ไปทำอะไร ที่ราชบุรี
เมื่อวันปิยะมหาราชที่ผ่านมา นึกครึ้มอะไรขึ้นมาไม่รู้อยากไปหาเพื่อนขึ้นมาซะงั้น (อาจเป็นเพราะเบื่อๆ กับชีวิตที่เป็นอยู่ ที่ทำแต่ งาน งาน งาน และงาน .. เอ้าเฮ้อ)
ประมาณ 10.00 น. ออกจากท่ารถตู้ที่ Century อนุสาวรีย์ ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ด้วยราคา 120 บาทถ้วน ..ถึงเมืองราชบุรี เที่ยงพอดีเลยครับ .... แล้วก็ได้พบเพื่อนหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน
เพื่อนซี้คนนี้ ชื่อ รัชครับ หลังจากที่แยกย้ายกันไปหลังจากเรียนจบ เจ้านี่ก็ได้ริเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง และทำท่าจะไปได้สวยซะด้วย
การเริ่มต้นทำธุรกิจ แรกๆ ก็ต้องเหนื่อยหนอยละครับ จะทำยังไงให้สินค้าเป็นที่รู้จักในตลาด .... ก็ต้องพึ่งตลาดนัดก่อนแหละเนอะ ...
ตลาดนัดที่ราชบุรี ครับ
บ่ายสองกว่าๆ เรามาถึงตลาดนัดกันแล้ว ก็จัดการเตรียมตั้งร้านขายของ ผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเพื่อนหรอกครับ แบบว่าทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ช่วยถือของ(งานแบกหาม อิอิ)
หลังจากที่ตั้งร้านขายของกันเรียบร้อย ผมกับเพื่อนก็ให้น้องของแฟนเพื่อน ขายของ ต่อไป อิอิ ... เย็นวันนี้ เราจะไปเที่ยวเขางู กัน .. เนื่องจากวันนี้เย็นเต็มที พระอาทิตย์ใกล้ตก เลยได้รูปมาไม่มากครับ
เขางู
โฆษณารถซะเลย
เจ้าถิ่นครับ วิ่งเร็วมากๆ
บรรยากาศดีมีบึงด้วยครับ
หลังจากนั้นก็กลับมาที่ตลาดนัดเพื่อมาขายของต่อครับ ขายจนถึงประมาณ 6 โมงครึ่ง ก็เตรียมขนของกลับกัน ขอบอกว่ายุงเยอะมากๆเลย
จากนั้นประมาณ 2 ทุ่มพวกเราก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน เมืองราชบุรี ที่มีชื่อเท่ๆ ว่า "โคยกี๊" เกิดมาเพิ่งจะเคยได้ยินนี่หละครับ เข้าใจว่าเพิ่งเปิดน่ะ ถนนคนเดินที่ว่านี่ อยู่ตรงหอนาฬิกาเก่า เมืองราชบุรี เป็นถนนคนเดินเลียบแม่น้ำแม่กลองครับ บรรยากาศดีมากๆๆ
ถนนคนเดิน โคยกี๊
บรรยากาศโดยทั่วไปครับ
น้องๆ สนุกกันใหญ่
ร้านโปสการ์ดและรูปภาพเก่าๆ ของเมืองราชบุรี
หอนาฬิกาที่อยู่คู่เมืองราชบุรีมานาน
ที่ตลาดมีของขายมากมายหลายแบบเลยครับ ทั้งของที่ระลึก เสื้อยืด แต่ดูเหมือนจะเน้นไปที่ของกินหน่อยนะ อิอิ พวกเราเดินกันได้สักพัก ก็สมควรแก่เวลากลับกันแล้วหละครับ
วันรุ่งขึ้น เพื่อนไปธุระที่นครปฐม เลยขอติดสอยห้องตามไปด้วย ได้โอกาสเลยเก็บภาพบรรยากาศตลาดน้ำดอนหวายมาให้ดูนิดหน่อย อิอิ
แม่น้ำนครชัยศรี
กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ืมืดค่ำแล้วหละครับ สงสัยกลัวเราเที่ยวไม่คุ้มก็เลยพาไปดูเมืองราชบุรียามค่ำคืนซะนี่
สถานีรถไฟราชบุรียามค่ำคืน
อุปกรณ์สมัยโบราณครับ เอาไว้เติมทรายและน้ำให้รถจักรไอน้ำ
รถไฟใกล้จะมาแล้วครับ วันนั้นเกือบตายครับ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอดีว่าอยากได้รูปขบวนรถไฟวิ่งมาเป็นสายยาวๆๆ เลยเอากล้องไปตั้งที่สถานี .. ไอ้เราก็ไม่ทันกะระยะให้ถูกต้องซะก่อน ปรากฏว่าเอาขาตั้งกล้องไปตั้งใกล้รางมากๆ ... รถไฟก็วิ่งเข้ามาเรื่อยๆ พอรถไฟมาถึงตัวเรานั้นแหละ ... แทบช๊อค ลมแรงมากๆๆๆ ครับแทบปลิว .. รถไฟวิ่งเร็วมาก
หันไปดูรถไฟ .... อ่า ห่างจากตัวเราฟุตกว่าๆ .. หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มครับงี้ ...
คราวหน้าไม่เอาแล้ววว ตรูเสียว..
ไอเจ้าเพื่อนรัชก้อเช่นเดียวกัน พอรถไฟวิ่งผ่านมันไป มันรีบมองมาทางผมทันที (สงสััยกลัวว่าจะติดไปกับโบกี้ด้วยแหละ)
วันรุ่งขึ้นก็ได้ไปเที่ยวแบบเต็มวันซะที แต่เนื่องจากเวลามีค่อนข้างจำกัด เลยไปแค่ในเมืองครับ ที่แรกที่อยากจะไปมากๆ คือ เขาแก่นจันทร์ ครับ
เขาแก่นจันทร์.... เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีถนนตัดขึ้นไปถึงยอดเขา บนยอดเขามีวิหาร ประดิษฐานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พระสี่มุมเมือง เป็น 1 ใน 4 องค์ ของพระ 4 มุมเมือง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐาน ณ เมืองรอบนอกพระนคร อันได้แก่ ......... ราชบุรี ลำปาง ปราจีนบุรี และพัทลุง..
ที่นี่มีหอนาฬิกาอยู่กลางป่าด้วยแหละครับ(อารมณ์ผู้บุกเบิก) ข้างบนหอน่าจะเป็นที่ชมวิว แต่ปิดตายเสียนี่ น่าเสียดายจังเลย ..
หอนาฬิกา
ทางขึ้นไปนมัสการ พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศครับ
ทางนี้ๆ
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
วิหารด้านนอกครับ
วันนี้อากาศดีทีเดียว แดดแรงมากๆๆๆๆ
มาได้ไงเนี่ย
วิวเมืองราชบุรีครับ
สามารถเห็นได้กว้างไกลมากเลยทีเดียว
หลังจากนั้นพวกเราก็กลับไปที่เขางูอีกครั้งหนึ่งครับ พอดีว่าวันนั้นมันค่อนข้างที่จะเย็นแล้วเลยขอไปดูอีกรอบหนึ่ง พอเข้าไปเท่านั้นแหละครับ เหล่ากองทัพแม่ค้าขายอาหารลิงก็ถาโถมเข้าใส่ทันทีเลย อิอิ ตรงทางเข้ามีพระยืนองค์ใหญ่้เชียวครับ ไหนๆก็มาทีนึงขอชักภาพหน่อยนะ
พระองค์ใหญ่มากๆ
เทียบกับคน
หลังจากนั้นก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขางูกันครับ อยู่ใกล้ๆกันนี่เอง
ฟ้าใสๆ อากาศดีครับ
ข้างบนเป็นทางเข้าถ้ำฤาษีเขางูครับ
ศาลเจ้าพ่อเขางู
ร้อนๆๆ
จากการที่เดินไปดูทางเข้าถ้ำฤาษีเขางู พบว่ามันปิดอะ ชาวบ้้านบอกว่าจะเข้าไปดูไหม มีกุญแจ แล้วก็ ตื๊อๆๆๆ ให้ซื้ออาหารลิง .. เหอๆ ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปที่จุดชมวิว ศาลาแดงๆ ที่ไกลลิบนั่นแหละ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นจุดชมวิว แต่ที่จิงมันเป็นทางเข้าถ้ำ อีกถ้ำนึงครับ .. "ถ้ำฝาโถ"
ถ้ำฝาโถ ตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะเขางู ห่างจากถ้ำฤาษีเขางูไปทางตะวันตกราว 250 เมตร มีภาพสลักบนผนังทิศใต้ ได้แก่ ภาพพระพุทธรูปไสยาสน์ขนาดใหญ่
เหนือขึ้นไปเป็นภาพเทพชุมนุมและภาพปูนปั้นรูปต้นไม้ ด้านทิศเหนือเป็นภาพสลักพระสาวกสององค์ องค์ประกอบคล้ายที่ถ้ำจาม คือ เป็นภาพพระพุทธประวัติตอนปรินิพพาน มีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11
ศาลาแดงๆ ที่เราจะขึ้นไปกัน
ถ้ำฝาโถ และทางขึ้น
พระพุทธรูปแกะสลักสมัยทวาราวดีครับสวยมากๆ
เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากเลยทีเดียวครับ
ได้เวลาเดินลงแล้ว
ก่อนจากเขางูไป ขอแชะกับโลโก้เขางูก่อนครับ
เขางู
หลังจากนั้นก็นึกอะไรไม่ออก ไปไหนดีหว่าตรู ก็ขับรถไปตามทาง เจอป้าย วัดมหาธาตุ ... เออ เข้าท่าแหะ ลองดูละกัน .. ขับไปเรื่อยๆ ก็เจอพระปรางค์ครับ เลยเลี้ยวเข้าไปเลย ...
แป่ววว ผิดวัดครับ .. แต่ก็คุ้มค่าที่แวะเข้ามาชมนะ วัดสวยมากๆ .."วัดอรัญญิกาวาส" ครับ
อุโบสถสีขาว
พระปรางค์ สร้างเมื่อ พ.ศ.2030-2035 (อายุ 517 ปี) เป็นเจดีย์ 4 องค์ แบบบัวผันสร้างไว้ 4 มุม รอบพระปรางค์ ซึ่งปัจจุบันนี้เหลือทางทิศใต้เท่านั้น ลักษณะเป็นหินทราย ผู้สร้าง ขุนหาญ บุญไทย บูรณะครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2425-2440 จึงแล้วเสร็จ
พระปรางค์อายุ 517 ปี
เหลืออยู่เท่านี้ครับ
เห็นองค์พระนอนอยู่ด้่านนอก
..
มีแต่พระเก่าๆ ทั้งนั้นเลย
พระนอน สร้างเมือ พ.ศ.2030-2035 ลักษณะเป็นหินทรายแดง มีความยาว 15 วา ทำการบูรณะซ่อมแซมโดยการสร้างครอบองค์จริง องค์ที่สร้างใหม่มีความยาว 30 วา ทำการบูรณะโดยพระพุทธปาพจนบดี ปี พ.ศ. 2505 ยังไม่แล้วเสร็จ จนถึงปัจจุบันนี้ โดยท่านเจ้าคุณ พระมหาสมณวงศื (แท่น) ครั้งสุดท้าย เมื่อ พ.ศ. 2515 โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการ
พระนอนครับ
อยู่ด้านหลังพระปรางค์นี่เอง
..
หลังจากนั้นก็ไปวัดมหาธาตุกันจริงๆแล้วครับ คลำๆ ทางไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าเจอพอดี(โชคดีมากๆ) เสียดายที่ช่วงนี้ทำการบูรณะกันอยู่ เลยไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปพระปรางค์ ครับ
มณฑป
อีกมุม
ต่อด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี เป็นการปิดท้ายทริปนี้ครับ เสียคนละ 20 บาท เพื่อความรู้ที่มากขึ้น เน้ออ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี
อาคารสีชมพูสวยเชียวล่ะ
บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาครับ
สุดท้ายแล้วขอปิดท้ายด้วยวิวแม่น้ำแม่กลองแล้วกันนะครับ อิอิ
เมืองราชบุรี ในมุมมองของฉัน
สรุป ทริปนี้สบายๆ ครับเหมาะกับเป็นทริปในช่วงเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ต้องลำบากและเปลืองมากก็ได้เที่ยวแล้วครับ ดูสิ ไปเที่ยวแต่ละที่ ใกล้ๆ กันทั้งนั้นเลย 5555+
Create Date : 31 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 19:31:07 น. |
|
46 comments
|
Counter : 5122 Pageviews. |
|
|