-= The Buddha's Warrior =-
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
24 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
สัจจะบารมี

เคยดู เคยฟังข่าวที่เค้าฆ่าข่มขืนกันมานาน หลายครั้งที่ผมแอบคิดว่า ถ้าเป็นผมจะทำอย่างไร ถ้าไปกับแฟน 2 คน แล้วโดนทำร้าย หมายจะข่มขืนภรรยาผม และ สังหารเราทั้ง 2 คน... สมมุติว่าผมพกอาวุธ... ผมคิดๆ เอาเองว่า คงสู้เค้าซึ่งๆ หน้าไม่ได้ ก็คงยอมโดนมันทำร้าย ปล่อยให้มันเริ่มลงมือข่มขืน แค่เริ่มนะครับ ยังไม่ทำอะไร ให้ความสนใจมันไปอยู่ที่การข่มขืนก่อน ผมคงจ่อยิงทีละคน อย่างไม่ลังเล... ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเราไม่ลงมือก่อน ก็คงโดนซะเอง... มีอะไรซักอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกหนักแน่นมากๆ อย่างนั้น นึกภาพตัวเองทีไร ไม่เคยรู้สึกกลัวหรือลังเลเลย เหมือนพร้อมที่จะเหนี่ยวไกทุกเมื่อ...


หลายเดือนก่อนผมขับรถกลับจากสกลนครพร้อมครอบครัว ช่วงเกือบถึงกรุงเทพแล้ว น่าจะแถวประตูน้ำพระอินทร์ มีกระบะคันนึง ขับปาดไปมา ข้างหน้ารถผม น่าอันตราย แม้จะไม่ได้ปาดผม ไม่ได้ใกล้มาก ผมก็ให้สัญญาณไฟสูง พร้อมบ่นๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ประมานว่า เฮ้ย อย่าขับงี้ดิ เดี๋ยวก็ชนกันหรอก...

แล้วรถคันนั้งก็มาขับขวางทางผม กันไม่ให้ผมไป ผมเริ่มรู้สึกถึงปัญหาแล้ว ซักพักเค้าก็ปล่อยให้ผมผ่าน แต่ก็ขับตีคู่แล้วเปิดกระจกมาโวยวาย น่าจะด่านะครับ แต่ไม่ได้ไขกระจกลง คุณพ่อผมเป็นทหาร ท่าน พกปืนตลอด เห็นท่าไม่ดีท่านจึงชักปืนขึ้นมาขู่ ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นเห็นรึเปล่า แต่เค้าไม่ได้มีท่าทีว่าจะเลิกราเลย

ปกติแล้ว ผมเองก็มีกระบอกนึง แต่หลังจากปฏิบัติธรรมมา จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้ แต่วันนั้น ตอนนั้น ถ้าผมมีปืน ...ผมคงไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกเพื่อปลิดชีวิตผู้คุกคามเลย... ใจลึกๆ มันรู้สึกอย่างนั้น จริงๆ ครับ ทำไมไม่รู้ มันไม่ลังเลสงสัยเลย เห็นภาพตนเองลดกระจกลง ไม่พูดอะไร ชักปืนยิงแสกหน้าคู้กรณีทันที... อย่างไม่ลังเล

แต่สุดท้ายมันก็ขับผละไปเอง ต่างคนต่างตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีใครพูดอะไร จนถึงบ้าน จนวันรุ่งขึ้น

ผมเองรู้สึกได้ถึงความคิดฟุ้งซ่าน ความทุกข์ที่บีบคั้นจากความคับแค้นใจ กลับไปกลับมา รู้ทันเพียงไม่กี่ขณะจิต ก็กลับไปเพ่งจ้อง หมายเอาชีวิตผู้ไม่รู้จัก คนนั้นอีก

แต่ซักพักนึง ก็หลายชั่วโมงอยู่ จนได้คุยกับว่าที่ภรรยาในขณะนั้น เริ่มเห็นจิตเห็นใจตัวเองชัดขึ้น จนโทสะเริ่มหายไป...

ผมกับกิ๊บเริ่มสงสัยว่า มีกรรมอะไรซ่อนอยู่ในตัวผม ในอดีตชาติ ผมเคยทำอะไรมา ถึงได้พร้อมจะปลิดชีวิตคนไม่รู้จักได้ขนาดนี้ เคยฟังๆ มา เวลาที่จะฆ่าใครซักคน ในครั้งแรกนั้น มือไม้สั่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กทีเดียว... แต่นี่ ผมไม่รู้สึกเลย... ไม่เลย


ไม่เข้าท่าแล้ว...

ศีลข้อ๑ คงขาดสะบั้น ด้วยจิตใจที่หนักแน่นขนาดนั้น คงรับกรรมไปเต็มๆ...


คุยกันกับกิ๊บว่า ไม่ได้แล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว ไม่ว่าในอดีตจะเป็นอย่างไร จะทำอะไรมา ผมจะทำให้มันจบชาตินี้...

คืนนั้นผมกราบพระพุทธเจ้า ผ่านทางพระพุทธรูป แล้วตั้งสัจจะ อธิษฐานต่อหน้าพระองค์ท่านว่า ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ฆ่ามนุษย์คนไหนอีกแล้ว ไม่คิดปลิดชีวิตใครอีกแล้ว... ตลอดชาตินี้ และขอให้คิดอย่างนี้ เป็นอย่างนี้ ทุกชาติไป... สาธุครับท่าน


และเมื่อ 2-3 วันก่อน ได้ฟัง CD พอจ. ว่าด้วยเรื่องถึงพระภิกษุท่านหนึ่ง ที่ท่านเกือบจะมรณะภาพในป่า ว่าท่านเตรียมตัวตายในเครื่องแบบนักรบของพระพุทธเจ้า ฟังถึงตรงนี้ จิตใจผมก็คึกคัก ห้าวหาญขึ้นมาทันที นึกภาพตามว่า ท่านทั้งหลายช่างเป็นักรบที่องอาจ สงบ และร่าเริงจริงๆ ไม่เหมือนพวกทหารที่หน้าตาเหี้ยมโหด จืตใจมีแต่โทสะเจือเลย...

เช้าวันนี้ ผมจึงตั้งสัจจะอธิษฐานต่อหน้าพระองค์ท่านอีกครั้ง ว่าผมขอปฏิญาณตน เป็นนักรบของพระองค์ท่าน อีกคนหนึ่ง เช่นกัน... เป็นนักรบผู้ สงบ และร่าเริง เหมือนดังท่านทั้งหลาย นักรบรุ่นพี่ทั้งหลาย ผู้ซึ่งชนะศึกไปแล้ว...

สาธุครับ


Create Date : 24 มิถุนายน 2552
Last Update : 25 มิถุนายน 2552 13:29:55 น. 2 comments
Counter : 459 Pageviews.

 
ศิษย์พี่ .... checklist 5 ข้อนี่มันปราการด่านสุดท้าย ที่จะวัดว่าเป็นมนุษย์หรือไม่เป็น ใช่ป่าว ^ ^

วันก่อนอ่านผ่านๆ แล้วนึกไปถึงกฎหมายอาญาน่ะค่ะ มีเรื่องป้องกัน จำเป็น ซึ่งเป็นเหตุเป็นผลกับกรรมที่เราทำด้วยเหมือนกัน

คลับคล้ายคลับคลาว่า ป้องกัน..เพื่อตัวเองหรือผู้อื่น เพราะการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำเมื่อมีภยันตรายที่ใกล้จะถึง หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการตอบโต้นั้น ทำพอสมควรแก่เหตุ ก็จะทำให้ไม่มีความผิดค่ะ

ไม่ได้ให้ศิษย์พี่ใช้ checklist จากกฎหมายอาญานะคะ :-) แต่ก็ไม่ได้ให้ยืนนิ่งรอรับการประทุษร้ายนี่นา นึกถึงที่ลพ.ท่านยกตัวอย่างตอนเจอกับหมาบ้าน่ะค่ะ

มีเพื่อนผู้หญิงที่เป็นตำรวจ คุณเธอเอาปืนฝากพ่อไว้ค่ะ เพราะเคยเก็บไว้ในรถ แล้วรู้สึกว่ายังทำให้เธออารมณ์พลุ่งพล่าน กลัวจะยั้งมือไม่ไหว เลยใช้วิธีนั้นแทน

เจริญในธรรมนะคะ


โดย: ศิษย์น้อง หัดเดิน IP: 115.67.116.148 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:21:09:42 น.  

 
สวัสดีครับ ศิษย์น้อง


ขอบคุณนะครับที่ตอบ blog ยกนี้เป็นคนแรก... ธรรมดาจะมีกัลยาณมิตรหลายท่านแวะมาทักทาย แต่คราวนี้เงียบกันหมดเรย... แอบกังวลทีเดียวว่า เอ นี่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงมากไป จนไม่น่าคบหารึเปล่า เฮอะๆ...

ตัวจริง(เมื่อก่อน)น่ากลัวทีเดียวครับ เดี๋ยวนี้ คุ้มดีคุ้มร้าย ดูทันก็ไม่เท่าไร ดูไม่ทันก็ฟาดงวงฟาดงาเค้าไปทั่วเหมือนกัน... แต่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนะครับ จากเมื่อหลายปีก่อน

เมื่อก่อนแรงครับ จิตมุ่งร้ายคนอื่นไปทั่ว จึงมักแผ่รังสีดำมึดๆ ทิ่มแทงคนอื่นไปทั่ว ยิ่งตอนขับรถ ยิ่งแรงมาก กรรมเก่าส่วนที่ทำกับคนอื่นไว้ คงมีย้อนกลับมาบ้างแหละครับ

นอกจากนี้ รังสีเก่าๆ จากกรรมเก่า ทั้งชาตินี้และชาติก่อน ยังคงแผงอยู่ในรูปร่างหน้าตาผม ไปกินข้างที่ไหน ไปทำอะไร ดูมีรังสีรุนแรงมากจากชายฉกรรจ์โดยทั่วไป โดยเฉพาะพวกตำรวจทหารเบ่งๆ จะทั้งเหม็น ทั้งเกรงผมมากเป็นพิเศษ... อาจจะด้วยความที่ชาติก่อนอันใกล้ อาจเคยเป็นนักรบมาก่อน ชาตินี้แม้ไม่ได้รับราชการทหาร แต่ไปไหน เจอนายทหารชั้นประทวน ก็ดูจะเกรงใจผมเป็นพิเศษ ไปสถานีตำรวจ สารวัตรยังเรียกน้องเลย หึ หึ... วันนี้ยังเจอเลยครับ เหอะๆ...

ศิษย์น้องก็พูดถูกแหละครับ แต่โดยรวม กุศลเป็นเหตุแห่งความสุข อกุศลเป็นเหตุแห่งความทุกข์... ไม่จนตรอกจริงๆ ก็คงไม่ทำอะไรเค้าหรอกครับ ...จริงๆ แล้ว หลังจากเกิดเรื่อง ก็ยังแอบเหน็บปืนปู่ ไปไหนมาไหนอยู่ ก็กะเอาไว้ใช้อย่างที่ศิษย์น้องว่าแหละครับ เอาแค่แข็งขาเดี๋ยง ก็น่าจะ ok... ไปๆ มาๆ กิ๊บบ่นบ่อยๆ เดี๋ยวก็เอาเข้าจนได้... เลยไม่เอาดีกว่า พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพาตัวเองและภรรยาเข้าสู่สถานการณ์ที่อาจเกิดปัญหาแทน เช่น นอบน้อมเข้าไว้ ไม่ทำยืดใส่ใคร มีอะไรก็เผ่นเอาไว้ก่อน ศักดิ์ศรีมันเป็นเรื่องของอัตตานะ ผมว่า...


ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับ comment


เจริญในธรรมนะครับ


โดย: Pormaid วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:0:06:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pormaid
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




---กราบแทบเท้าอาจารย์ ผู้บอกทางที่พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ดีแล้ว ว่ามีอยู่จริง ไปได้จริง ไม่ยากเกินมนุษย์คนหนึ่งจะทำได้... ท่านหนึ่งเป็นฆราวาส ท่านหนึ่งเป็นพระภิกษุ และมีอีกหลายท่านที่ไม่มีวาสนาบารมีพอจะได้รับคำสอนจากท่านเหล่านั้น... กราบนมัสการด้วยเศียรเกล้าครับ _/l\_---


ใครที่ผ่านเข้ามาอ่านก็คงจะงงๆ หน่อยนะครับ ส่วนหนึ่ง ผมตั้งใจจะเขียน blog นี้เพื่อเป็นบันทึกในการปฏิบัติธรรมตามมหาสติปัฏฐานสูตร เอาไว้อ้างอิงสำหรับตนเองเพื่อปรับปรุงแก้ไข และสำหรับท่านผู้สนใจ เส้นทางการปฏิบัติที่ผมเดินผ่านมาในอดีต...

อีกส่วนหนึ่ง เป็นความคิด และมุมมองทางโลก ซึ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างก้าวร้าวซักหน่อย แต่เกือบทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่จะหันหน้าเข้าทางธรรม อีกนัยหนึ่ง มุมมองทางโลก อาจจะผลักดันให้ผมหันหน้าหาธรรมะก็ได้

เหมือนผมจะมี 2 บุคลิกนะครับ
Friends' blogs
[Add Pormaid's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.