หัวใจไม่ลงรัก (นิยาย)
เอามาบันทึกไว้ในบล๊อกนะค่ะก็ชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ก็เลยเอามาเขียนนิยายซะ มันก็เลยเป็นแบบนี้ละ เริ่มแรกคือชีวิตจริงค่ะ เริ่มต่อไปก็คือที่แต่งขึ้นมาเองก็เท่านั้น
มาใหม่อีกรอบ ยาวกว่าเดิมเยอะ รบกวนติและแนะนำด้วยนะค่ะ
หัวใจไม่ลงรัก
ยากกว่าที่รักจะลงตัว บางคนพยายามเกือบทั้งชีวิตยังไม่ได้รักที่สมดั่งใจหวัง แต่บางคนก็ยอมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อความรัก วุ่นวายสับสนเหลือเกินแฮะ เจ้าความรักนี่ เมื่อหัวใจไม่ลงรัก บทที่ 1
บทที่ 1 เรื่องของเรามันจบแล้วใช่ไหม
น้ำเสียงผ่านสายโทรศัพท์นั้นสั่นเทาหากเจ้าตัวพยายามทำใจให้เข้มแข็งที่สุด
ใช่ ผิดกับคู่สนทนาที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่มีหัวใจ
เราจะไม่อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม กับอีกหนึ่งคำถามที่เสียงยังคงสั่น
ใช่ แล้วจะไม่เป็นพ่อของเจ้าปลาตัวน้อยแล้วใช่ไหม
คำถามสุดท้ายนั้นเคล้าปนมากับน้ำตา จนปลายสายเองก็ สั่นไหวตามไปด้วย มันยากหากเขาจะเอ่ยออกไป
เอ่อ ว่าไงใช่หรือไม่ใช่
เด็ดเดี่ยวกว่าที่คิด ใช่
คนหัวใจสลายน้ำตาไหลพรากมาจากต้นสายหากปลายสายก็เงียบไปเช่นเดียวกัน นิ่งเงียบไปนานกว่าที่คำพูดไหนจะหลุดออกมาจากปากของหล่อน
ไอ้คนแสนเลว เสียงด่าผ่านสายโทรศัพท์ทำให้ชายหนุ่มถอนใจเฮือก ไอ้คนเลว สารเลว ทำกันได้ยังไงนะ
น้องตัวเล็กครับ เขาเอ่ยไปด้วยน้ำเสียงเนิบและราบเรียบราวกับคนไม่มีหัวใจไม่มีความรู้สึก
พี่ทำลายชีวิตน้องทั้งชีวิต ทำลายความหวังและอนาคตของน้องไปจนหมดสิ้นน้องเหลือคำด่าพี่แค่ว่าพี่แสนเลวเองเหรอครับ ยังไงเธอก็ยังเป็นคนที่เขาหยอกเย้าได้อย่างสนุกสนานอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แรกเริ่ม คบหา ผูกพันธ์ หรือตอนก่อเริ่มอีกหนึ่งชีวิต ที่มีอายุเพียง 7 เดือน นั่นเพราะเขามั่นใจมีลูกแล้วยังไงเขาและหล่อนก็ไม่มีวันตัดขาดกัน
เออ หล่อนกระแทกเสียงก่อนจะวางสาย นั่นเป็นนิสัยในความเคยชินของหล่อนและเขาก็ชินซะแล้วไม่พอใจอะไรจะต้องวางสายและเชื่อเถอะ อีกไม่นานหรอก หล่อนก็จะโทรกลับมาอีกครั้งและพูดในอีกแบบ
..หนึ่ง.. ชายหนุ่มหลับตาและเริ่มนับ ..สิบ..
ไม่มีสัญญาณสายเรียกเข้าจากอีกฝ่ายทำเอาเขาใจหาย หากใครจะรู้นั่นเป็นการสนทนากันครั้งสุดท้ายและเป็นครั้งสุดท้ายที่คนที่เขาคิดว่าหล่อนจะโทรมาไม่โทรมาอีกแล้ว
โทรหาใครค่ะพี่นัทธ์ สาวสวยหุ่นเซ็กซี่บาดใจเขาเดินเข้ามาหาและนั่งลงข้าง ๆ
เปล่านี่ครับ เหรอค่ะ
หล่อนหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาแล้วกดดูไม่กี่ครั้งก่อนจะวางสายด้วยรอยยิ้ม
ไม่โทรไปแต่เขาก็โทรมายังยอมรับความจริงไม่ได้อีกเหรอนี่
คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วละ รับรองว่าจากนี้เขาจะไม่โทรมาอีกแล้ว
ดีจังค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่ทำเพื่อมุก มุกนภายิ้มด้วยความยินดีริมฝีปากที่เยิ้มด้วยลิปสติกแตะลงที่ปลายคางของชายหนุ่มเป็นการเอาใจ ก่อนจะจับจูงมือเขาเข้าห้องนอน
นัทธ์เดินตามหล่อนเข้าไปลืมคิดถึงอีกคนที่วางสายไป ป่านนี้จะเป็นอย่างไรและอยู่อย่างไรหนอ เขาลืมคิดเรื่องนี้ไปจริง ๆ คนที่เขาทิ้งขว้างหากก็ยังมั่นใจว่าหล่อนจะไม่ไปไหน เขากลับไปเมื่อไหร่หล่อนก็จะยังอยู่ที่เดิมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ปวดหัวใจเกินจะทน มัสยาเดินเข้าไปยังที่นอนหล่อนเปิดมุ้งเล็กที่ครอบเจ้าตัวน้อยอีกตัวเอาไว้ข้างในไม่หรอก ไม่ใช่ตัวน้อยหรอกอ้วนจ้ำม่ำอย่าบอกใครเลย
หลักฐานที่ว่าเขาและหล่อนเคยร่วมชีวิตอยู่ด้วยกัน คือเด็กคนนี้ ใบหน้าที่ถอดแบบพ่อมา มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เหมือนหล่อน ดวงตาเศร้าซึ้งของคนที่อาภัพซึ่งตอนนี้ก็อาภัพบิดาของลูกไปแล้ว เรื่องราวระหว่างหล่อนกับเขาคนนั้นคงจบสิ้นแล้ว เขาทำให้หล่อนกลายเป็นผู้หญิงใจแตกท้องไม่มีพ่อ และหอบลูกกลับบ้านนอก เพียงลำพังนับแต่นี้ต่อไปชีวิตของหล่อนจะมีแต่ลูกคนเดียวเท่านั้น
แงแง เจ้าตัวน้อยร้องไห้จ้า หล่อนหมดเรี่ยวแรงจะอุ้มลูกจริง ๆ ทำได้เพียงจับตัวมาวางไว้บนอกและร้องเพลงกล่อมเบา ๆ สองมือตบก้นอวบ ๆ ของลูกน้อยไปด้วย
"เจ้าปลาตัวน้อย ๆ มันลอยคออยู่ในท้องแม่ เจ้าปลาตัวน้อย ๆ มันคอยเวลาออกมาขี่คอแม่"
หัวใจสั่นไหวไปกับความรู้สึกที่แห้งโหย คนเป็นพ่อไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไงนะ ถึงได้อยู่กับผู้หญิงคนอื่นอย่างมีความสุขแบบนั้น หล่อนจินตนาการไปว่าสองคนนั้นคงมีความสุขกันอย่างที่สุด
ไม่นานนักเจ้าตัวน้อยก็หลับไปหญิงสาววางลูกลงบนที่นอนอย่างแผ่วเบาเอามือแตะที่หน้าผากกว้างเบา ๆ มีรอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของเด็กชายอารมณ์ดี ไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าเวลานี้ไม่มีพ่ออีกแล้ว และก็ไม่รู้ว่านับแต่นี้ต่อไปแม่จะเข้มแข็งได้สักเท่าไหร่ สูญเสียคนที่ไว้ใจไปสักคนยังไม่เท่าไหร่ แต่สูญเสียพ่อของลูกไปนี่สิ
..ช่างเถอะ ใคร ๆ เขาก็เป็นกัน เราไม่ใช่คนเดียวในโลกเมื่อไหร่กันเล่า..
..พี่จะรับผิดชอบลูกทุกอย่าง.. เสียงของเขายังดังอยู่ในมโนสำนึกของหล่อน ชัดเจนในทุกคำพูดก่อนที่หล่อนจะรับรู้ว่าเขามีอีกคนซุกซ่อนอยู่
..พี่รักลูกมากนะ รักมาก.. นั่นก็อีกคำโกหกหรือเรื่องจริงก็ไม่รู้ แต่คำที่หล่อนจำได้อีกคำหนึ่งก็คือ
เราสองคนอยู่ด้วยกันถูกต้องตามกฏหมายนะพี่ นานแล้วด้วยพี่นะแหละไปมีลูกกับเขาตอนไหนทำไมหนูไม่รู้เรื่องเลยละ
น้ำเสียงฉะฉานอย่างคนที่มีความมั่นใจสูงบอกแก่หล่อนเมื่อแสดงฐานะก่อนหน้าว่าหล่อนกับนัทธ์เป็นอะไรกัน
แล้วน้องคบกับเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ กลั้นใจถามออกไป
ก่อนพี่หลายปีละกัน ตั้งแต่ตอนหนู อยู่ม.3 มั้งจนตอนนี้หนูเรียนจบแล้วไง เราก็เลยอยู่ด้วยกันนะ พี่อยากรู้อะไรอีกไหม หนูก็เข้าใจนะว่าผู้ชายต้องหาเศษหาเลยบ้างในเมื่อหนูเป็นคนที่เขาเลือก ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน หนูก็เป็นห่วงพี่ไม่เป็นไรใช่ไหม
น้ำเสียงนั้นเยาะหยันมากกว่าห่วงใยจริง ๆ เป็นน้ำเสียงของผู้ชนะ และสำหรับหล่อนแล้วเป็นผู้แพ้อย่างสิ้นเชิง
มันก็แปลกนะพี่ พี่มีลูกกับเขาทำไมเขาไม่เลือกพี่
แล้วนี่ก็เป็นน้ำเสียงแห่งความภาคภูมิใจ หากมุกนภาไม่โทรมาหาหล่อนวันนั้นหล่อนคงไม่รู้เรื่องทั้งหมด ยังคงโง่อยู่ต่อไปว่า สามี ไม่ใช่สิ ผู้ชายคนที่เป็นพ่อของลูกนะเป็นสามีของคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
หญิงสาวเอามือแตะหน้าผาก แล้วไอ้ผู้ชายที่หล่อนนอนด้วยมา 6-7 ปี มันเรียกว่าอะไรละ แล้วมันไปมีผู้หญิงคนนั้นตอนไหน หล่อนถูกหลอกมาราธอนมานานขนาดนั้นเชียวเหรอ
สุดท้ายแล้วคนที่รักที่คิดว่าเขาเป็นคนดีเขาก็ทำหล่อนได้อย่างสะใจเจ็บแสบที่สุดไม่อยากจำก็ต้องจำ
..ไอ้คนแสนเลว..
หล่อนเหลือเพียงคำนี้จริง ๆ ที่พอจะเรียกเขาได้ แค่นี้ก็ตอกย้ำความเจ็บปวดให้กลับคืนมาอีกครั้งแต่คนแพ้อย่างหล่อนจะเลี้ยงลูกให้ดี และจะไม่ให้ใครพรากลูกน้อยของหล่อนไปจากอกแน่ ๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหญิงสาวละมือจากลูกน้อยและเดินไปรับสาย
เป็นไงบ้างตัวเล็ก สบายดีค่ะ น้ำเสียงนั้นตอบไปแสนขื่นจนฝ่ายโทรมารู้สึกได้
พี่ไม่รู้จะช่วยยังไงว่ะเพื่อนพี่มันเลวมันเป็นคนอื่นดีกว่าลูกมันเมียมัน
จิรายุระเบิดเสียงแห่งความอัดอั้นออกมา พี่โจ อย่าพูดอะไรอีกเลยมันจบแล้ว ไม่..มันยังไม่จบมันยังมีตอนต่อไปอีกยาว
เชื่อน้องเถอะพี่โจ มันจบแล้ว มันไม่เหลืออะไรระหว่างเราอีกแล้ว
แล้วลูกละจะทำยังไง จิรายุถามถึงสายเลือดของนัทธ์ด้วยความห่วงใย
ก็เลี้ยงสิค่ะ ยังไงลูกก็ต้องโตค่ะ โตด้วยมือของน้อง
แล้ว ทำไมมันไม่คิดจะเลี้ยงลูกมันเลยว่ะลูกมันยังจำหน้ามันไม่ได้เลยนะอย่าคิดมากนะ พี่เป็นกำลังใจให้เวลาเท่านั้นจะช่วยได้
พี่โจ ขอบคุณมากนะค่ะที่ห่วง น้องไม่เป็นไรหรอกค่ะ มีลูกอยู่ทั้งคนก็ถือว่าเป็นโชคดี กอดลูกอุ่นนะค่ะ เพียงแต่ไม่น่าเชื่อเท่านั้นเอง ว่าไอ้ผู้ชายที่นอนกอดเรา นอนลูบท้อง ร้องเพลงให้ลูกฟัง จนลูกคลอดออกมาไอ้ผู้ชายคนนั้นจะไปจดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นด้วยกลัวว่าจะเสียเขาไปมากกว่าที่จะเสียลูกเหลือเชื่อจริง ๆ
เพราะมันคงรู้ไงว่าน้องเลี้ยงลูกได้ดี
ไม่ใช่หรอกค่ะ
หญิงสาวตอกย้ำความรู้สึกในใจที่มีมาตลอด
เขารักผู้หญิงคนนั้นมากกว่าตัวเขาเอง เขาคิดถึงแต่คนนั้นแต่ไม่คิดถึงตัวเองเลย ช่างมันเถอะค่ะเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะอิจฉาน้องถ้าเกิดว่าเขามีลูกกับคนที่เขารักเขาก็คงจะลืมลูกคนนี้ไปได้เอง ไม่มีอะไรที่เขาควรจะจดจำเพราะเขาเป็นคนเลือกที่จะหันหลังให้พวกเราเอง เขาไม่เลือกเรานี่
..คนไม่เลือกก็ต้องนอนเจ็บทั้งน้ำตาอีกนาน..
เด็กคนนั้นอายุแค่ 19 จิรายุย้ำ
จะเท่าไหร่เขาก็อ่อนกว่าน้องเยอะ คนอายุ สามสิบจะไปสู้อะไรกับเด็ก 19
ตอกย้ำตัวเองอีกครั้ง
แต่มัน..ในกลุ่มเพื่อนไม่มีใครชอบมันสักคน มันถึงไม่ค่อยพามาเข้ากลุ่มไงละ พูดเท่าไหร่มันก็ไม่ฟังไม่มีใครเข้าข้างมันเลยนะแต่มันก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไม่รู้จะพูดยังไง
เงียบไปเถอะค่ะดีแล้ว
น้ำเสียงที่บอกชัดเจนว่าหล่อนไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน กระนั้นจิรายุก็ยังบอกแก่หล่อนว่า
มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอก
คงอีกนานกว่าน้องจะได้เข้าเมืองอีกน้องคงต้องกลับไปเลี้ยงลูกที่ต่างจังหวัดอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ทำใจให้สบายนะตัวเล็กเมืองหลวงมันไม่ปลอดภัยสำหรับคนดี ๆ อย่างเธอจริง ๆ นะแหละ แต่พี่เชื่อนะ โลกนี้ยังมีที่ยืนให้กับคนอ่อนแอแต่พร้อมที่จะต่อสู้อย่างน้อง มีปัญหาโทรหาพี่นะพี่พร้อมจะช่วย
ขอบคุณค่ะ พี่โจ คงเพียงคำนี้เท่านั้นที่จะบอกซึ้งถึงความในใจว่าขอบคุณเพื่อน ๆ ของเขาทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หล่อนและคงมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยโทรมาหาหล่อนอีกเลย
นั่นเพราะเขาได้เลือกแล้วว่าจะไปทางนั้น
มัสยาหันมามองหน้าลูกชายอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มและเพลงกล่อมลูกใหม่
"เจ้าปลาตัวน้อย ๆ มันลอยคออยู่ในท้องแม่ เจ้าปลาตัวน้อย ๆ มันคอยเวลาออกมาขี่คอแม่" บทที่ 2 ยี่สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มวัยยี่สิบ เอามือปิดปากปิดจมูก เมื่อเปิดประตูเข้าในห้องหนึ่ง ลมจากด้านนอกพัดเข้ามาด้านในทำให้ฝุ่นกระจายคลุ้งไปทั่วบริเวณ บอกให้รู้ว่ามันมากมายมหาศาลขนาดไหน
ฝุ่นทั้งนั้นเลยแม่ หันไปบอกผู้เป็นมารดาวัย ห้าสิบปีเต็มที่อยู่ด้านนอกประตู
ไหวไหมละลูก
ก็..พออยู่ได้ครับ
มัสยะบอกมารดาก่อนจะมองไปรอบ ๆ ตัวและเดินสำรวจด้านในด้านนอก ที่นี่เป็นคอนโดที่เป็นห้องชุด ภายในนั้นมีห้องนอนสองห้อง ห้องรับแขกหนึ่งห้องและมุมสำหรับทำอาหารอีกนิดหน่อย พอได้อยู่กันเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีกันเพียงสองคนอย่างครอบครัวของเขา เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้น แต่ไม่ได้ใช้งานมานานแล้วขนาดปิดตายห้องเอาไว้ฝุ่นยังจับซะหนา
ไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
คนนั้น เขาซื้อไว้ให้ แต่เขาไม่เคยมาอยู่
หล่อนกล่าวถึงบิดาของลูกชายด้วยความห่างเหินมัสยะเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้า
ครับ
เขารับรู้เพียงว่าที่นี่เป็นที่ที่บิดาเคยสร้างไว้ให้มารดาและเขาเพียงเท่านั้น จะไม่รับรู้ความห่วงใยอะไรมากไปกว่านี้
ผมว่าเราช่วยกันทำความสะอาดบ้านใหม่ของเราดีกว่าไหมครับ ไม่อย่างนั้นคืนนี้ไม่มีที่นอนแน่ ๆ
จ่ะลูก มัสยะทำความสะอาดด้วยความขันแข็งเขาแทบจะไม่ให้มารดาได้หยิบจับอะไรเลยมีเพียงนิดเดียวเพราะความห่วงใยในสุขภาพของมารดา
มัสยาตัวเล็กนิดเดียว ยิ่งนับวันยิ่งผอม ยิ่งผอม เขาอยากจะให้มารดามีความสุขมากกว่านี้ไม่อยากจะให้มีเรื่องอะไรมาทำให้กังวลใจเพราะฉะนั้นเขาจะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายที่สุด และมารดาของเขาจะได้ไม่ต้องคิดมาก
เข้าท่าแฮะ ทำความสะอาดเสร็จก็ได้เวลาสำรวจสิ่งของภายในบ้านอันไหนใช้การได้และใช้การไม่ได้ เขายืดตัวตรงหันไปมองกระจกส่องแบบเห็นทั้งตัว ที่แปะอยู่ข้างผนัง เผยให้เห็นรูปร่างผอมเพรียวและสูง รูปหน้าของเขากลม มีบางคนว่าเหมือนแตงโมบ้างละ เหรียญบาท พระจันทร์บ้างละ แต่เขาก็รู้ด้วยจินตนาการว่าเขาเหมือนใคร ไม่มีส่วนไหนในใบหน้าของเขาที่เหมือนมารดานอกจากเพียงดวงตาเท่านั้นที่ได้มา
..ดวงตาโศกที่ถอดแม่ออกมาเปะ.. มารดาเขาเป็นคนตัวเล็กเขาก็ไม่ได้โตไปกว่าหล่อนสักเท่าไหร่ เพียงแต่สูงเท่านั้นคงได้ความสูงนั้นมาจากบิดากระมัง ..บิดา..เขาชะงักคำนี้ไว้ในใจ
เหตุผลที่ดึงดันเพื่อจะมาเรียนที่เมืองหลวงหลังจากจบประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง นอกจากจะตามฝันที่อยากจะเป็นวิศวกรแล้วส่วนหนึ่ง เขาก็อยากจะตามหาใครคนนั้นเหมือนกันเพราะมีคำถามที่อยากจะถามเหลือเกิน
..จำเขาได้ไหม..
อยากถามและอยากได้ยินคำตอบเหลือเกินใบหน้าของเขาที่ใคร ๆ ก็ว่าเหมือนผู้เป็นบิดามากที่สุดเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหมือนมากขนาดไหน จินตนาการหลับตาและอยากจะเห็นตัวจริงเหลือเกิน คิดอะไรอยู่ลูก
มารดาสะกิดเขาเบา ๆ ชายหนุ่มหันมาพร้อมด้วยดวงตาเป็นประกายซ่อนดวงตาปวดร้าวที่ปรากฏเมื่อสักครู่อย่างมิดชิดมัสยาไม่มีโอกาสได้เห็นและเข้าถึงความรู้สึกในส่วนนี้ของลูกชายได้
เราจะอยู่ที่นี่กันสองคนนะลูก ใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนที่เราเคยเป็นนะมัสนะ เรามีชีวิตที่เป็นของเรา เราจะไม่ไปวุ่นวายกับใครที่ไหนนะ ลูกรักของแม่
ครับ เขารับปากว่าเขาจะไม่ไปวุ่นวายกับใคร แต่ถ้าคนนั้น มาวุ่นวายกับเขาละก็ มันเป็นส่วนที่เขาไม่ได้รับปากมารดาไว้
หลายวันต่อมา
มัสยะกลับบ้านพักอย่างอารมณ์ดี เขาไขกุญแจเข้ามาในบ้านอย่างเงียบที่สุด เพราะไม่ต้องการให้มารดารับรู้การมาถึงของเขา
เขาพาดเสื้อแจ็กเก็ตสีดำไว้บนพนักพิงโซฟาสีน้ำตาลอ่อนก่อนจะมองไปรอบ ๆ บริเวณมีแต่ความเงียบและเสียงของพัดลมเท่านั้นที่ทำงาน
ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อเดินมาถึงประตูห้องเล็กอีกห้องหนึ่ง ร่างบอบบางของหญิงวัยห้าสิบปีพอดี ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ยังคงเปิดหน้าจอค้างเอาไว้
เขาสวมกอดจากทางด้านหลังและหอมที่ต้นคอเบา ๆ พอให้เจ้าตัวขนลุกซู่และรู้สึกตัวมือของหญิงวัยกลางคนโอบที่ลำตัวของเขาด้วยความเคยชิน
กลับมาแล้วเหรอลูก
แม่หลับคาคอมฯอีกแล้ว
เขาบ่นบอกให้มารดารู้ในสีหน้าว่าไม่พอใจ เพราะมารดามักจะเป็นอย่างนี้ประจำและเขาไม่เห็นด้วยที่หล่อนจะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำในเมื่อเงินก็มีพอใช้สอยอยู่แล้ว
แม่ต้องทำงานสิไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาให้ลูกกินลูกเรียนละ
อ้างถึงเหตุผลทำเอาลูกชายส่ายหน้า พักบ้างสิแม่
เขาดึงมารดาออกมาจากห้องและให้นั่งบนโซฟา
ไม่ซื้ออะไรติดมือมาเลย
มารดาบ่นเมื่อเห็นบนโต๊ะว่างเปล่า มัสยะน่าจะซื้ออะไรติดมือมาเป็นอาหารเย็นสำหรับสองแม่ลูกบ้าง
ไม่ซื้อ แล้วสอบได้ไหม
ระดับนี้แล้วมีเหรอจะพลาด
เขาบอกมารดาพร้อมกับรอยยิ้ม ยิ้มกว้างของเขาที่ส่งให้มารดาเป็นประจำไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่ยิ้มเพราะมารดาบอกเขาว่าเขาเป็นคนยิ้มเก่งตั้งแต่เกิดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยิ้มไว้ก่อน เพราะฉะนั้นรอยยิ้มนั้นจึงติดมาตั้งแต่เด็ก และเขาก็ติดยิ้มนั้นอยู่ตลอดเวลา
นี่แม่ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่ามัสสอบได้ ก็แม่ไม่ได้ไปดูผลสอบกับลูกนี่หน่า
แต่แม่ดูในเน็ตได้นี่ เขาเอ่ยอย่างรู้ทัน ส่งยิ้มที่มีเขี้ยวด้านซ้ายให้มารดาพลางกอดนางไว้อย่างแสนรัก
ถ้ามัสได้เรียนจบเป็นวิศวกร แม่ก็จะได้เป็นแม่วิศวกรนะครับ
แม่อยากเป็นแม่ของมัสยะมากกว่า เขาหัวเราะอย่างคนอารมณ์ดี
ให้เวลาแม่สิบนาที ไปล้างหน้าแต่งตัวให้สวยที่สุดในโลกจะพาไปออกงานนะครับแม่
งานอะไร เลี้ยงที่สอบได้ไงกับเพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันนะ สอบได้กันทุกคนเลยเหรอ
ครับแม่ถึงไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่ก็สอบได้กันทุกคนเอาให้สวยที่สุดเลยนะแม่ อย่าให้อายแฟน ๆ พวกมัน
แล้วทำไมลูกไม่เอาแฟนไปอวดเพื่อนละลูก มัสมีแม่คนเดียวพอแล้วผู้หญิงที่ไหนไม่ต้องหรอก
เขาบอกมารดาอย่างเอาใจ มัสยาหายเข้าห้องส่วนตัวไปชั่วครู่ก่อนจะกลับออกมาในชุดที่สวมใส่สบายแต่ดูดีและสวยที่สุดในสายตาของมัสยะ
แม่สวยมากครับ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นแม่แต่บอกว่าเป็นแฟนใคร ๆ ก็เชื่อถ้ามีคนมาแย่งจีบแม่นะผมหัวใจวายตายแน่ ๆ
จ้าแม่สวยมาก ไปกันหรือยังละ แม่หิวแล้วนะ ความสวยของแม่ไม่ทำให้อิ่มท้องนะ
งั้นไปกันเถอะ เขายิ้มขันอารมณ์ดีจูงมือมารดาออกไปนอกห้องและปิดประตูลั่นกุญแจ
วันนี้เขาสอบเข้าเรียนได้แล้ว เขามาถึงแล้วสังคมเมืองหลวงที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนบอกเอาไว้ว่าเป็นที่ที่มารดาเจ็บปวดและต้องพาเขากลับบ้านนอก ทั้ง ๆ ที่อายุเพียงเจ็ดเดือน เอาละสิ จากนี้ชีวิตของเขาจะเดินทาง จะตามหาและจะไปให้ถึงคน ๆ นั้นเพื่อจะถามอย่างที่คาใจไว้
..ทำเขากับแม่ลงได้อย่างไร..
คำถามที่เขาอยากรู้มาแสนเนิ่นนาน จนวันนี้เขาพร้อมที่จะถามแล้วหากได้เพียงพบปะ กับใครคนนั้นเท่านั้นและอย่าหวังว่าจะได้รักอะไรจากเขาแม้เพียงรอยยิ้ม เขาก็ไม่มีวันให้
(อารมณ์ดี แต่เก็บกดนะนี่ มีความแค้นด้วยสิ ไม่ได้การแล้วเจ้าปลาตัวน้อย ทำไมแม่ไม่รู้ละว่าลูกเป็นแบบนี้นะ)
จากคุณ : ปันฝัน เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 19:59:37
ร้านอาหารเรือนไม้ที่เข้าไปในซอยข้างถนนไม่ถึงร้อยเมตร เต็มไปด้วยเสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นนับรวมได้9คนพอดี เป็นผู้ชายซะเจ็ด ผู้หญิงสองคนเป็นเพื่อนของมัสยะทั้งหมดที่รวมตัวกันมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่บางคนมาเพียงเพื่อหาประการณ์ในการทำงานก็แล้วแต่ว่าต่างคนจะดำเนินชีวิตของตัวเองไปอย่างไร
แต่วันนี้ทุกคนเป็นเพื่อนกันและมาเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับความสำเร็จของทุกคน
ไม่มีการเกรงใจโต๊ะข้างเคียงแต่อย่างใดและเสียงยิ่งดังขึ้นเมื่อสองแม่ลูกมาถึง
ไอ้มัสมาแล้วว่ะ แม่ตัวเล็กก็มาด้วยวันนี้สวยเซียว ทุกคนกิ๊วก๊าว ส่งเสียงแซวมัสยากันเต็มทำให้โต๊ะข้าง ๆ ต้องหันมามองบ่อยครั้ง
สารภีเพื่อนสาวหนึ่งในสองรีบเดินมาดทอมไปหาสองแม่ลูกทันทีโดยปกติแล้วมัสยาไม่ค่อยแต่งตัว มักจะอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนหากวันนี้ออกมาและแต่งตัวสวยจนต้องชม
สาเว้นที่นั่งไว้ให้แม่แล้วหัวโต๊ะพอดี แกจะให้แม่ข้าจ่ายตังค์อะดิ
มัสยะรีบแย้ง
อะ..รู้ทัน
ทุกคนพากันหัวเราะร่า
เอาเลยลูกเต็มที่ แม่เลี้ยงทุกคนเลยเหมา สองร้อยที่เหลือแชร์กัน
โธ่แม่
ลูก ๆ ทั้งสิบคนโอด หยอกเย้ามารดาเพื่อนเหมือนเป็นรุ่นเดียวกัน ไม่มีใครไม่สนิทกับมัสยา ด้วยความที่เป็นคนใจดี และดีกับทุกคนเป็นที่ปรึกษาให้อย่างดีเยี่ยม จนทุกคนรักนางเหมือนเป็นมารดาตัวเองด้วยอีกคนหนึ่ง
มันจะไปอิ่มอะไร แค่ไอ้มัสกินข้าวเปล่าก็หมดไปสามโถแล้ว
มัสยายิ้ม นี่คือความสุขในวัยห้าสิบของหล่อนกับเพื่อนลูกชาย โดยที่หัวใจไม่ตระหวัดคิดไปถึงใครอีกแล้วให้คน ๆ นั้นตายไปกับเวลาเถอะ
หล่อนเพียงพอแล้วเพียงเท่านี้ เอ้าใครจะกินอะไรสั่ง
มัสยะตัดบท เขาให้เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต ทุกคนเฮลั่นก่อนจะแย่งกันสั่งอาหารไม่ได้เกรงใจโต๊ะอื่น ๆ ที่กำลังทานอาหารกันอยู่ แม้ว่าโต๊ะรอบข้างจะมองมาด้วยความไม่พอใจเพราะไปทำลายสมาธิของพวกเขาก็ตาม
เด็กวัยรุ่นก็แบบนี้ละ โต๊ะใกล้วิจารณ์ เป็นชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่สองคน
ดูนั่นสิโต๊ะนั่นมีผู้ใหญ่ด้วยนะทำไมไม่ปรามเด็ก ๆ ไม่รู้ว่ะ
คู่สนทนาหันไปมองแล้วก็สั่นหน้า หญิงวัยกลางคนคนเดียวในกลุ่มกำลังมองเด็ก ๆ อยู่ด้วยสายตาที่เอื้อเอ็นดูเต็มไปด้วยความห่วงใย เขาสนใจดวงตาคู่นั้นเหลือเกินเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
..หรือว่ามันนานเกินกว่าที่เขาจะจดจำมันได้อีกแล้ว.. วันนี้เป็นวันอะไรว่ะ
มัสยะตั้งคำถามขึ้นระหว่างที่รอคอยอาหารที่สั่งไปแล้วมาเสริฟ วันที่พวกเราสอบติดไงละ
ใช่ ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าแต่แกถามทำไมว่ะหรือว่ามีอะไรพิเศษ
มีสิ
มัสยะย้ำน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะหันมาทางมารดาที่นั่งมองหน้าเขาอยู่
มีของขวัญให้แม่ด้วย ยื่นมือมาสิครับ แล้วทำไมต้องให้แม่ต่อหน้าทุกคนละลูก
ให้พวกมันอิจฉาเล่นไงละ เขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความสุขรอยยิ้มที่ทำให้คนแอบมองจากโต๊ะข้าง ๆ นั้นอึ้งไป
เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน คุ้น ๆ
เขาสรุปอย่างนั้นก่อนจะพิศมองสองแม่ลูก ด้วยความรู้สึกว่าคุ้นเคยเหลือเกิน
ผ้าเช็ดหน้าครับแม่ ใครเขาให้เป็นของขวัญกันละลูก
มัสเอาไว้ให้แม่เช็ดปากต่างหากละ
ลูกชายหัวเราะร่า ทำเอาเพื่อน ๆ ทุกคนปรบมือไปตาม ๆ กัน กับมุขฝืด ๆ ของเขา
มัสให้นาฬิกาแม่ สวมให้นะครับ แม่ไม่ได้สวมมานานแล้ว ต่อไปแม่จะให้รู้ว่าเวลามันเดินไปถึงไหนแล้ว และเราจะเดินไปข้างหน้าไม่ย้อนกลับไปหาอดีตอีก เวลามันไม่หมุนเข็มย้อนกลับ มัสรู้ว่าที่ตรงนี้เคยมีอดีตของแม่อยู่ แม่อาจจะไม่อยากมาที่นี่ แต่ต้องมาเพื่อมัส และเมื่อมาถึงแล้ว เราก็ต้องอยู่ให้ได้และเดินไปข้างหน้า เราไปด้วยกันนะครับแม่
อืมม
มารดาพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะก้มมองนาฬิกาทื่ข้อมือที่บุตรชายเพิ่งจะสวมให้
แม่จะเอาไว้ดูเวลาที่ลูกกลับบ้านผิดเวลาด้วยจะได้ตีถูก มัสจะได้ไม่ต้องเถียงแม่ว่ามัสไม่ผิด มัสไม่ผิด
ทุกคนเฮกันลั่น หากมัสยะทำหน้าเหวอ ..กะว่าจะซึ้งหากมารดาไม่เล่นด้วยแฮะ..
แม่ดูเวลานับจากนี้ต่อไปนะครับ จะไม่มีใครคนไหนทำให้แม่ต้องแอบร้องไห้อีก ต่อจากนี้ไปคือเวลาความสุขของเราสองคนแม่ลูกอย่างแท้จริง เพราะมัสโตพอที่จะดูแลแม่ได้แล้ว ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแม่อีกแล้ว
มัสยะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง ไม่มีรอยยิ้มในสีหน้าของเขา ทำให้มัสยาพอจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หล่อนเอื้อมมือมาแตะมือของลูกชายเบาๆ
ที่ผ่านไปแล้วมันต้องผ่านไปลูกเพราะถ้าเราวกกลับไปหามันก็เท่ากับเราถอยหลังเข้าคลอง แล้วเวลาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมามันก็จะผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ เชื่อแม่สิ
แต่มัสยะนิ่งเงียบ ทำเอามัสยาใจเสียหล่อนไปไม่ถึงหัวใจของลูกแล้วสินะ แม่ ไอ้มัสอาหารมาแล้วเลิกทำซึ้งแล้วมากินกันเถอะ
เพื่อน ๆ รีบร้องบอกเมื่อบรรยากาศเริ่มจืดชืดไป มัสยะรีบหันมาสนใจอาหารและตักอาหารให้มารดาทานอย่างเอาใจ มัสยาถอนใจยาว
ลูก..มักจะเลี้ยงได้แต่ตัว หัวใจเป็นเรื่องที่หยั่งลึกที่สุด มันยากเกินกว่าจะเข้าใจ..
Create Date : 31 มีนาคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2553 16:43:12 น. |
Counter : 1319 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 31 มีนาคม 2553 13:03:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 31 มีนาคม 2553 13:09:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 31 มีนาคม 2553 13:15:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 31 มีนาคม 2553 13:24:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 31 มีนาคม 2553 13:27:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: Single Mom IP: 203.146.12.13 1 เมษายน 2553 20:26:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 2 เมษายน 2553 12:02:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเจ็บ IP: 118.173.243.59 19 พฤศจิกายน 2553 15:15:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
ตัวเล็ก เป็นแม่ของอาเดียวคะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นแม่ที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่มีความตั้งใจ ที่จะเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ที่เกิดจากความรักของคนสองคน แม้ว่าหัวใจคนอีกคนจะสั้นนักก็ตาม
ลูกไม่ใช่ภาระ ลูกคือความสวยงาม เป็นสิ่งที่แสนดี ชีวิตเราในขณะนี้ ลูกคือทุกอย่าง
มาเอาใจช่วยแม่ตัวเล็กพาอาเดียวไปตลอดรอดฝั่งด้่วยนะคะ
เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ง่ายเลย ใครอย่ามาเลียนแบบนะ บอกเอาไว้ก่อน มันลำบากมากจริง ๆ โดยเฉพาะในวันที่ลูกป่วยและเราตัวคนเดียว
**ลูกโตขึ้นทุกวัน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวัน กับโลกว้าง สู้ ๆ เค้านะูลูก
แม่ไม่หวังอะไรปมากกว่าการเห็นลูกเติบโตขึ้นมาเ็ป็นลูกที่น่ารักและเป็นคนดีของสังคม..**
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นลูกชายที่น่ารักดีนะคะ :)
จากคุณ : littlevalvie
เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 22:19:39
ถูกใจ : PANPISA
เมื่อหัวใจไม่ลงรัก ( น่าจะปิดทอง ได้มั้ย ? )
มีใครคนนึง ฝากบอก
...แต่วันนี้ ฉันต้องทน อยู่กับความทุกข์ที่ยากเย็น
แต่ในใจ ฉันยังพร้อมจะเดินต่อ
เพราะฉันรู้...สิ่งที่ร้ายที่ผ่านเข้ามา ถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว
สิ่งใดในชีวิตคนเรา ผ่านมาแล้วจะผ่านไป
จะดีเลวร้ายเพียงใด ผ่านมาแล้วก็ต้องไป
สิ่งใดในชีวิตคนเรา ผ่านมาแล้วจะผ่านไป
จะมีความทุกข์เพียงใด แต่ฉันนั้นก็มั่นใจ
วันพรุ่งนี้...จะต้องดีกว่าวันวาน
ศิลปิน : เบิร์ด ธงไชย
เพลง : ผ่านมา-ผ่านไป
เนื้อเพลง ผ่านมา-ผ่านไป
คำร้อง เรวัต พุทธินันท์
ทำนอง วิชัย อึ้งอัมพร
อยากส่งเป็นเพลง แต่ทำไม่เป็น หาฟังเองละกัน
จากคุณ : PANPISA
เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 23:04:23