Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
paris day 5 Orly Airport จากปารีส-->สู่โรม Fiumicino Airport

วันสุดท้ายในปารีส ผมต้องเตรียมตัวเดินทางไปต่อเครื่องบินที่ Orly Airport เพื่อบินไปลงยัง Fiumicino Airport กรุงโรม อิตาลี

ผมเลือกใช้สายการบินต้นทุนต่ำ เพื่อเดินทางจากปารีสสู่โรม อย่างของ Vueling ที่ราคาค่าตั๋ว 2 คนเพียงแค่ 106.90 ยูโร (ประมาณ 4,400 บาท)

สำหรับการเดินทางจากในตัวเมืองปารีสไปสู่ Orly Airport นั้นไม่ยากครับ ใช้รถไฟ RER สาย B เลือกลงที่สถานี Antony ก่อนที่จะต่อรถไฟพิเศษสาย Orlyval สู่ตัวสนามบินครับ






เมื่อถึงสถานี Antony ให้มองหาป้ายไปสนามบินครับ เราจะต้องลงลิฟต์ลงไปต่อรถไฟอีกที



นี่แหละครับ บริเวณที่เราจะไปต่อรถไฟสาย Orlyval



สำหรับสนามบิน Orly จะมี 2 Terminals นั่นคือ Sud (ซุด-ใต้) และ Ouest (ดูอวซ-ตะวันตก)



รายชื่อสายการบินในแต่ละ Terminal ครับ สำหรับในอนาคต Air Asia X จะมาลงที่ Terminal Sud ครับ



รางรถไฟของ Orlyval ครับ



ตัวรถไฟ Orlyval เป็นระบบรถไฟอัตโนมัติ ไม่มีคนขับนะครับ จะวิ่งผ่านไร่และทุ่งกว้าง



ภายในตัวรถไฟครับ



มาถึง Orly Airport แล้วครับ สำหรับจุดแรกที่รถไฟจะจอดคือ Terminal Ouest (สำหรับสายการบิน Vueling ของผม) ในอนาคต Air Asia X ก็จะมาลงที่ Terminal Sud ในป้ายถัดไป ถือว่า สุดสายของ Orlyval พอดีครับ



Orly Airport เป็นสนามบินรองของปารีส โดยมี Charles de Gaulle Airport หรือ CDG (Roissy airport) เป็นสนามบินหลัก (ปารีสมีทั้งหมด 3 สนามบิน) สำหรับ Orly Airport จะรองรับเครื่องบินที่บินในประเทศ สายการบินต้นทุนต่ำ และสายการบินที่บินภายในสหภาพยุโรป (ที่อยู่ในกลุ่มเชงเก้น) เป็นหลักครับ

โดย Orly Airport ตั้งอยู่ห่างจากปารีสประมาณ 19 กม. อยู่ห่างจาก CDG/Roissy Airport 41 กม. โดยมีรถไฟ RER สาย B เชื่อมระหว่างสองสนามบินกับกลางกรุงปารีส

การเดินทางเข้าเมือง หรือไปอีกสนามบินทำได้โดยสะดวกด้วยรถไฟครับ โดย Orly Airport จะมีรถไฟอัตโนมัติไร้คนขับ ที่เรียกว่า OrlyVal เชื่อมต่อรถไฟสาย RER สาย B (ที่สถานี Antony) เข้ามาสู่ตัวสนามบินด้วย



สำหรับค่าโดยสาร

จากสนามบิน Orly ไปยังสถานี Antony โดย Orlyval ราคา 7.60 ยูโร (เด็ก 3.80 ยูโร)
จาก Orly airport เข้าเมืองปารีส (ราคารวม Orlyval และ รถไฟเข้าเมือง) 9.85 ยูโร (เด็ก 4.90 ยูโร) จะใช้เวลาประมาณ 35นาที
จาก Orly airport ถึง CDG/Roissy airport 16.90 ยูโร (เด็ก 10.50 ยูโร) จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
(สำหรับ OrlyVal จะให้บริการระหว่าง 6.00-23.00 ครับ)

สำหรับคนที่มีตั๋วรถไฟแบบ Paris Visit ต้องซื้อตั๋วรถไฟให้ครอบคลุมโซน 1-5 ครับ จึงจะใช้บริการเดินทางมาถึง Orly Airport ได้

สำหรับอีกวิธีประหยัดในการเข้าเมือง คือการใช้บริการรถโดยสาร Orly Bus ที่ราคาเพียง 6.40 ยูโร โดยรถบัสจะเข้าไปใส่งในตัวเมืองทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ Seine ป้ายที่สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวรู้จักก็จะเป็น ป้าย Gare Montparnasse ที่เป็นเหมือนสถานีรถไฟใหญ่ใกล้กับตึก Tour Montparnasse และป้ายสุดท้ายจะจอดหน้า Musee de L'Armee หน้าพิพิธภัณฑ์ทหารนั่นเอง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเข้าสู่เมือง




หลังจาก check in เรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาหาอะไรทานรอเครื่องออกครับ ซึ่งด้านในหน้า Gate จะมีร้านอาหารเพียงจุดเดียวที่เป็น cafe ขายกาแฟเครื่องดื่มและอาหารจำพวกแซนด์วิชครับ เลยไม่มีอะไรให้เลือกทานมาก

ถ้าไม่รีบ ทานด้านนอกในโถงก่อน check in ก่อนเข้ามาข้างในจะมีทางเลือกให้มากกว่าครับ



เครื่องของ Vueling จะเป็น Airbus A320-200 ภายในตกแต่งได้เปรี้ยว เก๋ สาวๆแอร์โฮสเตสก็แต่งตัวมันสมัยมากๆ และให้บริการแบบเป็นกันเอง สูสีแอร์เอเชียแถวบ้านเราเลย

เที่ยวบินของผมจะเป็น Paris(Orly) - Rome(Fiumicino)ออกบินจากปารีส 12.25 ถึงโรม 16.20



เมนู ก็จะร่วมกับ Mtv มีอาหารแนะนำ ที่เที่ยวและแนะนำคลับต่างๆ บนเครื่องยังขายเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์ด้วย




ออกบินสู่โรมกันครับ



ของว่างบนเครื่องที่ซื้อทาน เหมามาซะ 2 set เลยครับ ประมาณ 25 ยูโรได้ ที่ถูกใจที่สุดก็ Fanta Zero นี่แหละครับ



เข้าสู่น่านฟ้าอิตาลีแล้วครับ



ไม่นานนัก ก็แตะพื้นโรมกันแล้ว




สำหรับโรม จะมีสนามบิน 2 สนามบินเช่นกันครับ คือ Fiumicino airport เป็นสนามบินนานาชาติของโรมอยู่ห่างจากกรุงโรมไปทางทิศตะวันตกราว 30กม.อีกสนามบินหนึ่งคือ Ciampino airport เป็นสนามบินรอง ที่อยู่ทางตอนใต้ของโรงประมาณ 15 กม. รองรับเที่ยวบินในประเทศ เที่ยวบินเช่าเหมาลำ ปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำ 2 เจ้าอย่าง Ryan Air และ EasyJet แทบจะยึด Ciampino airport เอาไว้ใช้กันเองเลย (เหมือนน้องนกกับโอเรียนยึดดอนเมือง ก่อนจะมีโซล่าร์แอร์มาร่วมไงครับ)

สำหรับวันนี้ ผมมาโรม ลงที่สนามบิน Fiumicino airport ก่อนที่จะออกจากโรมด้วย Ciampino airport อีกทีครับ






สำหรับนักท่องเที่ยวการใช้ Roma Pass น่าจะเป็นคุ้มค่าที่สุดครับ เพราะสามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ได้ฟรี 2 แห่ง (จะได้ส่วนลดพิเศษสำหรับแห่งที่ 3 เป็นต้นไป) และสามารถใช้บริการขนส่งมวลชนในโรมได้ฟรี 3 วันครับ ในราคารวมเพียง 25 ยูโร

Roma Pass จะนับเวลาใช้ตามวันครับ อย่างวันนี้ผมมาถึงบ่ายสี่ ถ้าใช้บัตรนี้เลย ก็จะนับวันนี้เป็นวันที่ 1 ที่ไม่คุ้มเลย ผมเลยเก็บเอาไว้เริ่มใช้ในวันพรุ่งนี้ครับ



สำหรับวิธีประหยัดที่จะเข้าสู่โรม คือการใช้ shuttle bus ที่ราคาเพียง 8 ยูโร ที่จะจอด 2 ป้ายในโรมคือ plazza cavour ที่อยู่หน้าวาติกัน และ station termini อันเหมือนจุดรวมรถไฟใหญ่ทั้งบนดินและใต้ดิน (เหมือนหัวลำโพงบ้านเราเลย)



ด้านนอกของสนามบิน มีห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ด้วย



สำหรับ Roma Pass สามารถหาซื้อได้จาก Tourist Information ภายในสนามบินได้เลยครับ



ด้านใน Tourist Information นอกจากจะแสดงแผนที่ท่องเที่ยวภายในโรมอย่างชัดเจนบนพื้น พนักงานยังเต็มใจให้บริการ และมีข้อมูลต่างให้เราหายสงสัยด้วย



อีกวิธีในการเข้าเมือง คือการใช้บริการรถไฟครับ โดยสถานีจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสนามบิน สามารถใช้สะพานลอยเชื่อมจากในสนามบินเดินข้ามไปได้โดยสะดวก



มองกลับมาทางฝั่งสนามบิน จากสะพานเชื่อมไปยังสถานีรถไฟครับ



มาถึงตัวสถานีรถไฟแล้วครับ



ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ ที่ซื้อตั๋วได้ง่ายๆ สามารถจ่ายเงินสะดวกด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด สำหรับคนที่เดินทางมากกว่า 1 คน ไม่ต้องตกใจนะครับ ว่าตั๋วออกมาเพียงใบเดียว (แต่จากหน้าตั๋วจะสามารถเดินทางได้ 2 คนถึงแม้จะออกตั๋วมาใบเดียวก็ตาม)



ชานชาลาคนรอเข้าเมืองกันครับ





ผมเลือกซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติ ในราคา 28 ยูโร สำหรับสองคน (คนละ 14 ยูโร) เพราะเลือกใช้รถไฟเร็วพิเศษที่ไม่จอดที่สถานีใดเลย จะจอดเพียงสถานี Termini ปลายทางเพียงจุดเดียว จะใช้เวลา 30 นาทีครับ

แต่สำหรับคนที่ไม่รีบร้อนสามารถเลือกตั๋วอีกแบบที่จอดทุกสถานีได้นะครับ ราคาแค่คนละ 11 ยูโรครับ



ที่นั่ง และบรรยากาศภายในรถไฟ

จะบอกว่าการนั่งรถไฟเข้าโรม เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงของผมกลายเป็นนรกไปซะได้ เมื่อมีลุงป้าคู่สามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง ได้มานั่งใกล้ๆผม แล้วคุณลุงก็เปิดปากคุยกับคุณป้าต่างๆนาๆ หารู้ไม่ว่า กลิ่นปากของคุณลุงนั้น เหม็นเน่า จนคนนั่งข้างๆหายไจไม่ออกเลยล่ะครับ ขนาดผมเอาหนังสือปิดจมูกก็แล้ว พยายามแสดงออกว่าตรูเหม็นนะ ก็ไม่เป็นผล กลายเป็นการหายใจที่ลำบาก ต้องชะเง้อมอง ว่าจะถึงสถานี Termini เมื่อไหร่ จะได้หลุดไปจากลุงป้าปากเหม็นนี่ซะที T_T



บรรยากาศบ้านเมืองโรม



ประมาณ 30 นาทีก็มีถึง สถานี Termini ที่เป็นเหมือนสถานีขนส่งที่รวมทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถราง รวมไปถึงรถบัส เข้าไว้ด้วยกัน

ดังนั้น จึงเป็นสถานีใหญ่ ผู้คนมากมาย อลหม่านไม่ใช่เล่นครับ แถมการเดินด้วยเท้าจากรถไฟ ไปต่อรถไฟใต้ดินนี่ ก็ไกลมากๆๆๆ จนผมเหนื่อยเลยล่ะครับ






ออกมาจากชานชาลารถไฟ แล้วพยายามมองหาป้ายบอกทางกับป้ายรถไฟใต้ดิน



เจอแล้วครับ อยู่ทางขวา ป้าย Metro (รถไฟใต้ดิน) พร้อมกับลูกศรบอกให้เดินตรงไป ตามไปเลยครับ



หลังจากเดินตามลูกศรมาได้ 3 กม.มั้งครับ (ไกล over มากๆ) ยังต้องมาเดินขึ้น เดินลง วกไปวนมา ในบางจุดของรถไฟใต้ดิน ที่มีการก่อสร้าง ก็ออกมาถึงเจอเส้นทางที่เราจะไปที่พักครับ

สำหรับคนที่กังวล หรือกลัวรถว่าระบบรถไฟฟ้าของโรมจะยุ่งยากซับซ้อน ก็ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะในโรมมีรถไฟใต้ดินเพียง 2 สาย คือ metro A และ B คิดง่ายๆ ก็เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรา ที่มีแค่ 2 สายตัดกันน่ะเองครับ





มุดลงไปอีกครับ ใกล้ถึงชานชาลารถไฟใต้ดินแล้ว



สำหรับการซื้อตั๋ว ใช้ตู้อัตโนมัติจะง่ายกว่าครับ เพราะราคาค่าตั๋วสำหรับรถไฟใต้ดินในโรม คิดเพียงแค่เที่ยวละ 1 ยูโร ไม่ได้นับเป็นระยะทางหรือสถานี แต่เราจะอยู่ในระบบรถไฟได้เพียง 75 นาทีเท่านั้น

ช่วงนี้จะมีขอทานคอยมาช่วย (ที่จริงรอเศษเหรียญ) แต่ไม่น่ากลัวมากเท่า คนแน่นๆขณะเดิน หรือโดยสารรถไฟใต้ดิน ยังไงก็ระมัดระวังกระเป๋าตังค์กันด้วยนะครับ



หรือใครที่อยากจะซื้อตั๋ววัน ที่สามารถใช้ระบบขนส่งทั้งหมดของโรมได้ (รถบัส รถไฟใต้ดิน รถรางและรถไฟ) สามารถเลือกซื้อใช้ได้ในราคา 19 ยูโรสำหรับ 1 วัน และ 25 ยูโรสำหรับ 3 วัน

แต่ถ้าให้ผมแนะนำ ซื้อตั๋วเป็นครั้งไปจะถูกกว่าครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอยู่ใกล้กันในแนวเส้นทางรถไฟใต้ดินอยู่แล้ว อาจจะลงสถานีหนึ่ง แล้วเดินเที่ยวเพื่อกลับอีกสถานีหนึ่งก็ไม่เกินกำลังครับ



บรรยากาศในรถไฟใต้ดินครับ



สำหรับที่พักของผมจะอยู่ที่สถานี Ottaviano-S.Pietro



รถราง



ที่พักสำหรับ 3 คืนในโรม ผมเลือก Bed & Breakfast ชื่อ L'Incanto Di San Pietro ที่ตั้งอยู่บนถนน Via Vespasiano ในราคา 225 ยูโร ตัว B&B นี่จะเป็นห้องในอพาร์ตเมนต์แบบที่ชาวยุโรปอาศัยกัน คือจะอยู่ในตึกเก่า โชคดีที่อยู่แค่ชั้น 2 จึงไม่ต้องเดินไกล แถมทำเลใกล้วาติกัน เรียกว่าเปิดหน้าต่างมา ก็เห็นกำแพงของวาติกันเลยทีเดียว

ด้านหน้าของ B&B ที่ดัดแปลงบ้านมาทำเป็นโรงแรม



ภายในส่วนด้านนอกครับ



เตียง



ภายในห้องพัก



สำหรับห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมครับ แต่ห้องนอนสำหรับแขกมีเพียง 3 ห้องเลยดูไม่น่าจะแย่งกันใช้เท่าไหร่

ไม่ต้องตกใจชักโครกห้องน้ำที่มี 2 โถนะครับ เป็นโถขับถ่าย กับโถชำระล้าง



ผักบัวอาบน้ำ น้ำร้อนน้ำอุ่นไม่มีปัญหาครับ



นอกจากนี้ยังมีครัวให้เราทำอะไรอร่อยๆทานเองได้ด้วย



พร้อมชา กาแฟ ให้เลือกดื่มครับ



บรรยากาศนอกของที่พักครับ



เห็นไหมครับ ว่ามองเห็นกำแพงวาติกันเลย



ตัวตึกของที่พัก เป็นตึกเก่า เลยได้บรรยากาศยุโรปจริง อย่างลิฟต์เก่าๆแบบนี้



หรือประตูและทางเข้าอพารตเมนต์ใหญ่ๆแบบนี้



บรรยากาศตอนกลางคืนของที่พักครับ



มื้อค่ำของคืนแรกในโรม หาอะไรทานง่ายๆกับร้านค้าแถวถนนด้านนอกที่พักครับ



เท่าที่เห็นในโรมหลายๆร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ มันจะมีอาหารชุดเป็นเมนูให้นักท่องเที่ยวเลือกทานได้ในราคาประมาณ 12-15 ยูโรครับ โดยในชุดจะประกอบไปด้วย พิซซ่า (หรือสปาเก็ตตี้) น้ำอัดลม 1 แก้วและของหวานเป็นไอศรีมสไตล์อิตาเลี่ยนที่อร่อยแทบทุกร้านเลย

อย่างเย็นวันแรกผมก็เลือกเป็นอาหารชุด (อย่างที่คุณลุงเจ้าของร้านแนะนำ) เสริมด้วยไวน์แดง



พิซซ่าและสปาเก็ตตี้ครับ



ตบท้ายด้วยไอศครีมอิตาเลี่ยน




Create Date : 02 ธันวาคม 2553
Last Update : 2 ธันวาคม 2553 9:40:01 น. 6 comments
Counter : 9443 Pageviews.

 
อืม อธิบายละเอียดดีมากเลยค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางเที่ยวเอง


โดย: Sai Eeuu วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:11:40:40 น.  

 
คิดถึงเจลาโต้
เก่งจังค่ะไปเที่ยวเองข้ามประเทศแบบนี้รอไปเที่ยวต่อด้วยคนค่ะ


โดย: apple.007 วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:20:37:36 น.  

 
สุดยอดไปเลยค่ะ อธิบายได้ดียิ่งกว่าคนท้องถิ่นซัอีก ดีค่ะ ดี ถือเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน ขออนุโมทนาบุญ


โดย: วนิชา IP: 84.222.156.48 วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:22:45:19 น.  

 
ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เชื่อว่ายังมีหลายท่านต้องการทราบการเดินทางแบบนี้ เช่นเดียวกับผมครับ


โดย: Pa IP: 190.120.193.142 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:59:36 น.  

 
Fanta ZeRo !!


โดย: editionJ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:11:09 น.  

 
thank you ka


โดย: toto IP: 157.7.52.183 วันที่: 29 กรกฎาคม 2558 เวลา:13:22:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.