มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มีนาคม 2552
 

ตำนาน พระธาตุขามแก่น

ตำนาน พระธาตุขามแก่น



ได้มีโอกาส กราบนมัสการ พระธาตุขามแก่น
บ่ายวันที่ 16 มีนาคม 2552 วันที่ฟ้าโปร่งไส ไม่มีเมฆหมอก



มีพุทธศานิกชน หลายคนที่ตั้งใจมีศรัทธาแวะมากราบไหว้พระขอพร
พระธาตุขามแก่น
ให้เป็นมงคลชีวิต คนที่มาอาศัยร่มไม้ชายคาอาณาเขตจังหวัดขอนแก่น
ควรมากราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ขอพรท่านคุ้มครองดลบันดาล
ให้การดำรงชีวิตได้พบสิ่งดีงาม ยึดถือเป็นที่พึ่งทางใจ ทำความดีมีคุณธรรม
ปฎิบัติตนอยู่ในศีลธรรม สังคมก็จะน่าอยู่ มองคนรอบข้าง
ด้วยความปราถนาดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกัน
ผลบุญกุศล จะทำให้สุขกายสบายใจ มีความสุขสบายตามอัตภาพ สาธุ



ประวัติ แต่ดั่งเดิม ขององค์พระธาตุขามแก่น

พระธาตุขามแก่น เป็นเจดีย์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุด
องค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ องค์พระธาตุขามแก่น ประดิษฐานอยู่ที่
วัดเจติยภูมิ อำเภอน้ำพอง ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่น
ไปตามถนนขอนแก่น - ยางตลาด เลี้ยวซ้ายบริเวณบ้านพรหมนิมิตร
อำเภอเมืองขอนแก่น ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นเจดีย์ที่สำคัญ
ที่รู้จักกันดีแห่งหนึ่งในภาคอีสาน เป็นจุดยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
และเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่อีสานอีกแห่งหนึ่ง นอกเหนือจาก
พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม และพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร
ไม่ปรากฏอายุการสร้างที่แน่นอน

พระธาตุขามแก่น มีประวัติความเป็นมา
เป็นเรื่องเล่าสืบขานกันมาช้านาน ว่าภายหลังจากที่องค์สมเด็จ
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพานในวันอังคาร
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ที่กรุงกุสินารา เมื่อพระองค์ดับขันธ์
ปรินิพพานแล้ว พระมหาปัสสปเถระเจ้า พร้อมด้วยราชบริพาร
ได้มานมัสการถวายพระเพลิง เมื่อถวายพระเพลิงแล้วก็ประกาศให้
กษัตริย์ในชนบทต่างๆมารับแจกพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
กษัตริย์นครต่างๆ เมื่อได้รับแจกแล้วก็นำไปประดิษฐานไว้ในเมือง
ของตน เว้นแต่นครที่อยู่ในปัจจันตประเทศ
(ประเทศที่อยู่ห่างไกลมัชฌิมประเทศ) จึงมิได้รับแจก

ครั้งต่อมา โฆริยกษัตริย์ เจ้าผู้ครองเมืองโฆรีย์ ที่อยู่ใน
ปัจจันตประเทศ อยู่ห่างไกลกรุงกุสินาราซึ่งได้นามเมืองว่าเมืองกัมพูชา
(เขมรเดี๋ยวนี้) รับทราบข่าวมารับแจกพระสารีริกธาตุ (กระดูก)
ไม่ทัน เพราะมีการแจกไปหมดแล้ว เหลือแต่พระอังคาร (เถ้าถ่านที่เผาศพ)
จึงได้แต่พระอังคาร กษัตริย์โฆริยะจึงนำพระอังคารบรรจุไว้ในกระอูบทอง
เพื่อจะนำกลับนครโฆรีย์ ไปสักการะบูชา

ครั้นกาลเวลาล่วงเลยไป 3 ปี พระมหากัสสปเถระเจ้า ประสงค์
ที่จะนำเอาพระอุรังคะธาตุของพระพุทธเจ้าไปประดิษฐานไว้ในภูกำพร้า
(คือ พระธาตุพนมปัจจุบันี้) จึงได้จัดการก่อสร้างพระธาตุพนมขึ้น

เมื่อกษัตริย์โฆริยะพร้อมด้วยพระอรหันต์ในเมืองโฆรีย์ทราบข่าว
จึงมีศรัทธาที่จะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าที่ได้รับมา ไปบรรจุไว้
ในพระธาตุพนมร่วมกับพระอุรังคะของพระพุทธเจ้า จึงได้อัญเชิญ
พระอังคารของพระพุทธเจ้ามุ่งหน้าไปพระธาตุพนม พร้อมด้วยพระอรหันต์
ทั้ง 9 องค์ และยังมีพระยาหลังเขียว เจ้านครพร้อมด้วยราชบริพาร
อีก 90 คน ออกเดินทางไปยังภูกำพร้าสถานที่ประดิษฐานพระธาตุพนม

การเดินทางได้พากันมุ่งหน้ามาทางทิศเหนือ แต่พอมาถึงดอนมะขาม
แห่งหนึ่ง (ที่ตั้งพระธาตุขามแก่นปัจจุบัน) เป็นเวลาค่ำพอดี ประกอบกับ
ภูมิประเทศที่ราบเรียบ มีห้วยสามแยก น้ำไหลผ่านรอบๆดอน
ภายในบริเวณนั้นมีต้นมะขามใหญ่ต้นหนึ่งตายล้มลงแล้ว
เปลือกกะพี้กิ่งก้านสาขาไม่มี เหลือแต่แก่นข้างในเท่านั้น
จึงได้ใช้เป็นที่เก็บรองรับพระอังคารของพระพุทธเจ้า

ครั้นรุ่งเช้าก็ออกเดินทางต่อ แต่เมื่อไปถึงปรากฎว่าการก่อสร้าง
พระธาตุพนมได้เสร็จเรียบร้อยแล้วจะเอาอะไรเข้าบรรจุอีกไม่ได้
คณะจึงได้แต่เพียงพากันนมัสการพระธาตุพนม แล้วเดินทางกลับถิ่นเดิม
แต่เมื่อเดินทางมาถึงดอนมะขาม ที่เคยพักแรมเดิม
(ที่ตั้งองค์พระธาตุขามแก่นปัจจุบัน) เห็นต้นมะขามที่ตายล้มแล้วนั้น
กลับลุกขึ้นผลิดอกออกผล แตกกิ่งก้าน สาขา มีใบเขียวชะอุ่ม
แลดูงามตายิ่งนัก จะเป็นด้วยนิมิตหรืออำนาจอภินิหารของพระอังคาร
พระพุทธเจ้าก็มิทราบได้ คณะพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์และพระยาหลังเขียว
จึงได้ตกลงเห็นดีในการก่อสร้างพระธาตุครอบต้นมะขาม
บรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้าไว้พร้อมด้วยเงินทอง
แก้วแหวนแสนสารพัดนึก โดยทำเป็นพระพุทธรูปแทนพระองค์
เข้าบรรจุไว้ในพระธาตุนี้ เมื่อการก่อสร้างเสร็จ พระยาหลังเขียว
ก็จัดการสร้างบ้านสร้างเมืองขึ้น บริเวณใกล้ๆกับพระธาตุนั้น
มีกำแพงทั้ง 4 ทิศ ( ซึ่งซากศิลากำแพงที่หักพังยังมีหลักฐาน
อยู่ห่างจากองค์พระธาตุประมาณ 25 เส้น ) ส่วนพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์
ก็จัดการสร้างวัดวาอารามขึ้น คือ วิหารและพัทธสีมา เคียงคู่กับพระธาตุ

เหตุการณ์เป็นดังนี้ จึงปรากฎนาม "พระธาตุขามแก่น" และเมื่อกาลเวลา
ล่วงเลยมา พระอรหันต์ทั้ง 9 องค์ ได้ดับขันธ์ปรินิพพานในสถานที่นี้
ทุกองค์ สรีระธาตุของท่านทั้ง 9 ก็ได้บรรจุไว้ในพระธาตุองค์เล็ก
ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระธาตุใหญ่ ด้วยเหตุนี้ประชาชน
จึงนิยมเรียกพระนามพระธาตุบ้านขามว่า "ครูบา ทั้ง 9 เจ้ามหาธาตุ"
จนถึงปัจจุบัน

แหล่งข้อมูล ประชาสัมพันธ์จังหวัด
_______________________________________________________



ประเพณี
งานฉลองและนมัสการพระธาตุขามแก่น ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
การสักการะ ใช้ธูป เทียน ดอกไม้ ขันแปดเก้า ในวันขึ้น 15 ค่ำ
ของทุกเดือน พระธาตุขามแก่น พระธาตุขามแก่นเป็นปูชนียสถาน
สำคัญคู่เมืองขอนแก่นและเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดขอนแก่น
ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเจติภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง
อยู่ห่างจากจังหวัดขอนแก่นประมาณ 30 กิโลเมตร เดินทางไปตาม
ถนนสายขอนแก่น -กาฬสินธุ์ เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตรที่ 12 บ้านโคกสี
เป็นถนนราดยางตลอด มีป้ายบอกทางไปพระธาตุ ขามแก่นเป็นระยะๆ
จนถึงองค์พระธาตุ พระธาตุขามแก่นมีลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสามเหลี่ยม
ทรงอีสาน องค์พระธาตุสูง 19 เมตร



ฐานด้านทิศตะวันออกและตะวันตกกว้าง 10.90 เมตรเท่ากัน
รอบองค์พระธาตุมีกำแพงแก้วล้อมรอบ ทั้ง 4 ด้าน สูง 1.20 เมตร
กำแพงแก้วห่างจากองค์พระธาตุโดยเฉลี่ย 2.30 เมตร ทุกด้านมีประตู
เข้าออก ด้านทิศเหนือ 2 ช่อง และทิศใต้ 2 ช่อง กว้างช่องละ 1 เมตร
ตำนานพระธาตุขามแก่น ประมาณ พ.ศ. 3 พระมหากัสสปได้นำเอา
พระอุรังคธาตุของพระ พุทธเจ้ามาประดิษฐานที่ภูกำพร้าและได้สร้าง
องค์พระธาตุพนมขึ้น พระยาหลังเขียวโมรียกษตริย์ทราบ ข่าวดังนั้น
เกิดศรัทธาใคร่นำพระอังคารมาบรรจุไว้ด้วยกัน จึงได้เดินทางมา
พร้อมกับข้าราชบริพาร และพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์



ในระหว่างเดินทางได้ผ่านดอนมะขามแห่งหนึ่งเป็นเวลาค่ำพอดี
จึงได้พา กันพักแรมในสถานที่นี้ ในบริเวณที่พักมีต้นมะขามตาย
ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง มีแต่แก่นข้างใน จึงได้เอาพระ อังคารเก็บไว้
ในต้นมะขามต้นนี้ ครั้งเมื่อเดินทางต่อไปยังภูกำพร้า ปรากฏว่า
องค์พระธาตุพนมสร้างเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว จึงต้องเดินทางกลับ
ถิ่นเดิม เมื่อเดินทางมาถึงดอนมะขามบริเวณที่พักที่เดิมก็พบว่า
ต้นมะขามที่ตายเหลือแต่แก่นต้นนั้น กลับยืนต้นแตกกิ่งก้านสาขา
มีใบเขียวชะอุ่ม และดูงามตาเป็นอัศจรรย์ พระยาหลังเขียวและ
พระอรหันต์ทั้ง 9 องค์ จึงตกลงใจสร้างพระธาตุครอบต้นมะขาม
โดยบรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยแก้วแหวนเงินทอง
โดยทำเป็นพระพุทธรูปแทนพระองค์เข้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ
และก่อสร้างบ้านเรือน ณ บริเวณใกล้ๆพระธาตุ

ส่วนพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์ ก็ได้จัดสร้างวัดเคียงคู่พระธาตุ
เมื่อพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์ได้ดับขันธ์ปรินิพพาน ประชาชนได้
นำพระธาตุของพระอรหันต์บรรจุไว้ในพระธาตุองค์เล็กซึ่งอยู่ใกล้
พระธาตุขามแก่นเรียกว่าครูบาทั้งเก้า เจ้ามหาธาตุ มาจนทุกวันนี้
0ทุกวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานฉลององค์พระธาตุขามแก่นเป็นงานประจำปี



ประวัติเมืองขอนแก่นและท้าวเพียเมืองแพน
ในปี พ.ศ. 2332 ท้าวเพียเมืองแพน ได้พาบุตรพร้อมด้วยผู้คน
ประมาณ 330 ครอบครัว อพยพจากบ้านชีหล่นแขวงเมืองสุวรรณภูมิ
(ปัจจุบันอยู่ในเขตท้องที่ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด)
มาตั้งอยู่ที่บ้านบึงบอน
(บ้านเมืองเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น ปัจจุบันนี้)
เดิมขึ้นอยู่กับพระยานครราชสีมา ต่อมามีใบบอกลงมายังกรุงเทพฯ
และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มีพระบรมราชโองการยกฐานะบ้านบึงบอนขึ้นเป็น "เมืองขอนแก่น"
เมื่อ พ.ศ. 2340 ตั้งให้
"ท้าวศักดิ์" ซึ่งเป็น "ท้าวเพียเมืองแพน" เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น มีนามว่า
"พระนครศรีบริรักษ์บรมราชภักดี" หรือผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น
คนแรก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา



คำขวัญจังหวัดขอนแก่น

"พระธาตุขามแก่น
เสียงแคนดอกคูณ ศูนย์รวมผ้าไหม เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่
ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเทห์เหรีญทองมวยโอลิมปิค"

______________________________________________________

......ไปขอนแก่น ไปกินข้าวเหนียว
ไปผูกเสี่ยว ไปเที่ยวงานไหม
พอถึงเดือนหก ก็เที่ยวบุญบั้งไฟ
ไผ๋บ่เคยไป สิบ่เห็นแก่นขอน
......ไปขอนแก่น ไปชมบึงงาม
ริมฝั่งน้ำ เป็นตาออนซอน
นั่งอยู่สายหล่าย เคียงคู่สลอน
เป็นตาออนซอน มางามหลายแท้นาง
......ชาวขอนแก่น เป็นคนใจดี
ฮักน้องพี่ บ่มีจืดจาง
ผู้สาวขอนแก่น สุดสวยสำอางค์
ถ้าได้เห็นนาง สิบ่อยากไปไส
......ไปขอนแก่น ไปกินลาบก้อย
ส้มปลาน้อย ก้อยปลาซิวใหญ่
อ่อมหอย แกงเห็ด ลาบเป็ดลาบไก่
สนุกถึงใจ ถ้าได้ไปเมืองขอนแก่...นนน
.......(ผู้ได๋สิไปมาเด้อ...มหาเดสิพาเที่ยว..
ว่าจั่งได๋สาวผู้ฮ้าย..วะซั่นแหมะ ......)

_______________________________________________________




 

Create Date : 16 มีนาคม 2552
0 comments
Last Update : 16 มีนาคม 2552 19:54:08 น.
Counter : 8730 Pageviews.

 

P_ปรัชญา
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




หยิ่ง
กับตัวเองบ้าง
ในบางครั้ง

เบื่อ
ชีวิตความผิดหวัง
ในบางหน

เกลียด
ความไม่จริงใจ
ในบางคน

ยอมทน
คนหยามเหยียดได้
ในบางที


[Add P_ปรัชญา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com