ฉันจัดดอกไม้หน้าศพพ่อจริงแต่มันนานมาแล้ว นานกว่าสองปี และฉันอยากให้เวลาผ่านไปเหมือนหนึ่งว่านานสักสิบปียี่สิบปี
เป็นฝันร้ายสำหรับฉันที่ยาวนาน ข่าวยามเช้าที่ถูกส่งมาทางโทรศัพท์เป็นทอดๆ จากน้าคนหนึ่งสู่น้าอีกคนหนึ่งและถึงฉันกับพี่ๆ
น้าบอกให้เรากลับบ้าน เธอไม้ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถามว่า มีเงินพอค่ารถหรือเปล่า
ฉันตอบว่ามี น้าหยุดไปนิดหนึ่งเหมือนรอให้ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องร้าย เพราะฉันไม่เคยได้รับข่ายร้ายใดๆ นอกจากข่าวแม่ไม่มีเงินตอนนี้ยังส่งมาให้ลูกไม่ได้ เป็นข่าวร้ายของฉัน แต่ตอนนี้เราไม่มีปัญหาเรื่องเงินแล้ว ฉันและพี่มีงานทำ ฉันคิดว่าน้าอยากได้อะไรที่บ้านและให้ฉันไปเอาให้ ธรรมดาน้าๆ ของเราจะใช้หลานได้ทุกเรื่อง และพวกเราก็ยินดีรับใช้น้า เป็นเช่นนี้มานาน แม่นั่นแหละที่เฝ้าบอกว่า ไปอยู่กับน้าเขาใช้ให้ทำอะไรก็ต้องทำ งานบ้านงานเรือนกับข้าวกับปลาก็ต้องช่วย อะไรทำได้ก็ต้องทำ และต้องเชื่อฟังน้า
พวกเราอยู่กับน้ามานาน เรียกว่าตั้งแต่จำความได้ก็จำหน้าน้าได้ โตขึ้นไปเรียนหนังสืออยู่บ้านน้า เรามีน้าหลายคนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ น้าคนโน้นบ้างน้าคนนี้บ้าง ตามแต่ช่วงอายุและการเรียนประถมอยู่กับน้าอีกคน มัธยมอีกคน เข้ามหาวิทยาลัยอยู่กับน้าอีกคน เพราะแม่เป็นพี่สาวคนโตของพวกน้าๆ ทั้ง ๙ คน และพ่อเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวที่ไม่ญาติพี่น้อง ดังนั้นเราจึงไม่มีอาและลุง ทั้งพ่อและแม่มอบความไว้วางใจให้น้า การตัดสินใจบางอย่างเดี่ยวกับชีวิตพวกเราก็มีพวกน้าๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
อยู่กับน้า ฉันบอกใครๆ เช่นนี้เสมอ
เราถูกสอนให้ระลึกถึงบุญคุณของน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและตลอดไป ดังนั้นไม่ว่าน้าจะให้ทำอะไรงานเล็กงานใหญ่เราหลานๆ ไม่เคยขัดและถือเป็นหน้าที่ต้องรับใช้น้า ทุกครั้งน้าจะขอบอกขอบใจแต่มันก็คือการรับใช้นั่นแหละ เหตุผลของการเป็นผู้รับใช้บรรดาน้าทั้งหลายอย่างหนึ่งก็คือ น้ารักพวกเรา ฉันคิดว่าไม่ใช่เพราะเราเป็นลูกของใคร แต่เพราะเราเป็นหลานของพวกเขา ที่พูดเช่นนี้ เพราะฉันรู้ว่าน้าๆ ไม่ค่อยจะชอบพ่อของเรานัก เพราะพ่อของเราไม่ใช่แบบอย่างพ่อของน้า
ฉันไม่ได้ทันได้รู้จักกับพ่อของน้าหรือตาของฉันนั่นแหละ แกตายไปเสียก่อนที่ฉันจะทันเกิดมาดูโลก ได้แต่เห็นภาพถ่ายและบันทึกของน้า เป็นบันทึกที่น้าใช้เพื่อยังชีพได้มาจนถึงทุกวันนี้ ภาพแห่งความรักความอบอุ่นในครอบครัว พื้นฐานความรักความอบอุ่นในครอบครัวไม่ใช่แค่พี่น้องของพวกเขาเท่านั้น มันเผื่อแผ่มาถึงหลานๆ ด้วย
พี่และฉันเรียนจบเรายายออกมาจากบ้านน้า แต่ทุกครั้งที่น้าอยากได้อะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเราก็ทำให้ เราได้รับคำชมเล็กๆ น้อยๆ นานครั้งจะได้เงินใช้บ้าง
เป็นบุญคุณที่ใช้ไม่หมด ทั้งพี่ชายและพี่สาวของฉันเขายินดี แต่ฉันไม่ค่อยจะยินดีนัก พี่สาวของฉันเธอมีงานทำ มีเงินเดือนสูงและเมื่อน้าตกงาน พี่สาวฉันจะแบ่งเงินจุนเจือน้าเสมอ ถึงวันที่น้าคนหนึ่งจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด น้าไม่อยากได้คอนโดฯ ในกรุงเทพณ ที่ซื้อไว้แล้ว พี่สาวอยากได้หรือไม่เธอก็ต้องเอา เพื่อเห็นแก่น้า เพื่อน้าจะได้บินไปอยู่ทางเหนือของประเทศ หลังจากนั้นก็มีคำชื่นชมจากน้ามาทางจดหมาย น้าบอกว่าถ้าหากหลานไม่รับคอนโดฯไว้ หรือไม่ช่วยผ่อนต่อน้าก็ยังไม่ได้มาอยู่ที่เมืองเหนือ น้าต้องทำงานหนักเพื่อผ่อนคอนโดฯฯตายอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยมลภาวะ น้าอ้างว่าแกเริ่มแก่แล้ว สู้อากาศเสียในเมืองหลวงไม่ไหว และแกไม่ต้องการเรียนรู้อะไรจากเมืองหลวงอีกแล้ว ตัวแกเองก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับที่นี่ เพราะอยู่ที่นี่ก็มีแต่เพิ่มพูนหนี้สินมากขึ้น เมืองหลวงเป็นที่สำหรับการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น
แต่เพียงสามเดือนเท่านั้นมีข่าวน้าไปสร้างครอบครัวใหม่ที่เมืองเหนือกับหนุ่มนักดนตรี เราสามคนพี่น้องจึงต้องย้ายเข้ามาอยู่คอนโดฯของน้าพร้อมกับหนี้สินก้อนโตที่น้าทิ้งไว้ให้ ตั้งแต่ค่าโทรศัพท์ ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าผ่อนคอนโดฯ ที่มีดอกเบี้ยขึ้นสูงจนคล้ายๆ กับว่าที่น้าผ่อนผ่านมาสองปีนั้นเป็นดอกเบี้ยทั้งนั้น
ดอกบีบที่โรงเรียนบ้านทุ่งเสี้ยว
เมื่อน้าโทรศัพท์บอกให้กลับบ้าน ฉันจึงคิดว่าฉันต้องกลับเพื่อทำธุระให้น้าไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง จึงรอฟังน้าพูดต่อให้จบว่าจะให้ทำอะไร
คือว่าต้องกลับทั้งหมดนะ กลับหมดทุกคนเลยนะ แกหยุดไปอึดใจหนึ่งก่อนพูดต่อว่า ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากบ้านให้บอกหลาน มันเป็นงานยากมากสำหรับน้า พวกที่บ้านเขาใจร้ายมากที่ให้น้าเป็นคนบอกข่าวร้ายนี้ น้ารู้สึกเป็นทุกข์มากเหลือเกิน
เหมือนน้าพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดแกก็พูดออกมาว่า พ่อของหลานได้จากไปแล้ว
พ่อใครน้า
พ่อพวกเธอ พ่อน้าไปนานแล้ว พ่อพวกเธอเพิ่งจากไปเมื่อคืน ฟังน้านะมันเป็นอุบัติเหตุ ที่เราทำได้ตอนนี้คือกลับบ้าน
พ่อ ถูกรถชนในยามวิกาล พี่สาวฉันแย่งโทรศัพท์ไปได้ยินเธอถามเสียงดังว่า แล้วแม่ล่ะน้า แม่ด้วยหรือเปล่า แม่อยู่ที่ไหน
เธอสงบลงเมื่อได้คำตอบจากน้าว่า แม่ยังอยู่ ฉันคิดเหมือนเธอว่า แม่ไปด้วยเพราะแม่กับพ่อไปไหนๆ ด้วยกันเสมอ
พ่อต้องเมา พ่อต้องดื่มเหล้าแน่เลย พี่ชายของฉันพูดพลางร้องไห้ ในขณะที่เราอยู่กันพร้อมหน้า แบ่งงานกันทำ ฉันมีหน้าที่จัดดอกไม้
น้าบอกให้เราคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุเท่านั้น และเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ต้องไปสนใจว่าจะเมาหรือไม่เมา ไม่มีใครเห็นแม้แต่รถที่ชน นอกจากได้ยินเสียงและรถก็ผ่านไป ชนแล้วหนีนั่นเอง
สี่แยกโหดที่ตรงนั้นมีรถชนกันบ่อย แต่ไม่มีใครคิดจะทำให้ดีกว่านี้ เช่นว่ามีสัญญาณไฟ หรือมีไฟสักดวงให้มองเห็น
มีคนมาบอกว่า รถที่ชนพ่อเป็นรถบรรทุกวิ่งมาอย่างเร็ว รถมีปัญหามาจากที่อื่น อาจจะขับหนีอะไรมา ฉันไม่รู้ว่าทำไมตำรวจทางหลวงปล่อยให้รถมีปัญหาวิ่งผ่านมาได้ เขาน่าจะสกัดเอาไว้ แต่ก็นั่นแหละเป็นเพียงเรื่องพูดต่อๆ กันมา ไม่มีใครรู้แน่ชัด
แม่บอกว่า ให้เราอโหสิให้เขา อย่าได้พยายามที่จะเอาเรื่องเอาราวอะไรเลย พ่อคงข้ามถนนระยะใกล้ เขาคงเบรคไม่ทัน ไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าพ่อหมดอายุแค่นี้
แม่อธิบายด้วยเวรกรรม แม่จึงไม่คิดที่จะเอาเรื่องเอาราวกับใครทั้งนั้น แม้แต่ประกันบุคคลที่สาม ที่หน่วยงานซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ต้องจ่าย แต่เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้พ่อไม่มีใบขับขี่ แม่ก็ว่าไม่เป็นไร เขาอธิบายให้แม่ฟังว่า ให้ไปก็ได้แต่ต้องเรียกคืนภายหลัง เพราะทางเขาต้องเรียกเก็บจากบริษัทประกันและหากว่าหลักฐานไม่เพียงพอ เช่นไม่มีใบขับขี่บริษัทประกันไม่จ่าย ในที่สุดก็ต้องเรียกคืนจากเจ้าของรถ เจ้าของรถก็คือใคร คือลูกชายของพ่อ เขาซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้พ่อ
แม่บอกให้เลิกสนใจเรื่องเงินที่จะได้ และเลิกสนใจเรื่องคนที่ขับรถชนด้วย แม้ว่ามีคนมาบอกว่า ได้เบาะแสมาแล้วว่ารถที่ชนเป็นรถอะไร ตอนนี้รถอยู่ที่ไหน เขาว่าคนขับรถไปพูดว่าเมื่อคืนก่อนชนคนเมาที่สี่แยกหัวสะพาน
แม่ไม่อยากให้ใครพูด ฉันคิดว่าแม่ไม่อยากยอมรับว่าพ่อเมา อะไรที่เป็นเรื่องเสียหายถึงพ่อ แม่ไม่ยอมให้เกิดขึ้น แม่ปกป้องพ่อเสมอมา แม้วันที่พ่อไม่มีโอกาสรับรู้ว่าใครจะกล่าวถึงเขาอย่างไร ความรักที่ยิ่งใหญ่ในหน้าที่ของเมียและแม่
ฉันไม่รู้ว่าแม่อยู่อย่างไรเมื่อไม่มีพ่อ พวกเราไม่ได้อยู่กับแม่ แม้พ่อไม่ใช่พ่อแบบฉบับแบบพ่อของน้า แต่พ่อก็อยู่กับแม่มานานและสองคนเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แม่ไม่ได้เห็นว่าการไม่ทำงานหนัก ไม่หาเงินเข้าบ้านเป็นปัญหา แม่หาเงินเองได้ พ่อแค่ขับรถให้แม่นั่งและอยู่ใกล้ๆ แม่ ทำงานเป็นผู้ช่วยแม่ และอยู่ใกล้ๆ ลูกเสมอ ในทุกครั้งที่เรากลับบ้าน พ่อจะอยู่กับเรา
ฉันไม่เคยเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันสักครั้ง
ย่าต่างหากที่ต้องตอบคำถามนี้ ย่าเลี้ยงลูกชายคนเดียวเช่นไร แต่วันนี้ย่าแก่มากแล้ว เกือบ ๘๐ ปี ย่านั่งนิ่งๆ ฉันรู้ว่าย่าเสียใจแต่ย่าใจแข็งเหลือเกิน ไม่มีน้ำตาสักหยดจากย่า ฉันอยากเห็นน้ำตาจากย่า นี่ลูกชายคนเดียวของย่าตายนะ ลูกชายที่ย่าไล่ออกจากบ้าน
ปู่เคยเล่าว่า อยู่กับย่ามานานไม่มีลูกสักคน ย่าจึงไปขอลูกกับฤาษีที่ถ้ำ มีรูปปั้นเก่าแก่อยู่ในนั้น เขาเล่ากันว่าใครอยากได้ลูกไปขอจากท่านได้
ขอให้ส่งลูกมาสักคน อย่างไรก็ได้ขอให้ได้ลูกเถอะ ย่ากับปู่อธิษฐานขอลูก ไม่นานย่าก็ท้องได้ลูกชายสมใจ
เมื่อย่าไม่ได้ดังใจ ย่าก็ว่า เพราะไปขอมาถึงเป็นเช่นนี้ ของขอได้มาฟรีๆ เอาดีกว่านี้ไม่ได้ และย่าก็ไม่สนใจลูกชายอีกเลย
ปู่ว่าเป็นความผิดของปู่เอง รักมันให้มันกินให้มันใช้ จะเอาอะไรก็ให้
สายไปแล้วสำหรับย่าและปู่ ย่าได้คืนสิ่งที่ย่าขอมาจากฤาษีแล้ว เขาเดินทางกลับไปแล้ว ถ้าฉันเชื่อเช่นเดียวกับย่า ฉันก็ต้องคิดว่าเขาให้พ่อมาและเขาก็เอาพ่อคืนไปแล้ว และฉันหวังว่าพ่อคงอยากกลับไป พ่อจะมีความสุขอยู่ในดินแดนแห่งความรักและการให้อภัยชั่วนิรันดร์
ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อคิดว่าพ่อกลับไปสู่ที่ที่พ่อมา จริงของปู่ แกไม่ได้ฝึกให้พ่อทำงาน ในขณะที่ย่าคิดอยู่เสมอว่าเป็นของที่ขอมาจึงเอาดีไม่ได้ ฉันคิดว่าย่าคิดเสมอเพราะเมื่อย่าโกรธย่าก็จะบ่นขึ้นมา ย่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน ฉันไม่ได้ถามย่า หมดเวลาสำหรับการซักถามแล้ว
ดอกอะไรไม่รู้อยู่ในป่าดอยสุเทพ
ฉันเคยโกรธพ่อเมื่อน้าชี้ให้เราดูที่ดินมากมายที่มันเคยเป็นของปู่และหมดไปกับการพนันของพ่อ ฉันโกรธเพราะหากมันยังอยู่ ชีวิตฉันก็จะสุขสบายกว่านี้ เป็นเรื่องเศร้าฉันโกรธพ่อได้อย่างไร นับว่าโชคดีที่พ่อใช้มันหมดไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นเหมือนเช่นพ่อ ไม่รู้จักการงานและยังโชคดีกว่านั้นทั้งพ่อและแม่ไม่ได้ขอเรามาจากใคร แต่พวกเรามาเองมาเพื่อเป็นลูกจริงๆ
ฉันเชื่อว่าทั้งพ่อและแม่ไม่เคยคิดว่าเราเอาดีไม่ได้ ฉันเชื่อว่าแม่กับพ่อไม่คิด ความเชื่อนี้ต่างหากที่ช่วยฉันไว้ในทุกครั้งที่ฉันก้าวเท้าเดินเพื่อยังมีชีวิตอยู่
ฉันคิดถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา ภาพถ่ายของพ่อที่วางอยู่บนขาตั้งหน้าโลง ฉันเอาดอกไม้สีขาวไปประดับให้พ่อ ภาพถ่ายที่ใบหน้าเป็นของพ่อแต่คอกับหัวไหล่นั้นไม่ใช่ พ่อมีแต่ใบหน้าที่ยังมีรอยยิ้มแบบคนไม่ทุกข์ไม่ร้อนต่อเรื่องใดๆ
ฉันมารู้ทีหลังว่าฉันเข้าใจไม่ผิด ภาพถ่ายนั้นได้รับการตัดต่อตกแต่งใหม่ โดยเอาภาพถ่ายใบหน้าของพ่อสวมลงไปในตัวคนอื่น ย่าให้ญาติคนหนึ่งเอาภาพถ่ายพ่อไปขยายให้ใหญ่ เขาอยากให้รูปถ่ายสมบูรณ์ อยากให้พ่อสวมสูทเขาใช้เทคนิคตัดต่อภาพ
หรือชีวิตของพ่อก็เหมือนภาพถ่ายที่ถูกตัดต่อ ใบหน้าของพ่อส่วนคอลงไปไม่ใช่ แต่คอต้องติดอยู่กับหน้าของพ่อ
***************
Create Date : 21 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 10:24:30 น. |
|
21 comments
|
Counter : 972 Pageviews. |
|
โอโฮน้ายายจะได้ไปนั่งเรือล่องแม่น้ำปิง
เสร็จแล้วเล่าให้ฟังด้วยนะค่ะ
ไปแล้วค่ะไม่กวนแล้ว
ขอให้มีความสุขมีความสุกกับการล่องเรือค่ะ
โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka