|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|
การให้นมและอาหารเสริมในเด็กทารก
การให้นมและอาหารเสริมในเด็กทารก
ในช่วงแรกน้ำนมแม่อาจจะออกมาไม่เพียงพอสำหรับลูกน้อย ถ้าจะให้นมผสมสำหรับทารก เสริมควรป้อนด้วยถ้วยเล็กให้ลูกดื่ม ไม่ควรให้ดูดจุกนม เพราะเด็กจะไม่ยอมดูดนมแม่อีก การเลี้ยงดูในช่วงแรกนี้ง่ายเพราะ ลูกจะกินอิ่มแล้วนอนหลับไปเป็นส่วนใหญ่
อายุ แรกเกิด- 3 เดือน หลักการให้นม - ควรเลี้ยงทารกแรกเกิดถึงอายุ 3 เดือน ด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว เพราะนมแม่เป็นอาหารทีดี่ที่สุด มีสารอาหารครบถ้วนทางโภชนาการ รวมทั้งให้จุลินทรีย์สุขภาพซึ่งช่วยให้ภูมิต้านทานโรคติดเชื้อ และป้องกันการดูดซึมสารแปลกปลอมต่างๆ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ไม่มีอยู่ในนมชนิดอื่น ลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ และเพิ่มความผูกพันใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูก รวมทั้งช่วยสะอาดและประหยัด แม่ทุกคนจึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
- การเริ่มให้นมลูกนั้นจะ ประสบความสำเร็จด้วยดีโดย ให้ลูกดูดนมแม่บ่อย ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง 3-4 สัปดาห์ต่อมาให้นมทุก 3-4 ชั่วโมง แต่ละครั้งประมาณ 5-15 นาที เราจะรู้ได้ว่ามีน้ำนมแม่ให้ลูกเพียงพอ โดยสังเกตเห็นว่าขณะที่ลูกดูดนมข้างหนึ่ง จะมีน้ำนมพุ่งออกจากหัวนมอีกข้างหนึ่ง เมื่อลูกกินอิ่มจะหลับสบาย กินนมแม่จะถ่ายบ่อย อุจจาระสีเหลืองทอง ลักษณะเหลวเป็นฟองมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เติบโตดี
- แม่ที่ทำงานนอกบ้านควรให้นมแม่อย่างเต็มที่ในระยะพักหลังคลอด เมื่อกลับไปทำงานก็จะให้นมแม่ได้ ในเวลาเช้ากับกลางคืน และบีบนมใส่ขวดสะอาดไว้ให้ลูก สำหรับช่วงกลางวัน หากจำเป็นต้องใช้นมผงดัดแปลง สำหรับทารกจะต้องผสมให้ถูกส่วน และดูแลทำความสะอาดด้วยการนึ่งหรือต้มขวดนม และจุกในน้ำเดือดนาน 10 นาที
- เมื่อทารกอายุครบ 3 เดือนแล้วจึงเริ่มให้อาหารอื่นนอกจากนม เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลว เริ่มให้ข้าวบดใส่น้ำแกงจืด สลับกับกล้วยครูดครั้งละประมาณ 1-6 ช้อนชา วันละครั้งแล้วให้ดูดนมตามจะอิ่ม
อายุ 3-6 เดือน การให้นม ทารกที่กินนมแม่ ควรจะให้นมแม่ต่อไป สำหรับทารกที่กินนมผสม ก็ยังคงใช้นมดัดแปลงสำหรับทารกที่มีธาตุเหล็ก ซึ่งอาจจะให้มื้อละ 4-6 ออนซ์ วันละ 5-6 มื้อ หรือทุก 3-4 ชม. หลังอายุ 4 เดือน ควรจะค่อย ๆ ลดนมมื้อกลางคืนในช่วงตี 2 ถ้าลูกไม่ตื่นให้นอนจนถึงเช้า และเพิ่มปริมาณนมในแต่ละมื้อ อย่าใช้นมข้นหวานหรือนมวัวธรรมดาเลี้ยงทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 1 ปี
อาหารตามวัย
ระยะ นี้ทารกต้องการอาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อทารกอายุครบ 4 เดือน ควรเริ่มให้ข้าวบดกับกล้วย ไข่แดงต้มสุก หรือข้าวบดกับตับ สลับกับข้าวบดกับถั่วต้มเปื่อยหรือเต้าหู้ขาว โดยเริ่มให้มื้อละ 2-3 ช้อนโต๊ะ ควรให้อาหารวันละมื้อเพิ่มจากนม ทารกควรได้รับอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ แทนนมเมื่ออายุ 6 เดือน
อาหารสำหรับทารกวัยนี้ควรทำให้อ่อน สับ บดละเอียด ต้ม และควรมีรสจืด ไม่ควรเติมสาร ปรุงรสใด ๆ
อาหารชนิดใหม่ ควรเริ่มที่ละชนิดเดียวและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น เพื่อดูว่าลูกมีอาการแพ้ เช่น ผื่นขึ้น ถ่ายเหลวหรือไม่ ถ้าทารกปฎิเสธเพราะไม่คุ้นเคย ควรจะงดไว้ก่อน แล้วลองให้ใหม่ที่ละน้อย อีกใน 3-4 วันต่อมาจนทารกยอมรับ
เมื่อทารกอายุครบ 5 เดือน เริ่มข้าวบดกับเนื้อปลา อาจเติมฟักทอง หรือ ผักใบเขียว เช่นตำลึงหรือผักบุ้งที่ล้างให้สะอาดสับละเอียดต้มสุก สัดส่วนของอาหารเด็กประมาณอย่างคร่าว ๆ ว่าให้มีข้าว 3 ส่วน เนื้อสัตว์หรือถั่ว 1 ส่วน ( เช่นข้าว 3 ช้อน ไก่บด 1 ช้อน ) เมื่อเริ่มป้อนอาหารมื้อแรกลูกอาจใช้ลิ้นดุนออกไม่ยอมกลืน ความจริงแล้วลูกอยากกิน แต่ตะหวัดลิ้นไปด้านหลังให้ลงสู่คอยังทำไม่เป็น จึงกลายเป็นดุนอาหารออก ควรป้อนต่อไปโดยใช้ช้อนเล็กป้ายไปที่เพดานปาก จะได้ฝึกกลืน
อายุ 6-9 เดือน การให้นม ทารกที่กินนมแม่ ควรจะให้นมแม่ต่อไป ทารกที่กินนมผสมอาจ จะใช้นมดัดแปลงสำหรับทารก ( Infant formula ) ต่อไปก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นนมสูตรต่อเนื่อง ( Follow – on formula ) ซึ่งเป็นนมวัวดัดแปลงสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปีก็ได้ ควรผสมให้ถูกต้องตามคำแนะนำข้างกระป๋องหรือคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล ให้นมมื้อละ 6-8 ออนซ์ ให้นมวันละ 4-5 มื้อ เมื่อรวมทั้งวัน 24 ชม. แล้วทารกไม่ควรได้รับนมวัวดัดแปลงเกิน 32 ออนซ์ ในระยะนี้ทารกส่วนใหญ่จะหลับตลอดคืน อาจงดดื่มนมมื้อดึกได้
อาหารตามวัย - ทารกอายุ 6 เดือน ควรได้อาหารมื้อหลัก 1 มื้อ ซึ่งเป็นข้าวบดใส่ไข่แดง เนื้อปลา ตับ ถั่วต้มเปื่อยหรือเต้าหู้ขาวอย่างใดอย่างหนึ่งผสมผักใบเขียว รวมหนึ่งถ้วยเล็ก ก็จะทำให้ทารกอิ่มพอดี ควรใช้ช้อนเล็ก ๆ ขอบมนตักป้อนให้ช้า ๆ
- เมื่อทารกอายุได้ 7 เดือน เริ่มให้เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู หรือเนื้อปลา บดหรือสับละเอียดต้มสุกผสมกับข้าวและผักใบเขียว หรือฟักทอง 1-2 ช้อน นอกจากจะได้อาหารมื้อหลัก 1 มื้อ แล้วอาจให้อาหารว่างแก่ทารกได้อีก 1 มื้อ เช่น กล้วยสุกครูด มะละกอสุกในปริมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะ
- ทารกอายุ 8 เดือน ควรได้อาหารมื้อหลัก 2 มื้อโดยให้อัตราส่วน ข้าว 3 ส่วน เนื้อสัตว์ หรือถั่ว เต้าหู้ 1 ส่วน ผักอีกต่างหาก 1-2 ช้อนโต๊ะ
อายุ 9-12 เดือน การให้นม
นมแม่ในระยะนี้จะมีปริมาณลดลงแต่คุณภาพยังดีอยู่ จึงควรจะให้ทารกกินนมแม่ตอ่ไป
สำหรับทารกที่กินนมผสมนั้นใช้นมวัวดัดแปลงสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี ( Follow-on formula) ในปริมาณไม่เกินวันละ 32 ออนซ์ และในระยะนี้ทารกควรจะหลับตลอดคืนโดยไม่ตื่นขึ้นมากินนมมื้อเด็ก
เพื่อให้เด็กกินอาหารได้ตามวัย ควรลดมื้อนมลงเพื่อทดแทนด้วยอาหาร รวมทั้งนมและอาหารควรเป็นประมาณ 6 มื้อใน 24 ชั่วโมง เช่น ถ้าให้อาหาร 2 มื้อ ควรให้นมอีก 4 มื้อ
อาหารตามวัย อายุ 9 เดือน ทารกในวัยนี้ควรจะได้อาหารมื้อหลัก 2 มื้อมื้อละ 1 ถ้วย โดยเตรียมจากข้าวบดผสมไข่แดงทั้งฟอง ตับ หรือเนื้อสัตว์ ถั่วต้มเปื่อย กับผักใบเขียว นอกจากนี้อาจจะเริ่มให้ไข่ต้มสุกทั้งฟอง บดละเอียดแก่ทารกได้ยกเว้นเด็กที่มีประวัติแพ้อาหาร
อายุ 10-12 เดือน ทารกควรได้อาหารมื้อหลัก 3 มื้อ และให้อาหารว่างวันละ 1 มื้อ เช่น กล้วยสุกครูด มะละกอสุก ฟักทองนึ่งในปริมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ
Create Date : 26 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 26 ตุลาคม 2552 10:52:57 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1906 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้อย IP: 113.53.16.12 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:37:57 น. |
|
|
|
|
|
|