Group Blog
All Blog
|
---จาก อ. ประทุมพร วัชรเสถียร : ผู้ เ ป็ น ' ด ว ง ใ จ ' แ ห่ ง ค ว า ม สุ ข --- การทำชีวิตให้เป็นประโยชน์ที่สุด และมีความสุขที่สุด 1. ปฏิบัตภารกิจในหน้าที่ให้ดีที่สุด สมบูรณ์ครบถ้วนที่สุด อย่างเต็มใจและอย่างสนุกที่สุด ภารกิจใดถ้าคิดว่าต้องฝืนใจทำ ทำแล้วไม่สนุก ทำแล้วเกิดความทุกข์ เกิดความกดดัน ทำให้เคร่งเครียด ฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุด โดย - ทำงานชนิดที่ชอบ ทำด้วยใจรัก ทำแล้วสนุก ทำแล้วมีความสุข - ทำงานที่มีประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลก - ทำงานที่ให้ความสุขต่อผู้อื่น แม้จะไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม 2. คบคนที่คบแล้วทำให้จิตใจสบาย ร่าเริง เบิกบาน เปิดสมองและโลกทัศน์ ฉันไม่กลัวว่าจะมีเพื่อนน้อย หากเพื่อนเพียง2-3 คน ที่ฉันคบสนิทด้วยทำให้ฉันสบายใจ ผู้ใดที่ทำให้ฉันรกตาด้วยภาพ รกหูด้วยคำพูด รกใจด้วยเรื่องร้าย ฉันขออยู่ห่างที่สุด 3. สิ่งใดที่ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ ฉันจะไม่ผัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป เช่น - เขียนจดหมายถึงเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมานานหรือติดต่อนัดพบกับเขา หากทำได้ - ไปเยี่ยมผู้ใหญ่อันเป็นที่รักและเคารพ ซึ่งมิได้เยี่ยมมานาน - อ่านหนังสือที่เคยคิดอยากอ่าน หรือหยิบมาเตรียมไว้แต่ยังไม่มีเวลาเปิดอ่าน - ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อออกไปเดินเล่นท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ในสถานที่เหมาะสม - อ่านหนังสือธรรมะและฟังข้อคิดทางธรรมะเป็นประจำและปฏิบัติตามนั้น จะเป็นธรรมะของศาสนาใดก็ได้ ธรรมะที่ช่วยแก้ปัญหา อ่าน/ฟังแล้วใจสบายนั้นคือธรรมะที่ถูกต้อง 4. หากร่างกายและจิตใจฉันอำนวย ฉันอยากมีอาชีพเป็นนักเขียนจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตของฉัน ฉันอยากเขียนเรื่องทุกชนิดมีสื่อเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย บทความ เรื่องท่องเที่ยวจากประสบการณ์ คอลัมน์ประจำ บทวิจารณ์ หรือการตอบจดหมายแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาชีวิต รวมทั้งเรื่องธรรมะและการอบรมกล่อมเกลาจิตใจและพฤติกรรมของมนุษย์ 5. ฉันจะรู้จักมี "มุมชีวิต" ของตัวเอง หมายความว่า ฉันจะต้องรู้ข้อจำกัดของบทบาทของฉันว่า ควรยุ่งเกี่ยวกับชีวิตคนอื่นมากน้อยเพียงใดและควรพอใจบทบาทความเป็น "คนนอก" ของตัวเองเพียงใด ฉันจะต้องรู้ว่า ไม่ว่าฉันจะเป็นภรรยาหรือแม่ หรือพี่ หรือย่า หรือยายของผู้ใด ฉันย่อมไม่มีสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของคนเหล่านั้น หากฉันถูกขอคำปรึกษาหารือ ฉันจะให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ฉันจะไม่โกรธเคืองหรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ หากบุคคลเหล่านั้นไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำของฉัน ฉันจะมีแค่ หูเปิด ตายิ้ม ปากปิด ต่อพวกเขาเหล่านั้น 6. ฉันจะไม่ "แบกโลก" ฉันจะไม่เป็นคนเจ้าทุกข์ ฉันจะไม่ทุกข์เกินขนาดที่ควรทุกข์ ฉันจะเตือนใจตัวเองว่า -ฉันจะไม่ทุกข์ต่อเรื่องที่แก้ไขได้ เพราะหากฉันสามารถแก้ไขได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีทุกข์ -ฉันจะไม่ทุกข์ต่อเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เพราะต่อให้ฉันทุกข์จนหน้าไหม้ใจขมไปหมด ฉันก็ยังแก้ไขปัญหานั้นไม่ได้ แล้วฉันจะปล่อยให้ความทุกข์มาครองใจฉันจนถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิตของฉันด้วยประโยชน์อันใด 7. ฉันจะไม่โกรธ ฉันจะไม่โมโหเพราะความโกรธคือความโง่ ความโมโหคือความบ้า ฉันจะไม่เตรียมตัวตายอย่าง คนโง่และคนบ้า อ. ประทุมพร วัชรเสถียร จาก ขวัญเรือน ฉบับที่ 940 ขอร่วมไว้อาลัย แด่ อ. ประทุมพร วัชรเสถียร ผู้เป็น ' ด ว ง ใ จ ' แห่งความสุขของทุกคน ขอบคุณมากค่ะ ภูเพยีย สวัสดีค่ะคุณภูเพยีย เราขอยอมรับว่า เดินผ่าน ร้านหรือแผงหนังสือ เราไม่เคยมีความคิดจะหยิบขวัญเรือนมาดูเลยนะคะ อย่าว่าแต่ซื้อ แล้วเรารู้ตัว(ช้า)ว่าเราพลาดสิ่งดีดีในหนังสือรุ่นคุณแม่เช่นนี้ไป เราอ่านหลายรอบอย่างตั้งใจ รู้สึกว่า อืม ใช่นะ ชอบคำว่าพอใจในบทบาทของ คนนอก หลายครั้งเลยนะที่เราเองมักจะเล่นนอกบทของคนนอก ท่านเขียนได้น่าอ่านมาก ทุกข้อมันจริงมากมากในชีวิตประจำวันที่เราต้องเจอ การทำงาน การคบคน และอารมณ์ตัวเอง ท่านคมในความคิด เราไม่จักท่านเลยค่ะ และขอเป็นอีกคนที่ร่วมไว้อาลัยแด่ท่าน ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันให้กันเสมอ โดย: ละอองเวลา วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:9:41:41 น.
สวัสดีค่ะพี่อนงค์สิริ เสียดายแทนพี่จังเลยค่ะ แต่คิดว่าเดี๋ยวก็น่าจะหาได้นะคะ คิดว่าที่ที่พี่อยู่น่าจะไม่ชนบทเท่าที่ภูเพยียอยู่ เล่มนี้มีเนื้อหาที่น่าสนใจของอ. ประทุมพร อีก เกี่ยวกับเรื่อง 'การตายและงานศพของฉัน และก่อนฉันจะตาย' คัดมาฝากพี่อีกสักนิดนะคะ บทส่งท้ายของอาจารย์นักเขียนท่านนี้ที่ว่า คำสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกใคร ๆ ก็คือ ขอให้ทุกท่านจงมีชีวิตที่ตั้งอยู่ใน 'ธรรมะ' ไม่ว่าจะเป็นธรรมะของศาสนาใดหรือธรรมะจากธรรมชาติของโลก การเข้าถึงธรรมะได้อย่างแท้จริงคือการปฏิบัติตามธรรมะ จนธรรมะนั้นเกิดผลตรงตามเจตนารมณ์ของธรรมะนั้น ๆ ธรรมะทำให้จิตเป็นกุศล เมื่อจิตเป็นกุศลแล้ว เราจะมีความสุขและจะรู้จักแผ่สุขให้แก่ผู้อื่นด้วย ขอบคุณพี่มากนะคะที่ตามมาอ่านถึงที่นี่ ดีใจมาก ๆ ค่ะ สวัสดีค่ะคุณละอองเวลา อายุของขวัญเรือนเท่ากับอายุเราเลย สาวใหญ่แม่ลูกสาม 555 แต่เราต้องค่อย ๆ เฟ้นหาคุณภาพหน่อยนะ เราชอบเรื่องไร้สาระมากกว่าสาระน่ะ ^^ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่า การอยู่โดยไม่เบียดเบียนกันน่ะ พอทำได้ จด ๆ จ้อง ๆ เอาธรรมะมาใช้กับชีวิตประจำวันบ้าง แต่ชีวิตยังคละเคล้ากิเลสแบบทุกข์ ๆ สุข ๆ ตามประสาโลกย์ มีชอบนั่น อยากนี่ไปเรื่อย ๆ แต่ก็พยายามมีสติว่า อย่าเกินพอดีมันจะทุกข์ ยิ้มได้กับทุกวัน ไม่คาดหวังเยอะ ๆ เท่านี้ก็น่าจะประคองวันต่อวันให้ผ่านไปได้เนอะ วันนี้อากาศเย็นเป็นปกติ ดอกไม้ในใจสดชื่นค่ะ แม้จะยังอีรุงตุงนังฟัดเหวี่ยงกับสาว ๆ ที่บ้านอยู่เลยตอนนี้ ว่างจากการงานนิด ๆ หน่อย ๆ ก็กระโดดเข้ามาตอบ แล้วก็ขลุกอยู่กับลูก ๆ แป๊บ ๆ วันก็ผ่านไปเร็ว ถึงว่า เวลาความสุขมักจะสั้นเสมอ ขอให้มีความสุขในวันทำงานนะคะ โดย: ภูเพยีย วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:10:43:01 น.
บทความของท่านอาจารย์มีประโยชน์ ปฎิบัติได้นะค่ะ อ้อมแอ้มแว๊บไปแอ่วเจียงใหม่มาเจ๊า... เที่ยวแบบอ้อมแอ้มตอนที่ 1สนุกนา..ฮิๆ โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:12:59:29 น.
ที่บ้าน คุณพ่อสะสมหนังสือของอาจารย์ดวงใจไว้เยอะเลยค่ะ
ขอร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ โดย: Love At First Click วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:14:50:43 น.
ฉันจะไม่ "แบกโลก" ฉันจะไม่เป็นคนเจ้าทุกข์ ฉันจะไม่ทุกข์เกินขนาดที่ควรทุกข์
เข้ากับจังหวะชีวิตป๊อบตอนนี้พอดีเลยคะ ป๊อบจะสู้ ป๊อบจะสู้ !! 5555555 ป๊อบไม่ได้อ่านขวัญเรือนหลายฉบับแล้วคะ ตอนนี้เรียนหนักมาก ๆ เลยคะ ไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายเท่าไหร่ ฝากความคิดถึงไว้ตรงนี้นะคะ โดย: onedermore วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:17:11:56 น.
ร่วมอาลัยด้วยเช่นกันค่ะ โดย: ภูสีคราม IP: 124.121.183.81 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:18:17:28 น.
|
ภูเพยีย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] Friends Blog
|
พี่พลาดขวัญเรือนฉบับนี้ หลายวันแล้วที่เดินหาทั่วเมือง
เศร้าเลยละ.....
อ่านที่ภูเพยียนำมาลงสองรอบ อ่านแบบช้าๆ พิจารณาตาม
ชอบมากๆค่ะ มีประโยชน์กับชีวิตมากทีเดียว