สืบเนื่องจากได้อ่านหนังสือ "เปิดบันทึก กลยุทธ์สร้างแบรนด์" ในหนังสือพูดเรื่องประวัติของกระเป๋าหลายๆ แบรนด์ ที่เน้นมากสุดก็ตามปกเลยนั่นก็คือ Louis Vuitton ในเล่มก็เล่าถึงที่มาที่ไปหลายๆ ยี่ห้อ แต่เราขอหยิบยก Hermès มาเล่าก่อนเลยละกันเพราะถือว่าอายุเยอะสุด ตั้งกว่า 170 ปีมาแล้ว
Hermèsแอร์เมส คือ ธุรกิจครอบครัวเจ้าของประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 170 ปี แบรนด์ที่มีนิสัย ช่างยึดติดกับธุรกิครอบครัวให้ความสำคัญกับการเป็นงานฝีมือ (Craffmanship
) และ คุณภาพมากกว่าขนาด ยึดถือเทคนิคที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ รักษากระบวนการผลิตสินค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพของการผลิต และการดำรงอยู่ของรุ่นต่อไปเป็นพื้นฐานไม่ใช่การทำยอดขายหรือหาผลกำไรแบบเร่งรีบ แอร์เมส Hermès
ไม่มีหน่วยงานทางการตลาด สิ่งที่สร้างผลกำไรให้ แอร์เมส Hermès
คือความมุ่งมั่นและตั้งใจของช่าง และความสัมพันธ์ของช่างกับลูกค้า ถึงแม้จะมียอดขายรวมต่ำกว่า Louis Vuitton
ถึง 4 เท่า แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง เพราะราคาขายต่อหน่วยสูงมาก
ปี 1837 เทียร์รี่ แอร์เมส (Thierry Hermès
) เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มทำกิจการสตูดิโอ ผลิตอานม้า บนถนน rue Basse du Remparts
ในกรุงปารีส ก่อนที่ Louis Vuitton
จะก่อตั้งเป็นเวลา 17 ปีเริ่มแรก Hermès
เป็นที่รู้จักในฐานะชนชั้นสูงและเป็นบ้านที่รักอานม้า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดหาอานม้าให้กับจักรพรรดิ นโปเลียนที่ 3 เมื่องานเอ็กซ์โปปี 1867 Hermès
นำรองเท้าแตะมาโชว์ ได้รับรางวัลเหรียญเงินทำให้มูลค่าของ Hermès
ขึ้นทันที (ดังเพราะรองเท้าแตะเนี่ยนะ เออคือคนจะดังจะรวยช่วยไม่ได้จิรงๆๆ)
ปี 1879 ชาร์ลส์ เอมิล แอร์เมส (Charles Émile Hermès
) ทายาทรุ่น 2 ได้ย้ายสตูดิโอมาอยู่ที่ ถนน Rue du Faubourg Saint-Honore
(ที่ตั้งในปัจจุบัน) สร้างเป็นร้านรองเท้าแตะ ทั้งผลิต ขายส่ง ขายปลีก ในอดีตถนนสายนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของขุนนางชั้นสูง แอร์เมสให้กลยุทธ์การขายปลีกโดยตั้งร้านในแหล่งที่อยู่อาศัยของขุนนางชั้นสูง เพื่อเข้าถึงลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์กันง่ายขึ้น อานม้าของ Hermès ได้รับรางวัลเหรียญเงินในงานเอ็กซ์โป 2 ครั้ง ทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้น
ปี 1892 Hermès เปิดตัวกระเป๋ารุ่น Haut à Courroies ซึ่งภายหลังคือรุ่น Birkin กระเป๋าที่ผู้หญิงทั่วโลกปรารถนา เอมิล โมริซ แอร์เมส (Émile Maurice Hermès
) ทายาทรุ่นที่ 3 หลังจากได้ราชวงศ์ยุโรปมาเป็นลูกค้า ก็ออกไปแนะนำตัวถึงเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และสามารถขายอานม้าให้กับ กษัตริย์รัสเซีย จนอยู่ในฐานะผู้ค้าอานม้าที่สามารถติดต่อได้กับคนทั่วโลกแต่ ในปี 1923 ช่วงยุคของรถม้าจบลง Hermès
หันมาผลิตและขายกระเป๋าสตรี กระเป๋าสตางค์ของที่ทำด้วยหนังชิ้นเล็กๆ ปี1935 Hermès
เปิดตัวกระเป๋าถือของ Haut à Courroies
ที่ชื่อ Sac Haut a Courroie
ซึ่งเป็นกระเป๋าที่พระราชินี เกรซ (อดีตนักแสดง เกรซ เคลลี่ (Grace Kelly
)) แห่งโมนาโค นำมาบังท้อง ขณะถูกถ่ายภาพ ตั้งแต่นั้นกระเป๋ารุ่นนี้จึงมีชื่อเรียกว่า Kelly Bag
ปี 1937 Hermès เปิดตัวผ้าพันคอ
ปี 1945 Hermès กำหนด รถม้าสี่ล้อกับผู้ติดตาม ให้เป็นเครื่องหมายการค้า
ปี 2004 – 2010 ได้ฌอง ปอล โกลติเยร์(Jean-Paul Gaultier) มารับผิดชอบคอลเล็กชั่น
ขอขอบคุณภาพประกอบการเล่าเรื่องจาก อากู๊ นะคะ