คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
ลูกสาวของแม่น้ำ

ลูกสาวของแม่น้ำ
แพร จารุ
1
สิบล้อสิบคัน รถขุดอีกสามคัน เข้ามาในหมู่บ้าน เป็นการเริ่มต้นของเรื่องใหม่…

ลุงล้วนแกได้ชื่อว่าเป็น หนังสือพิมพ์รายวันประจำหมู่บ้าน แกออกเดินเพื่อแจ้งข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเสมอ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองไปด้วย รัฐมนตรีคนไหนโกงกินเท่าไหร่แกรู้หมด
แกตื่นขึ้นมาฟังวิทยุก่อนฟ้าสางและออกเดินยามเช้าตรู่ เพื่อไปร้านน้ำชา
วันนี้ลุงล้วนแวะบ้านยายณี แกส่งเสียงมาแต่ไกลว่า ครูไม่ยอมให้สิบล้อผ่านทาง ครูว่า
ที่ดินของแกไม่ใช่ถนนหลวง
"ก็จริงของครู หน้าบ้านใครก็ไม่ใช่ถนนหลวง" ลูกสาวยายณีโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่าง
ลุงล้วนเงยหน้าขึ้นพลางถาม "อ้าวยังไม่กลับเหรอ คิดว่ากลับไปแล้ว" "ยังลุง ยังไม่กลับ" เธอตอบ
"ครูแกเพี้ยนแล้ว ตั้งแต่เกษียณ" ลุงล้วนว่าต่อ
"จริงเหรอลุง
"ก็จริง ความเจริญทั้งนั้นไม่เอา ก็เขาบอกว่าจะทำถนนข้างบ้านให้ ฝนตกไม่เป็นบ่อเป็นหลุม แกยังไม่เอา"

ลุงล้วนเดินจากไปแล้ว ยายณีเจ้าของบ้านไม่ได้พูดเช่นเคย นานครั้งแกถึงจะขัดใจใครหรือออกความเห็นที่ไม่ตรงกับคนอื่น เป็นคุณสมบัติที่ตรงข้ามกับใครๆ โดยเฉพาะลุงล้วน ดังนั้นลุงแกจึงชอบมาพูดคุยที่บ้านนี้มากกว่าที่อื่น การมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แล้วคนฟังเห็นด้วยหรือเพียงไม่ขัดใจ คนเล่าก็มีความสุข แกมักจะจบลงด้วยคำที่ว่า "ว่าไหมล่ะยายณี”

ยายณีแกรู้เรื่องต่างๆ ดีจากลุงล้วนและคนอื่น ๆ เพราะแกเป็นคนชอบฟัง วันทั้งวันแกนั่งอยู่หน้าบ้าน เหมือนนั่งรอให้ใคร ๆ เดินมาเล่าเรื่องราว ฟังไปกินหมากไปพยักหน้าไป และแกก็ยังชอบไปวัดอีกด้วย วัดก็เป็นแหล่งข่าวชั้นดีมีเรื่องราวอะไรก็เอามาพูดคุยกัน ในช่วงที่รอพระฉันข้าวชาวบ้านก็นั่งพูด หลังจากพระฉันข้าวเสร็จก็เริ่มกินข้าวกัน กินกันไปคุยกันไป หลังจากนั้นเก็บปินโตไปล้างหิ้วกลับบ้าน
ไปวัดในวันพระแล้วยายณีแกยังไม่กลับบ้าน แกเลยไปบ้านพี่สาวที่สูงวัยกว่า พี่สาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวเป็นพี่สาวคนโต เป็นสาวโสด ไม่มีลูกมีผัว แกเดินเหินไปไหนไม่ค่อยจะไหวแล้ว นั่งๆ นอน ๆอยู่กับบ้าน
ยายณีมีชีวิตอยู่กับการได้ดูแลพี่สาวคนโตที่อายุเกือบร้อยปีและรอคอยลูกสาวกลับมาอยู่บ้าน แกปรารถนาสองอย่าง

วันนี้ยายณีได้ลูกสาวกลับมาอยู่บ้าน แต่แกเริ่มหนักใจเมื่อลูกสาวกับลุงล้วน ถกเถียงกันทุกวัน ไม่ว่าลุงล้วนพูดอะไรเธอไม่เคยเห็นด้วย
" ขัดหม้อ ก็ได้หม้อสะอาดขึ้นแววใส แต่ขัดคอคนขัดใจคนมันมีแววเหมือนกันนะ แววล่มจม แววเดือดร้อน” ลุงล้วนว่าแล้วเดินจากไป

การขนทรายเป็นเรื่องของผลประโยชน์ เขาไม่ได้ขนไปสร้างวัดหรือสร้างโรงเรียน ทรายเอาไปทำถนน ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะสร้างถนนขึ้นเหนือขึ้นไปทำไม หากเป็นเมื่อก่อนก็จะทำถนนขึ้นไปยังโรงแร่เหล็ก บนนั้นมีแร่เหล็กแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว
ยายณีมองลูกสาวอย่างเป็นห่วง แกคิดว่าน่าจะมีใครสักคนมาขอลูกสาวแก ได้ออกเหย้าออกเรือนไปจะได้มีลูกมีเต้าไป แต่ก็นั่นแหละ ลูกสาวของแกไม่เหมือนลูกสาวคนอื่น มันเถียงคำไม่ตก ใครอยากได้ผู้หญิงแบบนี้ไปเป็นเมีย

สิบล้อนับสิบคันผ่านทางเข้ามา จอดรออยู่ที่ควนดินสูงบ้าง ลงไปที่หาดทรายบ้าง เด็กๆ สนุกสนานมาเฝ้าดูรถสิบล้อและรถตักทราย มันตักขึ้นมากองไว้และสิบล้อมาขนไป
ลุงล้วนมาบอกยายณีว่า
"ครูแกยอม เพราะลูกศิษย์ทนายมาขอร้อง ว่าทรายที่ขนขึ้นมาเอาไปถมถนนทางเหนือ ทำถนนใหม่ให้คนสัญจรสะดวกสบาย เป็นงานพัฒนา ครูแกถึงยอม มันพูดเก่ง ขอโทษขอโพยครูที่ไม่ได้มาบอกครูเอง"
"ว่าแล้วเข้ากรอบนั้นแน่" ลูกสาวพูดเบา ๆ ยายณีส่งสายตาห้าม
"ไม่ได้ก็ต้องได้แหละ ไปว่าจ้างทำสัญญากับเขาแล้ว"ลุงล้วนพูดต่อ
"เหมือนรัฐบาลเลยลุง ทำสัญญากันแล้ว ค่อยมาบอกชาวบ้าน พอชาวบ้านไม่ยอมก็ทำประชาพิจารณ์แบบหลอก ๆ ”
"พูดเกินไป"แกว่า
"ก็ใช่แหละลุง ใครมีแรงน้อยก็ทำน้อย คนมีแรงมากก็ทำมากไงล่ะ มันถึงฉิบหายกันเป็นขั้น ๆ อย่างนี้แหละ คนละมือคนละมื้อ "
"พูดล่ะก็เก่งจริง" ลุงล้วนพูดอย่างโกรธ ๆ
"มันอยู่ที่ว่าเพื่ออะไรแล้วเพื่อใคร" เธอว่า
"ไปกินน้ำชงน้ำชาหน้าตลาดดีกว่า"แกพูดพลางเดินไปอย่างเร็ว ยายณีบ่นว่าลูกสาวพูดจาเกินไปอย่างไรลุงล้วนแกก็เป็นลุง ป้อนข้าวป้อนน้ำแบกขึ้นบ่ามาตั้งแต่เล็ก
“ มีแต่คนมีบุญมีคุณทั้งนั้น เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ใครจะอุ้มจะแบกก็ได้ ห้ามแกไม่ให้อุ้มได้ที่ไหน อุ้มเด็กคนอุ้มก็มีความสุข” เธอบ่นเบา ๆ
"อ้าว ...” แม่อุทานพลางหัวเราะ ขำลูกสาวตัวเอง

ลูกศิษย์ทนายที่ลุงล้วนพูดถึงเป็นหลานชายของแกนั่นแหละ ไปเรียนในเมืองหลวงเพิ่งกลับมา หลังจากจบนิติศาสตร์เป็นทนายความ ว่าความเก่ง ชนะมาตลอดและขายประกันด้วย มาเปิดสำนักงานทนายความในเมือง เป็นธรรมดาของผู้คนที่นี่ถ้าลูกเป็นทนายความเขาก็เรียกลูกทนาย ถ้าเป็นหมอก็เรียกลูกหมอ

ทนายกับหมอเป็นของใหม่เป็นสิ่งพิเศษสำหรับหมู่บ้านนี้ ดังนั้นสองอาชีพนี้ถือว่ามีเกียรติมีหน้ามีตาได้รับการยอมรับสูง

บ้านที่สิบล้อผ่านทาง นอกจากบ้านครูแล้ว ยังมีบ้านป้าฉิม ท่าที่เอาทรายขึ้นมาเป็นท่าบ้านแก หาดทรายในคลองเป็นของสาธารณะ ทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ท่าที่ขึ้นทรายเป็นของป้าฉิม จากสวนมะพร้าวลงไปถึงควนดิน มะพร้าวของแกแต่ละต้นเอนลงไปตามควนดินที่ลาดลงสู่คลอง ยามหน้าน้ำหลาก น้ำจะกัดเซาะเข้ามาเรื่อยๆ แต่ยามหน้าแล้งจะมีหาดทรายขาวกว้างไกล
" ท่าป้าฉาน " เรียกกันมาอย่างนี้ตามชื่อของป้าฉานซึ่งเป็นแม่ของป้าฉิมที่ตายไปนานแล้ว

ท่าป้าฉานในวันนี้ถูกปรับใหม่จากควนดินสูงชัน กลายเป็นถนนลาดชันกว้าง ขนาดสิบล้อขึ้นลงได้สบาย พื้นดินที่มีหญ้าคลุมสีเขียวกลายเป็นดินแดงที่ถูกนำมาถมให้ทางลงราบเรียบ รากมะพร้าวขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดินแดง รากใหญ่และยาวเพราะมะพร้าวแก่ปลูกมานานนับห้าสิบหกสิบปี

เด็กๆ ต่างยืนรอดูรถแมคโครหรือที่เรียกว่ารถมือเขมือบขุดดินทรายมาเทกองรวมกัน มือยาวของมันหันหมุนไปมาก่อนจะปักควักลงไปและตักทรายขึ้นมา มันหมุนไปมาอีกครั้งก่อนจะเทกอง เสียงครางครือครืนดังอยู่เรื่อยๆ กลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจนมองไม่เห็นคนขับ เด็กๆ ต่างคอยจ้องมองว่าเขานั่งอยู่ตรงไหนของรถ บ้างก็ส่งเสียงให้เพื่อนดูว่า นั่นไง เขานั่งอยู่ตรงนั้น คนขับเป็นฮีโร่ของเด็กๆ ไปแล้ว
ทนายความคุยเสียงดังว่า เป็นแมคโครที่ดีที่สุดแล้วแต่ยังขุดไม่ทันสิบล้อต้องหาใหม่มาเพิ่มอีกสักคัน

พื้นทรายที่มองเห็นอยู่เมื่อวานไม่มีอีกแล้ว ขุดลงไปจนเป็นบ่อกว้าง แมคโครบังคับมือเขมือบปักควักลงไปในน้ำเพื่อเอาทรายขึ้นมา
" เขาจะขุดไปอีกกี่วัน " เธอถามแต่ทนายความเขาไม่ตอบ ทำเป็นไม่สนใจฟัง เขามีเรื่องที่จะคุยกับคนอื่นและไม่อยากคุยกับเธอ นั่นเป็นเรื่องที่เธอรู้ดี
หากนับญาติเธอเป็นญาติห่าง ๆ ของทนาย นับไปนับมาก็เป็นญาติกันทั้งหมู่บ้าน
เขารู้ดีว่าน้าคิดอย่างไรกับเขา ในสายตาของน้าเขาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนเขาก็คิดว่าน้าเป็นคนล้มเหลวที่คอยจะจับผิดคนอื่น
เขากลับมาอยู่บ้านอย่างคนมีอันจะกิน มาเปิดสำนักงานทนาย และทำงานที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึง เขาว่าความชนะมาหลายคดี โดยเฉพาะคดีมรดกที่ลูกหลานแย่งชิงกัน
ป้าฉิมแกเป็นคนใจดี แกไม่ขัดใจใครเหมือนยายณี ยิ่งเห็นหลาน ๆ ขัดขัดแย้ง ถกเถียงกันแกยิ่งหนักใจ
แกรักหลานไม่อยากขัดใจใครสักคน
“กลับแล้วนะ” เธอพูดขึ้นมาเมื่อไม่มีใครสนใจ พวกเขามัวแต่พูดคุยเรื่องรถสิบล้อ

อ่านต่อฉบับหน้า






Create Date : 16 มิถุนายน 2550
Last Update : 4 กันยายน 2550 22:19:15 น. 3 comments
Counter : 1508 Pageviews.

 
เรื่องนี้เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไรคะ...


รออ่านอยู่นะคะ ^_____^


โดย: ม่วนน้อย วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:18:59:33 น.  

 
เขียนไว้ตั้งนานากแล้วค่ะ นานกว่าห้าปีแล้ว เปลี่ยนชื่อมาสามครั้งแล้วค่ะ
ยังไม่เคยลงที่ไหน

ไปค้างอยู่ที่สำนักพิมพ์ใหญ่ ม่วนน้อยเป็นคนแรก ๆ ที่อ่านแน่ ๆ เลย ขอบคุณเจ้า จะค่อย ๆ ทะยอยลง แรกลงทั้งหมด มีคำเขียนตอบกลับมาว่าลงได้แค่สี่หมื่นตัวอักษรเท่านั้น กลับไปแก้ไข (มือใหม่)

พี่มีเมลส่วนตัว parjaru@gmail.com
ส่งที่อยู่ติดต่อได้หน่อยจะส่งหนังสือไปให้



โดย: แพรจารุ IP: 203.113.50.140 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:9:21:03 น.  

 
ไม่เคยเข้ามาเว็ปนี้ หลุดเข้ามาเพราะหาข้อมูลวิจัยตลาด แต่อ่านแล้วเพลินดี ชอบการเล่นคำ และความต่อเนื่องของเนื้อหา เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ


โดย: บุศย์น้ำแตง IP: 203.113.17.169 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:12:07:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..
۞ บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท

..
۞ จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.