จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน (มีฟ้าให้บินสำหรับนกทุกตัว)

















สวัสดีครับปะการังเพื่อนรัก

คุณคงได้เห็นหนังสือ “นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน” *ที่ทางสำนักพิมพ์จัดส่งไปให้คุณที่อเมริกาแล้ว ไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อเห็นจดหมายระหว่างเราที่เขียนลงในบล็อกได้กลายมาเป็นหนังสือ สำหรับผมนั้นยังรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเหมือนกับทุกครั้งที่มีผลงานรวมเล่ม แต่ครั้งนี้อาจพูดได้ว่าผมรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ


เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานเล่มแรกในชีวิตที่เขียนร่วมกับนักเขียนอีกคน และนักเขียนคนนั้นคือคุณ ซึ่งแต่ก่อนเราเป็นเพียงเพื่อนในแวดวงที่รักการเขียนหนังสือเหมือนกันเท่านั้น แต่ตอนนี้เราได้กลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ และความเป็นเพื่อนนี้เกิดขึ้นจากตัวหนังสือที่เราเขียนถึงกัน ทั้งที่ไม่ได้พบกันมานานมากแล้วและยังอยู่ไกลกันคนละฝั่งฟ้าอีกด้วย

ผมได้กลับมาอ่านเรื่องราวในหนังสือ ”นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน” อีกครั้ง ผมรู้สึกดีเสมอเมื่อได้อ่าน เพราะถ้าเราไม่ได้เขียนจดหมายถึงกันในขณะนั้น บางสิ่งบางอย่างที่เราได้รู้สึกนึกคิดมันก็จะผ่านเลยไป และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากก็คือคุณได้กลับมาเขียนหนังสืออย่างจริงจังอีกครั้งตามที่คุณฝันไว้

วันที่ผมได้รับหนังสือซึ่งสำนักพิมพ์ส่งมาให้นั้น ผมอยู่ที่ดอยวาวีแล้ว ทั้งที่ผมไม่ได้คิดมาก่อนว่าผมจะเดินทางมาดอยวาวีในฤดูหนาวปีนี้ แต่เป็นเพราะผมไปนอนที่กระท่อมในสวนทิพย์ที่นครสวรรค์ซึ่งญาติธรรมคนหนึ่งสร้างไว้ให้ นั่นทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจที่จะมาสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ บนที่ดินที่ผมซื้อไว้เมื่อปีก่อน

อันที่จริงบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต และไม่ถือว่าเป็นปัจจัยสี่ด้วย แต่ทว่ามันเป็นความฝันเล็ก ๆ ของผมที่อยากจะมีบ้านพักในภูมิประเทศและบรรยากาศที่สวยงาม เพราะผมคิดว่าถ้าได้อยู่ในที่บรรยากาศสวยงามแล้ว ดูเหมือนว่าความสุขอื่น ๆ ก็จะตามมาเอง

เรื่องที่จะได้อยู่ในบรรยากาศที่สวยงามนั้นผมฝันมาตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว และเคยทำมาบ้างแต่ก็ไม่สำเร็จหรือทำได้ก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ตอนที่ผมอายุ 23 ปีผมเคยไปอยู่บ้านในสวนที่แม่ฮ่องสอน แต่อยู่ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น และเมื่อตอนอายุ 25 ปีผมลาออกจากงานไปอยู่เกาะเสม็ด ขอแบ่งซื้อที่ชายหาดจากชาวประมงขี้เมาคนหนึ่งซึ่งเขาแถมกระท่อมไม้ไผ่ให้ด้วย แต่ก็ใช้ชีวิตชาวเกาะได้เพียง 6 เดือนก็ต้องจรลีกลับเมืองหลวง

ชีวิตผมดำเนินมาถึงจุดหนึ่งถึง...ตอนนี้อายุผมเกินครึ่งร้อยแล้ว เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึงผมจึงลงมือทำตามความฝันของผมทันที ต้องขอบอกเสียก่อนว่า ผมไม่ได้คิดจะมาอยู่ที่ดอยวาวีนี้อย่างถาวร ส่วนจะอยู่แค่ไหน อย่างไรนั้นค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยในแต่ละวันที่ทำลงไปนั่นแหละครับ

เมื่อตอนที่ซื้อที่ไว้เมื่อปีที่แล้ว ผมฝันไว้ว่าจะสร้างบ้านเล็ก ๆ อยู่บนไหล่ดอย ระเบียงบ้านนั้นจะต้องยื่นออกไปตรงไหล่ดอยพอดี ด้านหน้าจะมองเห็นสวนชาอูหลงซึ่งเขียนป้ายประกาศว่าเป็นสวนชาอูหลงแห่งแรกของประเทศไทย

แต่วันนี้ขณะบ้านยังสร้างไม่ทันเสร็จ เมื่อผมยืนอยู่ตรงหน้าบันไดที่ระเบียงนั้น สวนชาอูหลงก็อยู่หน้าบ้านของผมพอดี ผมไม่ต้องมีสวนชาแต่ก็มีวิวสวนชาไว้มองเล่น ความเขียวชอุ่มทำให้รู้สึกสบายตา มองไปทางซ้ายของระเบียงบ้านก็เห็นวิวของหมู่บ้าน เพียงแค่ผมยืนอยู่บนระเบียงบ้านผมก็รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่ได้สร้างบ้านพักหลังนี้

ผมบอกกับเจ้าของที่ดินที่ผมแบ่งซื้อว่าผมไม่ต้องการล้อมรั้วกั้นอาณาเขต เรื่องอะไรผมจะต้องไปล้อมรั้วเพื่อกั้นอาณาเขตแคบ ๆ ที่ผมแบ่งซื้อมาเล่า เราจะรู้สึกว่าวิวข้างหน้าทั้งสวนชาและภูเขาทั้งลูกที่อยู่เบื้องหน้านั้นเป็นของเรา ขอแค่ได้มองได้ชื่นชม ไม่ได้ยึดมาเป็นของตัว ใครจะไปว่าอะไรได้ใช่ไหมครับ ?

นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมทำเรื่องอะไรแบบนี้ คือการเลือกแบบบ้านและคอยดูแลการสร้างบ้านด้วยตัวเอง

ผู้รับเหมาและช่างที่สร้างบ้านของผมนั้นไม่ได้เรียนด้านก่อสร้างมา ช่างทุกคนล้วนผ่านการเป็นกรรมกรมาก่อนทั้งนั้น ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องแบบบ้าน เพียงบอกความต้องการของตัวเอง และให้ช่างช่วยคิดบ้าง ผสมผเสกันไปจนได้แบบบ้านง่าย ๆ ออกมาหลังหนึ่ง

อันที่จริงผมมีเพื่อนเป็นสถาปนิกเขาอาสาออกแบบบ้านให้ฟรี แต่ผมตัดสินใจเลือกเอาแบบบ้านซึ่งผมกับช่างก่อสร้างช่วยกันคิด นั่นเพราะวัสดุบนดอยนั้นไม่ใช่นึกอยากได้อะไรก็ได้ ประการสำคัญจริง ๆ ก็คืองบประมาณในการก่อสร้างของผมมีค่อนข้างจำกัด

เพื่อนที่มีประสบการณ์สร้างบ้านตัวเองมักโทร.มาแนะนำเสมอ บ้างก็ว่าบ้านนั้นเมื่อสร้างแล้วไม้โทมักหายไป ผมก็บอกว่ามันก็คงบานเท่าที่บานได้ เพราะมันไม่มีจะให้บาน บ้างก็ว่าเขาและเธอนั้นเคยน้ำหนักลดเพราะสร้างบ้าน เนื่องมาจากเครียดทั้งเรื่องการประสานงานกับช่างและเรื่องอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ ฯลฯ

ผมนึกถึงตอนที่ผมตกลงซื้อที่ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าแค่เดินมาดูก็รู้สึกว่ามีความสุขแล้ว ที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้ว่าเมื่อเราบรรลุเป้าหมายหนึ่งแล้วมันก็จะเป็นเพียงความสุขชั่วครู่ชั่วคราวแล้วก็ผ่านไป และจะมีเป้าหมายใหม่รออยู่อีก ผมคิดว่าคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยพอใจที่จะทุ่มเทเวลาเป็นเดือนเป็นปีที่จะอยู่กับความเครียดหรือความวิตกกังวลเพื่อแลกกับความสุขชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็มีเป้าหมายใหม่ให้บรรลุต่อไป แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพที่ว่านี้อย่างแน่นอน

โดยทั่วไปแล้วเราจะมีความเชื่อเสมอว่าต้องบรรลุเป้าหมายแล้วจึงจะมีความสุข แต่ผมไม่ต้องรอจนบ้านเสร็จก่อนแล้วจึงจะมีความสุข ผมรู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับทุก ๆ วันที่จะไปดูแลช่าง สิ่งไหนที่ผมต้องการผมก็จะบอกเขา ผมบอกกับเขาว่าผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความตั้งใจทำงานและอยากให้เขาทำงานอย่างมีความสุข

การสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ หลังนี้ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะรอคอยทุกอย่างอย่างใจเย็นไม่กระวนกระวาย รู้จักคิดถึงใจของช่างบ้าง บางอย่างก็ตามใจช่างบ้าง บางอย่างตามใจตัวเองบ้าง ถ้าเกิดผิดพลาดคลาดเคลื่อนขึ้นมา ถ้าสามารถแก้ไขได้ก็ให้เขาแก้ ถ้าไม่สามารถแก้ได้เราก็เพียงแต่ทำใจยอมรับเสีย บ้านหลังนี้ของผมไม่จำเป็นต้องสวยสมบูรณ์แบบทุกประการ

ผมนั้นตั้งใจตั้งแต่คิดจะสร้างบ้านหลังนี้แล้วว่าจะต้องไม่เป็นทุกข์กับสิ่งที่มีเพิ่มขึ้นมาอีก ถ้ามีบ้านเพิ่มขึ้นมาอีกหลังแล้วต้องเป็นทุกข์เพราะความเป็นห่วงวิตกกังวลแล้วผมว่าไม่ต้องมีจะดีกว่า

ผมอยากบอกว่าผมรู้สึกดีใจที่บ้านหลังนี้สร้างขึ้นจากมือช่างที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ มีทั้งชาวไทยใหญ่ อาข่า ปกากะญอ และจีน พวกเขาเริ่มต้นวิชาชีพจากการเป็นกรรมกรมาก่อน จากนั้นก็เรียนรู้และพัฒนาฝีมือมาเป็นช่างสามารถรับงานเองได้ อย่างน้อยบ้านเล็ก ๆหลังนี้ก็คือส่วนหนึ่งที่ช่วยย้ำให้ผมมองเห็นว่าทุกคนล้วนมีความฝันและแน่นอนว่าย่อมฝันนั้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นช่างและกรรมกรหรือแม้ตัวผม ทุกคนต่างก็มีความฝันเป็นของตัวเอง

ขณะที่งานแต่ละวันผ่านไปได้ด้วยดี ผมได้บ้านอย่างที่ตัวเองพอใจ และหลังจากบ้านเสร็จแล้วผมกับช่างที่มาสร้างบ้านยังได้เป็นเพื่อนกันอีก ไม่ใช่แค่ว่าจ่ายเงินค่าจ้างหมดแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น ผมเชื่อเสมอมาว่ามิตรภาพหรือความเป็นเพื่อนนั้นเงินไม่สามารถซื้อได้


ถ้าคุณกลับมาประเทศไทยเมื่อไร และอยากมาพักบ้านที่มีวิวภูเขาแทนวิวทะเลแถบภูเก็ตบ้านคุณ ผมยินดียกบ้านหลังนี้ให้คุณพักได้นานเท่าที่คุณต้องการ , “นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน” ผมชอบถ้อยคำประโยคนี้ที่คุณเป็นคนคิดจังเลย แค่ได้ยินก็มีกำลังใจแล้ว

ด้วยมิตรภาพ

โดม วุฒิชัย


* ชื่อหนังสือของ โดม วุฒิชัย - ปะการัง
























ผมหาเพลง "ปะการัง" ของ ชรัส เฟื่องอารมย์ ไม่พบ
ก็เลยเอาเพลง ปะการัง ของ น้าซู มาฝาก
จังหวะอาจจะโจ๊ะไปหน่อย
เนื้อเพลงก็บอกกันตรงๆเลย
แต่เห็นว่ามีคำว่า "ปะการัง" และ "ภูเก็ต" ก็เลยเอามาฝากคุณ



Create Date : 21 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 8:30:14 น. 37 comments
Counter : 3282 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะคุณโดม

คืนนี้กำลังอ่านหนังสือ หยดน้ำแห่งจินตนาการ เขียนโดยนายแพทย์วิธาน ตามที่คุณโดม แนะนำเอาไว้
ใกล้จะอ่านจบแล้ว แต่คิดว่า คงต้องอ่านซ้ำอีกค่ะ

มีหลายอย่างที่ผู้เขียนได้แนะนำไว้ น่าจะทำให้ผู้ที่ปฎิบัติตามเป็นคนที่เขียนหนังสือได้นะคะ
อย่าน้อยๆ จะต้องมีผลงานสี่สิบกว่าหน้าแน่ๆ เพราะผู้เขียนแนะนำให้เขียนติดต่อกันให้ได้ 21 วัน
ถ้าใครอยากรู้เรื่องต่อ ต้องไปหาอ่านกันนะคะ

หากมีหนังสือเล่มใดที่คุณโดมได้อ่านแล้ว รู้สึกว่า อยากจะให้คนอื่นๆ ได้อ่านเล่มนี้จัง ก็ต้องขอรบกวนบอกเล่าให้ได้รู้บ้างนะคะ




โดย: ฝนดอกไม้ IP: 124.122.243.5 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:55:20 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 24


สวัสดีตอนเช้าตรู่ครับทุกๆท่าน

ตอน แรกตั้งใจจะไปงานสวดฯของพี่วาณิชที่วัดธาตุทอง

พอดีช่างทำห้องน้ำ ค้างคาไว้จนย่ำเย็น
และประกอบกับทางการประกาศเคอร์ฟิว และเหตุการณ์ในเมืองก็ยังไม่สงบ

เลยรอไว้วันฌาปณกิจเลยดีกว่า (เพราะได้ข่าวมาว่าจะเก็บไว้ก่อน)

วันนี้ผมตื่นแต่เช้า เลยเข้าบล็อกก่อนที่จะต้องไปจัดข้าวของในบ้าน เพื่อเตรียมตัวทาสี

หลาย วันที่ผ่านมา งานซ่อมแซมบ้าน ห้องน้ำ เป็นไปอย่างเชื่องช้า

เพราะ ช่างคนเดียว เขาทำอะไรได้ช้ากว่าช่างทั่วไป

งานซ่อมบ้านครั้วงนี้ ผมได้นำสุภาษิตเดิมมาใช้กับตัวเองอีกครั้งว่า .."ถ้าไม่รีบก็ไม่ช้า

สวัสดี ครับคุณฝนดอกไม้

หนังสือเกี่ยวกับการเขียนมีมากมายหลายเล่มครับ โรงเรียนนักเขียน ของสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ ก็ดี

ยังมีอีกหลายเล่ม

แต่ ผมอยากกระซิบว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ให้รักษาความอยากจะเขียนไว้ และหมั่นดูแลให้มันเติบโตจนกลายเป็นนิสัยที่ต้องเขียนทุกวัน

เขียน อะไรก็ได้ที่อยากเขียนไปพลางๆก่อนก็แล้วกัน

เห็นคุณสร้างบล็อกแล้ว วันก่อนเข้าไปดูแต่ยังไม่เห็นมีอะไร

บล็อกก็สามารถเป็นเครื่องมือการ ฝึกเขียนได้ครับ



โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:23:08 น.





โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:32:12 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่โดม

นกทุกตัวมีฟ้าให้บินจริงๆเหรอคะ ?

ฟ้าบางที่ที่นกบางตัวบินผ่าน มีบางคนยิงอะ...

ตอนเด็กๆ นักล่าฯเห็นนกโดนยิงบ่อยๆแถวบ้าน...

ไม่นึกว่าผ่านไปหลายปี ก็ยังมีคนมือบอนพวกนี้อยู่...

เบาใจอยู่อย่างค่ะ ยิงยังไง นกไม่หมดท้องฟ้าแน่ๆ





โดย: นักล่าน้ำตก IP: 180.210.216.68 วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:17:23 น.  

 
นกทุกตัว มี "ฟ้า" ให้บิน
แต่ ต้องมี "แผ่นดิน" ให้เกาะ

บ้าน หลังนี้สวยมากๆครับ

คนที่สามารถคิดแบบท่านได้นั้น จะได้ "โลก" ทั้งใบให้เป็นของขวัญ


โดย: moonfleet วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:19:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

ชื่อหนังสือ มีผลให้คนสนใจหยิบหนังสือขึ้นมาลิกดูจริงๆนะ

นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน เป็นหนึ่งในหนังสือที่ว่า


โดย: Love At First Click วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:06:37 น.  

 
สวัสดี
ตกลงใจไว้วันฌาปณกิจ
ค่อยไป เมื่อวานนัดกับชีวีจะไปอีก ปรากฏว่าพ่อแม่ป่วย
อยู่ที่พัทลุง อาการน่าเป็นห่วงเหมือนกัน
ทุกอย่างเลยเลื่อนไปหมด
งานตัดสินเรื่องสั้นก็ยังสรุปไม่ได้ เราก็เลยเคว้ง
จะกลับบ้านก่อน ก็ไม่อยากลงมาใหม่อีก เพราะเหนื่อย
ทั้งค่าใช้จ่ายและอื่นๆอยากให้จบๆไป แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจเลย
ยังคงประกาศเคอร์ฟิวส์ต่อ
ก็ทำงานรอไปพลางๆในเตาอบ บ้านช่องห้องหับเรียบร้อยดีหรือยัง เราก็ยังค้างคาหลายอย่าง ช่างทำประตูหน้าบ้านรอเทคานอยู่
วัวเยอะ วิ่งลากไม้ปิดประตูไม่ไหว ก็ต้องทำใจหละ เหล็กก็เหล็ก เอาถาวรไปเลย

เห็นรูปบ้านตั้งแต่สร้าง
มีกำลังใจนะ
แบบนี้เรียกว่า ฝันชั่วคืน
ต้องเปลี่ยนนามปากกาใหม่นะ
โดม ทำได้
555


โดย: ดาวส่องทาง วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:20:34 น.  

 
พ่อพเยียคะ...มีคนคิดถึง..หนูไง..
ตอนนี้อยู่นนท์หรือเปล่าคะ อยากส่งดีวีดีหนังเรื่อง Departure ไปให้ดูค่ะ สวยงามมากทั้งภาพ เพลง เนื้อเรื่องและวัฒนธรรม ไม่ดูไม่ได้ เป็นหนังญี่ปุ่นรางวัลออสการ์เมื่อปีที่แล้ว(มังคะ) ก่อนดูกรุณาเตรียมผ้าซับหยาดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งไว้ด้วยนะคะ คันปากอยากเล่าเรื่องย่อ แต่ไม่เอาหรอกเสียอรรถรส
เอ่อ..ถ้าดูแล้วกรุณาบอก หนูอาจส่งอีเอ็มเอสให้พรุ่งนี้ค่ะ ถึงมือพ่อพเยียไม่เกินวันอาทิตย์ หรือถ้าจะให้จัดส่งไปที่ใดก็แปะที่อยู่ไว้นะคะ ยินดี๊ ยินดีค่ะ

ด้วยความเคารพ...หนูเอง


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.49 วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:26:26 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม ปรายซื้อหนังสือนกทุกตัวมีฟ้าให้บินแล้วนะคะ เจอที่โลตัสชัยนาทพอดีเลย แต่เห็นมีอยู่เล่มเดียวเอง...

ตอนนี้อยากได้ลายเซ็นต์แล้วก็อยากได้รูปเด็กน้อยที่ใส่เสื้อเขียวกางเกงชมพู
เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดูจัง...


โดย: ปราย IP: 118.172.181.154 วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:55:27 น.  

 
สวัสดีจ้ะนักล่าน้ำตก

บางคนบอกว่านกเพนกวินบินไม่ได้

แต่คำพูดประโยคนี้แม้จะไม่ได้ครอบคลุมไปถึงนกทุกชนิด

ทว่าโดยทั่วไปแล้วเมื่อพูดถึงนกก็จะนึกถึงการบิน
คำนี้ต้อยกเครดิตให้ ปะการัง เพราะเป็นคำที่เขาคิดขึ้นมา

โดนใจมาก

ส่วนบินขึ้นฟ้าแล้วถูกคนมือบอนยิงหรือร่วงลงมาเพราะอะไร นั่นก็ถือว่าได้บินแล้ว

สวัสีดครับคุณmoonfleet

คอมเม้นท์ของคุณทำให้ผมนึกถึงหนังของหว่อง กาไวเรื่องหนึ่งทึี่ตัวเอกชื่อยกใจ๋
ที่เขาพูดถึงตัวเองทำนองประมาณนี้ “ผมเคยได้ยินเรื่องนกไร้ขา มันได้แต่บินและบิน เหนื่อยก็นอนในสายลม ในชีวิตจะลงดินก็เพียงครั้งเดียว เมื่อถึงวันตาย…”

อันที่จริงมันไม่เกี่ยวกับนกทุกตัวมีฟ้าให้บินหรอกครับ เพียงแต่ผมนึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมา และดูเหมือนว่าถ้าผมจำไม่ผิดนักเขียนที่ชื่อ เสี้ยวจันทร์ แรมไพรจะชอบหนังของหว่อง กาไว (ในช่วงนั้น)มาก


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:18:47 น.  

 
สวัสดีครับรักแรกคลิก

ชื่อหนังสือ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" สู้ชื่อ "กล้องส่องทางใจ" ไม่ได้ร็อค !


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:21:05 น.  

 
สวัสดีครับพี่ปอน

ซ่อมบ้านที่นนทบุรีเหนื่อยกว่าสร้างบ้านที่ดอยวาวีอีก
(เหนื่อยใจน่ะครับ )
พูดเรื่องจริงครับไม่ได้โม้
ช่างซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆหายาก

โดยเฉพาะงานห้องน้ำที่ต้องเปลี่ยนเครื่องสุขภัณฑ์ใหม่

ผมได้ช่างในซอยที่เห็นกันมานาน

เขาทำช้าและจะต้องผิดเสียก่อนจึงค่อยแก้มาเป็นให้ถูก

ต้องทำให้รั่วก่อนจึงค่อยมาทำให้ไม่รั่ว

โชคดีที่ผมเตรียมใจไว้พร้อมที่จะเผชิญกับช่าง คนนี้

อาศัยใช้ฝึกเมตตาข่มโทสะและเจริญสติไปในตัว

ผ่านไปหลายวันแล้ว งานซ่อมแซมบ้านผมยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ ?

แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่จะได้อย่างใจทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินจ้างเขาตามที่เขาตั้งราคามาก็ตาม

ผมก็เลยพูดกับกล้วยแบบขำๆว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกที่คนเราจะได้มาพบกัน


ฐานะอย่างเราก็เหมาะสมกับช่างฝีมือแบบนี้แหละ (ฮา)

แต่ก็เห็นความตั้งใจและความพยายามของเขา

ถ้าเขาบอกว่างานจุดนี้วันเดียวเสร็จ นั่นหมายความว่าต้องใช้เวลาสองวันเป็นอย่างน้อยหรือบางทีถึงสามวัน

แต่เชื่อไหมถึงวันนี้ผมก็ยังไม่คิดเปลี่ยนช่างเลย

เพราะอย่างน้อยก็อยู่ในซอยเดียวกัน และยังพูดจากันได้

ถ้าผมได้ไปบ้านทุ่งดาวคราวหน้า ก็คงได้เห็นรั้วเหล็กบ้านพี่ปอนแล้ว


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่าผู้น่ารัก

ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่จะส่งหนังมาให้ดู

เดี๋ยวนี้ร้องไห้ยาก
แต่เชื่อไหมเมื่อรู้ข่าวไฟไหม้โรงหนังแถวสยามเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

เพราะมีความหลังสมัยหนุ่มแถวนั้นไม่ใช่น้อย


เหตุการ์บ้านเมืองสงบ และรอพ่อพเยียซ่อมบ้านเสร็จค่อยนัดกินกาแฟกันบ้างนะ





โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:39:42 น.  

 
สวัสดีจ้ะหนูปราย

หนูหมายถึงเด็กในรูปนี้ใช่ไหม ?



เด็กคนนี้นอกจากจะน่ารักและยังน่าสงสารด้วยนะ เพราะเธอกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก

อยู่กับตายาย เป็นเด็กชาวไทยใหญ่ แม่ตั้งชื่อว่า มิลค์หรือมิ้นท์ ก็ไม่รู้

แต่ตาเรียกไม่ถนัดปาก ตาเรียกเธอว่า "เมี้ยว"

ภาพที่เห็นจนชินตาเธอจะอยู่บนหลังตาทุกวัน
ขอคุยหน่อยเถอะ..เชื่อไหมว่าเด็กคนนี้ เวลาเดินผ่านบ้านเธอ ตกใจมากที่เธอเรียกว่า "ลุงโดม" ได้แล้ว

เพราะไม่คิดว่าเธอจะพูดได้ ตามปกติเธอจะไม่ค่อยพูด



โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:49:28 น.  

 
หนูเมี้ยวน่ารักดี
เห็นเธอแล้วคิดถึงหนูแป้ง

คงงงว่าทำไมคิดถึง
ก็ช่วงนี้หนูแป้งไปอยู่บ้านคุณอาโดยไม่ทันตั้งตัว
ถูกรับตัวจากโรงเรียนไปอยู่บ้านโน้นตั้งแต่ก่อนวันพืชมงคลโน่น
ติดวันหยุด
และก็ติดสถานการณ์วิกฤตใจกลางเมือง
เลยถูกเก็บตัวไว้บ้านโน้นค่ะ

วันอาทิตย์นี้ถึงได้เจอะกัน
เพราะกำลังจะเปิดเทอม

หวังว่ารถไฟใต้ดิน และรถไฟฟ้าบีทีเอส จะใช้การได้แล้วในวันจันทร์
ไม่งั้นลำบากแย่ค่ะ

เสียดายโรงหนังสยามเช่นกัน เป็นโรงหนังเก่าแก่ และเชื่อว่าหลายคน (รุ่นเรา) คงมีความหลังกับโรงหนังสยามไม่มากก็น้อย




โดย: หนอนฯ IP: 58.9.177.208 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:03:46 น.  

 
วันนี้เข้ามาคอมเม้นท์บล๊อกเป็นครั้งที่สอง ไม่สิน่ะ เวลานี้ขึ้นวันใหม่แล้ว

เข้ามาเพื่อบอกว่า ดีใจค่ะ ที่ได้มีโอกาสสื่อสารกับนักเขียนที่เราชอบในงาน
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องการเขียนนะคะ
ส่วนเรื่องบล๊อกนั้น อายจังเลยที่สร้างบล๊อกไว้นานแล้ว แต่ก็ปล่อยทิ้งร้าง ไม่ลงมือตกแต่งบ้านเรือนเสียที
เปรียบเสมือนสร้างบ้านทิ้งไว้เปล่า ๆ ไม่มีคนเข้าไปอยู่
คิดไว้เหมือนกันค่ะ ว่าจะเขียนอะไรๆ ที่อยากเขียนลงบล๊อกที่สร้างไว้
แต่ก็ยังจนใจที่ยังสร้างบล๊อก ตกแต่งบ้านให้น่าดูน่ามอง น่าเข้าไปอยู่ ไม่เป็นเลย แต่ก็จะพยายามต่อไปค่ะ
อีกทั้งสิ่งที่เราจะเอาไปใส่ไว้ในบ้าน ก็ยังไม่พร้อมจะนำเสนอให้ใครได้เข้ามาดูได้เลย
จริงๆ ก็มีอยู่นิดหน่อย แต่คิดว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ออกจะหม่นหมอง จึงไม่อยากจะเริ่มต้นบล๊อกด้วยความเศร้า อยากเก็บเอาไว้เศร้าคนเดียวกระมังค่ะ

หาหนังสือ"นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" มาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ หาแล้วไม่เจอ ก็ลืมๆ ไป เพราะอ่านบล๊อกของคุณโดม และงานในขวัญเรือนประจำอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยจะกระตือรือร้น
พอคนเรารู้ว่า จะไม่ได้ออกไปตะลอนๆ ที่ไหนได้ในเวลาไม่จำกัด เราก็มักจะกักตุนใช่มั้ยค่ะ เช่นเดียวกัน นี่ก็เลยไปหาหนังสือมากักตุนไว้ค่ะ เล่มนี้ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" เพิ่งได้มาวันนี้
ยังคิดอยู่ว่า ได้อ่านช้าไปหรือเปล่า ชอบชื่อหนังสือมากๆ ค่ะ ให้กำลังใจ ทำให้รู้สึกเหมือนมีความหวังอยู่ทุกๆ ที่ที่เราจะก้าวเดินไป

คืนนี้ก็เป็นอีกวัน ที่ได้เขียนแล้วคะ่คุณโดม ขอบคุณนะคะ


โดย: ฝนดอกไม้ IP: 124.120.57.217 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:07:21 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม

ชอบภาพกรอบหน้าต่างที่มีรูปหมวกวางอยู่ครับพี่

แม้ไม่ต้องพูด
แต่ก็มีถ้อยคำหลากไหลออกมา








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:11:54 น.  

 
ถึง คุณโดม

วันนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะไปหาหนังสือ "หยดน้ำแห่งจินตนาการ" มาอ่านเช่นกันค่ะ

ศาสตร์แห่งการเขียนเคยซื้อหนังสือของป้าอี๊ด "ทมยันตี" เรียบเรียงโดยคุณวิศวนาถมาอ่านแล้ว ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าอะไรมันจะยากเย็นซะขนาดนั้น

แต่พอได้มาคุยกะคุณแล้ว เริ่มเกิดความเข้าใจว่า หากเราอยากเป็นนักเขียนดังในชั่วข้ามคืนตะหากล่ะที่มันยากยิ่งนัก ถ้าเพียงแค่ชอบขีดเขียน มีใจรักอยากทำงานนี้ เพียงแค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง นอกจากนั้นไม่ใช่เรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องที่คนอื่นตัดสินให้เราเองว่าผลงานที่ทำไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.79 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:24:04 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณฝนดอกไม้ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" จริง ๆ ด้วย พวกเราลองมาทำความฝันให้เป็นความจริงกันดีกว่า แม้ว่าจะออกตัวช้ากว่าคนอื่น หรือยังไม่สามารถคาดได้ว่าจะถึงจุดหมายปลายทางเมื่อใด อย่างน้อยพวกเราก็ยังมีอาจารย์ดีคอยให้กำลังใจและแนะนำเรื่องการเขียนอยู่เสมอคืออาจารย์โดมนี่เองค่ะ

คุณยังเก่งนะที่สามารถสร้างบล็อกของตัวเองได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงบ้านที่ยังตกแต่งภายในไม่เสร็จ ส่วนพี่เองนั้นยังไม่มีความรู้ความสามารถว่าการสร้างบล็อกทำได้อย่างไรเลยค่ะ ทำได้เพียงแค่แวะมาเยี่ยมบล็อกของเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.79 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:31:26 น.  

 
ใช่คะพี่โดมปรายหมายถึงเด็กน้อยคนนี้ เห็นครั้งแรกก็รู้สึกรักเลย แต่ดูแววตาในหนังสือแล้ว ยังรู้สึกอยู่เลยว่าน้องเปเปอร์มิ้นท์คนนี้มีอะไรบางอย่างซ้อนไว้ภายในดวงตา ยิ่งมารู้ว่ากำพร้าพ่อแม่ด้วยแล้ว อืม...อธิบายความรู้สึกไม่ถูก
ก็หวังว่าปรายคงจะมีโอกาสไปที่ดอยวาวีซักครั้ง...

พี่โดมดูซิ น้องเปเปอร์มิ้นท์ยังยิ้มได้อยู่เลย ในขณะที่โลกภายนอกกำลังร้องไห้...

ป.ล.น้องเค้าจะเรียกปรายได้มั้ยนะ ถ้าเรียกพี่โดมว่าลุงโดมแล้วจะเรียกปรายว่าอะไรดีล่ะ ...อิอิ


โดย: ปราย IP: 118.172.178.35 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:41:38 น.  

 
สวัสดีจ้ะหนอน

เราได้รับรู้และมองเห็นประวัติศาสตร์หน้านี้ของประเทศไทยพร้อมๆกันกับพี่น้องชาวไทยส่วนใหญ่ที่ติดตามเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนอาจพูดได้ว่านี่คือความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และความพ่ายแพ้ของชาวไทยทุกฝ่าย

ก็ได้แต่ขอให้สิ่งดีๆคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว

เราจะมีวิธีมองโลกอย่างใดในประโยคที่ว่า "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ"

ขอให้เลือกหามุมมองกันเอาเองก็แล้วกัน

สวัสดีครับคุณฝนดอกไม้

เรื่องบล็อกหรือบ้านของเรานั้น เราตกแต่งตามสบาย เพียงแต่รู้จักวิธีทำก่อนเท่านั้นเองจากง่ายๆจนไปถึงมีลูกเล่นแพรวพราวขึ้น

ผมจำได้ครั้งแรกที่ผมทำบล็อกที่บล็อกแก๊งนั้น ผมใช้วิธีโทรศัพท์ถามขั้นตอนแต่ละอย่างจากคุณสเลเต ซึ่งเธอเขียนบล็อกอยู่ก่อน

ผมรู้สึกสนุกและตื่นเต้นมากที่ค่อยๆนำรูปลงบล็อกได้ เพราะแรกๆบล็อกผมมีแต่ตังหสังสือเปล่าๆ ไม่มีรูป ไม่มีเพลง ไม่มีอะไรเลย

ก็ค่อยๆเรียนรู้ไป
สร้างบ้านตามใจผู้อยู่ สร้างบล็อกตามใจเจ้าของ

ขอบคุณที่อุดหนุนหนังสือ ที่ดีใจมากกว่าคุณซื้อ คือเมื่อคุณได้อ่าน

เพราะหนังสือนั้นจะมีประโยชน์ต่อเมื่อได้อ่าน
และการเขียนหนังสือแบบผมนั้นก็คือการสื่อสารจากตัวเองไปถึงผู้อื่นนั่นเอง

มีหนังสือเกี่ยวการเขียนอีกเล่มหนึ่งที่ผมชอบมาก แต่ไม่รู้ว่าคูณจะชอบหรือเปล่า
หนังสือเล่มนั้นชื่อเชื่อในหัวใจ เขียนให้ถึงแก่น เขียนโดย นาตาลี โกลด์เบิร์ก แปลโดย บุลยา สำนักพิมพ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง จัดพิมพ์ ค่อนข้างจะหาซื้อยากสักหน่อย แต่คิดว่าก็ยังคงพอหาได้

สวัสดีครับกะว่าก๋า

ขอบคุณสำหรับคำชมเรื่องรูปถ่าย

ถ้าพูดกันตามจริงแล้ว ผมถ่ายรูปสู้คุณไม่ได้เลย (ไม่ได้ยกยอกันให้เสียคน)

แต่ผมชอบตัวเองที่ทุกวันนี้ผมยังชอบถ่ายรูปอยู่เสมอ ไม่ว่าเห็นอะไรก็ยังอยากเก็บมาเป็นภาพ

ผมมีเพื่อนที่เป็นช่างภาพระดับมืออาชีพหลายคน ฝีมือดีๆทั้งนั้น แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป บางคนแทบไม่ได้จับกล้องเลย การงานของเขาก็เปลี่ยนไป

ทั้งที่ตอนแรกผมเริ่มซื้อกล้องเพราะผมชอบถ่ายรูป และยังชอบถ่ายอยู่เรื่อยๆ และดีใจที่ผมยังได้ถ่ายรูป ทั้งเป็นงานและเป็นของเล่น
ทั้งที่ฝีมือการถ่ายของผมก็งั้นๆแหละ

เวลามีใครชมเรื่องถ่ายรูปสวยเลยมักอดดีใจไม่ได้


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:12:01 น.  

 
สวัสดีครับคุณบินหลาแสนสวย


แหมเช้าวันนี้ผมรู้สึกคึกคัก เพราะอาจจะมีคนเข้าบล็อกในเวลาใกล้เคียงกัน อย่างน้อยก็สองคน

โถ...อย่ายกย่องให้ผมเป็นถึงอาจารย์เลยครับ ผมเองก็ยังต้องฝึกฝนการเขียนและให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ

การเขียนหนังสือของแต่ละคนนั้นอาจมีจุดเริ่มต้นแตกต่างกัน

บางคนมีแรงปรารถนาภายในที่จะเขียน

บางคนมีแรงจูงใจภายนอกที่จะเขียน เช่นชื่อเสียง เงินทอง หรืออยากเห็นผลงานของตัวเองออกมาเป็นเล่ม

บางคนก็มีทั้งแรงปราถรนาภายในและแรงจูงใจภายนอกประกอบกัน

ไม่ว่าจะเขียนด้วยแรงอะไรก็ตาม ถึงที่สุดตัวผลงานที่เขียนออกมานั่นแหละจะเป็นตัวชี้วัด

จะว่าไปแล้วผมก็เพิ่งกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้งก็เมื่ออายุสี่สิบกว่าแล้วนะครับ

ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น

สวัสดีจ้ะหนูปราย

ที่เห็นเด็กน้อยคนนี้ในตอนแรก เธอถูกกระเตงอยู่กับหลังของยายที่ตลาด

ตามประสาคนชอบถ่ายรูปก็อดถ่ายไม่ได้ (หน้าตาเธอจะมอมแมมอยู่เสมอ)

ได้รับรู้ข่าวสดๆร้อนๆขณะนั้นว่าเธอเพิ่งจะกำพร้า เพราะพ่อแม่มาทำงานอยู่กรุงเทพฯ และแม่ก็มาเสียชีวิตเสียที่กรุงเทพ

ตอนนี้เธอยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

แต่วันหนึ่งพอสร้างบ้าน "ชีวาโดม" เสร็จ เมื่อย้ายมาอยู่ก็ได้อยู่ใกล้ๆบ้านเด็กน้อยผู้นี้
และจะได้เห็นเธออยู่เป็นประจำ

ตอนนี้ได้ข่าวว่าตากับยายอยากขายบ้านหลังที่อยู่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าขายได้หรือยัง ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:25:06 น.  

 
เด็กก็คือเด็กค่ะพี่โดม วันนี้อาจจะยังไม่เข้าใจอะไร แต่เมื่อน้องเปเปอร์มิ้นท์
โตขึ้นวันเวลาก็จะสอนเรื่องราวรอบตัวต่างๆขนานไปกับอายุของตัวเธอเอง...

ก็หวังว่าเมื่อน้องเปเปอร์มิ้นท์โตขึ้นจะได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีงามและสวยงามในชีวิต แต่ก็อดคิดแทนเธอไม่ได้จริงๆ ว่าสักวันจะต้องมีคนถามเธอว่า...

มิ้นท์พ่อแม่เธอไปไหน
ทำไมเธอไม่มีพ่อแม่...

ปรายขอรูปน้องเปเปอร์มิ้นท์1 ใบนะคะพี่โดม



โดย: ปราย IP: 113.53.114.79 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:42:45 น.  

 
เห็นพูดคุยเรื่องงานเขียน หนังสือเกี่ยวกับการเขียน ที่จริงมีหลายเล่มมากในร้านหนังสือ ระดับความยากง่ายก็แตกต่างกัน

หนังสืออีกเล่มที่หนอนฯ คิดว่าสร้างแรงบันดาลใจสำหรับการเขียนได้เป็นอย่างดี และอ่านได้ง่าย ๆ เหมาะที่จะเริ่มต้นค่อยเป็นค่อยไปตามธรรมชาติ ก็คือ "นักอยากเขียน" ของ ศุ บุญเลี้ยง ที่จริงหนังสือเล่มนี้จะเหมาะกะเด็กวัยรุ่น แต่สำหรับคนรักงานเขียน คิดว่าวัย...ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ :)

พ่อพเยียคะ

บ้านเมืองได้รับบทเรียนราคาแพง แต่ถึงเวลานี้ ก็คงไม่ใช่เวลาที่จะใช้อารมณ์ก่นด่ากัน แต่เป็นเวลาที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันซ่อมแซมสร้างบ้านหลังนี้ของพ่อต่อไป ด้วยการพยายามมองหาความดีงามของกันและกันใช้สติและปัญญานำทาง เพราะถึงอย่างไรแล้ว ชอบหรือไม่ชอบ ถูกใจหรือไม่ถูกใจ รักหรือไม่รัก ที่สุดแล้วเราก็ยังต้องอยู่ร่วมกันในบ้านหลังนี้ของพ่ออยู่ดี หลายสิ่งหลายคงต้องการเวลาในการเยียวยาและเปลี่ยนแปลงค่ะ



โดย: หนอนฯ IP: 58.9.177.208 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:43:46 น.  

 
ด้วยความเป็นมือสมัครเล่นในการถ่ายภาพ
ผมคิดเหมือนพี่เลยครับ
ว่าเพราะเรารักในสิ่งที่เราทำ
เราเลยทำได้เรื่อยๆและสนุกกับมันตลอดเวลา

ในขณะที่มืออาชีพมีเรื่องของ "งาน" เข้ามาเป็นกรอบ
บางครั้งไม่อยากทำ แต่ต้องรับงานชิ้นนั้นมาทำเพราะมันเป็นอาชีพ

ผมเลยดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นนักเขียน ไม่เป็นนักดนตรี ไม่ได้เป็นนักทำงานด้านศิลปะ ไม่ได้เป็นตากล้อง

พอไม่ได้เป็นมืออาชีพ เลยมีความสุขกับทุกสิ่งที่ทำจริงๆครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:03:05 น.  

 



แทนความรู้สึกด้วยเพลง สันติ ๒๕๕๓ โดย สุรชัย จันทิมาธร


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:19:30 น.  

 
พี่...โดมครับ

ชายก็พยายามหัดทำ หัดเขียน หัดสร้าง ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง บ้างอย่างเอา code ลงแล้วแต่มันไม่ขึ้นครับ

เมื่อวาน น้าสุด ไปเกาะสมุย แต่ชายไม่ได้ไปส่ง เลิศเป็นคนไปส่ง

การซ้อม.....ไม่เหมื่อนการสร้างใหม่...ครับพี่โดม


โดย: กาแฟ..ชา..ย วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:09:13 น.  

 
สวัสดีค่ะพ่อพเยีย

คืนนี้ยังคงร้อนมากเหมือนเช่นทุกวันในเดือนเมษายน เปิดพัดลม ก็เหมือนกันพัดพาลมร้อนเข้าหาตัว ในหมู่บ้านสัดสรร หาต้นไม้ได้น้อยมาก เนื่องจากไม่มีเนื้อที่ในการปลูก หากการได้ไปอยู่บนดอย มีต้นไม้น้อยๆ รายล้อม คงคลายร้อนใจ ร้อนกายไปได้เยอะเลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในเรื่องการเขียน ที่สำคัญคือ ยังคงรักษาความอยากเขียนเอาไว้ และจะหมั่นดูแลให้มันเติบโตจนกลายเป็นนิสัยที่ต้องเขียนทุกวัน และการมาเขียน comment ในบล๊อกของคุณโดม ก็เป็นการช่วยให้ได้เขียนทุกวันอย่างหนึ่ง

และการซื้อหนังสือ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" ไม่เคยคิดว่าเป็นการอุดหนุนเลยค่ะ เพราะคิดว่าจะได้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือเล่มนั้นๆ ซึ่งเราดูแล้วว่า อยากจะอ่าน จึงได้ซื้อหามาอ่าน เพราะว่า เงินทอง (ของนอกกาย) นั้นหายากค่ะ จะใช้จ่ายอะไรต้องคิดสักหน่อย จะได้มีเอาไว้ซื้อหาหนังสือที่เราชอบๆ อีกหลายๆ เล่ม ทุกวันนี้ที่ออกไปทำงาน ก็เพื่อเอาเงินมาซื้อหนังสืออ่านนี่แหละค่ะ การอ่านช่วยเราได้หลายเรื่องค่ะ คุณโดมคงทราบดี อ่านหนังสือดี ก็เหมือนเรารับสิ่งดีๆ เข้าร่างกาย ส่งผลให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ
ตอนนี้อ่าน "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" ถึงฉบับที่ 6 แล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณบินหลาแสนสวย
เรามาพยายามไปพร้อมๆ กันนะคะ ชื่อคุณไพเราะมากๆ เคยเห็นผ่านตาหลายครั้งแล้ว แต่มิได้ทักทายเป็นเรื่องราว ขอบคุณที่ทักทายกันนะคะ และหวังว่า จะได้ไปทักทาย comment ที่บล๊อกของคุณบินหลาเร็วๆ นี้

สวัสดีค่ะ คุณหนอนฯ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องหนังสือด้วยนะคะ แม้จะมิได้แนะนำโดยตรง แต่ก็ขอน้อมรับไว้ด้วยความจริงใจ

ตอนนี้กำลังเขียนไปเรื่อยๆ เขียนสิ่งที่อยากเขียน สิ่งที่อยากบอกตนเอง ช่วงนี้กำลังขยันอ่านหนังสือเลยค่ะ เพราะตัวเอง เป็นคนต้นทุนน้อย ต้องหามาใส่ให้มากกว่าเดิม

ชอบถ่ายรูปเหมือนกันค่ะ พกกล้องดิจิตอลติดกระเป๋าไว้ แม้ตัวจะไปทำงานก็ตาม หนักจนไหล่ปวดแล้วล่ะค่ะ ด้วยความที่กลัวพลาด พกทั้งหนังสือ พกกล้อง และสารพัดของผู้หญิงๆ ทั้งหลาย คงต้องมีการสะสางแล้วล่ะค่ะ





โดย: ฝนดอกไม้ IP: 124.121.237.150 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:52:49 น.  

 
"มีหนังสือเกี่ยวการเขียนอีกเล่มหนึ่งที่ ผมชอบมาก แต่ไม่รู้ว่าคูณจะชอบหรือเปล่า
หนังสือเล่มนั้นชื่อเชื่อใน หัวใจ เขียนให้ถึงแก่น เขียนโดย นาตาลี โกลด์เบิร์ก แปลโดย บุลยา สำนักพิมพ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง จัดพิมพ์ ค่อนข้างจะหาซื้อยากสักหน่อย แต่คิดว่าก็ยังคงพอหาได้"

ถ้าเป็นหนังสือที่คุณโดมชอบมาก คิดว่าตัวเองคงจะชอบเหมือนกัน ก็ขนาดตัวอักษรของคุณโดม เรายังชอบมาอ่านกันเลย

เอาไว้เมื่ออ่าน "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" จบแล้ว จะไปหามาอ่านนะคะ คิดเหมือนกันว่า คงจะหายากสักหน่อย เพราะเห็นชื่อสำนักพิมพ์แล้ว คิดว่า ไม่ค่อยเห็นหนังสือของ สำนักพิมพ์นี้บ่อยนัก นอกจากเราจะไปงานสัปดาห์หนังสือที่จะมีแน่นอน

ฝากถึงคุณบินหลาแสนสวย เราไปหามาอ่านกันนะคะ


โดย: ฝนดอกไม้ IP: 124.121.237.150 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:03:56 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณโดม

ว้าว! บล็อกนี้อบอุ่นไปด้วยมิตรภาพจากเพื่อนดีจังค่ะ นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของบล็อกนี้นะคะ

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณาแนะนำหนังสือมาให้เรื่อย ๆ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

วันนี้ ได้ไปที่ร้าน B2S ในห้างบิ๊กซีของปัตตานีแล้ว ลองหาในร้านไม่พบ สอบถามทางพนักงาน เขาถามกลับมาว่าคุณเขียนชื่อหนังสือผิดรึเปล่า ทำเอาเป็นงงไปเลยสิเรา

แถวนี้เป็นอะไรที่มักหาหนังสือที่ต้องการไม่ค่อยได้เพราะมีแต่ร้านหนังสือเล็ก ๆ ขายกันแต่คู่มือการเรียนของเด็ก หนังสือพิมพ์ นิตยสารหรือนวนิยายเป็นหลัก ขนาดนามปากกาของจานโจ๊กยังหาไม่ได้เช่นกัน รวมทั้งของคุณโดมด้วยค่ะ ที่ทราบเพราะเคยไปสอบถามที่ร้านซีเอ็ดแถวยะลา ช่วงที่เห็นเพื่อน ๆ ในบล็อกนี้คุยกันเรื่องหนังสือ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" ก็คิดว่ายังพอมีทางที่จะลองไปหาที่หาดใหญ่อีกต่อไปค่ะ

ถึงจะไม่ได้เล่มที่ต้องการ ก็ยังโชคดีที่ได้หนังสือ "เมื่อยักษ์ตื่น" ของคุณสิริลักษณ์ ตันศิริ นักโมติเวทหญิงคนแรกของไทยเรา ดูสิคะ... แรงบันดาลใจจากเธอนี่สำคัญมากทีเดียว เพียงได้อ่านตัวอักษรไปไม่กี่หน้า ยังอ่านไม่จบดีด้วยซ้ำก็ทำให้คึกคักตาสว่างจนล่วงถึงตีสามกว่าเข้าไปแล้ว ยังไม่ได้นอนเลยค่ะ 555


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.5 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:15:46 น.  

 
ถึง คุณหนอน ฯ

ต้องขอขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่กรุณาแนะนำหนังสือมาให้อ่านกัน

ลูกสาวเขาเห็นแม่ไม่ได้ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำซะที คงคิดประสาเด็กประถมสี่ในขณะนั้นว่าเราคงไม่มีคู่มือเหมือนกับเป็นตำราในการเรียน ก็เลยยืมหนังสือเกี่ยวกับการเขียนมาจากห้องสมุดของโรงเรียนมาให้บ่อยมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งถึงขนาดต้องถือเอาไว้ข้างนอกกระเป๋าเพราะเล่มใหญ่และหนามาก เรางี้ก็สงสารว่าลูกช่างมีน้ำใจ ตัวเขาก็ผอมมากด้วย อีกอย่างพออ่านหลายตำราทีนี้ชักเป็นวิชาการมากเข้าทุกที เลิกดีกว่าค่ะ


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.5 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:27:00 น.  

 
ถึงคุณกะว่าก๋า...

เห็นด้วยกับคุณโดมนะคะว่าคุณถ่ายรูปได้สวยมากทุกรูปที่ลงให้ชมกัน ลูกชายของคุณรึเปล่าคะ หน้าตาน่ารักทีเดียว ภาพทุกใบเหมาะสำหรับนำไปต่อยอดทำโปสการ์ด อัลบั้มหรืออื่น ๆ อีกมากมาย

ไม่ทราบเป็นไงนะคะ ดูหน้าน้องทุกทีทำให้อมยิ้มได้ นัยน์ตาของน้องได้สื่อสารบอกเล่าเรื่องราวอะไรบางอย่างที่ดี ๆ ให้คนชมภาพได้นำไปคิดต่อได้น่ะค่ะ อย่างน้อยก็มองเห็นความสุข สดใสตามวัยของเขา

อีกคนที่เข้าทีทีเดียวคือลุงแว่น เพราะช่างสรรหาภาพที่เหมาะเจาะกับคำบรรยายด้วยกลอนดีจัง


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.5 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:36:48 น.  

 
ถึงคุณฝนดอกไม้...

นามแฝงของคุณก็ไพเราะเช่นกันค่ะ คงจะดีนะเพราะภาคใต้ฝนตกบ่อย ๆ แล้วหากเม็ดฝนเมื่อกระทบถึงพื้นเปลี่ยนกลับกลายไปเป็นดอกไม้สีสวยนี่ไทยคงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกทีเดียว

ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ คงเพราะตัวจริงไม่สวยมังคะ ก็ต้องพยายามหาชื่อที่ไพเราะเกินตัวเอาไว้ก่อน ถือเอาเคล็ดน่ะค่ะ คงเหมือนคนที่ชื่อ "จะรวย" อย่างนี้ไม่เอา เปลี่ยนเป็น "มารวย" ดีกว่าเห็น ๆ นะเนี่ย

ขอบคุณสำหรับเรื่องการแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการเขียนด้วยค่ะ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พี่ชอบมาที่นี่ เพราะเพื่อนของคุณโดมทุกคนเป็นคนมีน้ำใจดีนี่เอง


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.183.5 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:48:40 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม

สวัสดีครับพี่บินหลาแสนสวย

หมิงหมิงเป็นลูกชายผมเองครับกำลังจะครบ 2 ขวบเต็มในเดือนหน้านี้แล้วครับ












ปล. พี่โดมครับ
ผมขออนุญาตฝากเพลงที่ผมแต่งและร้องเอาไว้
เขียนถึงสถานการณ์ในวันที่ 19 ที่ผ่านมาครับ


ขออนุญาตลงเนื้อเพลงประกอบเอาไว้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับพี่












:: เมืองไทยยังดีงาม ::



เนื้อร้อง – ทำนอง : กะว่าก๋า




น้ำตายังคงอาบไหล
เลือดหยดสุด ท้าย...ยังไหลริน
เพื่อนเอ๋ย...ฟังไม่ได้ยิน
เสียงกระสุน บิน..กลบเสียงหัวใจ




ก่อนนี้ที่เราเคยรัก
ก่อน แตกหัก...ไร้สามัคคี
เมืองเอ๋ย..เมืองไทยวันนี้
ต่างคนย่ำยี...ด้วย ความแตกต่างทางการเมือง



+ โลกหมุนไม่เคยย้อนคืน
เจ็บช้ำ กล้ำกลืนฝืนทนกันไป
ใจคน...หนอช่างโหดร้าย
ก่อความวุ่นวาย...ทำลายตัว ตน




++ หยุด...ใช้ความรุนแรง
ช่วยกันส่องแสงแห่งรัก เถิดหนอ
ถอยคนละก้าวก็พอ
ถักทอความรักในใจคนไทย



+++ เริ่มต้น...กันใหม่ดีไหม
จับมือร่วมใจ...ร่วมสามัคคี
จบ..แล้วเริ่ม อีกที
เมืองไทยเรานี้ ... ยังดีงามเอย



จบ...แล้วเริ่มอีก ที
เมืองไทยเรานี้ยังดีงามเอย







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:53:29 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน


ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่ทำให้บล็อกนี้อบอุ่นและเป็นมิตร

วันนี้ผมยุ่งจริงๆ เคาะคีย์บอร์ดไปพร้อมๆกับเสียงช่างที่กำลังสะกัดพื้นห้องน้ำ

ปลีกตัวมาทำงาน ให้ "พวกบ้าน"เป็นคนดูช่างบ้าง


แลขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับกะว่าก๋าที่เอาเพลงดีๆมาฝาก





โดย: พ่อพเยีย วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:52:12 น.  

 
คุณบินหลาฯ คะ

อ่านหลักการเพื่อรู้หลักเล็ก ๆ น้อย ๆ หนอนฯ ไม่คิดว่าหลักการพวกนั้นจะช่วยอะไรได้จริงจังถึงขั้นทำให้คนเป็นนักเขียนได้

อย่างไรแล้วก็อย่างที่พี่โดมเคยว่า ถ้าอยากเป็นนักเขียนก็ต้องลงมือเขียนเท่านั้นแหละค่ะ ไม่มีเส้นทางลัด

ลูกสาวน่ารักจัง ทำให้คิดถึงลูกสาวตัวเอง พอเห็นแม่สนใจอะไร ก็อดไม่ได้ที่จะยืมหนังสือจากห้องสมุดมาให้อ่านค่ะ


โดย: หนอนฯ IP: 58.11.34.180 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:42:24 น.  

 
ลืมบอกค่ะ

ที่แนะนำคุณบินหลาฯ นั้น แนะนำได้ แต่ตัวเองไม่ได้เป็นนักเขียนค่ะ

คงเหมือนใครหลาย ๆ คนในที่นี้ที่เคยคิด เคยอยากเขียนหนังสือ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยถึงเวลานี้ ก็ยังเป็นแค่คนอ่านหนังสืออ่ะค่ะ

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกาลเวลาค่อย ๆ เจือจางฝันที่เข้มข้นให้บางเบาลง

แต่ยินดีเสมอที่รู้ว่ามีใครอยากเขียนหนังสือ มีความสุขที่ได้เชียร์คนให้เขียน (และอ่าน) หนังสือค่ะ :)


โดย: หนอนฯ IP: 58.11.34.180 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:54:59 น.  

 
เรียนคุณโดม

อ่าน "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" จบเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาอ่านหนึ่งวัน ไม่นับเวลาทำงานบ้านในวันอาทิตย์ตามปกติ

ถามว่า ได้ประโยชน์หรือไม่ ย่อมได้เสมอ ไม่มีอะไรไม่มีประโยชน์ถ้าเราหยิบจับเอามาใส่ใจ ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ


โดย: ฝนดอกไม้ IP: 115.87.104.217 วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:56:16 น.  

 
ฝนตกแบบนี้คิดถึง..ทะเลจัง..

ดอยวาวี.. สบายดีไหมค่ะ

กรุงเทพ... วันนี้ เย็นขึ้นเยอะเลย

พายุไฟ เพิ่งผ่านไป วันนั้นต้องพก ..สติ.. ติดตัวตลอด และดูแล ไม่ให้ สติแตก

พายุฝนแวะมาทักทายอยู่ 2-3 วันแล้ว วันนี้ต้องเปลี่ยนมาพก ร่ม แทน..


.....
..
.
ฟ้าหลังฝน ..มักจะงดงามเสมอ ใช่ไหม??

รักษาสุพภาพด้วยนะคะ


โดย: HHG วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:31:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับทุกๆท่าน


ดีใจจังเวลาที่เห็นคนที่มาบล็อกนี้ทักทายและพูดคุยกัน นั่นแปลว่ามิตรภาพนั้นแตกกิ่งก้านได้เอง

เห็นคอมเม้นท์ของแต่ละคนทำให้อยากเขียนตอบเป็นอยากรายบุคคลทั้งนั้นเลย

แต่ในช่วงนี้ขืนมานั่งตอบคอมเม้นท์อย่างที่อยากเขียน มีหวังทำอะไรไม่ทันแน่

แต่ก็อดคลิกเข้ามาอ่านไม่ได้

อยากบอกว่านักเขียนเล็กๆอย่างผมนั้น มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเม้นท์จากผู้อ่าน

ถึงแม้จะไม่ใช่คนอ่านเรื่องประจำของผมก็ตามที

อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่ชอบพุดคุยเป็นตัวหนังสือนั่นแหละครับ

จึงทำให้เขียนบล็อกยืดเยื้อมาหลายปี

ไม่อยากบ่นเรื่องช่างหรอก แต่ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน

เพราะงานไม่เป็นไปตามที่เขาพูดไว้
คือทำไม่ได้อย่างที่พูด (ราคาคุย)

เดิมทีห้องน้ำชั้นบนผมมีข้อเสียเล็ก ๆน้อย ๆเท่านั้น

แต่เมื่อแก้ไขกลายเป็นบานปลาย เสียหายเพิ่มขึ้น
คือทำให้เสียเพิ่มแล้วก็ตามแก้

นี่เขาทำชักโครกห้องน้ำข้างบนผมแตกด้วย - - จะไปปรับเขาก็ทำไม่ลง ก็ได้แต่ตัดใจซื้อใหม่
ทั้งที่ตั้งใจว่าซื้อชักโครกใหม่เพื่อเปลี่ยนห้องน้ำข้างล่างอย่างเดียว

ห้องน้ำข้างบนซึ่งไม่ได้ใช้งานมาหลายปีเครื่องสุขภัณฑ์ยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย (เพราะทำเป็นห้องเก็บของ)

แต่ท่อน้ำที่ช่างสร้างบ้านเดินไว้ไม่ค่อยดี คิดว่าจะแก้จุดนี้จุดเดียว กลับบานปลาย

เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นปูกระเบื้องพื้นใหม่แล้ว

โชคดีที่เตรียมใจไว้รับสถานการณ์ล่วงหน้า

แต่เมื่อได้เห็นความตั้งใจที่พยามแก้ไขตามที่เราบอกก็อดสงสารเขาไม่ได้

ถ้าผมปล่อยให้เขาแก้ไขให้เรียบร้อยแล้วจ่ายราคาตามที่ตกลงกันไว้

มีหวังเขาเหนื่อยไม่คุ้มค่าแรงแน่...

เพราะแรงส่วนหนึ่งเขาหมดไปกับการทำผิดพลาด และอีกแรงหนึ่งหมดไปกับการตามแก้สิ่งที่ตัวเองทำผิด (แค่นี้ก็หมดวันแล้ว)

มองช่างคนนี้ทำงานทำให้ได้ย้อนมาดูพฤติกรรมตัวเองหลายอย่างที่ผ่านมา

นึกถึงในช่วงที่ดำเนินชีวิตผิดพลาดเพราะขาดสติ

จะว่าเพราะความประมาทหรือความไม่รู้ก็ได้,

ความไม่รู้ก็คือความไม่ฉลาด,หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่าความโง่นั่นเอง !

การสร้างซ่อมแซมบ้าน,หรือห้องน้ำ หากทำผิดพลาดก็แก้ไขใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก

แต่การดำเนินชีวิตผิดพลาดนั้น กว่าจะแก้ไขให้เดินตรงทางนั้นต้องใช้เวลานานพอสมควร

เพราะบางทีมันเดินจากจุดเดิมไปไกลมาก ต้องย้อนกลับมาเริ่มต้นมานับใหม่

ชีวิตที่เริ่มต้นด้วยศูนย์ยังไม่ลำบากเท่ากับชีวิตที่เริ่มต้นด้วยติดลบ


หลายวันทีผ่านมาบอกกับตัวเองว่าโชคดีที่เราได้เรียนรู้เรื่องธรรมะเล็กๆน้อยๆมาบ้าง

จึงทำให้เผชิญกับปัญหาเล็กๆน้อยๆในช่วงการซ่อมแซมบ้านได้อย่างไม่ทุลักทุเลนัก

- ผมเตรียมใจไว้พร้อมว่าจะต้องพบกับสถานการณ์ความไม่พอใจกับการทำงานของช่าง

- ใช้หลักเมตตามาช่วยแปรความรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจบางทีถ้าสติไวก็ใช้ตามรู้ให้ตรงสภาวะนั้น ๆ

- นึกถึงใจเขาใจเรา เขาเองก็ไม่อยากจะทำผิดหรือต้องเหนื่อยมาก แต่ฝีมือเขามีเท่านี้

- เราทำใจพร้อมที่จะยอมเสียเปรียบเล็กๆน้อยๆเวลาให้เขาไปเป็นผู้ซื้อวัสดุ

ถ้าไม่อยากโดนเล็กๆน้อยๆก็ต้องเดินไปซื้อเอง

ผมได้พบว่าการที่ทำใจยอมเสียเปรียบนั้นสบายกว่าคิดอยู่ตลอดเวลาว่ากลัวจะถูกเอาเปรียบ

แต่บอกตรงๆว่ารู้สึกใจอ่อนก็ตอนที่เห็นเขาตัดกระเบื้องฝุ่นฟุ้ง เหงื่อโทรมกาย เนื้อตัวมอมแมมมากว่าที่ควรจะมอม

ถึงวันนี้ก็เลยทำใจว่าเราต้องร่วมงานกันจนกว่าจะเสร็จ

ผิดตรงไหนก็บอกเขาว่าค่อยๆแก้ไขไป ท้ายสุดผมต้องได้งานตามที่มันควรจะเป็น

คือหลังคาต้องไม่รั่วซึม
ห้องน้ำต้องใช้ได้ตามปกติ สวยงามตามสมควร


ผมตกลงกับภรรยาว่าจะไม่ตำหนิช่าง แต่จะบอกกับเขาดีๆว่าอันนี้ ช่วยทำให้ใหม่หน่อยเถอะน่าจะดีกว่า

สรุปแล้วสิ่งที่ได้อ่านจากหนังสือหรือเรียนรู้มาจากชีวิตจริงก็ได้มาใช้ในการซ่อมแซมบ้านครั้งนี้ไม่น้อย

ไม่รู้ว่าคุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้ไหม ประเภทว่าของเราเสียเท่านี้แต่พอซ่อมแล้วเสียเพิ่มมากขึ้นแล้วก็ต้องแก้อันใหม่ด้วย ประมาณนี้แหละ

โชคดีที่ภรรยาผมไม่บ่นซ้ำ แต่เธอเข้าใจ เลยทำให้เรื่องที่ทำท่าจะหนักใจกลายเป็นเบาใจไปได้

ผมดูร่องรอยที่ช่างสะกัดพื้น ผ่าผนังห้องน้ำบ้าง ฝุ่นฟุ้งเต็มบ้านแล้วบอกกับภรรยาว่า..

ดูข่าวทางทีวีเห็นบ้านพี่น้องชาวไทยในย่านบ่อนไก่ ราชประสงค์หรือห้างร้านต่างๆที่ถูกเผาเดือดร้อนหนักหนาสาหัสกว่าพวกเรามากมาย

ทั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้ทำความผิดอะไรเสียหน่อย
และยังไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องความเสียหายจากใครได้

เมื่อหันกลับมาดูเรื่องปัญหาการซ่อมบ้านเล็กๆน้อยๆของเราแล้ว มันเล็กยิ่งกว่าผงฝุ่นเสียอีก.






โดย: พ่อพเยีย วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:56:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.