจับได้ว่ามีกบฏที่หวังจะโค่นอลิซาเบธ ซึ่งนั่นก็คือแมรี่ สจ๊วต พระญาติของพระองค์เอง เหล่านี้คือเหตุการณ์ที่น่าพรั่นพรึงซึ่งโถมประดังเข้าใส่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องหักห้ามในเรื่องความรัก หักหาญกับอริราชศัตรู และต้องยืนหยัดปกป้องตนเองในฐานะองค์ราชินีอันเป็นที่รักของปวงประชา




...ศึกครั้งนี้ระหว่างอังกฤษ และ สเปน ถือว่าเป็นศึกที่พระเจ้าอยู่ข้างอังกฤษ และทำให้สเปนแทบจะสิ้นชาติไปเลย.....

เข้าเรื่องเลยดีกว่า...การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ถือว่าได้ได้ดี น่าติดตาม แม้จะมีช่วงกลางๆเรื่องที่ก็น่าเบื่อไปบ้าง แต่โดยรวมเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ส่วนที่เด่นนอกจากการแสดงของ เคต เบลนเช็ตต์ และดาราอื่น (แอบบี้ คอร์นิช ดูสดใสและทำอารมณ์ต่างๆได้ค่อนข้างดีเลย /ไคล์ฟ โอเว่น ดูเถื่อนๆแต่ก็ยังดูดีกับมาดโจรสลัด) แล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของเครื่องแต่งกายต่างๆในหนังซึ่งดู อลังการมากๆ บอกกับการคุมโทน และกำกับศิลป์ ของหนังที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่พอตัว ยังไม่นับฉากสวยๆในหนังที่มีให้เห็นเป็นช่วงๆ

รวมทั้งฉากทัพอาร์มาด้า เรื่องคือ พวกนักสำรวจทะเลชาวอังกฤษ จะเรียกโจรสลัดก็ว่าได้ อย่าง เซอร์ วอลเตอร์ ราเลจห์ พระเอกเรื่อง ได้บุกเข้าปล้นสินค้าบนเรือชาวสเปนระหว่างทาง ทั้งยังไปปล้นสินค้าที่ท่าเรือสเปน เป็นการหยามเกียรติกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน พระองค์กริ้วมากจึงส่งกองทัพเรือขนาดมโหฬาร เรียกว่า อาร์มาด้า (ในภาษาสเปนหมายถึงทัพเรือใหญ่) หมายเข้าโจมตีประเทศอังกฤษ แม้จะเป็นฉากไม่กี่วินาที แต่ดูสวยงามครับ เหมือนเป็นภาพวาดเลย

บทพูด บทสนทนา ระหว่างละครต่างๆในเรื่องก็ไหลลื่น เข้าถึงอารมณ์ และทรงพลังค่อนข้างมาก

ถ้าคิดว่าเรื่องนี้จะมีฉากรบระหว่างอังกฤษ กับ ทัพเรือสเปน แบบมันส์ ก็คงต้องผิดหวังครับ เพราะฉากรบในเรื่องนี้ทำออกมาเพื่อรองรับเนื้อเรื่องและดูเหมือนจะเน้นความยิ่งใหญ่มากกว่าจะให้อารมณ์มันส์ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีครับ ชอบมากกว่าภาคแรกเสียอีก แม้หลายคนว่าเนื้อหาในหนังจะถูกเปลี่ยนแปลงจากเรื่องจริงไปบ้างก็ตาม ...






 

Create Date : 16 มิถุนายน 2551
1 comments
Last Update : 11 เมษายน 2553 19:31:17 น.
Counter : 4723 Pageviews.

 

หนังน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันยังขาดความเข้มข้นอยู่ครับ ไม่สมกับชื่อหนังที่ชื่อยุคทองของอังกฤษเลยครับ

 

โดย: joblovenuk 16 มิถุนายน 2551 21:39:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


negima_xx
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




!#@# สวัสดีครับ กับทุกๆคนที่เข้ามาสู่ Blog นี้ของผม ขอให้สนุกกับการอ่านรีวิวภาพยนตร์ต่างๆนะครับ อาจจะมีถูกใจมั้ง ไม่ถูกใจมั้ง เพื่อนๆคนไหนคิดเห็นเหมือนกัน หรือแตกต่างกันตรงไหนก็บอกกล่าวกันได้ครับ ^^ #@#!