คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

แม้ไม่ได้สิทธิ์ก็ขอมีชีวิตอยู่อย่างชอบธรรม

งานตกค้าง

นี่เป็นงานตกค้างค่ะ งานนี้มีหนังสือเล่มหนึ่งขอมาให้ช่วยเขียนเรื่องการเดินทางไปหลังสึนามิ ส่งไปแล้วแต่ไมได้ลง ดูเหมือนหนังสือเล่มนั้นปิดตัวลงก่อน (หนังสือที่เกี่ยวกับวรรณกรรมจะมีชีวิตไม่ยืนยาว) บังเอิญวันนี้ค้นพบต้นฉบับเก่า จึงนำมาลงในบล็อกนี้ให้อ่านกันเล่น ๆ นะคะ

*****************

แม้ไม่ได้สิทธิ์ก็ขอมีชีวิตอยู่อย่างชอบธรรม

การเดินทางของนักเขียนเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเรียกตัวเองว่า นักเขียนเมืองเหนือ บางคนก็เป็นคนเมืองเหนือแท้ ๆ แต่บางคนก็มาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างเป็นการถาวร

แสงดาว ศรัทธามั่น กับไพฑูรย์ พรหมวิจิตร กวีนักเขียนเมืองเหนือทั้งสอง ร่วมด้วย อัคนี มูลเมฆ นักเขียนนักแปล ,ทรงพล สุขเรือน( วาดชีวา พานภพ) จุฑามาศ ณ สงขลา แพร จารุ

จุดนัดพบที่จังหวัดภูเก็ต ยามเที่ยงวัน สู่ฝั่งทะเลอันดามัน

ในช่วงนี้มีการสัมมนาเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินหลังสึนามิ ที่อันดาบุรีรีสอร์ท เขาหลัก อ.ตะกัวป่า จังหวัดพังงา

เราจึงมุ่งตรงไปที่นั้นก่อน มีผู้ร่วมเข้าประชุมนับพันคน มาจาก 6 จังหวัด ภูเก็ต สตูล พังงา ตรัง กระบี่ และระนอง

จากการสังเกตุการณ์และพูดคุยทำพอจะเข้าใจได้ว่า ผู้คนที่มารวมกันที่นี้ ต้องการสร้างแผนปฏิบัติการณ์เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ดินหรือต้องการมีส่วนร่วมด้วย

นั่ง ๆ มอง ๆ ก็ทำให้ได้รู้ว่า จำนวนคนมหาศาลที่รวมกันอยู่ที่นี่ แบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ได้อีก เช่น กลุ่มที่ดินป่าไม้ กลุ่มที่ดินเอกชน กลุ่มที่ดินราชพัสดุที่สาธารณะ กลุ่มที่ดินกรมเจ้าท่า และยังมีกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น กลุ่มบ้านเช่าอีก

ล้วนเป็นเรื่องที่นักเขียนสนใจ

กลุ่มคนไทยพลัดถิ่นนี้ เขาบอกว่า เขาเป็นคนไทยแต่ไม่มีสัญชาติ เขาอยู่เขตแดนไทยพม่าที่จังหวัดระนอง กลุ่มบ้านเช่าเป็นกลุ่มที่ไม่มีในสาระบบการให้ความช่วยเหลือก็ว่าได้ คนที่อยู่บ้านเช่าจึงตั้งกลุ่มขึ้นมา

ส่วนกลุ่มที่ดินป่าไม้ คืออยู่ในพื้นที่ของป่าไม้และพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ข้อนี้นักเขียนเมืองเหนือทำความเข้าใจได้ง่าย เพราะปัญหานี้มีมากในเมืองเหนือ กรณีชาวบ้านอยู่มาหลายปีโดยที่ไม่คิดจะมีเอกสารสิทธิ์ใด ๆ คืออยู่ไปเรื่อย ๆ สืบทอดลูกหลานเหลนมานาน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีประกาศว่าอยู่กันอย่างผิดกฏหมายเพราะเป็นเขตอุทยาน เช่นเดียวกัน การยืนยันการอยู่ก่อนและเรียกร้องขออยู่ต่อไปโดนสัญญาว่าจะดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างดี

ส่วนกลุ่มที่ดินเอกชน หลังจากเกิดสึนามิบ้านเรือนหายไปกับคลื่นยักษ์ เมื่อเดินกลับไปบ้านที่เคยอยู่ ซึ่งเหลือแต่ร่องรอย แต่กลับกลายเป็นว่าที่ดินตรงนี้มีเจ้าของ มีเอกสารสิทธิ์มายืนยัน บางแห่งถูกปิดล้อมไม่ให้เข้าไป

โอ…มนุษยชาติ มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหม

ในที่ประชุมของกลุ่มที่ดินเอกชนจึงมีข้อเสนอว่า จะขอตรวจสอบที่ดินของนายทุน การพิสูจน์เอกสารสิทธิ์หรือการครอบครองปรปักษ์

พวกเขาบอกว่า
“หน้าหาดเป็นของนายทุนมีเอการสิทธิ์ 100 กว่าไร่ ชาวบ้านอยู่มานาน 200 ปี ไม่มีเอกสารสิทธิ์” (เป็นคำพูดของชาวบ้านหาดทรายดำ)

“ไม่มีสิทธิ์ก็ไม่เป็นไรขอให้ได้อยู่โดยชอบด้วยกฎหมาย” (เป็นคำพูดของชาวบ้านบ้านทุ่งหว้า)
“ ชาวเลต้องอยู่ริมทะเล ย้ายเราไปไม่ได้ ต้องอยู่ริมทะเล ต้องหากินกับทะเลและดูแลเครื่องมือทำกิน”
“อยู่อย่างมั่นใจไม่ได้เลยว่า บ้านเป็นของเราเอง”
นี้คือเรื่องราวในที่ประชุมเสวนา นักเขียนในฐานะผู้สังเกตการณ์ได้เห็น
จบจากการสังเกตการณ์

อัคนี มูลเมฆ เลือกเดินทางไปเกาะลันตา เขาแยกไปคนเดียว โดยมีทรงพล สุขเรือน หรือวาดชีวา บอกว่าจะตามไปสมทบภายหลัง


บ้านทุ่งหว้า บ้านชาวมอแกลน ที่ซึ่งเป็นทำเลทองด้านหน้าติดถนนด้านหลังติดทะเล เป็นที่ซึ่งมีผู้อ้างว่าเอกสารสิทธิ์และเป็นที่ซึ่งจะสร้างโรงพยาบาลด้วย(น่าจะเป็นเพราะว่าถนนนั้นแหละตัดผ่านมา)

บ้านทับตะวัน ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวมอแกลน มีนักศึกษาและหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเรื่องการสร้างบ้าน มีมูลนิธิต่าง ๆ ที่ทำงานด้านเด็ก

และบ้านทับปลา เป็นที่อยู่ของชาวมอแกลน บ้านทับปลารอดพ้นจากคลื่นสึนามิ เพราะนอกจากอยู่ห่างจากชายฝั่งออกมาแล้ว บ้านพวกเขายังถูกกั้นด้วยป่าโกงกาง

(เรียกขานคำว่า “มอแกลน” และ “มอแกน” ด้วยเหตุว่า มอแกน คือชาวทะเลที่อยู่ติดชายฝั่งมาก ๆ เช่นมอแกนหมู่เกาะสุรินทร์ ส่วนมอแกลนคือพวกที่อยู่บนบกใกล้ชายฝั่ง เช่นบ้านทับปลาและอื่นๆ แต่บัจจุบันได้ชื่อใหม่ว่า “ไทยใหม่”)

พื้นที่เป้าหมายที่ฉันจะเดินทางไป ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ของชนกลุ่มมอแกลน

ชนกลุ่มน้อย บอกเราว่าแม้ไม่ได้สิทธิ์ก็ของมีชีวิตอยู่โดยถูกต้อง ตามแบบวิถีชีวิต
มีประเพณีวัฒนธรรม มีภาษาพูด มีรากเหง้าที่ยังต้องการสืบทอด มีการไหว้ผีตายาย แก้เหมยแก้บน

สำหรับยิปซีทะเล ผู้เร่รอน สุขทุกข์จากทะเลถือเป็นของขวัญจากทะเล พวกเขาเรียนรู้การมีชีวิตอยู่กับทะเล ดังนั้นจึงขออยู่กับทะเลต่อไป

เย็นวันนั้นโชคดีเราได้ข้าราชการสาวสองคน ที่มาร่วมประชุมเสวนาด้วย เมื่อเธอรู้ว่าเราจะไปไหนเธอก็อาสาพาไปส่ง แต่ขอเอาแต่ผู้หญิงสองคน

เธอขับรถพาไปดูร่องรอยต่าง ๆ ที่เขาหลัก ซากรถยนต์เหมือนรถกระดาษที่ถูกขำยับย่น ไปที่บ้านทับตะวัน พบเด็ก ๆมาเรียนหนังสือที่อาคารเล็ก ๆ มีอาสาสมัครเป็นนักศึกษาจากธรรมศาสตร์มาสอนหนังสือให้พวกเขา เด็กโตกำลังทำผ้าบาติกและงานไม้ ส่วนผู้ใหญ่กำลังสร้างบ้าน

จากบ้านทับตะวันไปบ้านทุ่งหว้า จริงเหมือนเขาว่า ที่นี่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจจริง ๆ ด้านหน้าติดถนนด้านหลังติดทะเล

ชาวมอแกลนคนหนึ่งบอกเราว่า เอกสารสิทธิ์ที่ถูกอ้างถึงไม่ใช่ของจริง ที่จะสร้างโรงพยาบาลก็ไม่จริงเป็นคำกล่าวอ้างและพวกเขาก็จะอยู่ที่นี้ต่อไป

เรามาถึงบ้านทับปลาก่อนฟ้ามืด
คืนนั้นหนุ่มมอแกลน พูดว่า ไม่รู้ว่าทำไมบรรพบุรุษของเราจึงดูต่ำต้อย ถูกว่าเป็นคนด้อยพัฒนา โง่ และสกปรก รู้สึกเป็นปมด้อย จนไม่กล้าเปิดเผย ต้องจนอยากให้ตัวเองสูญหายไปเลย

เรานิ่งเงียบกับถ้อยคำของเขา
เขาพูดต่อว่า ถ้าถามอ้ายแสงดาว เราเป็นคนไทยเหมือนกันใช่ไหม อ้ายแสงดาวต้องตอบว่าใช่ แต่เขาเข้าใจไหม เขารู้ไหมว่าเราอยู่ที่นี่ --เขาไม่เข้าใจ เราเป็นชนกลุ่มน้อยแม้ว่าจะได้เป็นไทยใหม่

อ้ายแสงดาวบอกว่า มอแกลนก็ต้องเป็นมอแกลน เรามีภาษาพูดของเราเอง เราต้องพูดภาษาเรา ต้องยืนยัน ต้องมีค่ามีศักดิ์ศรี ถ้ายินยอมถ้ายอมแพ้ ใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ อ้ายก็ช่วยไม่ได้ ไปโรงเรียนพูดภาษาไทยแต่กลับมาบ้านต้องให้ลูกหลานเราพูดมอแกลน

“ผมก็ไม่ลืมหรอกว่าเป็นมอแกลน บรรพบุรุษผมก็ต่อสู้มาเป็นพันปี และเรารักสงบ อะไรยอมได้เราก็ยอมจึงถูกหาว่าโง่ เมื่อก่อนถูกขู่ว่า ไม่ใช่คนไทยและจะให้ทางการมาจัดการ ถ้าเขาขู่อย่างนี้ก็ต้องยอมโง่”

ส่วนแสงดาวบอกว่า สู้เพื่อความเป็นธรรมจะไม่โดดเดี่ยว

“ตอนนี้เรากำลังกลัวบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำที่จะรุกเข้ามา จะทำให้เราไม่มีน้ำดื่ม เพราะที่นี่เราดื่มน้ำบ่อ น้ำบ่อยังสะอาด แต่ถ้าบ่อกุ้งขยายมาเรื่อย ๆ เราจะทำอย่างไร”หนุ่มคนเดิมว่า

ชีวิตที่เหลืออยู่ยังต้องดำเนินต่อไป มโนธรรมในการอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งที่ควรตระหนัก นี่เป็นภารกิจของนักเขียนหรือเปล่า


ขอบคุณ
มูลนิธิชุมชนไทย สนับสนุนการเดินทาง




 

Create Date : 26 มีนาคม 2552
8 comments
Last Update : 26 มีนาคม 2552 9:29:03 น.
Counter : 1409 Pageviews.

 

พี่สบายดีนะครับ เดินทางไกลเชียว ฝากความคิดถึงถึงอ้ายแสงด้วยเน้อครับ

รักษาสุขภาพด้วยครับ

 

โดย: สยามวรรณกรรม 26 มีนาคม 2552 10:29:38 น.  

 

ไปดูเจดีย์เวียงป่าเป้ากันเถอะ

 

โดย: มาลานชา ณ บ้านท่อ IP: 118.172.36.192 26 มีนาคม 2552 22:27:36 น.  

 

อ่านแล้วก็..หนักใจเหลือเกินค่ะ

เสียดายที่ไม่ได้ตีพิมพ์ในวงกว้างนะคะนี่

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 27 มีนาคม 2552 8:32:35 น.  

 

พี่ยาย
วันนี้วันสุขเนอะ
เอาไข่สุขๆ มาฝากค่ะ


 

โดย: เช้านี้ยังมีเธอ 27 มีนาคม 2552 13:00:41 น.  

 

ขอบคุณเพื่อนนักอ่านมากนะคะ

เช้านี้ยังมีเธอ ไข่ดาวของคุณน่ารักจริง ๆ

มาลานชา แล้วจะเข้าไปดูนะคะ มาลานชาดูไขดาวของเช้านี้ยังมีเธอแล้วไปหัดทำดู เรียกความสนใจจากเด็ก ๆ ได้เยอะเลยแหละ

สาวไกด์ใจซื้อ ใช่แล้วหนักใจจริง ๆ ค่ะ

สยามวรรณกรรม เมื่อวานไอ้แสงดาวมาที่บ้านพี่ค่ะ อ้ายสุขสบายดีและขอบคุณค่ะ

 

โดย: แพรจารุ 28 มีนาคม 2552 8:22:56 น.  

 

ของแจม..

พักนี้ได้อ่าน "กุลสตรี" แล้วของขึ้น
เดี๋ยวคงทยอยมีมาอีกค่ะพี่

ช่วงนี้แขกน้อย

ชีวิตหลังสึนามิ น่าเห็นใจจริงๆ

นี่นะคะ พี่ยาย ไม่อยากจะนินทา แจมน่ะนิสัยไม่ดี อยากได้โน่น ได้นี่

ล่าสุด น้าเจ๋งกว่า เอาสังกะสีไปโปะ ๆ ปะๆ เดี๋ยว "บ้าน " ก็จะเสร็จแล้วนะ

แจม

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 119.42.85.63 28 มีนาคม 2552 10:55:05 น.  

 

มาเห็นด้วยกับเรื่องภาษาและอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของชาวมอแกนและมอแกลน

และมาแสดงความเศร้าใจ และอาลัยกับการสูญเสียในอนาคตของภาษาและวัฒนธรรม

ไม่เห็นด้วยกับการใช้ชื่อว่า "ไทยใหม่" ความเป็นชาติพันธ์เดิมนั้นมันผิดตรงไหน ทำไมต้องเปลี่ยนเชื่อให้เขา ในอดีตรัฐไทยเคยให้ชาวไทยเชื้อสายจีนเปลี่ยนชื่อ ตอนนี้ยิ่งแย่ใหญ่เปลี่ยนแม่กระทั่งชื่อชาติพันธ์ นี่เขากำลังทำอะไรกันอยู่ ให้เขาชื่อว่า"ไทยใหม่" แล้วขอถามทีเถอะว่า ความเป็นไทยที่เราภูมิใจกันหนักกันหนาเนี่ย มันคืออะไร มันอยู่ตรงไหน มันมีความหมายว่าอะไร ถ้าความเป็นไทยที่เราภูมิใจกันหนักกันหนาของเรานั้นมีคนมาจัดการเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ เราจะยอมหรือไม่

ชาติพันธ์อื่น ถึงแม่จะเกิดและเติบโตในผืนดินสมมุติแห่งความเป็นชาติไทย ที่เบเนดิกท์ แอนเดอร์สัน กล่าวไว้ว่า "ความเป็นชาตินั้นคือชุมชนสมมุติ-imagined community" แล้วทำไมต้องเปลี่ยนชือชาติพันธ์ดัง้เดิมล่ะ เมื่อความเป็นชาติไทยยังเป็นสิ่งสมมุติ

มันหมดยุคและหมดสมัยที่จะรวมชาติด้วยแนงคิดเชิงเดียว เป็นหนึ่งเดียวทั้งภาษาและชาติพันธ์ มันเป็นไปไม่ได้ ชาติต้องอยู่บนความหลากหลากทางชาติพันธิ์ และเสรีทางภาษา

เออ แล้วเราจะเรียกรัฐไทยของเราว่าอะไรดีล่ะ ไทยไดโนเสาร์ หรือไทยดึกดำบรรพ์ดี เมื่อความคิดเรื่องนี้ยังเป็นแนวดึกดำบรรพ์อย่างนี้ ความคิดแบบนี้รังแต่จะทำให้เกิดการตายลงของภาษาและวัฒนธรรม ตายลงอย่างช้าๆ และเลือดเย็นที่สุด

พูดแล้วมันเศร้านะพี่แพร แล้วมันก็ ลมขึ้นเน้อ

 

โดย: หมี่เกี๊ยว (กินหมี่เกี๊ยวไม่ได้ซะแร้ว) IP: 125.25.35.205 28 มีนาคม 2552 21:42:52 น.  

 

เห็นใจคนไร้ที่ดินหรือถูกปล้นที่ดินไปทั้งที่ยากจนอยู่แล้ว
เรื่องนี้แก้ไขได้ครับ ถ้าทำให้คนส่วนใหญ่รู้ถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง

โปรดดู สังคมที่พึงปรารถนา
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K7673314/K7673314.html

จาก //geocities.com/utopiathai

 

โดย: สุธน หิญ 28 มีนาคม 2552 23:44:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..
۞ บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท

..
۞ จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.