No.1 วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

     


วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนยอด ดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความสำคัญมากที่สุด
ในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน




เป็นวัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์และเป็นวัดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากวัดหนึ่งของประเทศไทย
ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,053 เมตร อยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่




 ชื่อภูเขา "ดอยสุเทพ" : องค์พระเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า ดอยสุเทพ แต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของฤาษี มีนามว่า สุเทวะ
เป็นภาษาบาลี มีความหมายว่า เทพเจ้าที่ดี ซึ่งตรงกับความหมายของคำว่า สุเทพ นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงได้ ชื่อว่า ดอยสุเทพ ซึ่งมาจาก สุเทวะฤาษี




วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย




พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่
ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่
ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน




พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัติสามรอบ แล้วล้มลง
พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม




แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น
ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น




ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก
พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ




ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง
เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร




ชาวเชียงใหม่เคารพนับถือพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมากเสมือนหนึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาแต่โบราณกาล




กล่าวถึงราชวงศ์มังราย เป็นวงศ์ของกษัตริย์ที่ทรงปกครองเมืองเชียงใหม่มาตามลำดับ ซึ่งพญามังรายได้สร้างเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 1839
ต่อมาได้มีกษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ ผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาตามลำดับ ดังนี้




      1. พญาเม็งรายมหาราช พ.ศ.1804 ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่
      2. พญามังคราม พ.ศ.1854 3. พญาแสนพู พ.ศ.1868
      4. พญาคำฟู พ.ศ.1877




      5. พญาผายู พ.ศ.1879
      6. พญากือนา พ.ศ.1898 ผู้สร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
      7. พญาแสนเมืองมา พ.ศ.1928




      8. พญาสามฝั่งแกน พ.ศ.1945
      9. พญาติโลกราช พ.ศ.1984 ผู้ทำนุบำรุงวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
      10. พญายอดเชียงราย พ.ศ.2030




      11 . พญาเมืองแก้ว พ.ศ.2038
      12. พญาเมืองเกษกล้า พ.ศ.2068 ผู้ซ่อมแซมวัดพระธาตุ ดอยสุเทพราชวรวิหารครั้งใหญ่
      13. ท้าวชายคำ พ.ศ.2081 ผู้ก่อ สร้างเพิ่มเติมในวัดพระธาตุ ดอยสุเทพราชวรวิหาร




      14. พญาเมืองเกษกล้า พ.ศ.2086
      15. พระนางจิรประภา พ.ศ.2088
      16. พญูาอุปเยาว์ พ.ศ.2089




  17. ท้าวแม่กุ พ.ศ.2094
      18. พระนางวิสุทธเทวี พ.ศ.2107-2121
หมายเหตุ
      พญาเมืองเกษเกล้า ปกครอง 2 สมัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2121 พม่าได้เลิกแต่งตั้งกษัตริย์ราชวงศ์เม็งราย เพราะต้องไปขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ




    การบูรณะวัดพระธาตุดอยสุเทพ
การบูรณะครั้งแรก
         วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างโดยพระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์เม็งราย ในปี พ.ศ.1916 (ค.ศ.1373)
วัดนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากกษัตริย์ไนราชวงศ์เม็งรายทุกพระองค์ ในแต่ละสมัยมีการซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุที่พระเจดีย์มีอายุถึง 15 ปี สมควรที่จะทำการสร้าง
และปรับปรุงเสียใหม่




ดังนั้นในปี พ.ศ.2068 (ค.ศ.1525) พระเจ้าเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12
แห่งราชวงศ์เม็งราย ได้ไปนิมนต์พระเถระรูปหนึ่งอยู่ที่วัดอโศการาม
(วัดกู่มะลัก)

จังหวัดลำพูนซึ่งเป็นพระที่ประชาชนเคารพนับถือมากองค์หนึ่ง
ชื่อว่าพระมหาญาณมงคลโพธิ มาเป็นประธานในการบูรณะ
ปฏิสังขรณ์พระเจดีย์โดยการขยายพระเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมคือจากเดิม

สูง 5 วา กว้าง 1-43 วา เป็นสูง 11 วา กว้าง 6 วา ซึ่งเป็นขนาดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้




การก่อสร้างเพิ่มเติม
           นับจากที่ได้บูรณะครั้งแรกมาได้ 13 ปี คือ พ.ศ.2081 (ค.ศ.1538) พระเจ้าชายคำ พระโอรสของพระเจ้าเกษเกล้า ได้ขึ้นครองราชย์เมืองเชียงใหม่
ได้ไปนิมนต์พระมหาญาณมงคลโพธิองค์เดิมมาเป็นประธานในการก่อสร้างอีกครั้งหนึ่ง โดยพระองค์ได้พระราชทานทองคำหนักประมาณ 1,700 บาท




ให้ช่างทำเป็นแผ่นทองคำจังโกปิดทั่วองค์พระเจดีย์ และพระองค์ยังได้พระราชทานเงินสดอีก 6,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างพระวิหารด้านหน้า
และด้านหลัง ศาลาระเบียงรอบองค์พระเจดีย์ทั้ง 4 ด้านและจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมด ดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวันนี้




ในปี พ.ศ.2100 (ค.ศ.1557) พระมหาญาณมงคลโพธิ แม้ท่านจะมีอายุมากแล้ว แต่ท่านก็ยังแข็งแรงดีและพร้อมที่จะทำงาน
ท่านได้เป็นประธานก่อสร้างบันไดพญานาค ขนาดความยาว 306 ขั้น จากล่างถึงบน ท่านทำหน้าที่ควบคมงานก่อสร้างด้วยตนเอง ตัวพญานาคทั้ง 2 ข้าง ทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตกแต่งอย่างปราณีต







พญานาคแต่ละตัวมี 7 หัว บันไดนาคนี้สร้างมานานกว่า 400ปี มีการชำรุดไปบ้างแต่ก็ได้รับการบำรุงซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา
จนทำให้พวกเราทุกคนได้เห็นบันไดนาคอยู่ในสภาพเดิมตราบเท่าทุกวันนี้




การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาวัด พระธาตุดอยสุเทพเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุองค์หนึ่ง เหมือนกับพระเจดีย์ทั่วๆ ไป ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัด มีฐานะเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น




ต่อมาในสมัยเจ้าอาวาสองค์ที่ 5 พ.ศ.2494 (พระครูญาณลังกา) พระธาตุดอยสุเทพ ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นวัดราษฎร์จากกรมการศาสนาอย่างถูกต้องโดยให้ชื่อว่า
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา







จากการที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นวัดราษฎร์อย่างถูกต้องแล้ว ต่อมาอีก 12 ปี คือ ปี พ.ศ.2506
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารก็ได้รับคัดเลือกให้ยกฐานะจากวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร




ข้อมูลจาก : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช //www.dnp.go.th




ภาพชุดนี้ถ่ายไว้ประมาณปลายปีที่แล้วครับ เห็นโอกาสดีก้เลยเอามาแบ่งปันกันชมครับผม



Create Date : 28 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 19:06:51 น. 9 comments
Counter : 2251 Pageviews.

 
แวะมาชมภาพสวยๆ ของวัดพระธาตุดอยสุเทพครับ ผมเคยไปนานแล้วตั้งแต่เจดีย์ยังสมบูรณ์ ยังไม่มีการบูรณะเลยครับ เสียดายตอนนี้ยังบูรณะไม่เสร็จ ถ้าเสร็จเมื่อไหร่คงกลับมาสวยงามเหมือนเดิมครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:23:32 น.  

 
สวยแจ่มครับ ชอบภาพที่สาม นำสายตาสวย


โดย: Master_Indy IP: 61.19.65.77 วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:38:24 น.  

 
แวะมาชมภาพสวยๆ ของเจียงใหม่ ด้วย วัดสวย งาม อร่ามด้วยทอง งามแต้ๆๆ


โดย: pragoong วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:58:58 น.  

 
ถาพสวยมาก ๆ ค่ะ น่าเสียดายที่องค์พระธาตุกำลังเข้าเฝือกอยู่



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:35:56 น.  

 


โดย: Tonkra49 วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:18:39:52 น.  

 
แวะมาทักทายจ้า.. รูปแหล่มๆ ทั้งนั้นเลยเนอะ ..
ชอบมุมมองเชียว ... สวยจ้า ..




โดย: Nongpurch วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:9:53:10 น.  

 
ถ่ายรูปมาสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ
สบายดีนะคะ


โดย: มิลเม วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:9:44:41 น.  

 


โดย: โมจิกลม วันที่: 11 กันยายน 2554 เวลา:15:09:57 น.  

 
ดูแล้วเพลินจังค่ะ


โดย: ^-^ IP: 124.121.142.216 วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:20:56:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




กล้องเก่าๆ เลนส์เดิมๆ กับการท่องเที่ยวในสไตล์ของฉัน
ความคิดเห็นล่าสุด
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.