ภัยในห้างที่ควรรู้
เตือนภัยในห้างสรรพสินค้า วันนี้เวลา ประมาณ 12.30-13.30 น.ดิฉันได้ไปเที่ยวห้างบิ๊กซี สาขานครสวรรค์ กับครอบครัว แล้วมีรถเยอะมาก เลยจอดให้พี่ชาย กับครอบครัว ลงก่อนที่ตรงทางเข้า แล้วก็ขับรถไปคนเดียวเพื่อหาที่จอดรถ ด้วยความไม่ชำนาญการแล้วก็ประมาท ทำให้รถด้านหน้าขวาไปชนเข้ากับรถที่จอดฝั่งตรงข้ามเล็กน้อย แล้วเจ้าของรถก็มาพอดี เสียงยามที่ดูแลบริเวณนั้นรีบบอกกับเจ้าของรถคันนั้นว่า "เค้าชน รถคันนั้นชน " เรานั่งในรถมองไม่เห็นแต่ก็พยายามหาที่จอด แล้วลงไปคุยกับเจ้าของรถคันนั้น มีชายวัยรุ่นหน่อย รูปร่างผอม กับผู้หญิงรูปร่างท้วมผิวขาว เดินมาที่รถ เราจึงถามว่า " รถเป็นอย่างไรบ้าง " "มองไม่เห็นเหรอ " เค้ามองหน้า " ค่ะ มองไม่เห็น เพราะรถข้างหน้ามันต่ำ เห็นแต่ท้าย " ( เราขับ Civic ของเค้าเป็นรถกระบะน่าจะเป็น TOYOTA สีบอร์นทอง) "แล้วเอาอย่างไร " "ไม่รู้ แล้วพี่เอา งัยล่ะ " เค้าหันไปมองที่รถ มีรอยถลอกเล็กน้อย ประมาณ 0.5 ซม. ตรงขอบโคมไฟ มองแทบไม่เห็น "ไม่เป็นไร เล็กน้อย " "งั้นขอบคุณค่ะ " จากนั้นเราก็เดินไปเที่ยวในห้าง โดยที่ไม่ได้ดูทะเบียนรถเค้าด้วย รู้แต่ว่าทะเบียนนครสวรรค์ เพราะเห็นว่าไม่น่ามีปัญหา 15.30 น. เราและครอบครัวกลับมาที่รถ เอะใจ...ว่ารถเราไฟกระพริบตลอดเวลา พอเดินไปใกล้ ๆ ล้อหลังข้างซ้ายลมรั่วหมดตอนแรกไม่คิดอะไร ได้แต่บ่นว่าเกิดอะไร โดนอะไรวะ ยามคนที่เห็นเหตุการณ์ก็วิ่งเข้ามา บอกว่า "ผมเห็นคนที่พี่มีเรื่องกับเค้า มันขับรถวนกลับมาแล้วมาปล่อยลม ผมมาเห็น ผมบอกว่าพี่ทำงี้ได้งัย เค้าก็วิ่งขึ้นรถหนีไป " พี่สะใภ้ถามว่า "อ้าว ! แล้วลุงจดทะเบียนรถไว้หรือเปล่า ทำไมไม่ ว.บอกให้เค้าดักไว้ให้ " "เค้าไม่มี ว.หรอก ผมไม่รู้ทำงัย ไม่อยากมีเรื่อง จดทะเบียนไม่ทัน" "ผมได้ยินเสียงฟี้ มาเห็นรถพี่ก็ล้อแฟบไปแล้ว มันดึงลูกศรไปด้วย " แล้วยามก็กุลีกุจอช่วยเปลี่ยนล้อ เพื่อเอาล้อไปสูบลม เราถามว่า "ในห้างที่ล้างรถไม่มีเติมลมเหรอ" "ไม่มีหรอก ต้องถอดล้อออกไปเติมลมข้างนอกหน้าบิ๊กซี พี่ก็ให้ค่าน้ำมันรถมอไซด์นิดหน่อย " หลังจากถอดล้อเสร็จเค้าก็ไปขับมอไซด์ เอาล้อออกไปเติมลมให้เราให้เงินแบงค์ร้อยไป ขณะที่กำลังรอล้อที่ถอดอยู่นั้นก็มีหัวหน้ารปภ.เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าให้ฟัง โยงเหตุการณ์ก่อนเข้าห้างให้เค้าฟังด้วย เค้าก็ไม่เห็นจะว่าอะไร ถาม ๆ แล้วก็ถามถึงผู้ที่ดูแลบริเวณ สักพักยามคนนั้นก็กลับมา บอกว่า "เค้าไม่มีตังค์ทอนผมออกให้ 20 บาท เค้าใส่ลูกศรมาด้วย " เราเลยให้ตังค์แบงค์ 20 เค้าไปแล้วเค้าคืนแบงค์ 100 เรา เหตุการณ์ก็จบแค่นี้ แต่มีข้อคิดน่าสงสัย ที่ฝากเพื่อน ๆ คิดหน่อยเถอะ คิดว่าใครเป็นคนปล่อยลมกัแน่ 1. เพราะจากการให้การของยามบอกว่าเห็น เจ้าของรถคันที่มีเรื่องกับเรามาปล่อยลมแล้วเอาลูกศรไปด้วย แต่ที่เราพบล้อรถเรายังมีจุ๊บสีดำปิดอยู่ คนเราจะปล่อยลมโดยไม่เปิดจุ๊บได้ หรือ ? และถ้าวิ่งหนีจะใจดีมาปิดจุ๊บก่อนวิ่งเหรอ 2.ถ้าเจ้าของรถคันนั้นจะเรียกร้องค่าเสียหายทำไมไม่เรียกร้องตั้งแต่แรก เพราะเราเดินลงไปเป็นผู้หญิงคนเดียวด้วย ถ้าจะข่มขู่น่าจะทำตั้งแต่แรก 3.ถ้ายามเห็นความเสียหายที่เกิดกับรถของลูกค้ากับตา ทำไม**ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบเลย ทำไมต้องรอจนลูกค้ามาพบเอง และไม่จดทะเบียนรถที่ใช้ในการก่อเหตุ บอกว่ามันขับรถออกไปเร็ว ** ( แต่เราว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะขนาดเรากว่าจะขยับรถได้แต่ละเมตรใช้เวลานานเป็นหลาย ๆ นาที ) 4.เป็นไปได้หรือไม่ที่ ( ยาม )ต้องการเรียกร้องค่าความช่วยเหลือเพราะเห็นว่าเราเป็นผู้หญิง แล้วมาคนเดียว นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " อย่า ประมาท ภัยมาถึงตัวเราได้ตลอดเวลา " ไม่อยากที่จะมองโลกในแง่ร้ายหรอก แต่ว่าโลกมันสอนให้เรารู้จักคิดและระวังตัวมากขึ้น ทุกวันนี้มีแต่คนที่ชอบหากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่น ฝากเพื่อน ๆ ในเวปที่มองโลกในแง่ดีด้วย
Free TextEditor
Create Date : 16 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 21:13:56 น. |
|
10 comments
|
Counter : 697 Pageviews. |
|
|
ต้องถามว่าเขาต้องการอะไร
เพราะแม้แต่ตอนที่กลับมา บอกว่าค่าเติมลม 20 บาท
คุณยังให้เขาไป 20 บาทจริงๆ รับเอาแบ๊งค์ 100 ของคุณคืนมา
โดยไม่ได้ให้ค่าน้ำมันรถ หรือให้ค่าเสียเวลาเขาบ้างเลยสักนิด
และที่บอกว่ากว่าคุณจะขยับรถแต่ละเมตรกินเวลาหลายนาที
แสดงว่าคุณยังขับรถได้ไม่ชำนาญเลย (ขนาดเอารถเข้าซองยังไปโดนรถคนอื่นอีก)
อย่ามองคนในแง่ร้ายมากนักเลยค่ะ ใช้เหตุผลมากๆ หน่อย