เรียนรู้บ้านหลังใหม่ด้วยวัย ๔๑
หลังจากเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาต้องเดินทางไกล เป็นการเดินทางที่ไกลที่สุดเท่าที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอๆเป็นเรื่องธรรมดา ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แต่สิ่งที่จะต้องมีและไม่เปลี่ยนแปลง คือ สติ นั่นเอง (บางครั้งก็ขาดสติเหมือนกันนา) ได้เวลาเดินทางแล้ว สู้สู้ (เหมือนไปออกรบเลยเนอะ) แต่ก็น่าจะใช่เนอะ ในความรู้สึก เพราะต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองในวัยที่เพิ่งจะเริ่มต้น (๔๑) เอาน่าเดี๋ยวก็ดีเอง ไปกันเลย เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว Passport พร้อม ตั๋วพร้อม ก็ไปด้วยกันเล้ย เราได้ตั๋วแบบต้องต่อเครื่อง เพราะวันที่จะเดินทางไม่มีตั๋วบินตรงเลย เต็มหมดทุกเที่ยวบิน แล้วทำไมไม่ไปวันอื่น (เออ...นั่นน่ะสิ.) จำเป็นต้องเดินทางวันนี้ เพราะคนที่จะมารับ ว่างวันนี้เท่านั้น แป่วว เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา ๑๑.๑๐ น. โดยสายการบิน Cathay Pacific เที่ยวบินที่ CX750 หลังจากที่ได้กล่าวขอบคุณและสวัสดีแม่ พี่สาว น้องสาว หลานชาย ที่เดินทางมาส่งเรียบร้อยแล้ว เราก็เข็นกระเป๋าเข้าไปสู่ด้านใน เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง ก็เดินหาชานชาลา (เอ๊ยไม่ใช่) นึกว่านั่งรถทัวร์กลับบ้านต่างจังหวัด ฮ่าฮ่าฮ่า และแล้วก็เจอ F5 เฮ้อ โล่งอก จะได้นั่งซะที ลากกระเป๋า แบกเป้ ซะเมื่อยเลย เพราะบรรจุเต็มอัตราศึก แถมน้ำหนักเกินด้วย พี่สาวใจดีก็ช่วยออกค่าน้ำหนักเกินให้ พี่สาวเราใจดีที่สุดในโลกเล้ย ขอบคุณค่ะ และแล้วก็ได้เวลาล้อหมุน (อีกละแก ไม่ใช่) ระหว่างรอเครื่องขึ้นเราก็บันทึกภาพนิ่งบ้าง ภาพเคลื่อนไหวบ้าง ด้วยกล้องพี่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่เรามี (ทนเอาหน่อยเรามันจน ดีกว่านี้เขายังถ่ายกันเลย) พอเครื่องขึ้นสักพัก ก็ได้เวลามาตรฐานที่จะได้รับประทานอาหารกันแล้ว จากภาพจะเห็นได้ว่า เรากินได้นิดเดียวเอง เพราะว่ากินไม่ค่อยจะลงแต่จำเป็นต้องกิน เพราะหิว (อารมณ์เศร้านิดหน่อยเพราะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปแบบนี้) และไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้กลับมา หลังจากกินไม่ค่อยจะอิ่มแล้ว ก็นั่งดูหนัง ดูละคร บนเครื่องไป เพื่อรอเวลาเครื่องลงที่ฮ่องกง แต่เริ่มง่วงนิดหน่อยเนื่องจาก คืนก่อนเดินทางไม่ได้นอนเลย กังวลไปหมด กลัวลืมโน่นลืมนี่ (แต่สุดท้ายก็ลืมบางอย่าง) เครื่องลงที่ฮ่องกงแล้ว ก็ต้องรีบไปหาช่องหมายเลข 33 เรานั่งเที่ยวบินที่ CX542 เวลา ๑๖.๑๕ น. จากสนามบินฮ่องกงไปลงที่สนามบินฮาเนดะ หลังจากได้เข้าประจำที่นั่งแล้วเครื่องก็ขึ้น นั่งต่อไปอีก แล้วก็ได้เวลากินอีกเช่นเคย อาหารในรูปกินสปาเก็ตตี้นิดหน่อย โซเม็งกินหมด ขนมปังกินครึ่งก้อน แล้วก็มีไอศครีมด้วย กินหมดถ้วยเลย (อร่อย) นั่งต่อไปอีกไม่นานกัปตันก็ประกาศว่าจะทำการนำเครื่องลงจอด ขอขอบพระคุณที่ให้โอกาสเราได้บริการแก่ท่าน หวังว่าจะได้รับใช้ท่านอีกในโอกาสหน้า ประมาณนี้แหละค่ะเท่าที่เข้าใจ จากนั้นก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตม.ที่นี่น่ารักมาก สุภาพ แล้วก็มาต่อด้วยศุลกากร ก็น่ารักอีกเช่นกัน กล่าวคำต้อนรับ ยินดีต้อนรับสู่ประเทศญี่ปุ่น ขอให้มีความสุขกับอยู่ที่นี่ จากรูปภาพเรามาถึงสนามบินฮาเนดะเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆ แต่ด้วยประสิทธิภาพของกล้อง ที่มีอยู่อย่างจำกัด แป๊กมืดสนิท เฮ้อ...หมดกัน ได้เท่าที่เห็นนั่นแหละค่ะ สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่าน เนื้อหาใน Blog นี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่ได้ประสบพบเจอจากประสบการณ์จริงของตัวเจ้าของ Blog เอง อาจจะใช้คำพูดไม่สละสลวย (แต่จริงใจนะ) แล้วเจอกันในภาคต่อๆ ไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 02 กันยายน 2555 |
|
6 comments |
Last Update : 2 กันยายน 2555 15:48:43 น. |
Counter : 2153 Pageviews. |
|
|
|