Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 

อีกสักครั้ง



เรื่องสั้น...อีกสักครั้ง

 

วันนี้วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดิมและดวงเดียวที่กำลังแผ่รังสีลงมายังพื้นโลกเฉกเช่นทุกวัน ท้องฟ้าโปร่ง ไร้ก้อนเมฆบนนั้น ราบเรียบราวกับมีช่างฝีมือดี ทาสีฟ้าไว้เท่ากันทุกตำแหน่ง ผมเงยหน้าขึ้นรับกับรังสีความร้อนอันเข้มข้น ภายใต้แว่นกันแดด ดวงตาของผมจ้องจับไปยังกลุ่มควันสีดำที่กำลังลอยขึ้นไปตัดกับแผ่นสีฟ้าเบื้องบน

‘ต้องจากกันจริงๆ แล้วสินะ’

มีเพียงประโยคเดียวที่อยู่ในความรู้สึกทั้งหมดของผมตอนนี้

ผมยังคงจับตามองลำควันสีดำนั้นเนิ่นนาน ไม่รู้สึกถึงความร้อนจากรังสีดวงอาทิตย์ ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของบุคคลรอบข้าง แทบไม่รู้สึกถึงเหงื่อที่ทำให้เสื้อเชิ้ตสีดำดูเข้มขึ้นไปอีก เนิ่นนานจนกระทั่งผมคิดได้ว่า คงได้เวลาแล้วล่ะ ต่อให้ผมอยู่ตรงนั้นนานสักเท่าไร ก็ไม่ทำให้คนที่จากไปกลับมาหาผมอีกครั้ง

‘ตาล...กลับมาหาตูนอีกสักครั้งได้ไหม’

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากเรื่องราวหลังความตายมีจริง...นี่คือคำภาวนาครั้งสุดท้ายของผม ก่อนหันหลังให้กับสถานที่อันน่าหดหู่แห่งนั้น

‘ตูนสัญญาได้ไหม ว่าตูนจะไม่นอกใจตาล ถ้าเราไปกันไม่ได้จริงๆ บอกตาลก่อน ตาลไม่อยากสูญเสียความเป็นเพื่อนที่เราเคยมีให้กัน แต่ตาลก็อยากให้เรารักกันอย่างนี้ตลอดไป’ ดวงตากลมโตกระพริบถี่อย่างออดอ้อน ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มให้ราวกับเด็กอนุบาลได้รับไอศกรีมหลังตื่นนอนในตอนบ่าย

‘สัญญาสิครับ...สัญญาว่าตูนจะรักตาลคนเดียว’ ผมตอบกลับโดยไม่ลังเล ใครล่ะจะกล้านอกใจผู้หญิงที่น่ารักที่สุดตรงหน้าได้

ภาพความหลังยังคงย้อนมาในห้วงความคิด แม้ผมพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อจดจ่อกับเส้นทางที่ผมเคยชิน แต่ก็ไม่สามารถขับรถต่อไปได้จริงๆ ภาพตาลยังคงชัดเจนอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันนี้...วันที่ร่างของตาลไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป

ผมตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง มีวงดนตรีสด บรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำ คงช่วยให้ผมเลิกว้าวุ่นใจได้บ้าง จากนั้นผมสั่งกับข้าวสองสามอย่าง พร้อมเบียร์สดอีกหนึ่งเหยือก เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมนั่งตรงนี้ต่อไปได้อีกสักพัก

ผมกับตาลเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เราสองคนเป็นวิศวกร ผมนี่แหละตามจีบเขามาตั้งแต่ปีหนึ่ง พยายามเอาตัวไปใกล้ๆ ตลอด แต่ก็นั่นล่ะครับ ผมไม่เคยกล้าบอกตาลเลย พอขึ้นปีสอง ตาลเลือกเรียนภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ผมก็เลือกตามแม้จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับวงจรไฟฟ้ามาตั้งแต่มัธยมปลาย ผลการเรียนของผมกระท่อนกระแท่นตลอดสามปีหลังจากนั้น แต่นั่นทำให้เราสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะตาลจะทำหน้าที่เป็นติวเตอร์ให้ผมมาตลอด

หลังจากเรียนจบ เราต่างแยกย้ายกันไปทำงานคนละที่ แต่ก็ยังมีการติดต่อกันเรื่อยมา นัดกินข้าวกันบ้างบางครั้ง จนกระทั่งวันที่เรากลับมางานรับปริญญา ผมตัดสินใจบอกความในใจของผมทั้งหมด

‘ตาล ตาลรู้ใช่ไหมว่าระหว่างเรา ไม่ใช่แค่เพื่อน’

‘ก็...’ ตาลหยุดจังหวะการพูด แก้มเธอแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ‘พอจะรู้บ้าง’

ตอนนั้นในใจผมเต้นโครมคราม ตาลรู้ว่าผมคิดยังไงกับเธอ และผมรู้สึกได้ว่า ตาลก็คิดไม่ต่างจากผมเช่นกัน

‘ตาล ถ้าอย่างนั้น ตูนขอขยับสถานะเราไปอีกขั้น…เป็นแฟนกันนะ’

ตาลไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าเขินอาย นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับจุดเริ่มต้นสำหรับความสัมพันธ์ของเรา

เราสองคนคบกันในสถานะคนรัก ก็ธรรมดาเหมือนเช่นคู่รักคู่อื่น หวานกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง บางทีตัวติดกันตลอดหนึ่งสัปดาห์ แต่บางทีก็หายหน้ากันไปเป็นเดือน

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเราอีกสองปีถัดมา วันครบรอบที่ผมขอตาลเป็นแฟนพอดิบพอดี หลักเลิกงานเรามีนัดทานข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวหาดบางขุนเทียน ผมรีบออกจากที่ทำงานทันทีที่นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงเย็น ทำให้ไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดกับตาล สำคัญที่สุดตั้งแต่ที่เราคบกันมา แต่หลังจากรอไปครึ่งชั่วโมง ตาลก็ยังมาไม่ถึง ด้วยความใจร้อนผมก็ต่อสายไปหาตาลทันที

‘ฮัลโหลตูน...ตาลใกล้ถึงล่ะ รถติดมากๆ เลย ว่าแต่เรื่องสำคัญที่จะบอกน่ะ บอกทางโทรศัพท์ไม่ได้เหรอ’ เสียงตาลส่งมาตามสาย

‘ไว้รอตาลมาถึงก่อนดีกว่า’ ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ประหม่า

‘ถ้างั้นก็รอหน่อยนะ นี่ตาลกำลังจะเลี้ยวเข้าร้านแล้ว’

‘จ้ะ’ เหงื่อผมเริ่มออกมาระหว่างนิ้วมือ เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ใกล้จะมาถึง

เอี๊ยด...โครม!! เสียงดังสนั่น ทั้งในสายที่ยังไม่ได้วางและนอกร้านที่แสนโกลาหล คืนวันศุกร์สิ้นเดือน คึกคัก คลาคล่ำไปด้วยรถราและผู้คน

ปลายนิ้วมือผมชา รู้สึกเย็นวาบจากเหงื่อที่ออกก่อนหน้านี้

‘รถพ่วงเสียหลัก ไถลมาชนรถเก๋งยับเลย’ เสียงเด็กเสิร์ฟในร้านตะโกนคุยกัน แต่ผมก็ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ งุนงงไปกับความโกลาหลที่เกิดขึ้นในร้าน จนกระทั่งเสียงรถพยาบาลดังมาจากไกลๆ ผมจึงได้สติ รีบวิ่งออกไปยังจุดที่ทุกคนยืนมุงอยู่

‘ตาล...!’

ผมทำอะไรไม่ได้มากกว่าตะโกนเรียกชื่อเธอ ไม่กล้าแม้แตะตัวเธอที่มีเลือดท่วมตัว

‘ตาล...!’

ผมตะโกนเรียกชื่อเธออีกครั้ง เผื่อตาลจะได้สติขึ้นมา

หลังจากรถพยาบาลมาถึง การปฐมพยาบาลก็เริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งตาลถูกนำตัวเข้าไปยังรถพยาบาลและพนักงานขับรถออกไป ผมไม่รอช้ารีบขับตามไปเช่นกัน ผมไม่สามารถบรรยายความรู้สึกในตอนนั้นได้ มันสับสน มึนงง มีหลายอย่างเข้ามาในหัวจนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร



“ขอบคุณครับ” ผมหันไปตอบพนักงานเสิร์ฟ หลังจากเบียร์เหยือกที่สามถูกยกมาเสิร์ฟ



ตาลเข้ารับการผ่าตัดสมองอย่างเร่งด่วน เพื่อระบายความดันและเลือดที่คั่งอยู่ ตอนนั้นความหวังที่ตาลจะกลับมาแทบเป็นศูนย์ ตัวผมเองก็ทำได้แต่ภาวนาเท่านั้น

‘หมออยากให้คุณแม่ทำใจนะครับ ถึงแม้ผู้ป่วยจะได้รับการผ่าตัดเพื่อระบายเลือดคั่งได้ทัน แต่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้สมองบางส่วนฉีกขาด...’

คุณหมออธิบายอาการของตาลให้คุณแม่ฟัง สรุปได้ใจความว่าตาลกลับมาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว...

ตาลเป็นอัมพาตครึ่งซีก...และสมองกระทบกระเทือนจนเธอไม่สามารถจำใครได้อีกต่อไป

นี่เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่สุดในชีวิตของผม

ตลอดเวลาสามปีหลังจากวันนั้น ผมเข้าออกบ้านตาลตลอด ขอปาฏิหาริย์มีจริง ขอให้ตาลจำผมได้ก็ยังดี ผมจะย้ำกับตาลเสมอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน

...กลับมาหาตูนอีกสักครั้งได้ไหม

จนกระทั่งวันนี้ วันที่ไม่มีแม้แต่ร่างของตาลอีกแล้ว การติดเชื้อในกระแสเลือดทำให้ตาลทรุดลงอย่างรวดเร็ว และกินเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ ตาลไม่กลับมาหาผมอีกแล้ว



ผมยังอยู่ร้านเดิม กับแกล้มเกลี้ยงจาน มีแต่เหยือกเบียร์สดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ตูน ตูนมีอะไรจะพูดกับตาลเหรอ” เสียงหนึ่งดังเข้ามาในหู ผมหันขวับไปตามเสียงนั้น...ตาล! ตาลกลับมาหาตูนจริงด้วย ตาลจำได้ไหมว่าตูนมีเรื่องสำคัญจะพูดกับตาล ผมไม่ได้พูดออกไป เพียงแต่คิดในใจเท่านั้น

“เรื่องอะไรหรือตูน ตาลมีเวลาไม่มาก” แม้ไม่พูด ดูเหมือนตาลก็หยั่งรู้ได้ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มคือเอกลักษณ์ของตาลคนเดิม

“ตาลจำได้ไหม ตูนเคยสัญญากับตาลว่าเราสองคนจะไม่นอกใจกัน” ในที่สุดผมก็ได้เริ่มพูดเรื่องราวที่คั่งค้างใจมาตลอดสามปี

“จำได้สิ ขอบคุณนะตูน ที่ตูนรักษาสัญญาของเราเสมอ” ตาลยังคงยิ้มแย้ม รอยยิ้มที่ไม่มีพิษมีภัยกับใคร

“ถ้าตูนบอกว่า เรื่องสำคัญที่ตูนจะพูดวันนั้น คือ...คือ...”

“คือ...” ตาลเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“ตูนนัดตาลไปวันนั้น เพื่อที่จะบอกว่า ตูนกำลังจะคบคนใหม่ ตูนเพิ่งรู้ตอนนั้นว่า ตูนไม่ได้อยากเป็นแฟนกับตาลจริงๆ เราสองคนเป็นเพื่อนกันมันดีที่สุดแล้ว”

น้ำตาเธอเริ่มไหลเปื้อนใบหน้าอันซีดเผือด ผมไม่อยากทำตาลเสียใจ แต่ตอนนี้ผมยังมีผู้หญิงอีกคนที่ผมเพิ่งรู้ตัวว่ารักในตอนนั้น ยังรักตลอดมาจนถึงวันนี้ และเธอก็รักผมเช่นกัน

ตาลเริ่มฟูมฟาย...."แต่วันนั้นเป็นวันครบรอบของเรา"

“ตูนขอโทษ...”

“ตูนขอโทษ”



“พี่ครับ!!” เสียงตบโต๊ะดั่งสนั่น ผมเงยหน้าขึ้นมองพนักงานเสิร์ฟสองสามคน ทุกอย่างคือฝันไป...หรือนี่

“ร้านปิดแล้วครับ ทั้งหมดสามพันครับ”

ทั้งร้านเหลือผมอยู่คนเดียว ผมรีบจ่ายเงินและขับรถออกไปทันที แต่ยังไปได้ไม่ถึงไหน ผมก็รู้สึกเหมือนมีกำแพงขนาดใหญ่ขวางกั้นอยู่ แม้ผมพยายามจะเหยียบเบรกสักเท่าไร ดูเหมือนรถจะพุ่งทยานไปเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น ไปยังกำแพงนั้น

โครม!!

‘ตาลไม่สามารถกลับไปหาตูนได้หรอก นอกจากเสียว่า ตูนจะมาหาตาลเอง...’ เสียงหนึ่งในสายลมดังขึ้นในโสตประสาทของผม ก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป

==============THE END==============

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ





 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2559
1 comments
Last Update : 16 พฤษภาคม 2559 21:22:30 น.
Counter : 3428 Pageviews.

 

มาส่งกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
praewa cute Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
ลุงแมว Photo Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
pormare Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ชมพร 16 พฤษภาคม 2559 23:36:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


pormare
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Be positive + Be humble

Friends' blogs
[Add pormare's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.