Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
เหนื่อยมั๊ย??

เคยไหม … ? ที่รู้สึกแบบนี้

ความรู้สึกเหนื่อย … ที่ต้องประคองความรัก
ความรู้สึกเหนื่อย … ที่ต้องวิ่งตามเขา
ความรู้สึกเหนื่อย … ที่ต้องทำให้ความรักอยู่ด้วยกัน
ความรู้สึกเหนื่อย … อีกสารพัดกับเรื่องของเขา

แล้วคุณ เคยถามตัวเองไหมว่า …
เหนื่อยไหม … กับการดูแลใครสักคน
เหนื่อยไหม … กับสิ่งที่เราคิดว่าดีแล้วที่เราทำให้เค้า
แต่ในทางกลับกันเค้ากับบอกว่าไม่ดี

เหนื่อยไหม … ที่ต้องทะเลาะกัน ด้วยเรื่องที่เราคิดว่าเล็กน้อย
แต่สำหรับเค้ามันเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โต
เหนื่อยไหม … ที่ต้องทนฟังคำด่าทอ
จากคนที่เรารัก และเค้าบอกว่ารักเรา

เหนื่อยไหม … ที่ต้องทน
หรือเพราะคนที่เรารัก เค้าไม่ค่อยใส่ใจ หรือถนอมน้ำใจของเรา
เหนื่อยไหม … ถ้ารู้ว่าคนที่เรารักน่ะ ทำให้เราเจ็บช้ำซ้ำไปซ้ำมา

เหนื่อยไหม … ที่ต้องมาฟังเค้าไล่ทุกๆๆ วัน
แต่เราก็ยังทนหน้าด้านอยู่กับเค้า ทั้งที่เค้าออกปากไล่
เหนื่อยไหม … ที่ต้องทนรับรู้ว่า
คนที่เรารักสนุกกับการคุยโทรศัพท์กับใครหลายๆๆ คนมากกว่าจะคุยกับเรา
เหนื่อยไหม … กับการให้อภัย




Create Date : 25 มีนาคม 2551
Last Update : 27 มีนาคม 2551 12:03:27 น. 5 comments
Counter : 566 Pageviews.

 
DOG IS ONLY THE ANIMAL THAT LOVES YOU MORE THAN YOU LOVE YOURSELF.....


โดย: ว่าน วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:12:02:36 น.  

 
มีคนบอกว่า … ความรักก็เป็นเกมอย่างหนึ่ง
ที่มีผู้เล่นสองคน …
ที่ในตอนจบ … จะต้องมีคนชนะ
และแน่นอนว่า … ต้องมีคนแพ้

ถ้าความรักของฉัน … เป็นเกมๆ หนึ่ง
ฉันก็คือคนแพ้ … ที่ต้องออกจากเกมไป
ไม่มีทางกลับเข้ามาเล่นใหม่ได้

ส่วนผู้เล่นอีกคน … ชนะ
เขายังคงเล่นเกมต่อไป. . .และรอหาผู้เล่นคนใหม่
ที่จะร่วมฝ่าฟันอุปสรรคในเกมไปกับเขา

แต่สำหรับฉัน … ความรักไม่ใช่เกม
มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด
เกม … ก็คือการเดิมพัน
แต่ความรักไม่ใช่ …

ที่สำคัญ … เกมทุกเกม
มีบทสรุป. . .ที่ซื้ออ่านได้ทั่วไป
อยากให้มันจบแบบไหน. . .ก็ทำได้
แต่ความรัก … ไม่ใช่
เพราะไม่มีใครรู้. . .ว่าบทสรุปของมันเป็นอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ บทสรุปของความรักก็มีอยู่สองแบบ
แบบแรก … มีความสุข
แบบที่สอง … ผิดหวัง เศร้า ทุกข์ใจ
มันจบได้แค่สองแบบนี้จริงๆ …

อีกอย่าง … ตัวละครในเกม
มันก็เป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา. . .
ไม่มีชีวิต … ไม่มีความรู้สึก
ถึงแพ้ … มันก็ไม่รู้สึกอะไร
และยังกลับมาเล่นใหม่ได้อีก ... เป็นพันครั้ง

แต่ฉัน … มีชีวิต … มีความรู้สึก
ฉันแพ้ … ฉันเจ็บ … ฉันร้องไห้
ถ้าความรักเป็นเกมจริงๆ
ฉันก็อยากจะกลับไป เริ่มเล่นใหม่
ให้ตอนจบ … มันไม่เจ็บปวดแบบนี้

คงเพราะฉัน … หวังกับมันมากเกินไป
หวังว่า … เกมของฉันจะต้องจบแบบมีความสุข
แต่ฉันลืมไป. . .ว่าผู้เล่นอีกคน … ไม่ได้หวังไปกับฉันด้วย

เขาเลือกที่จะจบเกมรักเกมนี้ … โดยไม่มีฉัน
ฉันไม่จำเป็นจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคในเกมไปกับเขาอีกแล้ว
เพราะเขา … ไม่ต้องการ


โดย: ว่าน วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:9:52:56 น.  

 

"หวง" คือ การทำให้ตัวคุณเองมีความสุข
"ห่วง" คือ การทำให้คนที่คุณรักมีความสุข


"หวง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยกาย
"ห่วง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยใจ


"หวง" คือ การเห็นแก่ตัว
"ห่วง" คือ การเสียสละ


"หวง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของเขา


"หวง" คือ ประโยคคำสั่ง
"ห่วง" คือ ประโยคขอร้อง


"หวง" คือ คุณรักเขาและต้องการให้เขารักคุณ
"ห่วง" คือ คุณรักเขาแต่ไม่ต้องการให้เขารักคุณ


"หวง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความทุกข์ใจ
"ห่วง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความสุขใจ


"หวง" คือ การทำสิ่งที่ไร้สาระเพื่อให้เขาต้องอยู่กับคุณ
"ห่วง" คือ การทำสิ่งมีสาระที่ไม่ต้องการให้เขาอยู่กับคุณ


"หวง" คือ การออกไปเต้นแร้งเต้นกา
"ห่วง" คือ การอยู่เฉยๆ นั่งมองเพียงเงียบๆ


"หวง" คือ การบังคับขู่เข็ญโดยเขาไม่เต็มใจ
"ห่วง" คือ การปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจ


"หวง" คือ ความรักที่จอมปลอม
"ห่วง" คือ ความรักแท้จริง

และ ...


"หวง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขารักคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขาไม่รักคุณ

สรุปแล้ว ห่วง ก็คือความสนใจ อยากจะเข้าไปดูแล เอื้ออาทรอยากมีส่วนร่วมในความคิดหรือการกระทำของคนที่เรารัก เป็นความรู้สึกดีๆ ที่คนๆ หนึ่งมีให้กับอีกคน หรือมีให้กับตัวเองก็ได้ค่ะ ทำนองอยากให้ปลอดภัย อยากให้เป็นในสิ่งที่ดีๆ

หวง คือ ภาวะที่บุคคลมีอารมณ์ ความรู้สึกหวาดระแวงบุคคลที่ตนเองรัก ว่าจะนอกใจ หรือไปรักผู้อื่นที่มิใช่ตนเอง ความหึงหวงเกิดขึ้นได้ ในความสัมพันธ์รักทุกรูปแบบ แต่จะปรากฎชัดเจน และมากในรูปแบบความรักในเชิงชู้สาว ความรู้สึก หึงหวงนำมาสู่พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความหวาดระแวงได้มากมาย อาทิเช่น การติดตามสืบเสาะ และสอดแนมด้วยรูปแบบต่างๆ กักขังหน่วงเหนี่ยว จนถึงขั้นอาจทำร้ายร่างกายกันถึงขั้นเสียชีวิตได้ (กรมสุขภาพจิต)


โดย: ว่าน วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:20:23:56 น.  

 
หึงแล้วยังไง ... ฉันไม่มีสิทธิ์เหรอ?

หึงแล้วยังไง...ฉันไม่มีสิทธิ์เหรอ?

คุณคะ... ฉันเป็นคนขี้หึงขี้หึง และก็ขี้หึงชะมัดเลย และฉันก็รู้ตัวเองดีเสมอ รู้อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะคะ ก็ฉัน...รักคุณ

นานเหลือเกินที่ฉันเดินหาหนังสือสักเล่ม หนังสือที่เป็นคำตอบของคำที่สงสัย ฉันค้นพบว่าบนโลกใบนี้มีหนังสือที่น่าสนใจตั้งหลายร้อยพันเล่ม บางเล่มรูปปกก็สวยงามชวนฝัน แต่เนื้อในของมันกลับกลวงโบ๋ บางเล่มเนื้อหาข้างในแน่นหนักไปด้วยปรัชญา...แทนที่จะเจอคำตอบกลับเต็มไปด้วยคำถาม และเรื่องราวที่ชวนให้สงสัยไม่รู้จบ

บางเล่มก็หนาและนานยาวจนฉันขลาดที่จะอ่าน บางเล่มก็สั้นกุดเสียแวบเดียวก็อ่านจบ...แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบ จนฉันได้พบคุณ ถึงรูปเล่มของคุณไม่ได้สวยงาม...แต่มันก็มีมนต์ขลัง ทั้งในตัวคุณยังเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย...ที่ฉันไม่เคยขลาดอยากเปิดอ่าน

คุณ คือ พจนานุกรม คุณมีทุกความหมายของคำที่ฉันสงสัย
คุณ คือ คำตอบ

พจนานุกรมของฉัน...คุณรู้ไหม?
เพราะคุณคือสิ่งพิเศษ
เพราะคุณ....หนังสือเล่มที่ฉันมองหามีอยู่เพียงเล่มเดียว

ฉันจึงใจหายทุกครั้งเวลามีคนอื่นมาหยุดอยู่ใกล้ๆ และชายตามาแลคุณ ฉันกลัวว่าเขาจะหยิบคุณติดมือไปโดยไม่ได้สนใจว่าพจนานุกรมเล่มที่เขาเห็นมีเจ้าของยืนจ้องตาเป็นมันอย่างหวงแหน

ฉันว้าวุ่นทุกครั้งเวลามีใครสักคนเฉียดใกล้ ฉันกลัวว่าเขาจะวิสาสะเปิดอ่าน โดยที่ไม่เกรงใจเจ้าของสักนิด ฉันกังวลอยู่เสมอเวลามีใครสักคนเฉียดใกล้ ฉันกลัวว่าเขาจะขโมยคุณไปจากฉัน

ฉันกลัวที่จะไม่มีคุณ ฉันขลาดที่จะสูญเสีย ขลาดกลัวจนอยากกอดคุณไว้แนบอกตลอดเวลา ถึงอย่างนั้นก็ยังกลัวว่า...อาจมีใครหลงใหลคุณ จนดึงคุณไปจากมือฉัน...ต่อหน้าต่อตา

...นี่คือเหตุผลที่ฉันหึงคุณ...

พจนานุกรมของฉัน... คุณต่างจากหนังสือตามแผงขาย ตรงที่คุณเป็นหนังสือของหัวใจ ใช่...คุณมีชีวิต และเพราะคุณมีหัวใจ ฉันจึงใจหายทุกครั้งเวลามีคนอื่นมาหยุดอยู่ใกล้ๆ และชายตามาแลคุณ กลัวคนอื่นจะรักคุณ ยังไม่เท่ากลัวว่าคุณจะหลงปลื้มสายตาคนอื่นจนเดินไปกับเขา

ฉันว้าวุ่นทุกครั้งเวลาที่ใครสักคนมาเฉียดใกล้ กลัวว่าเขาจะเบียดฉันให้ออกห่างคุณ ยังไม่เท่ากลัวคุณยินยอมพร้อมใจทำแบบนั้น ฉันกังวลอยู่เสมอเวลามีใครมองคุณอย่างสนใจ กลัวเขาขโมยคุณไป ยังไม่เท่ากลัวคุณขโมยเวลา ของเรา ไปให้ คนอื่น ฉันกลัวที่จะไม่มีคุณ ฉันขลาดที่จะสูญเสีย

ขลาดกลัวจนอยากกอดคุณไว้แนบอกตลอดเวลา ยังอยากเอาผ้ามาปิดตาไม่ให้คุณมองเห็นใครเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังกลัวว่า อาจมีใครหลงใหลคุณ จนดึงคุณไปจากมือฉัน...ต่อหน้าต่อตา

พจนานุกรมที่รัก... ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจคุณเลย แต่เพราะฉันเป็นผู้หญิงขี้กลัว ทั้งโลกกว้างใหย่ของเราเองยังเต็มไปด้วยคนที่มีนิสัยต่างกันล้านแปด ฉันไม่อาจรู้ว่าคนที่เข้ามาใกล้จะล่อลวงคุณด้วยอะไรหรือเปล่า เพื่อให้คุณหันไปสนใจในตัวเขา ฉันยังกลัวว่าถ้าคุณเผลอใจเล่นสนุกอะไรกับใครไปเมื่อไหร่...แค่เล่นๆ แก้เหงา แต่...อาจมีเหตุบังเอิญที่ทำให้เราต้องจากกันไปจริงๆ

ฉัน...วางเดิมพันความรักครั้งนี้ด้วยหัวใจเอาไว้จนหมด หากว่าคุณหายใจไปจากชีวิต...หัวใจฉันคงขาดหายไปด้วย หากว่าคุณเผลอไปกับคนอื่น อาจทำให้หัวใจฉันหล่นหาย และแตกหัก ยังจินตนาการไม่ออกว่าถ้าไม่มีคุณอยู่...ฉันจะหาคำตอบของคำที่สงสัยได้อย่างไรโดยลำพัง

เพราะเช่นนั้น...เราไม่รู้อะไรล่วงหน้า เพราะเพื่อให้คุณอยู่กับฉันไปนานๆ ฉันจึงต้องเก็บคุณใส่ลิ้นชักไว้...ทุกกรณี

...นี่คือเหตุผลที่ฉันหึงคุณ...

คุณคะ... คุณจะรู้สึกยังไงคะ เวลาที่ฉันยิ้มกับคนอื่น หัวเราะเริงร่ากับคนอื่น แต่...รอยยิ้มมาหมดลงที่คุณพอดี

คุณจะรู้สึกยังไงคะ เวลาที่ฉันมีเรื่องเล่าให้เพื่อนคุณฟังมากมาย และหันไปเล่าเรื่องนั้นกับคนโน้น เล่าเรื่องนู้นกับคนนี้ แต่ไม่มีเรื่องอะไรเล่าให้คุณฟัง

คุณเคยรู้สึกอะไรไหมคะ เวลาที่ฉันออกไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆ จนแทบไม่มีเวลาให้คุณ

คุณจะรู้สึกอะไรไหม ถ้าฉันเอาแต่พูดถึงผู้ชายคนอื่นที่คุณไม่รู้จักให้ฟัง นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยปลาบปลื้มอย่างที่ไม่เคยมีกับคุณมาก่อน

คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันเอาแต่วุ่นกับงานจนผิดนัดแล้วปล่อยให้คุณรอ

คุณจะวูบไหวบ้างหรือเปล่า เวลาฉันพูดถึงแฟนเก่า หรือเก็บข้าวของที่เขาให้เอาไว้ไม่ยอมทิ้ง

คุณจะหัวเราะเป็นเรื่องตลกไหม เวลามีผู้ชายอื่นมาจับตาต้องใจกับผู้หญิงไม่เอาไหนของคุณคนนี้

คุณจะยินดีไหม ที่เห็นฉันเหลียวมองผู้ชายคนอื่นอย่างถูกใจแม้แค่แวบเดียว

โดยนัยกลับกัน คุณจะรู้สึกอะไรไหม กับเรื่องเดียวกันนี้ถ้าเกิดกับคนที่คุณไม่ได้รัก จะหวั่นไหวหรือเปล่า ถ้าคนที่ทำ...ไม่ใช่คนที่คุณวางหัวใจเอาไว้ให้

...นี่คือเหตุผลทำให้ี่ฉันหึงคุณ...

นี่คือเหตุผล ที่ฉันหงุดหงิดเวลาที่เห็นคุณยิ้มหัวเราะกับคนอื่น แต่รอยยิ้มมาหมดเอาที่ฉันพอดี

คือเหตุผล ที่ฉันโมโหเวลาคุณมีเรื่องเล่ามากมายให้คนอื่นฟัง แต่กับฉันคุณไม่มีอะไรคุย

คือเหตุผล ที่ฉันว้าวุ่น เวลามีใครยิ้มให้คุณหวานเยิ้มจนมองไม่เห็นฉันยืนหัวโด่

คือเหตุผล ที่ฉันหวั่นใจ เวลาคุณออกไปไหนกับเพื่อน เพราะกลัวว่าจะพากันไปยุ่งกับสาวๆ

คือเหตุผล ที่ฉันกังวลเวลาคุณผิดนัด เพราะกลัวว่าคุณจะเอาเวลานัดของฉันไปให้คนอื่น

คือเหตุผล ที่ฉันต้องคอยสงสัยเวลาคุณต้องทำงานในวันหยุด เพระกลัวว่าคุณจะแอบนัดคนอื่น จนพาลไปถึงหัวหน้าคุณว่าจะใช้งานคุณทำไมนักหนา

คือเหตุผล ที่ฉันต้องเป็นฟืนเป็นไฟเวลาคุณไม่อยู่ในสายตา จนอยากเก็บคุณเอาไว้ในลิ้นชักถ้าทำได้

เพราะคุณคือพจนานุกรมเล่มเดียวของฉัน
เพราะคุณคือความหมายของทุกคำที่สงสัย
เพราะคุณคือคำตอบ

นี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ฉันหึงคุณ

คุณคะ...

ฉันเป็นคนขี้หึง ขี้หึง ขี้หึง และก็ขี้หึงชะมัดเลย
และฉันก็รู้ตัวเองดีเสมอ รู้อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
แต่ฉันจะเป็นแบบนี้เลย ถ้าเราไม่ใช่ คนรักกัน
และถ้าฉัน...ไม่รักคุณ



ข้อมูลและภาพประกอบจาก

เขียนโดย : อาพัชรินทร์


โดย: ว่าน วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:0:20:49 น.  

 
หลวงพ่อโปรดสัตว์

สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงบรรทมเมื่อเวลาเที่ยงคืนล่วงไปแล้ว 1 ชั่วโมง คือบรรทมเวลา 1 นาฬิกา และทรงตื่นบรรทมเวลา 4.00 นาฬิกา ตื่นแล้วก็ทรงเข้าฌานสมาบัติ สอดส่องพระญาณไปตรวจดูสรรพสัตว์ทั้งปวงว่าจะมีใครอยู่ในข่ายที่จะไปโปรดได้ แล้วก็ส่องพระรัศมีไปโปรดผู้นั้นจนถึงตัวปรากฏพระองค์ต่อผู้อื่น เช่น การโปรดองคุลีมาล เป็นต้น การที่องคุลีมาลไล่วิ่งกวดไม่ทัน ทั้งที่เป็นชายกำยำนั้น ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสามัญ แต่เป็นเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งคนสมัยนี้ไม่เชื่อว่าทำได้ และพระเยซู แสดงอิทธิฤทธิ์เสกขนมปัง 5 ก้อน เลี้ยงคนตั้ง 5,000 คน ได้ ชาวคริสต์เขาเชื่อ ท่านไสบาบาแห่งประสันตินิลยิม เนรมิตรสร้อย ล็อกเกต นาฬิกา ขนม วิภูติแจกคนได้ เสด็จไปช่วยสาวกต่างหัวเมืองได้ เป็นหมอผ่าตัดเนื้อร้ายในท้องคนไข้ได้ สาวกของท่านเชื่อถือกันสนิทใจ ไม่สงสัยเลย จึงน่าสงสารชาวพุทธที่เป็นกำพร้า อนาถาไร้ที่พึ่ง ไม่เชื่อว่าพระพุทธองค์แผ่รัศมีไปปรากฏพระองค์ต่อหน้าองคุลีมาล สั่งสอนองคุลีมาลจนใจอ่อนยอมบวช จนสำเร็จ เป็นพระอรหันต์ ได้ ชาวพุทธบางจำพวก ที่เป็นปัญญาชนกลับไม่เชื่อจึงน่าเวทนาสงสารที่เขาเกิดมาเป็นชาวพุทธที่กำพร้าเหล่านั้นเสียจริง ๆ

หลวงพ่อเงินไม่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ คือไม่สำเร็จอภิญญาญาณไม่มีมโนมยิทธิ แสดงฤทธิ์ไม่ได้ อย่างพระผู้มีพระภาคเจ้า (ซึ่งแปลว่า แบ่งภาค หรือเปล่งรัศมีไปโปรดคนได้ ภ = แสงสว่าง ค = ส่องแสงไป = พระผู้มีพระภาคเจ้า คือพระผู้เป็นเจ้า ผู้แบ่งภาคได้ หรือพระผู้เป็นเจ้า ผู้แบ่งภาคได้ หรือพระผู้เป็นเจ้าผู้เปล่งพระรัศมีไปได้ในที่ไกล)

แต่หลวงพ่อเงินก็โปรดสัตว์อยู่เสมอ อย่างที่เคยเล่าว่า ไปเป่าหัวเข่าคนที่ปวดหัวเข่าหายเป็นปลิดทิ้ง แล้วถวายพระบรมธาตุให้แก่หลวงพ่อ เป็นต้น
มีเรื่องเล่าประกอบการโปรดสัตว์ของหลวงพ่ออีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องจริง มีตัวตนยืนยันได้ คือ

คุณอนงค์ สุทธิมณฑล ภรรยาของ พ.ต.อ.เทียบ สุทธิมณฑล ป่วยเป็นโรคประสาท จนผ่ายผอมหน้าซุบซีด เที่ยวรักษาหมอไทย หมอจีน หมอโบราณ หมอแผนปัจจุบันหลายแห่ง ก็ไม่หาย ได้ข่าวว่าหลวงพ่อเงินเป็นพระอาจารย์ขลังนัก จึงไปหาหลวงพ่อ ขอให้รดน้ำมนต์ให้

เมื่อพบหน้าหลวงพ่อแล้วก็มีความเลื่อมใสศรัทธามากเพราะหลวงพ่อมีสง่าราศีผุดผ่อง ผิวพรรณขาวสะอาด แจ่มใส พูดจาไพเราะ โอภาปราศรัย ยิ้มแย้มแจ่มใส ถามถึงสารทุกข์สุกดิบ เหมือนคนคุ้นเคยกันมานับแรมปี

ก่อนจะรดน้ำมนต์ คุณอนงค์ จึงเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า คุณผู้ชายเจ้าชู้แอบไปมีเมียน้อยไว้ ไม่ค่อยห่วงบ้านช่องเลย

หลวงพ่อได้ฟังดังนั้น ก็เข้าใจถึงสภาพจิตใจ อันเป็นสมุฏฐานของโรคได้ทันที หลวงพ่อจึงพูดถึงธรรมะ การครองชีวิต ความทุกข์ความสุขของตนแม้กระทั่งเทวดาในเทวโลก แล้วก็วกลงมาว่า

"ความรัก ความชัง ความดีใจ เสียใจ เป็นธรรมดาของมนุษย์เหมือนมีมืดมีสว่าง มีสุขก็มีทุกข์ เป็นของคู่กัน มนุษย์จะหลีกเลี่ยงไม่พ้น ไม่ว่าไพร่ผู้ดีมีจน คุณนายเคยมีสุขมาแล้ว บัดนี้ทุกข์มันก็เข้ามาหาเราบ้าง ถึงเราไม่ชอบไม่ต้องการ ก็ต้องยอมรับและต่อสู้กับมัน ไม่ควรจะปล่อยให้มันย่ำยีโดยยอมแพ้ง่ายๆ ทางที่จะต้องสู้กับความทุกข์คือ ธรรมะของพระพุทธเจ้า ขอให้เราเชื่อว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ไม่ว่ายากดีมีจนมีทุกข์เดือดร้อนเหมือนกันทั้งนั้น แต่มันทุกข์คนละอย่าง คนมีก็ทุกข์ ไปตามเรื่องของคนมี คนจนก็ทุกข์ไปตามประสาของคนจน จะทุกข์มากหรือทุกข์น้อยอยู่ที่การกำหนดจิตใจ กำหนดจิตใจของตนเองได้ก็มีทุกข์น้อย หากปล่อยใจก็มีทุกข์มากทุกข์อย่างเดียวกัน แต่คนสองคนก็ทุกข์ไม่เท่ากัน เช่น คนสองคนไปปล้นเข้ามา ถูกจับได้ต้องติดตะรางเท่า ๆ กัน แต่คนหนึ่งทุกข์มาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนผ่ายผอมแต่คนหนึ่งปลงใจได้ว่าทำกรรมไว้ กรรมก็ตามมาสนอง ทนใช้กรรมยอมติดคุกไป เมื่อหมดกรรมก็ออกจากคุกได้ เขาก็ไม่เดือดร้อนใจ

ตามธรรมดาไฟนั้นจะลุกลามได้ใหญ่โตก็เพราะได้เชื้อที่อ่อนนิ่ม ถ้าเพลิงไหม้ไม้เนื้อแข็งก็ลุกลามได้ยาก เหมือนจิตใจคน ถ้าเข้มแข็งทุกข์ก็เกิดได้ยาก

ในโลกนี้อะไร ก็เป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น มนุษย์หาความสุขกันไป วัน ๆ หนึ่ง สมมติกันว่า เจ้านั้นรวย เจ้านี่จน เจ้านั่นนาย นั่นเมีย นั่นผัว สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ตัวของเราก็ไม่เหลืออยู่ ตัวเราก็ไม่ใช่ของเรา เพราะเราห้ามไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตายไม่ได้ ทำไมเล่า เราจะไปมัวนึกว่าของอื่น ๆ นอกกายเป็นของเราอีกเล่า

สามีที่ไปมีภรรยาใหม่นั้น เพราะเขามีกรรม เขาจึงสาละวนขวนขวายอยู่ในกองกามกิเลส ถ้าภรรยาตัดใจได้ว่า ปล่อยเขาไปตามกรรม เราตั้งมั่นอยู่ในความดี หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน สามีผู้โลดแล่นไปเหมือนตะไลขึ้นสู่ฟ้า เมื่อหมดฤทธิ์ดินขับ ก็ย่อมตกลงสู่พื้นดินจนได้ หนีความดึงดูดของโลก ไปไม่พ้นเลย

ความดีความงามของภรรยาก็เหมือนแผ่นดิน ย่อมจะดึงดูดสามีให้กลับมาหาจนได้เมื่อเขาหมดเวรหมดกรรม

การมีภรรยามาก เป็นธรรมเนียมของผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เรื่องภรรยานี้ มีอยู่ทั่วไปไม่เว้นคน กษัตริย์มีบุญญาธิการ ยังมีสนมไว้มากมาย เทพบุตรก็ว่ามีนางฟ้าเป็นบริวารมากมายหลายหมื่น คุณผู้ชายก็มียศถาบรรดาศักดิ์ หากจะผิดพลาดไปในเรื่องนี้ก็ควรอภัย หมดเวรหมดกรรมกับเมียน้อยเมื่อไร ก็คงกลับมาอยู่กับคุณนาย คุณนายก็มีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนอะไรในเวลานี้ ทำใจให้สงบสบายดีกว่า เอ้าเตรียมตัวเข้ามารดน้ำมนต์เสีย จิตใจจะได้สบาย"

คุณอนงค์ สุทธิมณฑล ยกมือขึ้นประนมสั่นหัว ตอบว่า
"ไม่ต้องอาบน้ำมนต์ก็ได้เจ้าค่ะ ได้อาบพระพุทธมนต์แล้ว ทำใจแล้ว ต่อไปจะไม่ทุกข์ในเรื่องเช่นนี้อีก"

ต่อมาไม่นาน คุณอนงค์ ก็มาหาหลวงพ่ออีก คราวนี้ไม่ได้มาคนเดียว เหมือนคราวก่อน แต่มี พ.ต.อ.เทียบ สุทธิมณฑล มาด้วย
เมื่อ พ.ต.อ.เทียบ สุทธิมณฑล ได้นั่งพิจารณาหลวงพ่ออยู่ครู่หนึ่ง พ.ต.อ.เทียบ ก็เข้ามากราบหลวงพ่อ พูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า
"กระผมรู้สึกเป็นบุญเหลือเกินที่ได้มานมัสการหลวงพ่อ กระผมได้รับคำบอกเล่าจากภรรยา กระผมก็อัศจรรย์ใจ กระผมจึงอยากจะมาดูให้เห็นจริง บัดนี้กระผมทราบแล้วว่า ภรรยาของกระผมโชคดีมากที่ได้มาพบหลวงพ่อ ความจริงนั้นกระผมไม่ค่อยเชื่อถือพระที่ไหนนัก เพราะมีแต่หลวงตาแก่ ๆ รดน้ำมนต์อ่านโองการเป็นชั่วโมง ๆ จนภรรยาผมตัวสั่น ก็ยังรดน้ำมนต์โครม ๆ แต่เสร็จแล้วร้อยทั้งร้อยไม่ได้เรื่องสักราย แต่หลวงพ่อรักษาภรรยาผมด้วยปากจนหายได้อย่างอัศจรรย์"
นับแต่วันนั้นมา พ.ต.อ.เทียบ สุทธิมณฑล ต้องนิมนต์หลวงพ่อไปฉันอาหารที่บ้านในวันทำบุญวันเกิดทุกปี เพื่อนฝูงถามว่าทำไมจึงนิมนต์พระองค์เดียว พ.ต.อ.เทียบ สุทธิมณฑล ตอบว่า
"ผมมีหลวงพ่อองค์เดียว"
คำเทศนาโปรดคุณอนงค์ สุทธิมณฑล ของหลวงพ่อนั้น ลองอ่านทบทวนดูอีกสักครั้งเถิดจะเรียกว่า "พระแม่ธรณีสูตร" ได้หรือไม่ เพราะหลวงพ่อสอนว่า คุณงามความดีของภรรยานั้นเหมือนแม่พระธรณีอันหนักแน่นไม่หวั่นไหว ของที่หลุดลอยไป สู่ฟ้าด้วยแรงขับแรงดันอะไรก็ตามย่อมจะถูกดึงดูดตกลงมาสู่ แผ่นดินเสมอ

คำสั่งสอนอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระโพธิสัตย์อุบัติมาบำเพ็ญบารมีเป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลกทั้งหลายได้จริง ๆ สอนได้เหมาะเจาะแก่บุคคลจริง ๆ รักษาโรคใจของคนป่วยให้หายได้จริง ๆ เพราะท่านพูดออกมาจากจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาจริง ๆ ไม่ได้จดจำเอามาจากไหนเลย


โดย: ว่าน วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:19:36:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ว่าน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






..." Yesterday is a history.
Tomorrow is a mystery.
Today is a gift,
that's why it is called the present."....







Google



all webpantip





Emo น้องลิง
Emo น้องเพนกวิน
X
X
Friends' blogs
[Add ว่าน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.