จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
พ่อผมเป็นกวี (1)























พ่อผมเป็นกวี (1)



ตั้งแต่ผมเขียนหนังสือมานานพอสมควร ผมแทบจะไม่เคยเขียนเรื่องราวของพ่อเลย ผมเองก็ไม่เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไร?

เรื่องของแม่นั้นยังเคยเขียนเป็นเรื่องสั้นบ้าง หรืออาจจะเป็นเพราะพ่อผมไม่ได้เป็นนักเขียนชื่อดังอย่างมนัส จรรยงค์ และพ่อผมก็ไม่ได้เป็นกวีมีชื่อโด่งดังอย่าง ชิต บุรทัต หรือกวีซีไรต์อย่างเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

พ่อผมเป็นเพียงกวีนิรนามที่ไม่มีใครรู้จัก ผลงานซึ่งส่วนมากเป็นโคลง กลอน นิราศ ก็ไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่ไหน (มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร "ฟ้าเมืองไทย" (อาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นบรรณาธิการ) คือเรื่อง ฉันรักสว่างอารมณ์ ซึ่งผมเป็นผู้ส่งไปให้ นอกจากนั้นนิราศของพ่อก็แพร่หลายอยู่ในแวดวงลูกหลานและเพื่อน ๆ ครูเท่านั้นเอง)

ถึงกระนั้นพ่อก็มีชื่อสำหรับเขียนกลอน เขียนนิราศของพ่อเหมือนกัน นิราศทุก ๆ เรื่องที่พ่อเขียนเสร็จแล้วจะมีชื่อกำกับไว้ว่า ส. เขียนประเสริฐ ซึ่งมาจาก สัมฤทธิ์ เขียนประเสริฐ ของพ่อนั่นเอง

ตอนที่ผมเป็นเด็ก ๆ ผมไม่ได้รู้สึกว่าพ่อเป็นวีรบุรุษในหัวใจผมเลย พ่อเป็นข้าราชการครูบ้านนอก แม่ผมเป็นแม่ค้าขายขนม พ่อกับแม่มีลูกถึง 9 คน (ถ้าลูกหนึ่งคนจนไปเจ็ดปี ก็ลองคูณเองก็แล้วกัน พ่อผมก็เลยยากจนมาตลอด เฉพาะลูก 9 คนก็จนแล้ว 63 ปี รวมกับที่จนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งจนกันไปใหญ่

แต่ถึงกระนั้นพ่อกับแม่ก็กัดฟันส่งลูกให้เรียนหนังสือกันเกือบทุกคน ใครอยากเรียนแค่ไหนก็ส่งแค่นั้น ผมเป็นลูกคนที่เจ็ดของบ้าน เรียนจบแค่ปกศ.ต้นในยุคปีพ.ศ.2518 ก็นับว่าพอที่จะประกอบอาชีพได้แล้ว(สมัยก่อนยังเรียกว่าวิทยาลัยครู ยังไม่เปลี่ยนมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏแบบสมัยนี้)

เรื่องโคลงกลอนของพ่อนั้นผมเคยได้ยินคนพูดถึงกันตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ๆ แล้ว และเริ่มได้อ่านบ้างเมื่อโตขึ้น นิราศหลายเรื่องต้องสูญหายไปเพราะพ่อย้ายบ้านบ่อย ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องโคลงกลอนเท่าไรนัก เพราะรู้สึกว่ามันเชย ๆ ยังไงไม่รู้ ยิ่งพ่อบอกว่าสมัยศรีปราชญ์คนในวังเขาพูดโต้ตอบอะไรกันเป็นโคลงกลอนกันหมด

ตอนนั้นผมจะชอบอ่านเรื่องสั้น นวนิยาย ถึงแม้โตขึ้นมาบ้างจะเขียนบทกวีบ้างแต่ผมก็ถนัดที่จะเขียนกลอนเปล่าไร้ฉันทลักษณ์(ผมเขียนขนาดมีบทกวีรวมเล่มกับเขาเหมือนกันแหละ แต่ผมเขียนฉันทลักษณ์ไม่เป็น)

ถึงแม้จะไม่ได้ชื่นชมในเรื่องโคลงกลอนของพ่ออย่างมากเมื่อตอนวัยเด็ก แต่ก็รู้สึกภูมิใจอยู่ลึก ๆ ว่าพ่อเป็นคนเขียนโคลงกลอนได้ ใครต้องการเขียนคำอวยพรให้ใครเป็นโคลงกลอนก็จะมาให้พ่อเขียนอยู่เป็นประจำ ผมเคยเห็นพ่อด้นโคลงสี่สุภาพสด ๆ ได้เวลาเมา ตามปกติพ่อจะชอบดื่มเหล้า เมื่อดื่มเหล้าไปแล้วก็จะใจดีกว่าปกติ

ในวัยเด็กผมจำได้ว่าผมไม่ค่อยรักพ่อเท่าไรนักจะรู้สึกรักแม่มากกว่า เป็นเพราะอะไรผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเริ่มหนุ่มนั้นผมเคยเถียงพ่ออยู่หลายครั้งหลายหนในเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีอยู่ประโยคหนึ่งผมยังจำติดหูอยู่ไม่หายเมื่อพ่อกล่าวตำหนิตัวเองว่า “เออ! พ่อมันเป็นนักปกครองที่อ่อนแอ ดุด่าว่าลูกไม่ได้เลยสักคน”

ในหมู่บ้านเล็กๆนับว่าพ่อของผมเป็นพ่อที่ใจดีคนหนึ่ง ลูกชายสองคนแรกที่พ่ออยากบวชก็ไม่ได้บวชสักคนเพราะเบียดกันเสียก่อน จนกระทั่งมาถึงผมซึ่งถือว่าเป็นลูกชายคนเล็ก ผมบวชเมื่ออายุครบบวชแล้วไปเป็นทหารเกณฑ์ พ่อยังแต่งกลอนบรรยายเหตุการณ์ในงานบวชให้ไว้เป็นที่ระลึก

เมื่อผมนำมาอ่านครั้งใด ภาพต่าง ๆ ในวันนั้นจะผุดขึ้นมาอย่างแจ่มชัด ผมขอยกตอนท้าย ๆ คือตอนลาสิกขามาให้พอเป็นตัวอย่างสักหน่อย


ยี่สิบสี่เมษาขอลาสิกขาบท
สละพรตพรหมจรรย์นอกพรรษา
ใกล้โอกาสการทหารคืบคลานมา
วันที่หนึ่งพฤษภาประจำกอง

เหล่าทหารตาคลีดีประกอบ
ด้วยนึกชอบเทอดทหารงานทั้งผอง
จะรบรับขับสู้ศัตรูปอง
ชาติเรียกร้องรับใช้ไม่เกรงกลัว

จะลำบากยากแค้นแสนสาหัส
ช่วยขจัดปราบศึกตื้นลึกทั่ว
ราชการทหารเกณฑ์บำเพ็ญตัว
เราผลัดหนึ่งซึ่งเป็นรั้วป้องกันภัย

ด้วยอำนาจวาสนาช่วยพาหนุน
ตอบแทนคุณเพื่อชาติมุ่งมาดหมาย
สละชีพเพื่อชาติอาจไว้ลาย
ขจรขจายเกียรติยศปรากฏนาน

ขอขอบคุณอีกครั้งยังฝังจิต
พรหมลิขิตขีดเส้นเป็นทหาร
ฝึกเรียนรู้เชิงรบประสบการณ์
ได้ชำนาญรบสู้ริปูพินท์

หลวงพ่อเคลือบ*อุ่นเครื่องเรื่องความรัก
ธรรมจักรธรรมมูลลุ้นถวิล
บนเหล้ายาปลาปิ้งสิ่งเคยกิน
อย่าราคินคุ้มคู่ครองคนต้องการ

หลวงปู่แหวนแคว้นเชียงใหม่เอาใจช่วย
ให้คนสวยใจสนพลทหาร
วุฒิชัย เขียนประเสริฐเลิศกลอนกานท์
จงบันดาลชื่อกระเดื่องรุ่งเรืองเอย





(*หลวงพ่อเคลือบเป็นพระดัง แม้จะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ชาวอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียงต้องรู้จักชื่อท่าน
ต้องการอะไรก็ใช้วิธีบนบานศาลกล่าว และสิ่งที่ใช้แก้บนนั้นประหลาดอย่างยิ่งคือเหล้าขาว )



(ยังมีต่อ)













พ่อชอบฟังเพลงฉ่อยและลำตัด






ในระหว่างที่สถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นอยู่เช่นนี้
ก็เหมือนจะรออะไรอยู่ ผมไม่รู้จะเขียนอะไร
ก็เลยเอาเรื่องที่เคยเขียนถึงพ่อไว้นานแล้ว
เรื่องนี้ยังไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหน
เลยเอามาให้อ่านกันเล่นๆ




Create Date : 02 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 16:35:21 น. 11 comments
Counter : 2383 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: amvarin วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:24:43 น.  

 
ชอบรูปเฮดอ่ะ..

ชอบตู้ไปรษณีย์

...................

พ่อพี่เก่งจัง...


โดย: ลายมือยุ่งๆของคนไม่มีเวลา วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:36:52 น.  

 

อ่านข้อความที่พี่โดมเขียน
แล้วนึกถึงพ่อของอุ้มขึ้นมา
อิอิอิ พ่ออุ้มก็เป็นกวีเหมือนกันค่ะ
ว่าแล้วนำภาพน้องหมิงหมิงกะน้องเอด้ามาแจมค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:02:30 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
เดี๋ยวนี้ตาคลีมีเซเว่นตั้ง 3 เซเว่น และที่ดีไปกว่านั้น
ที่ตาคลีมีมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าทางเทศมนตรีตาคลีเค้ากำลังพัฒนาหาอะไรใหม่ๆ มาลงที่ตาคลีอยู่เรื่อยๆ เกือบลืมค่ะมีดนตรีในสวนให้ฟังด้วย


โดย: ปราย IP: 118.172.183.183 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:14:15 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:41:35 น.  

 
คิดถึงพ่อหรือคะคุณโดม...
คนที่เกิดมาเป็นชาย ถือว่าโชคดีที่สามารถบวชได้
เห็นภาพคุณโดมตอนเป็นพระ รู้สึกดียังไงบอกไม่ถูก
เมื่อเดือนที่แล้ว กลับบ้านอุทัย แล้วมีพระธุดงจากวัดนาหลวง อุดรธานี มาพักอยู่ข้างบ้าน มีความรู้สึกว่า
ทำไมตัวเองไม่เกิดเป็นผู้ชายบ้างนะ..........
หลวงพ่อเคลือบเหรอ...อิอิ
เคยบนอยู่ และเพิ่งแก้บนด้วยการบวชชีพราหมณ์มา
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง!


โดย: nop IP: 222.123.238.124 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:56:10 น.  

 
สวัสดีครับคุณ nop

อยากรู้จริงๆว่าบ้านที่ทัพทันคุณอยู่ตรงไหนนะ

ผมเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับอาจารย์หมากเก็บ ที่สอนอยู่โรงเรียนทัพทันอนุสรณ์

ปัจจุบันเธอเปลี่ยนชื่อเป็นทิพากรแล้ว ได้ข่าวว่ายังใช้นามสกุลเดิมคือ สิทธิวีรธรรม

คุณเคยเรียนที่ทัพทันถึงชั้นอะไรนะครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:13:25 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม

ปิดหูปิดตา ชั่วคราวกับข่าวสารบ้านเมือง ขณะเขียนบล๊อคตอนนี้ แถวปทุมฝนตกหนักเชียวครับ ผมชอบเสียงฝนตกกระทบหลังคาสังกะสีสมัยก่อนยิ่งเวลานอนกลางคืนเหมือนเสียงดนตรีขับกล่อม เดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้ว
ลูกสาวพี่ได้เลือดเข้มของคุณปู่มาเยอะเชียวครับ


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:03:05 น.  

 
พี่..โดมครับ..

ต้นโมกเริ่มแตกยอดแล้วครับ

ส่วนที่ขุดมาทั้งต้น ก็อยู่ตัวแล้ว สาม สี่ วันนี้ไม่ได้ขายของ เพราะพาหนุ่ยไปนอนโรงพยาบาลตะกั่วป่า ผ่าตัดกระดูกข้อต่อตรงสะโพก วันนี้กลับมาบ้านแล้ว จะเปิดร้านวันที่ 5 นี้ครับ หนุ่ยสบายดี...


โดย: กาแฟ..ชา..ย วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:35:21 น.  

 
โธ่ พี่โดมน่ะ มีพ่อเจ๋งๆอย่างนี้
ทำไมไม่มาอวดตั้งนานแล้ว
เรื่องนี้อยากให้ลง "ริมรั้วหัวใจ"จัง รูปคลาสสิกอยากขโมยไปใส่กรอบ
ส. เขียนประเสริฐ โคตรเท่เลยค่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:30:46 น.  

 
เข้ามาฟังเพลงอิจฉาโดยเฉพาะค่ะ...


โดย: ปราย IP: 113.53.209.149 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:10:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.