คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

จดหมายจากนาอ่อน



จดหมายจากนาอ่อน
เย็นวันหนึ่งที่บ้านนาอ่อน
2 มิถุนายน 2550
คุณหญิงที่รัก

ฉันตั้งใจจะชวนคุณหญิงไปบ้านนาอ่อนด้วยกัน แต่เมื่อคุณหญิงไปไม่ได้ก็นับว่าโชคดีเป็นอย่างยิ่ง ฉันไปกับหลานสาวคนหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมฉันที่เชียงใหม่ และต้องการมาพักผ่อนสักระยะหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่รัฐเนวดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ฉันชวนหลานสาวไปด้วยกัน เพื่อให้เธอได้เรียนรู้ชีวิต ได้รู้จักชุมชน โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยภูเขา ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

มีหญิงสาวอีกคนเป็นอาสาสมัครของ มอส. มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เดินทางไปด้วย เธอมีธุระที่จะไปบ้านแปกแซม ซึ่งห่างออกไปจากบ้านนาอ่อนไม่ถึงสิบกิโล และเธอเป็นคนขับรถที่มีความชำนาญสูงเพราะเส้นทางจากเชียงใหม่ สู่อำเภอเชียงดาวและอำเภอเวียงแหง เป็นทางขึ้นดอยที่สองข้างทางเต็มไปด้วยหุบเหว และทิวเขาที่สวยงาม ยิ่งจากอำเภอเวียงแหงสู่ตำบลเปียงหลวง และบ้านนาอ่อนเส้นทางยิ่งสูงชันและคดเคี้ยววกวน รถที่เราใช้ก็อยู่ในสภาพที่ไม่ดี คือไม่พร้อมสำหรับการขึ้นภูเขาสูงและช่วงที่เดินทางก็มีฝนตกปรอย ๆ เป็นการเดินทางโดยประมาทแท้ ๆ

ผ่านตลาดเปียงหลวงและวัดฟ้าเวียงอินทร์ วัดที่ฉันเคยเล่าให้เธอฟังว่าเป็นวัดแบบไทยใหญ่ ที่งดงามมาก และในยามเช้าเราก็จะได้เดินเที่ยวตลาดเช้าที่นี่ เป็นตลาดยามเช้าที่มีเสน่ห์มาก ๆ มีของขายจากชาวไทยภูเขาในละแวกใกล้เคียง และอาหารชาวไทยใหญ่ที่อร่อย ๆ เช่นแกงฮังเล ของแท้ของชาวไทยใหญ่ จิ้นลุง และอีกมากมาย ว่าง ๆ ฉันจะเขียนเล่าเรื่องอาหารไทยใหญ่ มีน่าสนใจและน่าลองทำกินมาก ๆ อีกทั้งพวกเข้าของที่ข้ามมาจากชายแดนก็มากมาย ครั้งก่อนที่ฉันเดินทางมาเป็นช่วงที่มีการบวชลูกแก้ว ซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยใหญ่ ที่งดงามอลังกา และสนุกสนาน เรียกว่า “ปอยส่างลอย” บวชสามเณรนั่นเอง มีในช่วงปลายมีนาต้นเมษา ไว้ปีหน้าเรามาด้วยกันก็ได้

จากตลาดเปียงหลวง เข้าไปบ้านนาอ่อนประมาณห้าหกกิโลเป็นถนนลูกรังสูงชันขึ้นไปเรื่อย ๆ

เรามาถึงบ้านนาอ่อนในช่วงเย็น บ้านนาอ่อนเป็นชุมชนขนาดเล็กจริง ๆ บ้านแต่ละหลังมุงหญ้าคา สร้างด้วยไม้ไผ่ เป็นบ้านติดดินชั้นเดียว แม้ว่าอยู่ในป่าแต่ไม่มีสักหลังที่สร้างด้วยไม้สัก หรือเรือนไม้สวยงาม ตรงด้านหน้ามีลานเพียงเล็กน้อยขนาดจอดรถยนต์ได้ไม่ถึงสิบคัน ฉันเปรียบเทียบอย่างนี้คุณหญิงอยู่ในเมืองหลวงคงจะพอนึกออกนะคะ ฉันเรียกตรงนี้ว่าเป็นลานอเนกประสงค์

เข้าใจว่าเป็นลานที่พวกเขาจะมาเต้นรำกันในช่วงปีใหม่ ชาวลีซูที่อื่น เขาจะมีลานดินสำหรับการเต้นรำในช่วงปีใหม่ มีการทำพิธีกรรมไหว้บรรพบุรุษ

ฉันว่าการไปร่วมงานประเพณีกับกลุ่มต่าง ๆ ทำให้เราเข้าใจในความแตกต่างและยอมรับนับถือกันได้มากขึ้น

ยามเย็นเช่นนี้ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ในหมู่บ้านเลยมีแต่เด็ก ๆ สี่ห้าคนนั่งอยู่ร้านด้านหน้า

เด็ก ๆ ทำท่าจะเดินหนีเมื่อเราเดินเข้าไป แต่เมื่อเราบอกว่า ขอนั่งด้วยคนนะเหนื่อยจัง พวกเขาก็นั่งลงเช่นเดิมและพากันหัวเราะกิ๊ก กิ๊ก

“หิวจัง มีอะไรกินบ้าง มีผลไม้อะไรไหม”
คนหนึ่งตอบว่า “กล้วย” และหัวเราะกันอีก แต่ไม่นานพวกเขาก็หากล้วยสุกลูกโต ๆ มาให้เรากินได้จริง ๆ

ที่เราบอกเด็กว่าหิวนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะเรามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตามาให้ถึงหมู่บ้านนี้เพราะกลัวฝนจะตกลงมาอย่างหนักและทำให้การเดินทางลำบากยิ่งขึ้น

ลืมบอกคุณหญิงไปว่า เรามีหนุ่มมาด้วยคนหนึ่ง เป็นคนรูปหล่อเชียวแหละ ชื่อเมาเขาอาสาลงกลับไปตลาดเปียงหลวงเพื่อซื้ออาหาร เพราะเขาไม่ยอมให้เราซื้อระหว่างทางให้เหตุผลว่าขึ้นไปให้ถึงหมู่บ้านก่อน ฉันคิดว่าเขาคงคาดหวังว่าจะมีของกินในหมู่บ้าน เขาหายไปหนึ่งชั่วโมงกลับมาพร้อมกับหิ้วของมาเต็มสองมือแต่บอกว่าลืมซื้อข้าวสาร ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือแกล้งตลก เพราะอย่างไรเสียบ้านนาอ่อนก็ต้องมีข้าวกิน ก่อนเดินทางมาที่นี่รู้มาว่า บ้านนาอ่อนปลูกข้าวได้มากจนเหลือกิน หมู่บ้านอื่นมาซื้อไปกินด้วย

ชาวเขาที่ไหนก็ปลูกข้าวและข้าวของเขาก็มีคุณภาพดี กินอร่อยด้วย หากไปหมู่บ้านไหนและเขามีข้าวมากพอและขาย ฉันก็จะซื้อกลับมากินเสมอ ส่วนใหญ่ข้าวชาวเขาจะเป็นข้าวที่ไม่ปนเปื้อน พื้นดินดีไม่ต้องใส่ปุ๋ย อย่างเช่นข้าวที่บ้านหินลาดใน บ้านแม่คองซ้าย และอีกหลายแห่ง ฉันว่าต่อไปชาวเขาอาจจะเป็นกำลังสำคัญเพราะปลูกข้าวเลี้ยงพวกเราได้ ก็เธอจำได้ไหมที่ฉันเล่าให้ฟังว่า ผืนนาเกือบทุกแห่งเปลี่ยนสภาพไปแล้ว อยู่ใกล้เมืองก็เป็นบ้านจัดสรร อยู่ไกลออกไปรัฐบาลก็ส่งเสริมให้ปลูกยางพารา และพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เรียกว่าปลูกพืชเชิงเดี่ยว

หยุดเรื่องข้าวเอาไว้ก่อน เพราะอย่างไรเสียต้องได้กินแน่นอน ชาวลีซูนั้นเขาถือว่าถ้าแขกมาบ้านต้องต้อนรับให้ดี ต้อนรับแขกดีมีความสุขเขาก็จะดีไปด้วย ฉันก็หวังว่าความสุขของฉันในการอยู่ที่นี้จะส่งผลสู่ความสุขของเขามาก ๆ

มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาหาเรา เธอชื่ออาหมี่ และมีชื่อไทยว่าโอ๋
วันนี้เธอไม่ค่อยสบายจึงไม่ไปไร่ และชวนพวกเราไปบ้านเธอ เมื่อคุยกับเธอทำให้ฉันรู้จักหมู่บ้านของเธอมากขึ้น

บ้านนาอ่อนนี้ชื่อเดิมคือนาอ่อนปาเกี๊ยะ ปาเก๊ยะก็คือป่าสนนั่นแหละ ชาวบ้านเขาเรียกสนเกี๊ยะ หมู่บ้านนี้ ถือเป็นหมู่บ้านบริวารของหมู่บ้านแปกแซม(ป่าเกี๊ยะ) อยู่ติดกับแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่ามีอยู่ด้วยกันแค่สิบสามสิบหลังคาเรือนเท่านั้น มีประชาชน 52 คน เมื่อก่อนพวกเขานับถือผี แต่ตอนนี้หันมานับถือศาสนา คริสต์และพุทธ พวกนับถือพุทธยังนับถือผีได้ด้วยเพราะใกล้เคียงกัน

อาหมี่ยังอยู่ในวัยสาวน้อยแรกรุ่น เราจึงชวนอาหมี่คุยเรื่องความรัก เรารู้มาว่า หนุ่มสาวลีซูมีโอกาสบอกรักกันในช่วงไปไร่ ช่วงปีใหม่ และแต่งงานกับคนเผ่าเดียวกัน เดี๋ยวนี้ยังเป็นเช่นนั้นไหม

สาวอาหมี่อาย ๆ ก่อนจะตอบว่า บอกรักเมื่อไหร่ก็ได้ ชอบกันก็ไปอยู่ด้วยกันก็ได้ “หมั้นไว้ก่อนได้ไหม” หนุ่มเมาถามขึ้น อาหมี่ตอบว่า แล้วแต่ซิแต่งกันเลยก็ได้ คำตอบของสาวทำเอาหนุ่มเมานิ่งเงียบ

ยามเย็นที่นี่มีชีวิตชีวา ผู้คนต่างกลับจากไร่ มีผักมาด้วย เด็กเล็ก ๆ และเด็กหนุ่ม มาเล่นกันที่ลานโล่งด้านหน้า เขาเล่นเกมโดยไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ไม่มีลูกบาส ลูกบอล นานครั้งที่จะเห็นเกมเล่นสนุกโดยไม่มีอุปกรณ์ ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายกั้นเอาไว้ แต่ฝ่ายหนึ่งต้องฝ่าด่านขึ้นไปให้ได้ เด็ก ๆ ตัวเล็กอยากเล่นด้วยเด็กหนุ่มต้องอุ้มเขา วิ่งไปมาหยอกล้อให้อีกฝ่ายงงเพื่อจะฝ่าด่านขึ้นไป เป็นเกมที่เล่นกันสนุกและยาวนานจริง ๆ





หลานสาวของฉันปีนี้เธอเรียนจบปริญญาและกำลังจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เธอเลิกเล่นตุ๊กตาแล้วจึงนำตุ๊กตาจำนวน10 ตัวมาให้พวกเด็ก ๆ

เด็ก ๆ ไม่กล้าเข้ามาเอาตุ๊กตา แต่เมื่อคนหนึ่งกล้า คนอื่น ๆ ก็ตามมา ในที่สุดตุ๊กตาก็หมด เด็ก ๆ ต่างมีความสุขกับการได้ตุ๊กตา เด็กคนหนึ่งพยายามเอารองเท้าใส่ให้ตุ๊กตาเดิน ผู้ใหญ่ที่เห็นก็จะหัวเราะขำ

หลานสาวหัวเราะอย่างมีความสุข เมื่อเห็นเด็ก ๆ เล่นตุ๊กตาของเธอ บางคนหัดให้ตุ๊กตาเดิน บางคนให้นอน บางคนกอดไว้แน่น แน่นอนความสุขเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาของคนปกติที่เห็นคนอื่นมีความสุขก็สุขด้วย เห็นคนอื่นทุกข์ก็สงสารแม้ว่าจะหาทางช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่ซ้ำเติมให้เขาทุกข์ยิ่งขึ้นนี่เป็นเรื่องธรรมดาโดยแท้ แต่เรื่องธรรมดาเหล่านี้ทำให้คนอยู่ร่วมกันได้บนโลกนี้

คุณหญิงที่รัก
คนบ้านนาอ่อนดูเหมือนจะอยู่กันอย่างสุขสบาย สงบ พวกเขายังชีพด้วยการทำไร่ข้าว ข้าวโพด ถั่ว และเลี้ยงหมูไก่ไว้กิน และไว้ทำพิธีกรรม ข้าวไร่ได้ผลดีพอกิน พวกเขามีชีวิตเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ บ้านที่ไม่มีอะไรเลย ตู้เย็น พัดลม โทรทัศน์ ไม่มี ดังนั้นพวกเขาไม่รู้จักฉันแน่ ๆ แม้ฉันจะดังกว่าดาราโทรทัศน์ก็เถอะ

พวกเขาพูดภาษาไทยได้แต่เมื่อคุยกันเองเขาก็คุยภาษาลีซู เรามีปัญหาในการสื่อสารกันบ้างแต่เมื่อเอาใจเข้าไปพูดคุยด้วยปัญหานั้นจะหมดไป นี่ฉันจำมาจากอาจารย์ท่านหนึ่งที่กล่าวว่า เราพูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะว่าเรามัวแต่จะคิดถึงศัพท์และไวยกรณ์ผิดถูก เราไม่ได้พูดและฟังด้วยหัวใจ ฉันคิดว่าเป็นหลักเดียวกันไม่ว่าภาษาอะไร

บ้านของอาหมี่ ค่อนข้างใหญ่กว่าบ้านหลังอื่น แบ่งเป็นสองหลัง หลังเล็กเป็นครัว ลานดินโล่ง ๆ มีเตาไฟเท่านั้น มียกพื้นนั่งกินข้าว อีกหลังเป็นบ้านนอน มีลานดินโล่ง ๆ สำหรับก่อไฟผิง และมีร้านยกพื้นสำหรับนอน ฝาผนังมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อถามว่าได้มาจากไหน อาหมี่ยกมือไหว้และตอบว่า พ่อซื้อพระรูปมาจากเชียงใหม่

เธอเล่าต่อว่าพ่อของเธอเป็นคนกล้า ตอนมีคำสั่งจะย้ายหมู่บ้านออกจากพื้นที่ พ่อเป็นคนหนึ่งที่ร้องขอไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อขออยู่ที่นี่ต่อ และเธอก็เคยลงไปเชียงใหม่เพื่อเรียนรู้เรื่องกฎหมายพื้นฐานที่ควรรู้

ก่อนนอนคืนนั้นทำให้เราได้รับรู้ว่า ชีวิตที่อาศัยทำกินอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เริ่มจะมีปัญหาแล้ว เพราะมีคำสั่งจากรัฐให้อพยพโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ผู้คนทั้งหมู่บ้านต่างอยู่กันอย่างหวั่นหวาด และไม่มีความมั่นใจในชีวิต

บ้านเล็กในป่าใหญ่จะเป็นอย่างไรต่อไป

สวัสดีจ๊ะพรุ่งนี้ฉันจะเขียนถึงเธอใหม่



ภาพประกอบหลานสาว




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2550
38 comments
Last Update : 15 กรกฎาคม 2550 21:47:26 น.
Counter : 1343 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

ลมทะเลพัดพาสีน้ำฟ้ามาถึงทิวเขาที่บ้านทุ่งเสี้ยว เธอเก็บดอกไม้สีชมพูมาฝาก

ทำให้บ้านแพรจารุสดใสขึ้นทันใด หวังว่าคงจะสดชื่นไปตาม ๆ กันนะค่ะ

 

โดย: แพรจารุ 14 กรกฎาคม 2550 12:11:01 น.  

 

ขอบอกว่า
คุณสีน้ำฟ้าเธอติดหล่มโต้งเสี้ยว
ลืมรายงานตัวเลย

แวะมาตามแถวนี้เผื่อเธอจะคิดได้
ว่าอิฉันโดนพี่ชายใหญ่ของเธอ
โทรมาปลุกตั้งแต่เที่ยงคืน

คิคิคิ หมูแอมแวะมาแซวพี่แจมอะเจ้าค่ะ
ทราบว่าแวะไปพักบ้านคนรู้จักแถวโต้งเสี้ยว

บ้านน้าหนอมก่อน้อ จ๋ำจื้อบ่ได้
งุงุงุ จำได้แต่ว่า เธอบอกจะโทรหา คุณแพรจารุ


ภาพในบล็อกได้บรรยากาศดีจังเจ้า

 

โดย: สีน้ำน้อย IP: 203.154.82.14 14 กรกฎาคม 2550 12:28:10 น.  

 

คิดถึงภาคใต้จัง ไม่ได้ลงไปเยือนนานแล้วค่ะ เมื่อก่อนไปบ่อยเพราะต้องลงไปเก็บข้อมูลทำงานวิจัย

ดีใจจังค่ะที่ได้เจอบล๊อกของคุณ

 

โดย: mrs.postman 14 กรกฎาคม 2550 13:06:00 น.  

 

รายงานตัวค่ะ ^^

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 202.28.27.3 14 กรกฎาคม 2550 14:38:12 น.  

 

"บทกวี ธรรมะที่อ่อนหวาน"

ผมถือว่าเป็นคำชมที่....
ที่ทำให้เช้าวันนี้ของผม
อิ่มเอมใจมากครับ

ขอบคุณครับ....

ตอนนี้ได้แต่เป็นหัวหน้าเด็กในบล็อกนี้ก่อนน่ะครับ
แต่ถ้ามีโอกาส สักวันผมจะทำอย่างที่คุณแนะนำครับ
เป็นความฝันในใจของผมมานานแล้ว

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 15 กรกฎาคม 2550 7:24:44 น.  

 

สวัสดีจ้ะยาย

โอโฮ....บ้านใหม่ไฉไลจริงๆ

ทั้งทาสีใหม่ หน้าต่างประตู ตู้เตียงจัดโต๊ะดูงามตา

ขอให้มีความสุขการเขียนทุกชนิด


 

โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.22.202 15 กรกฎาคม 2550 16:00:47 น.  

 

กะว่าก๋าเจ้า
ยินดีเจ้า คิดถูกแล้ว เป็นคำชมจริง ๆ ช่วงนี้บ้านเรามีกวีมาเยือนสองท่าน คนหนึ่งคือสีน้ำฟ้า อีกคนเป็นสาวน้อย Sugarhut เข้าไปเยี่ยมชมได้ เราลิงค์มาไว้ข้าง ๆ แล้ว

บ้านสดใส พวกเขาเอาบทกวีที่เขียนมาดูมาอ่าน และมาชื่นชมกัน
(เหลือเชื่อ)
แต่ในขณะที่เขียนถึง
"กะว่าก๋า"พวกเขาก็กลับไปแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงผ่าน
สวัสดีคะ

 

โดย: แพรจารุ 15 กรกฎาคม 2550 16:09:00 น.  

 

สีน้ำฟ้าที่รัก
ทันทีที่เธอจากไป พี่ก็พบว่า ตัวสมุดเปิด ๆ นั้น มันรบกวนสายตาเวลาอ่าน ก็เลยคิดจะเปลี่ยนใหม่ ทำไปทำมา ดอกไม้ที่สวยงามก็พลันหายไปด้วย และตัวหนังสือที่เปิดไปมาก็เปลี่ยนไม่ได้

ช่างฉลาดแท้พี่สาวเธอแต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยจัดการใหม่ ไว้อย่างนี้ก่อนเพราะหลังจากนี้ต้องไปเขียนคอลัมน์ประชาไทแล้ว เดี๋ยวจะโดนตัดสิทธิ์การเขียนเสียก่อน เพราะไม่รับผิดชอบ

ขอบคุณแจมกับน้านพมากนะ เรื่องข้อแนะนำเว็บ เป็นประโยชน์ยิ่งจริง ๆเป็นทางเลือกหนึ่ง หลังจากเข้าประชุมครั้งใหม่ในเร็ววันพี่จะคุยเรื่องนี้กับภาคี

เกือบลืมอัพงานอ้ายถนอม เรื่องเล่าจากทุ่งเสี้ยวขึ้นแล้วด้วย มิตรรักของอ้ายหนอมเข้าไปอ่านได้ค่ะ

 

โดย: แพรจารุ 15 กรกฎาคม 2550 16:15:43 น.  

 

พ่อพเยียขอบคุณเจ้า คนแต่งบ้านกลับไปแล้ว ทิ้งรูปหมานอนไว้ดูต่างหน้า
ขอพ่อพเยียมีความสุขกับการงานเช่นกัน ไม่มีอะไรดีเท่าความสุขแห่งการงาน
คนแต่งบ้านเธอทิ้งงานเขียนไว้ให้อ่านหลายชิ้นทั้งบทกวีและเรื่องสั้น

ตอนนี้เรากำลังสนใจและเขียนเรื่องโลกร้อน เมื่อคืนดู
An Inconvenient Truth คนเดียวเพราะพวกกวีเขาไม่สนใจด้วยเป็นเวลาบันเทิง แต่เราเป็นพวกสวนทางปืน มันเกิดอาการอยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นมามาก ๆ
รออ่านพรุ่งนี้จ๊ะ คอลัมน์ในประชาไท

 

โดย: แพรจารุ 15 กรกฎาคม 2550 16:36:13 น.  

 

mrs.postman ยินดีที่ได้พบค่ะ แล้วช่วงนี้สนใจทำวิจัยเรื่องอะไรค่ะ เป็นนักวิจัยอิสระใช่ไหมค่ะ ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกไหม

 

โดย: แพรจารุ 15 กรกฎาคม 2550 16:38:45 น.  

 

งานเขียนเรื่อง
"จดหมายจากนาอ่อน" เป็นงานของกลุ่มชาติพันธ์ ซึ่งรวมป็นเล่มกับนักเขียน 5 คน มี ภู เชียงดาว แพรจารุ จิตติมา ผลเสวก สมมาตร และอนุภาพ ชื่อหนังสือว่า
"ศกนาฏกรรมคนชายขอบ"

งานจดหมายจากนาอ่อนมีสองตอน แต่ที่ในบล็อกมีสามตอน (แบบสด ๆ ไม่มีเซ็นเซอร์)


 

โดย: แพรจารุ 15 กรกฎาคม 2550 16:45:18 น.  

 

มาเก็บเกี่ยววิถีชาวไทยใหญ่คับ ภาพก็สวย บรรยากาศน่าแวะชมจังเลย

 

โดย: เขาพนม 15 กรกฎาคม 2550 17:44:35 น.  

 

แอบมาอ่าน แต่ยังอ่านไม่จบ

เดี๋ยวนู๋แวะมาอีก คิคิ

แปะโป้งน๊า แวะมาแน่นอน

น้องพลอยก็ชอบชื่อตัวเองเหมือนกานนนน

 

โดย: คำถามจากดวงดาว 15 กรกฎาคม 2550 21:00:19 น.  

 

อิอิ..นั่งเอ้อเหรอ เอ้อเต๋อ อยู่ที่ร้านเน็ต เสียบหูฟังเพลงจากบล็อกชบาฉาย เพลินไปเลย ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ขออภัยที่ไม่ได้รับสายนะคะพี่

เมื่อคืน..แอมพาไปกินข้าวต้มหน้าปากซอย เรียบร้อยกลับไปถึงก็แทบสลบไสลกัน (โสน้าหน้า) ค่าที่นอนคุยกันจนเช้าเมื่อคืนก่อน

ก็เย็นนี้กลับรถไฟดีกว่า.. เพราะจะได้ยืดเส้นยืดสายได้มั่ง ขี้เกียจนั่งรถทัวร์ ก็พอดีถ่วงเวลา ว่าถึงกรุงเทพฯ เช้า ตีห้า.. ถ้าตั๋วรถไฟสุราษฎร์ไม่เต็ม ก็อาจต่อรถไฟไปอีก..แล้วค่อยไปนั่งรถทัวร์ที่สุราษฎร์ไปกระบี่

แหะ แหะ เดินทางทรหดหน่อย แต่ก็สนุกดี ได้ความรู้ และรวมถึงความรู้สึกดี ๆ กลับไป พอเป็นกำลังและแรงใจทำงานต่อไปได้ค่ะพี่

ขอบคุณพี่กับพี่หนอมมากที่สุดในโลกค่ะ ถ้าวันไหนคิดถึงพี่ยายมาก ๆ จะเจียวไข่สูตรพิเศษ

 

โดย: สีน้ำฟ้า 16 กรกฎาคม 2550 12:39:47 น.  

 

แวะมาบอกว่าวันนีนั่งอยู่ร้านเนตสนป่าตองนี่แหละเจ้าค่ะ
ไม่แน่ใจจะมีรถกลบบ้านไหมนี่มัวเถลไถล มาอบรม สันทนาการ
เหนื่อยม๊ากมาก ตอนกลางวันไปทานสมตำที่เวียงท่ากาน
เห็นพี่ยายกับอายหนอมขี่รถมอไซด์ด้วย แต่ไม่ได้ทัก
พอดีไปกับเพื่อนที่ร่วมอบรมค่ะ


งุงุงุงุ ว่างๆ แล้วจะแวะไปแอ่วหาเจ้า
ตอนนี้ แอมลงกลอนใหม่ไป บทหนึ่ง
ว่างๆก็แวะไปอ่านไปติชมได้ค่ะ

 

โดย: sugarhut 16 กรกฎาคม 2550 18:22:03 น.  

 

วันหลังจะเชิญมากินที่บ้าน พี่มือตำส้มตำเชียวแหละ แต่ไม่ได้ชวนทำ เพราะว่า คุณแจมเธอไม่ทานเผ็ด

วันนี้พี่ชายมาจากบ้านใต้แล้ว เห็นว่ามีของมาฝากด้วย อันว่ามีต้นไม้กับปลาเค็ม วันเสาร์อาทิตย์นี้ถ้าว่างก็เชิญนะคะ
นะคะ

บทกวีเดี๋ยวจะให้อ้ายหนอมไปอ่านด้วย
ที่เห็นพี่ตอนเที้ยง เราไปตลาดมะจำโรงกันเพื่อไปเสี่ยงโชควันที่ 16

ยังคิดถึงคุณซูก้าอยู่เลย เพราะไปหาดูสว่าปลาทูขายอยู่มุมไหนของตลาด

 

โดย: แพรจารุ IP: 203.113.50.14 16 กรกฎาคม 2550 18:46:47 น.  

 

ลืมไปคุณซูก้า

ตอนนี้เขาประกาศซีไรท์แปดเล่มแล้ว มีการโต้คึกคักมาก ไปอ่านในประชาไทดอดคอมก็ได้

พี่อับบทกวีของ คุณถนอม แล้วใน Group blog แล้วด้วย
แล้วพบกันค่ะ

 

โดย: แพรจารุ IP: 203.113.50.14 16 กรกฎาคม 2550 18:52:11 น.  

 

(ฮึ่ม เราจะเขียนอะไรให้ซึ้งได้เท่านี้ให้ได้เลย สู้)

 

โดย: โสมรัศมี 16 กรกฎาคม 2550 20:07:06 น.  

 

เพื่อนบอกว่าคุณยายเป็นนักเขียนชื่อดัง
ดีใจมากเลยครับที่ไปเม้นที่บล็อก
ขอบคุณมากครับ

 

โดย: ตะวันออกไม่แพ้ 16 กรกฎาคม 2550 22:20:48 น.  

 

แต่งบ้านใหม่เสียหวานเชียวค่ะพี่ยาย

ปล. ใครเมาท์ให้ฟังว่าหนูเป็นสาวติสท์
ห่างไกลจากคำนั้นจะตายไปค่ะ

 

โดย: ม่วนน้อย 16 กรกฎาคม 2550 22:54:49 น.  

 

หวัดดี ยาย

ไม่ได้แวะมาหลายวัน เห็นบ้านไฉไล ต้องเพ่งตาปริบๆ นึกว่าเข้าบ้านผิด

ภาพเปิดเรื่องนี้ น่ารักมาก ได้บรรยากาศ สงบ และอ้อยสร้อยๆ เอ๊ะ มันยังไงกันนี่...

พรุ่งนี้จะเกาะปีกนก (แอร์) ไปนครศรีธรรมราชครับ คงได้เจอะพี่จำลอง และกานติกับดวงแก้ว

ที่จริง เพิ่งกลับจากนครฯ เมื่อวันที่ 11 นี้เอง

ก็ไปบำเพ็ญบุญให้ใจเย็นๆ ครับ

แล้วจะเอาบุญมาฝาก

 

โดย: รักษ์ (big onion ) 17 กรกฎาคม 2550 0:00:50 น.  

 

สวัสดีรักษ์

ฝากความคิดถึง พี่จำลอง ด้วยนะคะ วันก่อนไปร้านเซเว่นซึ่งนาน ๆ จะไปสักครั้งหนึ่ง เห็นเขาขายหนังสือแถมกาแฟเย็นหรือขายกาแฟเย็นแถมหนังสือ ไอ้เราก็ไม่ชอบกาแฟเย็นแบบโรงงานของเซเว่น แต่อยากได้หนังสือเพราะสัมภาษณ์พี่จำลองเรื่องจุตคามในเล่มนี้น ช่วงนั้นจตุคามยังมาไม่ถึงเชียงใหม่ (แต่ตอนนี้มาถึงเรียบร้อยแล้ว)

จะบอกเขาว่าเอาแต่หนังสือไม่เอากาแฟก็จะเป้นการทำร้ายกัน ในที่สุดก็ได้มาทั้งสองอย่าง

ฝากคิดถึงคนคู่นั้นด้วย แก้วกับกาน นั่นแหละเราว่าเขาเป็นตัวจริง ในเรืองที่เรียกว่า ธรรมได้จริง ๆ สันติ สงบ และมีความรักให้ใคร ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆสัมผัสได้
คิดถึงจ๊ะคิดถึงรักษ์ด้วยน่า


 

โดย: ยาย (แพรจารุ ) 17 กรกฎาคม 2550 12:09:26 น.  

 

ม่วนน้อย

จริง ๆ หรือ งั้นที่เขาเม้ามาก็ผิดนะซิ
บ้านใหม่ของพี่ถูกแต่งโดยสีน้ำฟ้าคะ เธอมาเยี่ยมพี่ที่บ้านทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่ และบอกวิธีการแต่งบ้านให้
ลูกหมาที่นอนอยู่น่ารักไหม่
อันนี้เธอเลือกมให้พี่ เพราะเห็นว่าบ้านพี่มีหมาเยอะแน่ ๆ เลย
แล้วพบกันใหม่

 

โดย: พี่ยาย (แพรจารุ ) 17 กรกฎาคม 2550 12:36:29 น.  

 


:)

ขอบคุณคะ


ว่าง ๆ นำรูปมาให้ชมได้นะคะ
โดยส่วนตัวไม่ค่อยมีรูปวาดเท่าไหร่
มีแต่รูปที่ถ่ายเองด้วยกล้องกิ๊กก๊อก


 

โดย: คุณนายแสงจันทร์ 17 กรกฎาคม 2550 20:34:14 น.  

 

น่าสงสารจังเลยค่ะ แล้วคนพวกนี้จะไปอยู่ที่ไหนกันค่ะ

วันนี้อ่านแล้ว

ช่วงแรก ทำให้มีความสุขตามเลยค่ะ

นึกถึงภาพบรรยากาศ ความสุข และ เสียงหัวเรอะ

ล้อมวง คุยกันเล่นกัน หัวเรอะกัน

ครอบครัวขนาดใหญ่

น่าเสียดายนะค่ะ เมื่อเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป

ความเจริญเข้ามาแทนที่

เวลาคงหยุดไม่ได้

แต่ใจคนอาจจะเปลี่ยนได้ - ขอให้โลกสงบสุข

 

โดย: karnlaka 17 กรกฎาคม 2550 21:00:29 น.  

 

ถึงกระบี่แล้วค่ะ..แวะมารายงานตัวอีกที

อ้อ..ไปเสี่ยงโชคถูกปะ..

น้านพถูกเลขท้าย 3 ตัวใบหนึ่ง ซื้อให้ลูกน้องด้วย ลูกน้องถูกใบหนึ่ง และลูกค้าที่ซื้อพร้อมกันถูก 2 ใบ

ยิ้มกันถ้วนหน้า อิอิ

 

โดย: แจม IP: 61.7.149.112 17 กรกฎาคม 2550 21:09:04 น.  

 

สีน้ำฟ้าจ๊ะ

ไม่เฉียดเลยจ๊ะ แต่ไม่เป็นไรโชคมันมาทางอื่น เพราะพี่ชายจากนครฯมาดูงานและแวะเอาของฝากมาให้ถึงบ้านเลยแหละ มีสะตอ ไข่เค็ม ปลาทูเค็ม ปลาตัวเล็ก ๆ ที่ทอดกรอบ และยังมีสะท้อนลูกโต ๆ พวกต้นไม้ก็มีมะพร้าวน้ำหอม และมังคุด เอามาลองปลูกดูข้างบ้าน

น้านพโชคดีจังเลย แสดงว่าเมื่อแจมออกจากบ้านแกมีโชค (อ้าว...สร้างความร้าวฉายคืองานของเราแล้ว)

เรียกเพื่อนมารับของฝากด้วย กินกันสนุก
อย่าลืมเรื่อง เรื่องสั้นที่จะมอบให้พวกปักษ์ใต้นะ พี่กับ
พี่หนอมส่งไปให้เขาแล้วคะ

 

โดย: แพรจารุ 17 กรกฎาคม 2550 22:52:25 น.  

 

"ตะวันออกไม่แพ้"

เพื่อนที่ไหนบอกว่า พี่ยายเป็นเขียนชื่อ"ดัง"
เป็นนักเขียนจริงคะ แต่ชื่อ "แพรจารุ" อะ ฮา
วันนี้อากาศทางเหนือร้อนมาก ๆ ร้อนแบบที่เรียกว่าร้อน
"อบอ้าว" สภาพโลกร้อนเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ
ทางตะวันออกเป็น แต่ว่าไปแล้วภาวะโลกร้อนก็ทั่วถึงกันถ้วนหน้าแหละ

 

โดย: แพรจารุ 17 กรกฎาคม 2550 23:02:06 น.  

 

สวัสดียามดึกดื่นค่ะพี่แพร
อ่านแล้วชอบเลยค่ะ เจ้าของจดหมายจากนาอ่อนม่ายยอมลงชื่อเลยนะคะ

เห็นชีวิต ที่งาม เรียบง่าย

ภาพประกอบสดใสจังค่ะ ภาพแรกดูแล้วอึ้ง คือในความงามที่รายรอบนั้น ชีวิตพวกเขาก็มีความทุกข์ใสๆเคลือบอยู่ คือทุกข์ที่เจ้าตัวเองอาจไม่รู้สึก หรือรับรู้แต่ไม่แคร์ โอย.. บอกไม่ถูกค่ะพี่แพร เป็นความทุกข์ของเราผู้อ่านเองซะล่ะมากกว่า คือทุกข์แทนโดยที่เจ้าตัวเขาไม่รู้สึก


อ่านคอมเมนนท์ของท่านอื่น ๆแล้ว อบอุ่นค่ะ
เท่าที่สังเกตนะคะ นักเขียนส่วนใหญ่จะอยู่ภาคใต้และภาคเหนือ
ที่อีสานไม่ค่อยมี อาจเพราะเราต้องหาอยู่หากินเลี้ยงปากท้อง
รัง เอ๊ย!บ้านนกแสงตะวัน อยู่คุ้มเดียวกับคุณ ไพทูรย์ ธัญญา ค่ะ ซึ่งเธอก็ชาวใต้อีกนั่นแหละ ห่างกันไม่กี่หลังคา แต่ไม่คุ้นกันหรอกนะคะ เรามันนักอ่านและนักอยากเขียนมิอาจบังอาจทักทายนักเขียนซีไรท์ จึงได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ

คุณสีน้ำฟ้าโชคดีจังค่ะ มีโอกาสรู้จักพี่ทั้งสอง เอ..ถ้าจำไม่ผิด คราวก่อนสีน้ำฟ้าลาชาวบล็อก บอกว่ามา กทม.มิใช่หรือคะ ไหงไปถึงเจียงใหม่ได้ล่ะ

เดี๋ยวจะตามไปประชาไทยค่ะพี่แพร สวัสดีค่ะ
ฝากพี่ถนอม ด้วยค่ะ ดูแลสุขภาพนะคะ


 

โดย: นกแสงตะวัน 17 กรกฎาคม 2550 23:12:07 น.  

 

กานต์
ใช่แล้วกานต์
เมื่อวานนี้พี่ไปประชุมเรื่องการบูรณาการ "การแก้ปัญหาน้ำท่วมในเมืองเชียงใหม่ "
มีข้าราชการพูดว่า การแก้ปัญหาไม่ได้เพราะความเห็นไม่ลงรอย
แต่ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นว่า เพราะความโลภและอำนาจเงินทำให้น้ำท่วมเชียงใหม่
เป็นคำที่อธิบายได้หลายเรื่องจริง ๆ

"ขอให้โลกสงบสุข" ถ้าใคร ๆ ต่างมีเป้าหมายนี้
โลกก็คงไม่วุ่นวาย บางครั้งเราก็ลืมไป สร้างความไม่สงบให้โลกโดยไม่รู้ตัว

 

โดย: แพรจารุ 17 กรกฎาคม 2550 23:15:34 น.  

 

"คำถามจากดวงดาว" สวัสดีจ๊ะ

ดีใจจังที่วัยรุ่นเข้ามาอ่าน ถ้าเบื่ออ่านบทความยาว ๆ ของน้า ก้ไปอ่านบทกวี ของคุณถนอม ไชยวงษ์แก้ว ใน
Group Blog ก็ได้คะ

คุณนายแสงจันทร์คะ
ตกลงคะแล้วจะเอารูปวาดพระจันทร์ของคุณถนอมมาฝาก
ว่าแต่ถ่ายรูปพระจันทร์คงยากมาก ๆ เลยใช่ไหม

 

โดย: แพรจารุ 17 กรกฎาคม 2550 23:24:12 น.  

 

ผมเขียนหนังสือทำมือรวมบทกลอนออกวางขายอยู่เล่มนึง

อยากจะเอาไปให้คุณลองอ่านจัง...

 

โดย: ฟ้าดิน 18 กรกฎาคม 2550 3:22:11 น.  

 

งั้นหมูแอมจะเปลี่ยนชื่อเป็ง
แอมดัง จะได้เป็นนักเขียนชื่อมีดัง
หรือจะเปลี่ยนเป็นแอมใหญ่ดี
จะได้เป็นนักเขียนใหญ่และกวีใหญ่

แฮะๆๆๆ แวะมาแซว เจ้าค่ะ

ปลาทูสด มีขายในตลาดนั้นแหละค่ะ (เมื่อปีกว่าผ่านมา)
ถ้าหาซื้อในตลาดไม่ได้ ไปแถวบ้านแท่นทองนะค่ะ
อยู่ห่างจากบ้านพี่ยายนิดเดียว
แท่นทองฝั่งตะวันตก ติดกับ เกษตรสันป่าตอง
เขามีบ้านที่ทำปลาทูนึ่งขาย
แถวนั้นมีคอนเทรนเนอร์ปลาทูสด ขายถูกกว่าในตลาดค่ะ

 

โดย: sugarhut 18 กรกฎาคม 2550 12:39:54 น.  

 

คุณแพร จารุคะ
พอดีเลยค่ะ กำลังนึกถึงเปียงหลวง
ประทับชุมชนบนขุนเขาที่นั่นมากๆ
นึกภาพตามที่คุณเล่าออกเลยค่ะ
ภูเขาแสนสูง ลัดเลี้ยวมาก
จนคนไม่เคยเมารถ ก็แทบจะออก..หลายหน
แต่พอขึ้นไปแล้วก็เป็นอีกโลกนึงไปเลย
ดอกไม้ดอกใหญ่เบ่อเร้อ งามกว่าที่เคยเห็นที่อื่น
ผู้คนก็เป็นมิตรดี แถมผู้หญิงก็ผิวส้วย สวย
เด็กๆเล่นตามผืนดิน มีชีวิตชีวา ไร้ของเล่นแปลกตา
เป็นอย่างที่คุณบรรยายจริงๆ..
..........อันที่จริงก็แวะมาอ่านที่บ้านคุณแพรบ่อยค่ะ
แต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้
อ่านงานของคุณและพี่ถนอมในประชาไทด้วยค่ะ

บ้านสวยแล้วสมกับที่มีมืออาชีพมาตกแต่งและดำเนินงานให้เลยนะคะ (ไม่เสียตังค์ด้วย ดีจัง)

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 18 กรกฎาคม 2550 14:38:16 น.  

 

พี่จ้ะ..

แจมส่งโค๊ตสำเร็จรูปไปให้ที่เมล์แล้วนะคะ
พี่จัดการตามนั้นเลย ลบ แล้วก็ ใส่เข้าไปใหม่

เช็คเมล์ด้วยนะคะ

* ปล. คุณนกแสงตะวัน ลาไปกรุงเทพฯ แล้วจากกรุงเทพฯก็ไปเชียงใหม่ จากเชียงใหม่ตานี้ลากยาวมากระบี่เลยค่ะ นั่งรถได้สาแก่ใจดี


* คุณยิปซีสีน้ำเงิน สีน้ำฟ้ายังแค่มือสมัครเล่นค่ะ พวกประเภท อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง แหะ แหะ ยังไม่ถึงกามืออาชีพ

คิดถึงพี่ยายชะมัดเล้ย.. เย็นนี้แจมจะทำไรรับประทานดีหวา..

ว่าง ๆ มาทำกับข้าวให้หน่อยเน้อ..

^^

 

โดย: แจม (สีน้ำฟ้า ) 18 กรกฎาคม 2550 16:42:05 น.  

 

คุณฟ้าดินคะ
ขอบคุณมากค่ะ ยินดีอ่านไม่ทราบวางขายที่ไหนบ้างคะ ร้านเล่า เชียงใหม่ส่งเข้ามาขายหรือเปล่า ที่นี่มีหนังสือทำมือ เทปเพลง พวกงานอินดี้มากมายค่ะ ถ้ายังไม่ส่งมาลองส่งมาสิค่ะ

ซูกัสคะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องปลาทูของชอบ พี่เคยไปซื้อแล้วแถวนั้น มีบ้านเล็ก ๆ เขาขาย แต่ช่วงหลังเขาเลิกไป เดี๋ยวจะแวะไปดูอีกทึ แต่ช่วงนี้พี่ชายจากนครเอาปลาทุเค็มมาให้กินไปได้เป็นเดือนแหละ

ยิบซ๊สีน้ำทะเล
จดหมายฉบับที่สองเตรียมอ่านในวันพรุ่งนี้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ

 

โดย: แพรจารุ 18 กรกฎาคม 2550 22:27:26 น.  

 

อ้อ..จากซูก้าฮัส เป็นซูกัสไปแล้วเหรอพี่ยาย

ชอบรสไหนล่ะ.. เดี๋ยวแจมจัดให้

ฮ่า ๆ

 

โดย: เจ้าตัวดีของพี่คนเดิม IP: 61.7.164.5 19 กรกฎาคม 2550 2:07:57 น.  

 

หวัดดี ยาย

กลับจากนครฯ เรียบร้อยดี
เหมือนเดิม คือ ผมยังทำหน้าที่เหมือนเดิม

ได้ไปไหว้พระธาตุ ไม่เห็นหลวงหนุ่ย ยิงปืน หรือำท่าลิง
สบายใจและสบายตา จิตไม่เป็นอกุศล
โลกภายนอกเป็นอย่างไร มันก็เป็นไปเรื่อยๆ เราไม่อาจบังคับและจัดการ

แค่การจัดการตัวตนภายในของตน ยากแสนยากแล้ว

เสียใจที่ไม่ได้พบนักเขียนที่คุณเอ่ยนาม ทราบว่าติดภาระอย่างกะทันหัน เลยไม่ได้เจอครับ

จริงอย่างที่คูรว่า ทั้งกานติและดวงแก้ว คือบุคคลที่สุดยอดของคนที่รู้ตนเอง

 

โดย: รักษ์ IP: 202.5.82.200 20 กรกฎาคม 2550 6:08:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..
۞ บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท

..
۞ จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.