Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
อยู่ดี ๆ ก็ไปทรมานสังขารที่ตุรกี สงกรานต์ปี 2554 - วันที่ 8 โบยบินสู่เมืองใหญ่

8 13 เม.ย. 2554  โบยบินเข้าสู่เมืองกรุง Istanbul

 

วันนี้เราจะนั่งเครื่องบิน โบยบินเข้าสูเมืองกรุงซะที เครื่องออกเวลา 9 โมงเช้า โดยสายการบิน Atlas Jet เป็นสายการบิน Lowcost ของที่นี่ โดยจะมี shuttle bus รับส่งจากเมือง Bodrum ไปสนามบิน โดยที่สอบถามมาแล้ว ว่าจะจอดตรงท่ารถที่เรานั่งมาจาก Selcuk นั่นเอง แต่รถออกประมาณ 6.30 น แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันเวลาแน่นอนได้ เพราะช่วงนี้ตารางรถยังไม่นิ่ง เราจึงตัดสินใจไปรอแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า เพราะถ้าไม่นั่งรถฟรี ก็มีบริการรถแท๊กซี่ไปสนามบิน ราคาประมาณ 35 TL หรือ 700 บาท ยอมตื่นเช้าไปนั่งรอที่สนามบินก็ได้

เช้านี้เลยตื่นตั้งแต่ ดีห้าครึ่ง ตอนเดินไปท่ารถ ลองใช้ทางลัดที่เมื่อวานลองเดินไปดู ลัดจริงๆ เดินนิดเดียวก็ถึง  เมื่อมาถึงที่ท่ารถ ปรากฎว่าจริง ๆ แล้วรถออก 7 โมงเช้า เสียเวลานอนจริง ๆ แต่ก็ดีกว่าต้องตกรถ หรือวิ่งตามรถไป ใช้เวลาจากท่ารถไปสนามบิน แค่ 30 นาที มีคนมาใช้บริการเยอะพอสมควร เพราะรถบัสที่มาจอดจำนวน 2 คัน มีผู้โดยสารนั่งเต็มทั้งหมด

รถฟรีของสายการบิน

บนเครื่องมีของว่างเสิร์ฟด้วย เป็นแซนวิชไส้ชีสกับน้ำอัดลม อิ่มไปได้อีก 1 มื้อ

บ๊าย บาย โบดรุมสุดสวย

มาถึง Golden Horn แล้ว

 

เดินทางถึง Istanbul ประมาณ 10 โมงครึ่ง ก็ตามสูตรเดิม ไปนั่ง Metro แล้วก็ไปต่อ tram ซึ่งครั้งนี้ เราเลือกนั่ง Metro ไปต่อรถ Tram ที่สถานี Zeytinburmu ซึ่งสถานีที่ต่อ มีลิฟท์ และบรรไดเลื่อนพร้อม อยากลากกระเป่าไปใช้ทางไหนตามสะดวก เดินก็ใกล้กว่าเส้นทางแรกที่เรามา ตามคำบอกของ Guide book แล้วเราก็มาลงที่สถานี Cemberitus 1 สถานีก่อนถึงสถานียอดฮิต  Saltanahmet โดยเราเลือกพักที่ Hotel California โรงแรมสวยมาก เดินจากสถานี Tram ประมาณ 200 เมตร และใช้เวลาเดินไปแหล่งท่องเที่ยวไม่ไกลมาก ละที่สำคัญ ราคานี้ถูกมาก เพราะได้ห้องแบบโรงแรม ในนขณะที่ถ้าพักที่ย่าน Saltanahmet เราคงนอนได้แค่ hostel ธรรมดา และต้องเดินลากกระเป๋าไปไกลกว่า และเราต้องไปจองโรงแรมสำหรับคืนสุดท้ายด้วย เนื่องจากเราเพิ่มวันเดินทางอีก 1 วัน ห้องที่โรงแรมนี้เต็มหมดแล้ว เลยคิดว่าคงหาโรงแรมที่อยู่บริเวณนี้ เพราะจะได้ไม่ลากกระเป๋าไปไกล ไกลจากสถานีรถหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะวันกลับ เรากะนั่งรถ shuttle bus ไปสนามบินอยู่แล้ว เลยไปได้โรงแรมที่อยู่ถัดไปอีก 2 บล๊อก ราคาเท่าที่เดิม แต่สภาพห้องเก่ากว่าเยอะ แล้วก็เป็นญาติกันด้วย

โรงแรมของเรา

บ่ายนี้ กะว่าจะไปเที่ยว Archeology Museum และAya Sophia เริ่มออกเดินทางกันดีกว่า โดยเราเดินเลาะไปตามทางที่ขนานกับ tram เรื่อย ๆ

ระหว่างทางเดินไป

 

 

พอมาที่ Aya Sopia แล้วคิดไปคิดมา เดินเลยต่อไป Archeology Museum กว่าจะไปถึง ก็ถึงกับแฮ่กเลยทีเดียว เพราะพิพิธภัณฑ์ อยู่บนเนิน ทางขึ้นค่อนข้างชัน เดินไป พักหายใจไป ทำเป็นเนียน ๆ นิดนึง เดี๋ยวคนแถวนั้นรู้ว่าแก่แล้ว

มีไขว้เขวไปบ้างกะรถเข็นขายขนมปัง พ่อค้าที่นี่ต้องเต่งเครื่องแบบด้วยนะ มีเสื้อกราวน์คลุมทุกคน

มาถึงซะที เฮ้อเหนื่อย

 เราใช้เวลานานมากกว่าที่คิดเอาไว้กับที่นี่ ไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ประหนึ่งว่าเป็นผู้คงแก่เรียน รักการหาความรู้ แต่อย่าถามเลย ว่าเป็นไงมั่ง ข้างในมีแต่รูปปั้น ก็ไม่ได้ไปศึกษาอะไรหรอก แต่รูปปั้นคนโบราณสวยๆ เยอะมาก หินที่สลักอ่อนช้อย ผ้าเป็นลายพริ้วไหว เหมือนเป็นผ้าจริง ๆ กล้ามเนื้อแต่ละมัดดูเหมือนเป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่หิน ทำให้เราใช้เวลาชื่นชมฝีมือสลักของคนโบราณเป็นเวลานาน แต่ก็พอเอามาบอกได้ว่า  พอเข้ามา จะมีตึกหลัก ๆ อยู่ 2 ตึก ตึกแรกเล็ก ๆ เป็นการจัดแสดงในยุคมัมมี่ และส่วนที่เป็นตึกใหญ่ หรือเป็นตึกหลักเลย จะมีการจัดแสดงรูปสลักหินและปูนปั้นต่าง ๆ

ส่วนจัดแสดงยุคอียิปต์

รูปปั้นหนุ่ม ๆ สาว ในยุคนั้น

รูปหน้าชายหนุ่มที่มีจมูกครบสมบูรณ์ หายได้ยากมาก ส่วนใหญ่จมูกบี้กันหมดเลย(หักไปหมด)

มุมที่เราชอบกัน รูปปั้นด้านหน้านี้ เป็นรูปปั้นของนักปราชญ์หญิงชื่อดังในยุคนั้น

ใช้เวลาดื่มด่ำกับหินเสร็จแล้ว เราก็เดินมาเที่ยวที่ Aya Sopia กันต่อเลย

 

Aya Sophia โบสถ์แห่งนี้ เดิมทีสร้างเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ในยุคไบเซนไทม์ แต่ต่อมาเมื่อถูกปกครองโดยพวกเปอร์เซีย ทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโบสถ์ของศาสนาอิสลาม โดยโบกปูนทับรูปของพระเยซู และรูปอื่น ๆ  เพิ่งจะมีการบูรณะ โดยการลอกเอาปูนที่โบกทับไว้ออกเมื่อไม่นานมานี้

ก่อนเข้า มาชำระล้างร่างกายกันซะก่อน

ด้านในอันแสนอลังการ

ช่อโคมไฟรูปดอกไม้

รูปพระเยซู

เสียดายมากที่กล้องของเราทั้งสองดันมาแบตหมดพร้อม ๆ กัน เลยแทบไม่ได้ถ่ายภาพภายในโบสถ์ไว้เท่าไหร่ จบจากการชม Aya Sophia แบบเสียดาย ๆ แล้ว เราก็กลับมา เพื่อเอาผ้าไปซัก ระหว่างนั้น ก็เดินหาอาหารเย็นกินกัน วันนี้อยากกินอาหารในร้านแบบพี้นบ้านจริง ๆ เลยแวะลองร้านข้าวแกงร้านหนึ่งดู แล้วก็ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะโดนค่าอาหารไปถึงคนละ 10 TL สำหรับข้าวแกงคนละ 1 จาน แพงมหาโหดเลยทีเดียว เพราะถ้าเราไปกินในร้านที่ผ่าน ๆ มา ราคาก็ประมาณนี้ แต่เราจะได้กินอาหารที่ดี และอร่อยกว่านี้แน่นอน

อาหารเย็นแบบบ้าน ๆ ที่แพงมาก

ก่อนนอนแวะไปรับผ้าซักใหม่ ๆ หอมกรุ่นมาใส่ในวันถัด ๆ ไป

 




Create Date : 10 มิถุนายน 2555
Last Update : 10 มิถุนายน 2555 8:34:59 น. 0 comments
Counter : 1659 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นู๋Poopy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




http://fastwebcounter.com
Friends' blogs
[Add นู๋Poopy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.