Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
อยู่ดี ๆ ก็ไปทรมานสังขารที่ตุรกี สงกรานต์ปี 2554 - วันที่ 10 Dolmabache Palace – Bosforus Cruise

วันที่ 10 15/4/54 Dolmabache Palace – Bosforus Cruise

 

วันนี้ตื่นแต่เช้า เพราะเมื่อวานนอนกันเต็มอิ่ม ไม่ได้กลับดึกอย่างทุกวัน เพราะอากาศหนาว และไม่มีตังค์ด้วย วันนี้เราต้องย้ายที่พัก เพราะเราเพิ่มวันมาทีหลัง ซึ่งโรงแรมที่เราจองไว้เต็ม เลยต้องหาที่ใหม่นอนในคืนสุดท้าย โรงแรมใหม่ห่างจากที่เดิมแค่ 100 เมตร เป็นญาติกันด้วย ราคาเท่าที่เดิม แต่สภาพห้องเก่ากว่าเยอะสู้ที่เดิมไม่ได้เลย ด้วยความที่วันแรกที่เดินหาโรงแรม เราเดินเข้าไปหลายที่ วันที่มาจริง ๆ เลยเข้าเช็คอินผิดโรงแรม ไปถียงกับเจ้าหน้าที่อยู่นาน จนนึกขึ้นได้ว่า เราไม่ได้จองโรงแรมนี้ เป๋อพอกันทั้งคู่ แถมตอนเดินไปยังที่ที่เราจองไว้ ยังลืมกล้องถ่ายรูปไว้ที่โรงแรมนั้นด้วย เขาวิ่งหน้าตาตื่นตามหาเราอยู่เลย ก็ยังงง ว่าเป็นอะไรกัน จำไม่ได้ว่าไปลืมของไว้ที่โรงแรมเขาอีกต่างหาก

จบจากเรื่องวุ่นวายยามเช้าแล้ว เราก็เริ่มเที่ยวกัน วันนี้ไปเที่ยวพระราชวัง Dolmabache โดยนั่งรถ Tram ข้ามสะพานไปสุดสายที่สถานี Kabatas แล้วเดินจากสถานีไปประมาณ 200 – 300 เมตรโดยเดินตามถนนเลียบริมน้ำไปเรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้คือบริเวณช่องแคบบอสฟอรัส เราเห็นป้ายล่องเรือด้วย เดี๋ยวเที่ยววังเสร็จจะกลับมา

ดอกไม้สวย ๆ ระหว่างทางเดิน

 

 

ระหว่างทางที่เดินไปจากสถานี tram

ผ่านท่าเรือที่เล็งไว้สำหรับล่องเรือบ่ายนี้

ถ้าเจอมัสยิศนี้ แสดงว่าเดินมาถูกทางแล้ว

เห็นวังแล้ว

 พระราชวังแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมน้ำ บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส สร้างขึ้นมาประมาณ 100 กว่าปีแล้ว เทียบกับเมืองไทยก็ประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น  Rococo Baroque Neo Classic และแบบตุรกีเข้าด้วยกัน ในการเข้าชมพระราชวัง เราต้องสวมถุงพลาสติกครอบรองเท้าก่อนเข้าไปในตัวท้องพระโรง และเข้าได้ทีละกลุ่ม โดยมีไกด์ของพระราชวังเป็นผู้บรรยายให้เราฟังเกี่ยวกับประวัติพระราชวังแห่งนี้ หรืออีกจุดประสงค์หนึ่งคือ ต้องการควบคุมจำนวนคน และคุมไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินก้นเองสะเปะสะปะ เพราะของที่ตั้งโชว์ในวังนี้ทั้งหมดทุกชิ้น เป็นของโบราณอายุกว่า 100 ปีทั้งนั้น จุดสนใจของที่นี่คือ แชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ หนักถึง 4 ตัน สวยงามอลังการมาก ลักษณะและบรรยากาศของวังนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับวัง Topkapi ที่เราไปมาเมื่อวาน เนื่องจากสร้างกันคนละยุคสมัยกันอย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้ ที่นี่เป็นวังแบบเหมือนบ้านที่อยู่อาศัยแบบในปัจจุบันมีศิลปะแบบสากล ที่มีกลิ่นอายของแขก ในขณะที่ Topkapi เป็นศิลปะแบบแขกเปอร์เชียมาก 

และเมื่อมาดูในส่วนของฮาเร็ม ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เป็นตึกเดียวกันกับพระราชวัง แต่เราต้องเดินอ้อมมาเข้าอีกประตูหนึ่ง ซึ่งภายในก็เป็นส่วนที่อยู่อาศัยของราชสำนักฝ่ายใน ซึ่งลักษณะของฮาเร็มก็เหมือนกับที่วัง Topkapi แต่มีความทันสมัยกว่า เพราะสร้างทีหลัง ซึ่งขนาดห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ลดหลั่นกันไปตามฐานะและบรรดาศักดิ์ของหญิงผู้นั้น โดยนางสนมที่มีลูกโดยเฉพาะลูกชาย ก็จะได้เลื่อนฐานะและมีห้องส่วนตัว ห้องน้ำที่เป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับใคร

นอกจากนี้ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์นาฬิกาด้วย จัดแสดงในอีกตึกหนึ่ง โดยนาฬิกาส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส แปลกที่ไม่มีนาฬิกาจากสวิสอย่างที่เราคิดเลย ที่นี่ หลังจากที่อาณาจักรออตโตมันเติร์กล่มสลายไปเป็นยุคสาธารณรัฐ เติร์ก ที่นี่ก็ถูกใช้เป็นที่พักของมุสตาฟา เคมาล อีกด้วย ซึ่งท่านผู้นี้คือประธานาธิบดีคนแรก และเป็นที่นับถือของคนตุรกีมาจนถึงทุกวันนี้ จากที่เราผ่านมาหลายเมืองนี้ เราเห็นรูปของท่านติดอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ และในหลาย ๆ บ้านเลยทีเดียว

 

 จบจากวัง Dolmabace แล้ว เราก็เดินกลับตามทางเดิมเพื่อมาล่องเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัสที่รู้จึกกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นแล้ว เราเลือกนั่งของบริษัทนี้ เพราะใช้เวลาไม่นาน แค่ 50 นาที คงยังไม่นั่งหลับไปซะก่อน เพราะส่วนใหญ่ ถ้านั่งนาน ๆ เวลาส่วนมาก จะเป็นเวลาหลับนั่นเอง ค่าเรือคนละ 12.5 เหรียญ และก็จัดการกินอาหารกลางวันตรงบริเวณท่าเรือนั้นเลย มีเพิงขาย Kebab อยู่ มีอย่างเดียว เลือกไม่ได้คือ Kofte meat ball  เป็นขนมปังสอดใส้เนื้อสับปั้นก้อนทอด แบ่งกะเพื่อนที่ไม่กินเนื้อได้ลงตัวพอดี เรากินเนื้อ ส่วนเพื่อนกินผักกับขนมปัง ลงตัวดีจริง ๆ

ร้านขายอาหารกลางวันวันนี้

ได้เวลาลงเรือแล้ว มาล่องเรือกันดีกว่า

จิบ soft drink ที่พกมาเอง

วิวสวย ๆ ระหว่างล่องเรือ

จบจากล่องเรือแล้ว เดินกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ จะไป Taksim Square แทนที่จะเดินกลับไปขึ้น Funicular ขึ้นเนินไปก็ถึงสบาย ๆ แต่เราไม่ เราเดินไปอีกทางปรากฎว่า เดินกันถึก ๆ อ้อมไกลมาก แล้วยังเดินขึ้นเนินอีกต่างหาก เหนื่อยจนหมดอารมณ์เดินเล่นไปเลยทีเดียว

แต่ก็มีวิวสวย ๆ มานำเสนอระหว่างทางเดินขึ้นเนินไป Taksim Square

อีกด้านนึงเป็นสนามฟุตบอล วันนี้ทีม การาตาซารายแข่งด้วย เลยคึกคัก

มีขายอุปกรณ์เชียร์ด้วย แถวๆ ท่าเรือที่จากมา

เนื่องจากเหนี่อยและร้อน เลยหมดอารมณ์เดินต่อกันไป พอเจอสถานี Funicular พวกเราก็เลยตัดสินใจนั่งลงมาเพื่อไปเก็บเดิน Spice Market กันดีกว่า

ชมวิวแหลม Golden Horn จากสถานี Funicular เพราะเมื่อวานฝนตก อดดู

เดินSpice Market กันดีกว่า รอบนี้เดินด้านนอก ซึ่งพบว่าเป็นตลาดสด ขายขนม อาหารต่าง ๆ มีถั่วชนิดต่าง ๆ ชีส และมะกอกหลาย ๆ แบบ

เจอร้านขายเมล็ดกาแฟชื่อดังด้วย เดินตามกลิ่นมาจนเห็นคนต่อคิวซื้อกันยาว เลยซื้อกะเค้ามั่ง

แล้วยังเจอร้านไอติมตุรกีด้วย พ่อค้าหน้าตึงใสกริ๊ก ลีลาเยอะมาก เลยเกิดอยากกินไอติมขึ้นมาในทันใด เราเลยเสียค่าไอติมกันไปคนละ 100 บาท ค่าไอติมจริง ๆ คงแค่ 50 บาท ที่เหลือเป็นค่าโชว์ กว่าจะได้กินก็นานอยู่ คุณพ่อค้าเธอลีลาเยอะมาก ไอติมก็อร่อยดี ไม่รู้จะกินรสไหน เลยเอามันทุกรสไปเลย โปะถั่วพิทาชิโอมาด้วย ไอติมก็เหนียวมากคว่ำแล้วไม่กระดิก  Blizzard ชิดซ้ายไปเลย   

เดินแทะไอติมทะลุไปเรื่อย ๆ จนมาออกที่ Grand Bazaar ประตูที่ใกล้ ๆ โรงแรมพอดี  

เย็นวันนี้ตั้งใจว่าจะกินหรูมื้อใหญ่ เพราะเป็นคืนสุดท้าย เงินที่แลกไว้ก็ยังเยอะพอควร กินส่งท้ายกันซะหน่อย เลยไปกินที่ร้าน Baharus93 สั่งกันมาแบบไม่เกรงใจกระเพาะ กะว่าถ้าเหลือก็ห่อไปกินต่อพรุ่งนี้ เพราะเราต้องไปรอต่อเครื่องที่อียิปต์ถึง 7 ชั่วโมงเลยทีเดียว เอาไปเป็นสเบียงระหว่างรอก็ได้

ผู้จัดการร้านนี้น่ารักมาก แนะนำอาหารให้คนต่างชาติได้ดีมาก แนะนำอะไรก็ดูน่ากินไปหมด (หรือจริง ๆ เรา 2 คนเป็นคนตะกละก็ไม่ค่อยแน่ใจ) ฟังแล้วอยากกินมันทุกจานเลย เพื่อนกันเลยแตกคอกันวันนี้เอง เพราะอยากกิน Pedi (พิซซ่าตุรกี)ไม่เหมือนกัน เพราะคนนึงจะกินเนื้อ อีกคนจะกินไก่ สั่งคนละจานก็เยอะเกินไป คุณผู้จัดการเลยตัดปัญหาด้วยการทำให้ 1 จาน เป็น 2 ก้อนเล็ก ๆ เนื้ออันหนึ่ง ไก่อันหนึ่ง ลงตัวพอดี

มื้อนี้อิ่มแบบมีสุข ดื่มด่ำไปกับค่ำคืนสุดท้ายในตุรกีก่อนลาจาก




Create Date : 27 ตุลาคม 2555
Last Update : 27 ตุลาคม 2555 9:56:29 น. 1 comments
Counter : 1655 Pageviews.

 
สวัสดี วันเสาร์ วันหยุด






โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 27 ตุลาคม 2555 เวลา:10:59:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นู๋Poopy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




http://fastwebcounter.com
Friends' blogs
[Add นู๋Poopy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.