Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
ราชดำเนิน/ 17 พฤษภาคม 2535...เราเคยไปเดินเล่นมาแหละ

ช่ายแร้ว

แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าเราไปกะเพื่อนเลิฟสองคนอย่างร่าเริง รันร้า อ่ะนะ
ไปด้วยความเกลียดนายกขณะนั้น (และขณะนี้ อุ๊ก ฮ่า) น่ะใช่
แต่ไปดู ไปเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแหละ ไม่เชื่อเลยนะว่าเขาจะยิงจริงๆ
มันมีตะเสียงยิงขู่เป็นรอบๆ ตั้งกะบอกอยังอยู่ในธรรมศาสตร์นั่นแน่ะ แต่ก็ไม่เห็นมีไรนี่
คือบอกอไม่ใช่วีรชนอะไรแน่ๆ

ไปถึงก็ โหย คนเป็นล้าน ไม่มีที่นั่งเลยเว้ยเฮ้ย เต็มเกือบทุกตารางนิ้ว
ไอ้เพื่อนเลิฟก็ เฮ้ย แก ตรงโน้นว่าง
เออว่ะ ทำไมตรงนั้นมันคนหรอมแหรมๆ เจ๋อไปนั่งกัน
มารู้ทีหลังว่า เอ่อ มันติดรั้วลวดหนามน่ะ มันโซนอันตรายตายง่ายกว่าโซนอื่น เขาถึงไม่นั่งกัน
แหม เราช่างโง่ เอ๊ย ซื่อจริงๆ

แต่ไม่ว่ายังไง ตรงที่อื่นไม่รู้นะ แต่ตรงที่ราชดำเนินเนี่ย ทหารหลังรั้วลวดหนามเขายิงสูงง่ะ นั่งอยู่ ยิงไปเต๊อะ
ไม่โดนใครหรอก

จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่...จะเรียกเขาว่าวีรชนหรืออะไรดี
เขายืนขึ้น ร้องตะโกนว่า ทหารอย่ายิงประชาชน
เอ่อ เขายิงรัวอยู่ พี่จะรอดเหรอพี่

ห่างกะเราไม่ถึงสิบเมตรอ่ะ เห็นหมดเลยแหละ แบบว่าสมองขาวๆ ที่กระจายออกมาง่ะ ปนๆ กะเลือด
หนังสยองขวัญเหรอ เทียบไม่ได้หรอก ติดตามาจนถึงทุกวันนี้แน่ะ สิบกว่าปีแล้ว

ถึงได้เริ่ม...เฮ้ย ชิบหายแล้ววววววววววววววววววววว แก๊ มองหน้ากัน เอาไงดีวะ
คลานหนีหัวซุกหัวซุน โดนคนมันคลานข้ามหัว (ที่จริงข้ามทั้งตัว)
คือเขาคลานมาคร่อมตัวเลยนะ ไอ้เราก็...โห เขาเห็นเราเป็นผู้หญิง เขาปกป้องเรา (เธอช่างซื่อ)
จนรู้ตัวก็ตอนที่รองเท้าแตะมันมาแปะอยู่ตรงหน้าเราน่ะ มันคลานหนีเลยข้ามเราไปเลย มันคงว่าเราช้าไม่ทันใจ
(ไอ้บ้า แค้นจิงๆ เรียกมันว่าไอ้วีรชนรองเท้าแตะจนเดี๋ยวนี้ ฮ่า)


แล้วก็เดินหนี เดินๆ ซุกๆ หลบตามรถที่จอดไปตามทาง
พอเห็นรถจี๊ปมา ก็หลบวูบๆ แหม ไม่หลบได้ไง เขาเอาไฟส่องยังก๊ะส่องสัตว์นินา
กำลังคิดอยู่ว่าจะหนีไปทางไหน จะไปตึกแถวบ้านเพื่อนที่สวนมะลิ แต่ไม่ถนัดเส้นทาง จะไปท่าพระจันทร์เขาก็ว่าว่ามันไปดัก
(โชคดีมากที่ไม่ไป เห็นว่าร้านอาหารท่าพระจันทร์หลายร้าน รับเด็กเข้าไป แต่บางร้านไม่รับเลย เลวมั่ก
ร้านป้าศรี (ซึ่งปิดไปแล้ว ฮือ) รับเด็กเข้าไปอัดกันจนเต็มข้างบน ซาบซึ้งจริงๆ)

โชคดีมากเจอพี่วีรชนของจริงสองคน เขามาจากเมืองกาญจน์แน่ะ
เขาเคยทำงานกรุงเทพแล้วก็รู้เส้นทาง พาเราเดินลัดเลาะไป หลบรถจี๊ปส่องสัตว์ เอ๊ย ส่องคนไป
พี่สองคนนี้เขาก็ดีมากนะ แต่ค่อนข้างจะ...จริงใจสไตล์ลูกทุ่ง เช่นว่า
เราขอบคุณเขาที่จะช่วยนำทางไป เขาก็ว่าชะตาลิขิตให้เราได้มาร่วมกันทำเพื่อประเทศชาติ
จนถึงตึกแถวบ้านเพื่อน บอกเขาว่าถึงแล้ว เขาก็ว่าโชคดีนะน้อง พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
(เรายังคิดว่าเราจะได้เจอเขาไหม ถ้าเราไปสวนลุม ฮ่า)

นึกย้อนไปว่าเออ เรารอดปากเหยี่ยวปากกามาจริงๆ นะ นั่งเจ๋ออยู่ตรงหน้าขนาดนั้น
ตอนหนี ไปตามทางมืดๆ ตรอกแคบๆ ไม่มีคนเนี่ย ถ้าพี่สองคนนี้ไม่ดีจริงๆ เราก็อาจจะแย่ก็ได้

พอถึงบ้านเพื่อน กดกริ่งทุบประตูเรียก พ่อแม่เขาก็ตกใจ
เพื่อนมันก็มาฟังเราสองคนเล่าเหตุการณ์ แล้วมันก็ด่า

“ทำไมไม่ชวนชั้นไปด้วยวะ แก เลวววววววววววววววววว”

น่าน แหม ก็สมัยนั้นมันไม่มีมือถือนี่หว่า ฮ่า


Create Date : 17 ธันวาคม 2548
Last Update : 17 ธันวาคม 2548 0:22:03 น. 26 comments
Counter : 839 Pageviews.

 
ง่า.....

รอดมาได้ก็ดีนะพี่


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:0:32:28 น.  

 

แปลกใจ เหนบล๊อกพี่ปุ๋ย...อัพดึก ๆ ง่า...

โหววว..ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย..อย่างระทึกขวํ. . .- -~*



โดย: Sary วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:0:48:01 น.  

 
บอกอ ใจกล้ามั่ก มาก


โดย: ฉะฉาน วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:0:51:06 น.  

 
เคยร่วมเหตุการณ์เหมือนกัน ตอนเดือนตุลา

ไม่ได้มาประท้วงอะไรกับเค้าหรอก หนีตายมาหางานทำที่กรุงเทพ

คนรู้จักที่จะมาของานทำอยู่แถวนั้น ไอ้เราก็ไม่ได้สนใจบ้านเมืองไม่คิดว่าจะบานปลายขนาดนั้น

โชคดีที่หน้าแก่และวิ่งหนีกันอยู่สองคนเพราะไอ้พวกห่าที่ยิงเห็นมันเล็งแต่กลุ่มนักศึกษา


โดย: . IP: 58.10.84.217 วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:1:15:43 น.  

 
ดีค่ะอยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้มั่ง


โดย: เสียงซึง วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:1:23:45 น.  

 
แม่อ้อนก้อไปนะพี่ปุ๋ย ไปกะน้าชายคนโต ไม่รู้คิดยังไงตอนนั้นหรือเห็นว่าทุกอย่างได้เซ็นไว้เรียบร้อยแล้ว ลูกคงจะอยู่ได้ด้วยตนเองหากกำพร้าแม่... อันนี้เอามาดุเค้าจริงๆไปแล้ว แม่ก้อบอกว่าตอนนั้นมันมันส์ในอารมณ์ แต่พอเข้าไปแล้วก้อมันส์ยิ่งกว่าที่คิดอีก ก้อประมาณพี่ปุ๋ยนั่นแหละ ไปถึงก้อไม่คิดว่าเค้าจะมียิงกันจริงๆ สองพี่น้องนี้เค้านั่งรถสามล้อเข้าไปเสร็จแล้วก้อเย้วๆอยู่ในนั้นเป็นวันๆ ไม่รู้ทนไปได้ไงเพราะแม่อ้อนช่างเป็นคนที่ไม่ชอบแออัดแบบนั้นแท้ๆ น้าชายก้อเหลือเกินไม่ห้าม ยังผ่าพาไปอีก ... เขาก้อไปได้ที่นั่งกันละมั้ง แล้วอยู่ดีๆก้อมีโวยวาย มียิงกัน เขวี้ยงกัน แม่ก้อเจอประมาณพี่ปุ๋ยแต่ระยะไกลๆมองไม่ค่อยเห็นหรอก แต่น้าชายอ้อนระยะเผาขนกว่า

คือมีความรู้สึกว่าอะไรมันวูบมาใกล้ๆหัว ด้วยความที่เคยเป็นทหารเก่าแล้วไปเป็นปลัดบ้านนอกอยู่พักนึง เค้าก้อเลยหลบตามสัญชาตญาณ คือย่อตัวลงหลบวูบ พอเงยขึ้นมาอีกที ก้อเห็นผู้หญฺงคนนึงนอนจมกองเลือดอยู่ ใกล้ๆกะหัวห้อมีก้อนอิฐอันบักเอ้ง แอ้งแม้งอยู่ เข้าใจว่ามีเขวี้ยงกันแล้วถ้าน้าชายอ้อนไม่หลบ คนที่จะลงไปจมกะกองเลือดก้อต้องเป็นเค้าแทนที่จะเป็นผู้หญิงคนนั้น ... ไม่รู้ถึงตายป่ะนะ เพราะตอนนั้นก้อ ตัวใครตัวมันแล้วล่ะ


ส่วนแม่กะน้าชายก้อวิ่งพรวดกันออกมาแล้วหาทางกลับบ้านชนิด สปีด เร็วกว่านรก...


โดย: เด็กที่รอคอยก้อไม่คิดว่าบอกอจะเอากะเค้าด้วย (เด็กที่รอคอย ) วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:1:39:02 น.  

 
โหยยยยยยย บอกอ...
นม. ว่าอยู่ร่วมในเหตุการณ์แล้วนะ ยังไม่ใกล้ชิดเท่าบอกอเลยอ้ะ

เหตุการณ์เดียวกันนั้น
สาวน้อยสวยใสซื่อ โดนสั่งห้ามออกจากหอพัก ซึ่งตอนนั้นโรงอาหารหอแปรสภาพเป็นศูนย์อำนวยการของ สนนท. ไปแว้ว

สาวน้อยได้รับหน้าที่ให้คอยดูๆ ว่าเพื่อนๆ ที่ออกไปแสดงพลังกับเขาตอนกลางคืนเนี่ย กลับมาครบพร้อมหน้าพร้อมตาไหม
กับตอนหัวค่ำ คอยดูว่า เขาจะประชุมหารือว่ายังไง แล้วก็ดูวิดีโอที่โรงอาหารนั่นแล

โทรศัพท์จะติดต่อกับทางบ้านหรือกับเพื่อนเรอะ ฝันไปเหอะ ยกหูขึ้นมา ก็มีแต่เสียงดังตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด ทุกเครื่อง มาทราบทีหลังว่า ระบบถูกตัดทั้งหมด สมัยนั้นในระดับนักศึกษา อย่าว่าแต่มือถือเลย เพจเจอร์ยังไม่มีกันเลย มาฮิตตอนอยู่ปีหลังๆ แล้วอ้ะ เพจเจอร์กับมือถืออ้ะ

ที่บ้านนอกก็ร้อนใจ ติดต่อสาวน้อยไม่ได้ (ก็บอกแล้วระบบโทรศํพท์ตัดหมดทั้งสถาบัน) มาบุญครองก็ประกาศไล่ช่วงสิบเอ็ดโมง หลังจากนัดรวมตัวกับเพื่อนๆ เกือบสิบคนเนื่องจากบ้านเมืองประกาศเคอร์ฟิว เลยไปนั่งกินไก่ผู้พันกันตอนสิบโมงกว่าๆ ยังกินไม่ทันหมดถาดเลย ห้างประกาศปิด แยกย้ายกันไป พี่ๆ ผู้ชายในกลุ่ม บังคับสาวๆ ให้กลับเข้าหอให้หมด

สิบห้าปีที่อยู่ละแวกนั้นมา เพิ่งเห็นช่วงนั้นแหละ ที่ประตูมหาวิทยาลัยปิดทุกด้าน ทุกประตู ยกเว้นประตูหอพัก ที่แง้มๆ เอาไว้หน่อยนึง

โรงอาหารปิดเรียบ ร้านค้าละแวกนั้นปิดเรียบ ใครจะกินอะไรต้องเดินไปตลาดสามย่าน ไม่แน่ใจว่าร้านจีฉ่อยปิดไหมนะ ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน ..
ที่แน่ๆ ต้องเดินไปหาอาหารมาตุน เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะสงบเมื่อไร

มาม่า ปลากระป๋อง โดนกว้านซื้อไปเรียบ เราได้แค่มาม่ายี่ห้ออะไรไม่รู้ ประหลาดๆ มาสี่ห่อ แหะๆ กะว่ากินวันละห่อ กันตาย... เอิ๊กกกกก

พอวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งให้สองผู้ที่ขัดแย้งกันเข้าเฝ้าเนี่ย น้ำตาไหลตามๆ กัน คือช่วงนั้นมันลุ้นด้วยไง ว่าเพื่อนตรูจะกลับมากันครบไหม พรุ่งนี้เช้าน่ะ อะไรประมาณนั้นอ้ะค่ะ


อันที่จริงอารมณ์มันพี้กสุดตอนดูวิดีโอภาพในโรงแรมรัตนโกสินทร์นั่นแหละ น้ำตาก็ไหลพรากๆ ถึงไม่ได้เห็นภาพชัดๆ อย่างบอกอ แต่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ก็ลืมภาพที่เห็นไม่ได้เหมือนกัน ถึงตอนนี้ดูสารคดีก็ยังน้ำตาไหลพรากๆ แบบไม่มีสาเหตุ

แล้วช่วงนั้นก็หลอนเสียงมอเตอร์ไซด์ กับเสียงปืนและเสียงระเบิดมากๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน

พอดีอยู่ในย่านกลางเมือง ที่มีข่าวว่าไฟเขียวไฟแดง กับป้อมยาม โดนทำลายมากที่สุดอ้ะค่ะ แถมด้วยระเบิดที่หัวลำโพง ก็มองเห็นควันจากหอพักที่อยู่อีกด้วย มันก็เลยหลอนๆ ยังไงไม่รู้ ตอนนี้เสียงมอเตอร์ไซด์ดังๆ มากๆ บางทีก็แอบๆ กลัว

ช่วงล่าสุดที่คนมีอำนาจสื่อ กับคนคุมอำนาจสื่อเขามีเรื่องกัน ก็แอบๆ กลัว ว่าบรรยากาศเดิมๆ จะกลับมาเหมือนกัน

ชาตินี้ขออยู่ในบรรยากาศแบบนั้นรอบเดียวก็พอเนอะ
อย่าให้มีอีกครั้งเล้ย...




โดย: เล่ายาว..นะคะ (มรกตนาคสวาท ) วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:1:49:01 น.  

 
ร้านป้าศรีปิดไปแล้วเหรอครับ
ร้านนี้ข้าวหอมของเขาหอมกรุ่นจริงๆ


โดย: <เซ็นเซอร์> วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:2:22:40 น.  

 
โอย ตาย สมองไหลเลยเหรอคะ......
เกิดเหตุการณ์แบบนี้เพื่อนพี่ยังคิดจะไปดูด้วยอีกเรอะ ตอนก่อนเกิดเหตุการณ์เคยคิดว่าจะไปดู โดนแม่สวดยับเลยค่ะ


โดย: Fruit_tea วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:7:41:47 น.  

 
วีรกรรมระทึกจริงๆ ค่ะ
ยิ่งตอนเห็นภาพสมองกระจายด้วย



โดย: jan_tanoshii วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:8:12:38 น.  

 
อา ดีใจที่เจอคนร่วมเหตุการณ์
อยู่ร่วมเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เหมือนกันค่ะ

อยู่ในโรงแรมรัตนโกสินทร์ทั้งคืน
ได้ยินเสียงปืนตลอด เห็นตอนโรงแรมเปลี่ยนสภาพเป็นโรงพยาบาลสนามด้วย

ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว
สังคมการเมืองก็ไม่ได้ดีขึ้นเล้ย
ให้ตายเถอะ



โดย: grappa วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:8:17:50 น.  

 
เค้าอยู่บ้านนอกง่ะ ได้แต่ดูข่าว ตอนนั้นยังไม่เข้ามหาลัยเลยอ๊ะ พี่ปุ๋ยกล้าจินๆ


โดย: froggie IP: 203.188.11.21 วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:11:57:01 น.  

 
ช่วงนั้นอยู่รังสิต มีแต่ข่าวลือว่าจะมีทหารโคราชเข้ามา เลยมีด่านมาตั้งห้ามรถทัวร์ รถบัสเข้ากรุงเทพฯ วุ่นวายกันไปใหญ่


โดย: ultraman seven วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:18:34:18 น.  

 
เอื๊อก เราไม่รุเรื่องไรเลย ลั้นลา อยู่บ้าน เพราะโรงเรียนปิด

ถ้ามีอีกตอนนี้ ... เราก็คงไป


โดย: patsypacky วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:19:35:42 น.  

 
ไม่งั้นคงไม่มีบก.ในวันนี้ อิอิ


โดย: ว่านน้ำ วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:21:12:43 น.  

 
ตอนนั้นเพิ่งสึกมา อิอิ ก่อนหน้านี้วันสองวันยังไปเดินซื้อหนังสือที่ดอกหญ้าท่าพระจันทร์เลย

ตอนนั้นยังไม่มีวี่แววเลยซักกะนิ๊ด


โดย: MTF IP: 202.133.156.120 วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:10:27:10 น.  

 
โอ๋ว เพิ่งเห็นพี่ปุ๋ยอัพ

พี่ปุ๋ยใกล้ชิดมั่กๆ ค่ะ แล้วก็อ่านของหลายท่านแล้วก็สยอง ตอนนั้นหนูยังเด็กง่ะ ยังไม่ได้เข้ากรุงเหมือนกัน แต่พี่ชายที่เข้ามาเรียนกรุงเทพแล้วมาร่วมชุมนุมค่ะ แล้วกลับมาเล่าให้ฟัง แต่ไม่มีภาพสยองๆๆๆ แบบพี่ปุ๋ย มีแต่หนีๆๆ กันแล้วก็ด่าทหาร ด่าทีวีที่ให้ข่าวบิดเบือนเรื่องคนชุมนุมปิดทางพระเทพฯ อะไรนั่น (ความจริงแทบจะกวาดถนนรอรับเสด็จเลยก็ว่าได้)

พี่ปุ๋ยพูดถึง "สามัญชนผู้ยิ่งใหญ่" หนูก็ดูค่ะ แต่สงกะสัยเลือดธรรมศาสตร์ของหนูจะจางไปหน่อย เลยได้แต่ซึ้งแต่น้ำตาไม่ไหล เหะๆ (แต่ยังไงก็รักธรรมศาสตร์นะคะ)

ดูตอนที่ในหลวงทรงให้อ.สัญญาเป็นนายกฯ ทั้งๆ ที่อ.สัญญาไม่ได้รู้ตัว แล้วก็ไม่อยากเป็นเลย นี่หนูอดคิดไม่ได้เล็กๆ ว่าเดี๋ยวนี้ยังจะมีมั้ยเนี่ย ปิดทองหลังองค์พระปฏิมาแล้วก็มีคนเห็นเองเนี่ย เหมือนเดี๋ยวนี้ทำอะไรต้องพรีเซนต์เสนอหน้าไว้ก่อนไม่งั้นไม่มีใครรู้ ... เอ่อ... หนูว่าหนูอาจจะเริ่มเสื่อมศรัทธาอะไรบางอย่างแฮะ (<--- นี่ไม่ได้พูดถึงในหลวงท่านกับอ.สัญญากับเรื่องที่ว่าอ.สัญญาไม่อยากเป็นนายกหรอกนะคะ แค่พูดถึงเรื่องการปิดทองหลังพระน่ะค่ะ) แม่หนูจะพูดอะไรคล้ายๆ กับปิดๆ ไปเหอะ ปิดไปมากๆ ให้ทองมันล้นออกมาข้างหน้าเอง... หนูก็พยายามแหละ...

ว่าแต่ร้านป้าศรีปิดไปแล้วเหรอ ไม่ได้ไปแถวนั้นนานแล้วค่ะ รู้แต่ว่าร้านดุ๊กปิด

ปล.รอดูตอนพ่อปรีดีเหมือนกันค่ะ


โดย: วีวี่ IP: 58.147.103.106 วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:2:12:48 น.  

 
แพนด้ามหาภัย << มั่นใจว่าคงรอด คือรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางไง เห็นเขายิงกันก็เผ่น
ตีสองวันที่ 17 ก็นั่งป๋ออยู่บ้านเพื่อนแล้ว จากนั้นก็กลับบ้าน
(พ่อโกรธ แม่กรี๊ดเข้าใส่ ไม่ได้ออกจากบ้านอีกเลยช่วงนั้น 18 กะ 19 นี่เป็นเด็กดี
อยู่กะเหย้า เฝ้าเรือน เอิก)

Sary << กะลังวัยรุ่นน่ะรี่ ไม่ได้คิดไรมาก
ถ้าเป็นตอนวัยร่วงแบบนี้ คงไม่เจ๋อไปนั่งแถวหน้าๆ เด็ดขาด ฮ่า

ฉะฉาน << ไม่ได้กล้าหรอก อย่างที่ว่า ไม่ได้คิดไรมากกว่า
ไม่เชื่อว่าเขาจะฆ่าเราได้จริงๆ ไง

. << เอ่อ โชคดีที่หน้าแก่
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก นับเป็นบุญไปค่ะ
มันเล็งยิงแต่นักศึกษานี่ ฟังแล้วสะเทือนใจมากนะ

เสียงซึง << แหะ จริงๆ มันไม่น่าเห็น แล้วก็อย่าให้มันเกิดในบ้านเมืองของเราอีกเลยค่ะ
เราเอง ถ้าย้อนกลับไป รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะกล้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้

เด็กที่รอคอย << จริงดิ เกริ๊กกกกกกก แล้วตอนนั้นอ้อนอยู่ไหนเนี่ย
สถานการณ์ตอนนั้นมันก็ใกล้ชนิดเผาขนกันเป็นหย่อมๆ อ่ะนะ เพราะที่ตายไม่ได้มีคนเดียว
มันตายกันเป็นจุดๆ
แต่ตอนนั้นซาบซึ้งน้ำใจหมอศิริราชมั่กๆ ข้ามฟากมารับคน
เวลาพวกหมอพวกรถพยาบาลมา ก็เข้าแถวปรบมือกันนะ พี่ก็เข้าแถวปรบมือกะเขาเหมือนกัน
ก่อนจะหนีตายไปสวนมะลิอ่ะ

หนูมอ << โดนห้ามออกจากหอพักเหรอ?
หนูมออยู่ฝ่ายดูแลอ่ะจิ
ของพี่ไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่เด็กกิจกรรม เข้าตะชมรมยิงปืนกะดนตรีไทย
(มันเข้ากันตรงไหนเนี่ย สองชมรมเนี้ย กรั๊กๆ)
โผล่ไปแบบว่า นึกว่าคงหนุกดี (กลายเป็นสนุกทั้งน้ำตา)
เพิ่งรู้ว่าสถานการณ์ที่จุฬาก็ตึงเครียดเหมือนกัน จากที่อ่านของหนูมอนี่แหละ
รู้แต่ของธรรมศาสตร์ คือประหนึ่งว่าเรานี่ใช้ชีวิตอยู่ในสนามเพลาะ
ยังขอบคุณพระคุณเจ้าอยู่ทุกวันนี้ที่ไม่เลือกหนีไปทางท่าพระจันทร์ ฮือ

<เซ็นเซอร์> << ค่ะ ไม่รู้สาเหตุอ่ะ
เดาเอาก็ต้องว่าป้าแกเหนื่อย ไม่งั้นก็สู้กระแสโลกาภิวัตน์แถวนั้น อันประกอบด้วย KFC Swensen ไม่ไหว T_T

Fruit_tea << คือเพื่อนพี่เนี่ยห้าวๆ ทอมๆ หน่อย
(เอ๊ะ เคยบอกใครหรือเปล่าว่าสมัยมหาลัยพี่ออกทอมบอย
คบตะเพื่อนผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ กิกิ)
ก็พากันลุยไปสองคน พอกลับบ้านได้ พ่อแม่สวดยับทั้งคู่แหละมุ๋ม เอิกกกก

jan_tanoshii << ก็ แหะแหะ
ไปด้วยความ...รู้เท่าไม่ถึงการณ์นะคะ
รู้แต่ว่าเกลียด “มัน” แต่ไม่เชื่อว่าเขาจะยิงกัน
มันก็ทมิฬสมชื่อมันแหละค่ะ

grappa << อ่ะ งั้นเราคงร่วมยุคร่วมสมัยเดียวกันอ่ะค่ะ
แต่ว่านะคะ คุณกล้ากว่าเรามากที่อยู่ตรงนั้นทั้งคืน
ของเราพอเขาเริ่มยิงกัน คลานกระดุ๊บๆ หนีมาจากโซนนั้นได้
เราก็มาอยู่ตรงโซนแถวๆ คลองหลอด คอยปรบมือให้แพทย์ศิริราชที่มาช่วยคนเจ็บ
ช่วงนั้นข่าวลือตะโกนกันกระจายมาก บางคนบอกว่าป๋าเปรมจะมาช่วย ทหารเรือจะมาช่วย มั่วไปหมด
แต่พอทหารเขาเริ่มดันแนวเข้ามา เรากะเพื่อนเก๊าะเผ่นอย่างที่เล่าให้ฟังเนี่ยแหละค่ะ ^^

froggie << วัยรุ่นง่ะ แหะ ไม่ค่อยคิดอารายมาก
ตอนเห็นสมองกระจาย ถึงได้รู้ว่าเฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย มันเอาจริง มันเอาจริง มันฆ่าเราได้จริงๆ T_T

ultraman seven << รุ่นน้องที่รังสิตก็เล่าให้ฟังว่าที่รังสิตก็เก็บตัวอยู่ในหอกัน
ไม่ได้ไปไหนเลยอ่ะค่ะ

patsypacky << ฮ่า แหม งั้นนัดเจอกันได้เลยอีหนู กรั่กๆ

ว่านน้ำ << บอกอในวันนี้เลยเป็นแบบแปลกๆ ไง
จะซ้ายก็ไม่ซ้าย จะขวาก็ไม่ขวา จะเป็นวีรชนรึก็เน้นบันเทิง จะเอาฮาหรือก็มีเลือดรักชาติปนอยู่หน่อยๆ
ผสมมั่วไปหมด ฮ่า

MTF << มันไม่มีจริงๆ พี่ ช่วงเที่ยงๆ วันที่ 17 ได้ยินเสียงปืนเป็นรอบๆ แต่ปุ๋ยยังเดินแทะไอติมอยู่ในธรรมศาสตร์เลย
แบบว่าข่าวที่ลือกันว่าในธรรมศาสตร์ มีซัดกัน มีอะไรกันนั่นน่ะ คอนเฟิมได้เลยว่าไม่จริง
คือมีเสียงปืน แต่หนูยังเดินแทะไอติมกะเพื่อนอยู่เลยอ่ะ

วีวี่ << แหะ พี่ emotional กับคนดีๆ เรื่องอะไรที่มันดีๆ น่ะวี่
อาจจะเพราะพี่รู้ว่าเราดีอย่างเขาไม่ได้ ก็เลยซาบซึ้งกับคนที่เขาทำได้เป็นพิเศษ
อย่างดูหนังเศร้าอะไรเฉยๆ นะ ไม่ค่อยร้องไห้ รำคาญมากกว่า
จะน้ำตาไหลพรากกับอะไรดีๆ สวยๆ งามๆ นี่แหละ เรียกว่าต่อมน้ำตาของแต่ละคนทำงานไม่เหมือนกันดีกั่ว

จริงๆ ก็มันไม่ได้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำดีงามอะไรเลยนะคะ
มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย
เราเชื่อว่าในหลายคนที่ไปอยู่ที่นั่น มีไม่น้อยที่เป็นอย่างเรา คือไปดู ไปสังเกตการณ์ ไปด้วยความอยากรู้

และไปด้วย “ความเชื่อ” ว่าเขาไม่ยิงเราจริงๆ หรอก

แล้วเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราผิด

...................


โดย: ปป IP: 203.154.148.50 วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:12:59:03 น.  

 
ตามมาอ่านประสบการณ์ บอกอ ครับ ^^

ของผมเหมือนคุณ patsypacky เลยอ่ะครับ
แหะ ๆ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ตอนนั้น


โดย: เดินสองดวงจันทร์ วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:14:34:02 น.  

 
ตอนนั้นอยู่ออสกะพ่อฮ่ะ(จริงๆแล้วอยู่กะพี่เลี้ยง พ่อไม่เคยอยู่บ้าน ปีนึงคุยกันสามประโยค) แม่อยู่เมืองไทยยังไม่มาอยู่ด้วยที่นี่ ได้แต่ดูข่าวจากทีวีอยู่ที่นี่แท้ๆข่าวมันยังดังพอที่จะมาเผยแพร่ เด็กที่รอคอยยังน้อยนัก แต่มีแก่ใจคิด...เออหนอ กินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน แล้วก้อมาฆ่ากันเอง



เพื่อนอ้อนอีกคนมันส์กว่าเพราะพ่อมันอยู่ในแวดวงนั้น บ้านมันยังโดนดักฟังเลย ตอนนั้นโทรๆไปคุยกะมันก้อจะมีเสียงกระแอมกะไอติดมาบ้าง จุ๊กจิ๊กๆบ้าง วันไหนอยากคุยกันซีเรียสๆก้อต้องทำร่าเริง วันไหนอยากคุยบ้าๆบอก้อด่าไอ้เวรที่แอบดักฟังนั่นกัน



ไม่รู้ใช่"ไอ้แหลม" ที่เป็นแผนกดักฟังตอนเค้า ว. กันช่วงนั้นป่ะนะ


โดย: เด็กที่รอคอย ถ้าเป็นสมัยนี้เด็กที่รอคอยก้อคงลุยเองไม่รอแม่หรอก (เด็กที่รอคอย ) วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:16:52:33 น.  

 
เอ่อป้าคะ...

ตอนนั้นตู่จำได้ ประมาณขึ้นม.ต้นพอดีอะ
แหะแหะ อายุห่างกันเหลื๊อเกิน (พล่อก -- ป้าปุ๋ยส่งมาหนึ่งหมัด)

จำได้แต่ว่าตอนแรกดีใจ เช้าวันเปิดเรียน ขณะทีก่ำลังจะตื่น เพื่อนโทร.มาถามว่าทำอะไรอยู่ (กำลังจะด่ามันไปเชียวว่าโทร.มาบ้าอะไรเช้าป่านนี้)

แล้วคุณเพื่อนคนดีก็บอกให้เสร็จสรรพ... เออ ไม่ต้องตื่นแล้ว เค้าห้ามออกจากบ้าน โรงเรียนประกาศเลื่อนเปิดไปหนึ่งอาทิตย์ (บังเอิญว่าโรงเรียนตู่มันก็อยู่ใกล๊ใกล้กับเหตุการณ์ซะด้วยสิ)

เสร็จแล้วก็จำได้ว่าตัวเองกระดี๊กระด๊า ขนการ์ตูนที่โดนเก็บไปแล้ว (ฝีมือพี่ ไม่ก็แม่เนี่ยแหละ) เอาออกมาอ่านอย่างสำราญใจ

ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรตอนนั้นเล้ยยยยยยยยย จนมีแฟ็กซ์เข้ามานี่แหละ แฟ็กซ์ที่เป็นปลุกระดมประมาณว่าไปชุมนุมกันที่นั่นที่นี่ ตอนนี้มีปญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ

แค่นั้น ได้อ่านแป๊บเดียว แล้วอาก็คว้าออกไปไหนไม่รู้ รู้อีกทีก็ตอนเค้าถาม ๆ กันเอง เฮ้ย หายไปไหนแล้ว.. (คือคุณอานี่ร่วมวีรกรรมมาตั้งแต่สมัย14 ตุลาเลยค่ะ - -")

จริง ๆ จะว่าไปก็รู้สึกผิดนะ
แหม จะให้เด็ดม.ต้นไปร่วมชุมนุมก็กระไรอยู่ ข่าวสารบ้านเมืองเราก็ไม่ทันสนใจ ตอนนั้นในหัวยังแอบคิดเลยว่า เออ เลื่อนเปิดเทอมไปอีกเยอะ ๆ ก็ดี ขี้เกียจเรียน

แต่พอเห็นภาพข่าวเหตุการณ์ พอมารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง........

ช็อคค่ะ ช็อคไปเลย รู้สึกผิดมาก ๆ ด้วยอะ
แต่ก็ได้แต่ปลง... เราทำอะไรไม่ได้นี่หน่า
ได้แต่มานั่งคิดว่า... ทำไมมันต้องทำแบบนี้กันด้วยฟะ??

(แต่ก็อดมีความคิดแผลง ๆ ไม่ได้... อยากรู้ความรู้สึกตอนไปเดินอยู่บนถนนราชดำเนินมั่งจัง)


โดย: =too= วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:27:09 น.  

 
พี่ปุ๋ย Merry X'mas นะคะ ขอให้คุณบ.ก. สุขภาพแข็งแรงตลอดปีใหม่ที่จะถึงนี้นะคะ มีความสุขมากๆนะคะ พี่ปุ๋ย

Image hosted by Photobucket.com


โดย: Fruit_tea วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:10:53:25 น.  

 
ตอนไปงานรับเพื่อนใหม่ที่ศูนย์รังสิต
เค้าเอาวีดีทัศน์ (เรียกถูกรึเปล่าหว่า - -") มาให้ดู
มีภาพนึง เป็นผู้ชายถูกแขวนคออยู่ใต้ต้นไม้
แล้วก็มีคน(น่าจะทหาร) เตะ เตะ เตะ
ดูมาถึงตรงนี้แล้วก็ร้องไห้ น้ำตาไหลพราก
พอถึงตอนที่เค้านั่งยางเท่านั้นแหละ
สะอื้นฮักเลย
ทำกันได้ัยังไง
จนเพื่อนไลน์เดียวกันมองด้วยสายตาแปลกๆ แกเป็น(บ้า)อะไรรึเปล่า ร้องไห้ทำไม
อ่าน 70 ปีธรรมศาสตร์ประกาศนามแล้วก็นะ..ร้องไห้
สงสัยคงเป็นคนอ่อนไหวมั้ง
แต่พออ่านบล็อคคุณปุกปุยแล้ว นึกภาพออกเลยค่ะ


เหลืองของเราคือธรรมประจำจิต
แดงของเราคือโลหิตอุทิศให้


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:54:27 น.  

 
เพิ่มเติม ตอนที่เค้าเอาวีดีทัศน์มาฉายที่ท่าพระจันทร์
อยากร้องไห้ แต่ร้องไม่ได้ เพราะเพื่อนสนิทมันนั่งอยู่ข้างๆ
แต่ดูแล้วแบบ...
สนามบอลที่เรานั่งอยู่นี่มัน
เคยเกิดอะไรขึ้นบนที่แห่งนี้

ปล* เพื่อนหนูเล่าให้ฟังอ่ะค่ะ ว่าตอนนั้นเค้ามีข่มขืนกันด้วย ไม่รู้ว่าจริงรึป่าว
รับไม่ได้จริงๆ มันทมิฬมากๆเลย


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:58:17 น.  

 
แวะมาลงชื่อร่วมรุ่น ปี 35 ด้วยครับ --เป็นเด็ก ม 6 ที่วิ่งไปวิ่งมา ในเหตุการณ์ตอนนั้น



โดย: ++++กล่องผูกโบว์++++ วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:14:43:55 น.  

 
ยกนิ้วให้พี่ปุ๋ยค่า
นุชยังเป็นเด็กมัธยมบ้านนอกอยู่เลย แต่ติดตามข่าวตลอด อยากรู้นั่นนี่

นึกว่าถ้าเปนเราอยู่ตรงนั้นคงจะขนลุกไม่น้อยเลยทีเดียว

ประสบการณ์ชีวิตที่ลืมไม่ลงจริงๆค่ะ


โดย: Janya_neena IP: 125.25.150.240 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:19:37:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

=p o o k p u i=
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]





Most of the trouble in the world is caused by people wanting to be important [TS ELIOT]

ไม่อยากตกข่าวร้อน ไม่อยากพลาดข่าวร้าย เอ๊ย ข่าวฮ็อต
อย่าลืมติดตามบล็อกปุกปุยรายวัน!
**********************
ยามศึกเรารบ ยามสงบเรามุงๆๆๆ ^^
Friends' blogs
[Add =p o o k p u i='s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.