Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
คิดเล่นๆ กับประเด็นเรื่องข่มขืน/อนาจาร และช่องว่างของกฎหมาย

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๒๗๗ ผู้ใดกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา ๒๗๙ ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สมมติเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง อายุสิบสี่ปีทั้งคู่ มีเพศสัมพันธ์กัน โดยทั้งสองฝ่ายยินยอม
ผลที่ตามมา
๑. เด็กชายผิดตาม ม. ๒๗๗ (แม้เด็กหญิงยินยอม เพราะเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปี)
๒. เด็กหญิงผิดตาม ม. ๒๗๙ (เพราะผู้หญิงสามารถกระทำผิดฐานอนาจารได้ และกรณีนี้ แม้เด็กชายก็ยินยอม ก็เป็นความผิด เพราะเด็กชายอายุไม่เกินสิบห้าปี)

สรุป ตำรวจมีสิทธิจับคู่รักเด็กคู่นี้เข้าสถานพินิจทั้งคู่ ฐานข่มขืนและอนาจารผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกินสิบห้าปี

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ อยากทราบความเห็นหลายๆท่าน

ผมขอเพิ่มเติมหลังจากจากความเห็นของพี่ POL_US และคุณเบียร์ นะครับ


คือจริงๆ ที่คิดออกมาก็เพราะได้อ่านบทความ(กำลังเรียน sexual assault) ว่าในรัฐวิสคอนซิน เกิดกรณีเด็กชายหญิงอายุสิบห้าปทั้งคู่ี มีเพศสัมพันธ์กัน โดยทั้งสองฝ่ายยินยอม (วิสคอนซิน มีกฎหมาย เรื่อง child abuse ว่า ผู้ใด่มีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุไม่เกินสิบหกปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ก็มีความผิด)
ผลก็คือ หลังจากปั่มป๊ามกัน ฝ่ายหญิงเกิดท้องขึ้นมา หลังจากนั้น ตำรวจมาเคาะประตูถึงบ้าน แล้วเรียกตัวทั้งเด็กหญิงเด็กชาย ไปทำ probation ทั้งคู่ เพราะทำผิดตามกฎหมาย child abuse นี้
ทีนี้พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็โวยวายสิครับ เอ๊ะ อะไรกัน ลูกชั้นท้องป่องอย่างนี้ ยังเจ็บไม่พอเหรอ บลาๆๆ
ทางแก้ก็คือ บางรัฐมีการกำหนดช่วงห่างของอายุ ระหว่างผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ...

เลยคิดว่าถ้าเกิดกรณีอย่างนี้ขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งมีนัก กฎหมายศรีธนนชัยอยู่มากเสียด้วย อาจเป็นปัญหาขึ้นมาได้


Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2549 2:58:14 น. 19 comments
Counter : 4050 Pageviews.

 
อืม คิดเล่น ๆ เหมือนกันนะน้อง ... มิติแรกที่จะต้องพิจารณา คือ ประวัติศาสตร์ของเจตนารมณ์ในการคุ้มครองตามกฎหมายมาตรานี้ .... ดั้งเดิม น่าจะคุ้มครองเด็กหญิง แต่ต่อมา ก็มีผู้ใหญ่ ฯลฯ มาล่วงละเมิดสิทธิ์ของเด็กชายด้วย กฎหมาย จึงเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ จากการมุ่งคุ้มครองเด็กหญิง มาคุ้มครอง "เด็ก" ทั้งสองเพศ

หากเป็นกรณีที่น้องว่ามา คือ เด็กหญิงและเด็กชายที่อายุไม่ถึง ๑๔ ปี ต่างสมัครใจ มีเพศสัมพันธ์กัน ... และมองในแง่มิติทางประวัติศาสตร์ มาประกอบ เด็กหญิงน่าจะได้รับการคุ้มครองมากกว่าเด็กชาย ....(มั๊ง)

มิติที่สอง เรื่องความยินยอม กับการเจตนารมณ์ในการมุ่งการคุ้มครอง ....มีหลักสำคัญอยู่ว่า ผู้ที่กฎหมายมุ่งคุ้มครอง จะกลายเป็นผู้กระทำผิด ตัวการ หรือผู้สนับสนุนในการกระทำผิดไม่ได้ ต้องพิจารณาลงไปว่า กฎหมายในมาตรานั้น มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองใครมากกว่ากัน เช่น คุ้มครองอำนาจบิดามารดา ในการปกป้องเด็ก มิให้ผู้ที่มีประสบการณ์ และทักษะในการล่อลวงมากกว่าเด็ก ได้ล่วงละเมิดต่อเด็ก เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ "ความยินยอม" จึงไม่สาระสำคัญในการพิจารณาว่าเป็นความผิดหรือไม่

เด็กหญิงไม่อาจจะตกเป็นผู้กระทำผิด ผู้สนับสนุน หรือ ตัวการได้ หากกฎหมายมุ่งคุ้มครองเด็กหญิงเป็นสำคัญ เช่น กรณีเด็กหญิง ไปชักจูงให้ผู้ใหญ่ มาร่วมเพศ เพื่อแสวงหารายได้ ฯลฯ อันนี้ไม่ใช่แค่ยินยอม แต่ไปกระตุ้นให้ผู้ใหญ่กระทำผิดต่อตนเอง ... แต่เด็กหญิง คือ สิ่งที่กฎหมายมุ่งคุ้มครอง .... เป็น Necessary participator ขององค์ประกอบการกระทำผิด ... ผู้ใหญ่ คนนั้น เท่านั้น ที่จะต้องถูกลงโทษครับ

หากจะเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่มุ่งคุ้มครองระหว่างเด็กชาย กับ เด็กหญิง .... เด็กหญิง น่าจะได้รับการคุ้มครองมากกว่า (มั๊ง) ..... ความเห็นส่วนตัว จึงเห็นว่า เด็กชายเท่านั้น ที่จะถือว่ากระทำผิดต่อเด็กหญิงนะครับ...


โดย: POL_US วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:27:42 น.  

 
เอ...สมัยนี้มีแก๊งค์นักเรียนหญิงล่าพรหมจรรย์นักเรียนชาย...อย่าเพิ่งขำนะครับเพราะมีจริงๆ

แบบนี้น้องผู้ชายไม่ซวยทั้งขึ้นทั้งล่องเหรอครับ ติดคุก ไม่สิ ไปในสถานพินิจ แถมจะติดโรคจากเด้กเด็กผู้หญิงนักล่าพวกนั้น

เข้าไปในสถานพินิจอาจโดนรับน้องโดยการละเมิดทางเพศจากพวกรุ่นพี่อีก ผมเคยไปเก็บข้อมูลเรื่องนี้ เด็กผู้ชายถูกกระทำข้างในนั้นไม่น้อยนะครับ พวกจิ้มลิ้มเสร็จขาใหญ่หมด

อ่านที่พี่พลเขียนก็เข้าใจครับ แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ไม่เป็นการผลักความผิดบาปมาที่เด็กชายแต่ฝ่ายเดียวเหรอครับ



โดย: นายเบียร์ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:50:02 น.  

 
คงต้องสั่งสอนเด็กชาย ให้เคารพในความแตกต่างระหว่างเพศ เคารพในการกระทำของตัวเอง และยอมรับผลในการกระทำของตัวเองมั๊งครับ ....... ส่วนเด็กหญิงก็เช่นกัน คงต้องพึ่งพื้นฐานทางการศึกษา ครอบครัว มาขัดเกลานะครับ แต่กฎหมายนี่ พี่ว่ามันสมเหตุสมผลของมันนะครับ..


โดย: POL_US วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:3:22:25 น.  

 

แวะมาทักทายและรับความรู้ค่ะ ^^


โดย: plezilla (plezilla ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:3:57:47 น.  

 
แวะเข้ามารับความรู้เช่นกันคะ


โดย: pui IP: 58.11.3.189 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:27:36 น.  

 
เราก็ไม่มีความรู้กฎหมายเท่าไหร่ด้วยซิ แต่ตามความคิดเห็นนะ ถ้าตามหลักมนุษยชนแล้วชายและหญิงมีความเท่าเทียมกัน ก็ควรจะผิดทั้งสองฝ่ายนะ ถึงแม้ว่าทางฝ่ายเด็กผู้หญิงจะเสียหายมากกว่าในทางสังคมทั่วไป ก็ยังสามารถกล่าวได้นะว่าทางฝ่ายเด็กผู้ชายก็เสียหาย ได้รับความอับอาย เสียชื่อ เสียสุขภาพจิต ฮาๆๆ ... มันก็ทั้งคู่แหละน่า


โดย: Fah IP: 130.126.80.237 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:20:00 น.  

 
ปัญหาแบบนี้น่าคิดนะเพราะเกิดขึ้นกันเกร่อ แต่สรุปแล้วน่าจะโดน probationทั้งคู่.


โดย: พี่ยุ่น IP: 203.188.42.169 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:8:11:39 น.  

 
คำว่า "อนาจาร" มีความหมายว่าอย่างไรกันนะ ในการชำเรา คงต้องอนาจารกันเสียก่อนแน่ ยิ่งถ้าทั้งสองฝ่ายยินยอมร่วมมือกันด้วยแล้ว คงต้องอนาจารกันใหญ่ กว่าจะได้ร่วมชำเรา จึงขอแอบคิดว่าเด็กหญิงคงไม่มีความผิดเพราะการชำเราชายของหญิงซึ่งเป็นกรรมประธานยังไม่มีความผิด การอนาจารชายของหญิงที่จะเป็นทางไปยังการชำเราก็น่าจะเป็นเพียงกรรมประกอบหรือกรรมรอง จึงไม่น่าจะมีความผิดด้วย/แอบคิดเล่นๆ


โดย: แอบคิดเล่นๆ IP: 202.133.176.240 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:20:15:50 น.  

 


โดย: 123 IP: 203.114.100.102 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:10:31:47 น.  

 
ขอแจมด้วนะคับ คิดเล่นๆๆนะ
ในหลักดั้งกล่าว เราคิดว่าไม่มีใครผิดหรอกเพราะเป็นผู้เยาว์ทั้งคู่อายุไม่เกิน15ปี คงต้องใช่กฎหมายจารีตประเพณี
คือให้ทั้งสองฝ่ายแต่งงานกันไปเลยเพราะจากเจตนาแล้วไม่ใช่การบังคับโดยสภาพเป็นการยินยอมทั้งคู่ ( เราคิดเล่นๆๆนะ )ถ้าฝ่ายหญิงยอมรับฝ่ายชายก็รอด ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมรับก็เข้าโรงเรียนพินิจไป เพราะเด็กยากรู้ว่าเขาทำอย่างไง


โดย: แอมมองดู IP: 203.113.16.241 วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:45:40 น.  

 
ในเรื่องนี้แม้จะเป็นความผิดในคดีอาญาแต่มีหลักฏหมายบัญญัติอุดช่องโหว่ไว้แล้วครับ
ตามป.อาญา
ม.74เด็กอายุกว่า7ปีแต่ยังไม่เกิน14ปี กระทำการอันกฏหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ให้ศาลมีอำนาจดำเนินการดังต่อไปนี้..........

ม.75ผู้ใดอายุกว่า14ปีแต่ยังไม่เกิน17ปี กระทำการอันกฏหมายบัญญิตเป็นความผิด ให้ศาลพิจารณาถึงความรู้ผิดชอบและสิ่งอื่นทั้งปวงเกี่ยวกับผู้นั้น ในอันที่จะควรวินิจฉัยว่าสมควรพิพากษาลงโทษผู้นั้นหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่าไม่สมควรพิพากษาลงโทษ ก็ให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดตามมาตรา74 หรือถ้าศาลเห็นว่าสมควรพิพากษาลงโทษก็ให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดลงกึ่งนึง

และ้โดยในทางปฏิบัติถ้าอายุไม่เกิน14ปีหากมีการจับกุมฟ้องศาลจะยกฟ้องทันทีเพราะไม่มีอำนาจฟ้อง
อีกประการคือมีพรบ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนเป็นประการอีกอย่างไว้ไม่ให้เจ้าหน้าที่จับเด็กยัดใส่ตารางได้ครับแต่ก็ต้องไปอยู่บ้านเมตตาแทน

ถ้าพูดในเชิงวิเคราะห์ผมเห็นว่าสองมาตรานี้อาจทำให้เด็กกระทำความผิดมากขึ้นได้แต่ถ้าในสายตาของผู้ร่างกฏหมายเห็นว่าเด็กอายุไม่เกิน14ปีไม่น่าจะมีสติยั้งคิดอะไรผิดอะไรถูกได้
ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองครับแต่ผมเองเห็นด้วยในส่วนที่ไม่ให้มีความผิดเพราะกฏหมายเกี่ยวกับเด็กเราต้องมุ่งคุ้มครองมิใช่เพ่งโทษครับแม้แต่เจตนารมณ์ในทางอาญาก็ยังเป็นเช่นนั้นกับผู้ใหญ่เหมือนกัน


โดย: violator (violator ) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:16:36:31 น.  

 
<


โดย: 222 IP: 203.209.106.91 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:28:29 น.  

 
ผมเห็นด้วยกับความเห็นแรกครับว่า กฎหมายมุ่งคุ้มครองเด็กผู้หญิง เพราะโดยสรีระของมนุษย์แล้ว เด็กผู้ชายมิได้เสียหายแต่อย่างใด มีแต่ความสุขทางเพศเท่านั้น

ในขณะเดียวกันเด็กผู้หญิง ต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ พร้อมกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และร่างกายของฝ่ายหญิง เมื่อมีการร่วมเพศมาก ก็จะขยายไปเรื่อย ๆ จึงทำให้มีธุรกิจทำสาวขึ้น โดยทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้น และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูง

เพศชาย แม้จะมีการร่วมเพศกี่ครั้ง ก็ยิ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ร่วมเพศได้จนแก่ตาย เพราะน้ำอสุจิผลิตได้จนวันตาย

ส่วนความเห็นที่สอง นั้นแม้ว่า เด็กหญิงเหล่านั้นจะล่าเด็กชายไปกี่คน ตนเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายสูญเสีย ยิ่งร่วมเพศมาก เปลี่ยนขนาดบ่อย จะทำให้เป็นมะเร็งได้ง่ายขึ้น ผิดพลาดขึ้นมาตั้งครรภ์ ต้องตรวจดีเอ็นเอ ว่าใครเป็นผู้กำเนิดที่แท้จริง คนที่ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง ก็คือเด็กผู้หญิง ครับ


โดย: ทนายประชาชน IP: 202.149.102.4 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:19:47 น.  

 
ฝ่ายหญิงเป็น บุคคลซึ่งกฎหมายมุ่งประสงค์จะคุ้มครองครับ ดังนั้นจะไม่ลงโทษ
ถือเป้นเหยื่อของความผิดนั้น
ดังนั้นกีรณีนี้จึงเอาผิดชายฝ่ายเดียวมิว่าจะ ข่มขืน หรืออนาจาร


โดย: pan IP: 210.246.160.2 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:47:31 น.  

 
อ๋อ เป็นหลักการสากลนะครับ
เหมือนพรากผู้เยาว์ ทำไมฝ่ายหญิง ไม่เป็นตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุนครับ


โดย: pan IP: 210.246.160.2 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:48:32 น.  

 
อยากรู้เกี่ยวกับการลงโทษ อนาจาร เด็กหญิงอายุไม่ถึง15ปีค่ะขอด่วนค่ะ


โดย: จ๋า IP: 222.123.60.16 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:23:52 น.  

 
เลวมาก...............................................ชั่วจริงใครทำได้เนี่ย


โดย: น.ร. IP: 203.113.71.168 วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:11:25:10 น.  

 
อนาจาร กับ กระทำชำเรา แตกต่างกันอย่างไร


โดย: ต่าย ค่ะ IP: 117.47.235.153 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:17:39:00 น.  

 
น่าสงสารผู้ปกครองของเด็กชายนะ ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเขาก็เป็นผู้โดนกระทำเหมือนกัน


โดย: k IP: 1.1.158.193 วันที่: 9 กันยายน 2558 เวลา:9:17:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

praphrut608
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




LL.B. (Thammasat)
B.A. (Political Science)
Thai Barrister-at-law
M.L.I. (Wisconsin)
LL.M. (Cornell)
Researcher at Kyushu University
under Patronage of Government of Japan
(Monbukagakusho)
LL.M. Cornell University M.L.I. University of Wisconsin-Madison LL.B. Thammasat University B.A. (Political Science) Ramkamhaeng University Assumption College Samutprakarn
Friends' blogs
[Add praphrut608's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.