-= The Buddha's Warrior =-
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...

...หลังจากเริ่มคบกันซักระยะหนึ่ง ผมเองก็กำลังวิ่งหาร้านทำในกรุงเทพอยู่ระยะหนึ่งเช่นกัน มองดูลู่ทางเปิดร้าน เรียนต่อ หาทางทำให้เงินงอกเงย คิดทำโน่นทำนี่ สารพัด ตามวัตถุประสงค์ ของการมีชีวิตอยู่ ที่ผมสร้างขึ้นมา...

สมัยเรียน... ตั้งแต่ชั้นประถมทีเดียวล่ะ ตอนเริ่มรู้ความแล้วว่า พวกเราทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ผมนอนร้องไห้คนเดียวตอนกลางคืนบ่อยๆ เวลาที่ผมรู้ว่า ต้องมีซักวันหนึ่งที่พ่อแม่จากผมไป นอนร้องไห้เวลาเห็นขอทานข้างถนนแล้วคิดว่า ทำไมเค้าทุกข์ทรมาณอย่างนั้น ทำไมเค้าไม่เป็นแบบเรา ผมเริ่มสงสัยว่า ผมเกิดมาทำไม

พอขึ้นมัธยมต้น... ผมออกแนวเป็นเด็กขี้อาย ติดบ้าน ไม่ชอบไปไหนกับเพื่อน กิจกรรม งานกลุ่มก็ไม่ทำ กลับบ้านลูกเดียว มีชีวิตไปวันๆ พร้อมคำถามที่ยังคาใจอยู่ ผมอายเกินกว่าจะถามพ่อแม่ หรือครูอาจารย์

ด้วยจริตนิสัยไม่ชอบเที่ยว เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย คุณพ่อคุณแม่ให้ทำอะไร ให้เชื่ออย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ท่านอยากให้ผมเป็นหมอ ผมก็เชื่อท่าน ท่านให้เรียนพิเศษ ให้ทำโน่นทำนี่ ก็ทำตามอย่างว่าง่าย ทำให้ระยะหลังเริ่มมีเพื่อนเป็นเด็กเรียนเยอะขึ้น มีเพื่อนที่ฉลาดกว่า เป็นผู้นำกว่า หลายๆ คน

วันหนึ่ง ได้มีโอกาศคุยปรัชญาชีวิตกับเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าห้อง ว่า นี่พวกเราเกิดมากันทำไม... ทั้งสมหวังและผิดหวัง พงศธรตอบผมอย่างไม่ลังเลสงสัย ราวกับมีคำตอบในใจรออยู่นานแล้ว ว่า พวกเรามีชีวิตอยู่ เรียนหนังสือ มีอาชีพการงาน มีครอบครัว เพื่อที่จะอยู่ในสังคม ถ้าเราไม่มีความรู้ ไม่มีเงินทอง เราก็จะถูดีดออกจากสังคม...(เอ่อ มันคลับคล้าคลับคลาอะนะครับ คงไม่แม่นยำซะทุกคำ แต่ที่ว่าถูกดีดออกจากสังคม อันนี้ชัวร์ เป็น keyword ที่จำได้แม่นเลย) จริงๆ ผมว่า พงศธรเอง ก็คงใช้ความคิดนี้ เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอยู่ เพราะมันตอบด้วยท่าทางซีเรียสจริงจังเอามากๆ จริงจังจนผมที่รู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่กล้าแย้ง... กลัวมันด่าเอา จะว่าไงล่ะครับ ผมว่า สังคมคือทุกสิ่งทุกอย่างเหรอ สังคมคืออะไร คือพวกเราหลายหมื่นหลายล้านคน มารวมๆ กัน แล้วมันจะมีความหมายอะไร ไม่ได้มีอิทธิพลถึงขนาดที่เราจะอุทิศชีวิตเพื่อมันขนาดนั้นนะ ผมว่า... แต่ผมก็ยังเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ

ผมได้เรียนรู้จากทั้งในตำรา ศึกษาประวัติศาสตร์ ของนักปรัชญาทั้งหลาย ของประเทศต่างๆ รวมทั้งสังเกตสังคมที่ผมใช้ชีวิตอยู่ จนกระทั่งผมเรียนมัธยมปลาย ความเป็นตัวเองชัดเจนมากขึ้น เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว จนสรุปเองได้ว่า ผมเกิดมาเพื่ออะไร...

- เพื่อตอบแทนทุกคน ทุกสถาบัน ที่ทำให้ผมเป็นผมได้ทุกวันนี้ ตามลำดับจากใกล้ แล้วห่างออกไป เริ่มจากพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้อง สังคม ประเทศชาติ และโลกใบนี้ ตามกำลังและฐานะที่พึงทำได้

- เพื่อสานต่อสิ่งที่ผู้มีบุญคุณเหล่านี้มอบให้ ให้คงอยู่ รุ่นลูกรุ่นหลาน สืบไป ตามกำลังและฐานะที่พึงทำได้


หลังจากเรียนจบ ผมเข้ารับราชการ เป็นทันตแพทย์ ตั้งใจว่าอยากไปอำเภอไกลๆ เป็นสิ่งที่ผมพึ่งทำ ในฐานะหมอฟันคนหนึ่ง เพื่อประเทศชาติและสังคม... อาจผิดตามลำดับซักหน่อย ที่ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ก่อน แต่จังหวะเวลามันเป็นอย่างนั้น ผมต้องใช้ทุน ต้องรับราชการ ผมจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตเพื่อสังคมไปก่อน ซักระยะหนึ่ง

จริงๆ ผมชอบชีวิตราชการมากทีเดียว... แต่ถึงเวลา ต้องกลับไปตอบแทน ผู้มีพระคุณยิ่ง อันดับแรก

ผมลาออกมาเพื่อเพิ่มรายได้ของตนเอง ให้เพียงพอดูแลคุณพ่อคุณแม่... ทำเอกชนได้ระยะหนึ่ง ก็ซื้อทาว์นเฮ้าส์ให้คุณแม่ 2 หลัง เพื่อท่านเอาไว้เก็บค่าเช่า เพื่อดูแลเรื่องเงินทองตนเองได้ในระยะยาว จริงๆ คุณพ่อก็มีบำนาญ แต่อาจจะพออยู่พอกิน ถ้ามีค่าเช่าบ้านอีก ท่านก็อาจจะพออยู่พอกินอย่างสบาย... ผมซื้อรถให้คุณพ่อ คันที่ทั้ง 2 ท่านอยากได้ สนนราคาก็ล้านกว่าๆ ทีเดียว ดีใจมาก ที่โอกาสช่างเอื้ออำนวย เซลล์รู้ว่าผมจะซื้อให้คุณพ่อ จึงเอากุญแจใส่พานพร้อมพวงมาลัย เพื่อให้ผมมอบให้ท่าน ในวันที่ 5 ธ.ค 2550 พอดี...

หลังจากนั้นไม่นาน ช่วงปลายปี 50 นั่นเอง กิ๊บได้ยืม "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" มาจากรุ่นพี่หมอที่โรงพยาบาล... คุณดังตฤนเขียนได้อย่างเข้าใจ คนในยุคนี้ยิ่งนัก

ตอนนี้ อาจเป็นเพียงศรัทรา แต่ผมเข้าใจแล้วว่า ผมเกิดมาทำไม ผมเกิดมาเพื่ออะไร ที่ผ่านมาผมเดินผิดผลาดอย่างไร ต่อไป ผมจะทำยังไงกับชีวิตที่เหลืออยู่ ผมรู้ความหมายของการมีชีวิต ไม่ใช่แค่อุดมการณ์สั้นๆ แค่เท่าที่ผ่านมา

ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาในชีวิตพี่...


Create Date : 02 มกราคม 2552
Last Update : 9 มกราคม 2552 23:31:45 น. 1 comments
Counter : 1008 Pageviews.

 
หนังสือเรื่อง"เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" เป็นจุดเริ่มต้นของคนอีกหลายคนจริงๆ นะคะ ตอนนี้จะเริ่มอ่าน "มหาสติปัฎฐานสูตร" หลังจากที่ไปปฎิบัติธรรมมาช่วงปีใหม่

ใกล้แต่งงานคนจะยุ่งนะคะ แต่กงล้อทางโลกก็ต้องดำเนินไป พร้อมกับคู่บุญ
ขอให้คุณหมอและว่าที่เจ้าสาว Happy และเจริญในทางธรรมและทางโลกค่ะ


โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:23:46:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pormaid
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




---กราบแทบเท้าอาจารย์ ผู้บอกทางที่พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ดีแล้ว ว่ามีอยู่จริง ไปได้จริง ไม่ยากเกินมนุษย์คนหนึ่งจะทำได้... ท่านหนึ่งเป็นฆราวาส ท่านหนึ่งเป็นพระภิกษุ และมีอีกหลายท่านที่ไม่มีวาสนาบารมีพอจะได้รับคำสอนจากท่านเหล่านั้น... กราบนมัสการด้วยเศียรเกล้าครับ _/l\_---


ใครที่ผ่านเข้ามาอ่านก็คงจะงงๆ หน่อยนะครับ ส่วนหนึ่ง ผมตั้งใจจะเขียน blog นี้เพื่อเป็นบันทึกในการปฏิบัติธรรมตามมหาสติปัฏฐานสูตร เอาไว้อ้างอิงสำหรับตนเองเพื่อปรับปรุงแก้ไข และสำหรับท่านผู้สนใจ เส้นทางการปฏิบัติที่ผมเดินผ่านมาในอดีต...

อีกส่วนหนึ่ง เป็นความคิด และมุมมองทางโลก ซึ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างก้าวร้าวซักหน่อย แต่เกือบทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่จะหันหน้าเข้าทางธรรม อีกนัยหนึ่ง มุมมองทางโลก อาจจะผลักดันให้ผมหันหน้าหาธรรมะก็ได้

เหมือนผมจะมี 2 บุคลิกนะครับ
Friends' blogs
[Add Pormaid's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.