ทำไม? เราถึงควรเลี่ยง Mineral Oil


คำว่า Mineral Oil...ฟังชื่อแล้วออกจะดูบริสุทธิ์ สะอาด และปลอดภัยในความคิดของเราๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้วงการเครื่องสำอางธรรมชาติ ถึงได้ออกมาหลีกเลี่ยงสารตัวนี้กันนะ อย่างนี้ต้องหาคำตอบกันหน่อยแล้ว



Mineral Oil คืออะไร
Mineral Oil หรืออาจเรียกกันว่า Petrolatum
ปิโตรเลียมเจล มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ได้มาจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ โดยใช้ความร้อนแปรสภาพน้ำมันให้กลายเป็นไอ จนลอยขึ้นสู่ชั้นบนของหอกลั่น กลั่นตัวกลายเป็นน้ำมันต่างๆ  และที่อุณหภูมิจุดเดือดที่ 150 - 275 องศาเซลเซียส ที่ไอกลั่นตัวเป็นน้ำมันเบนซิล และเกิดสารเหลือค้างเกาะอยู่ชั้นบนขอหอกลั่น เรียกกันว่า พาราฟินที่นำมาทำ ปิโตรเลียมเจล หรือ Petroleum Jelly นั้น มีหน้าตาเป็นน้ำมันใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ซึ่งที่มาก็คือเป็นสารสกัดที่เป็นผลพลอยได้มาจากการทำน้ำมันปิโตรเลียมในธุรกิจพลังงานนี่เอง จึงสามารถหาได้ปริมาณมากและมีราคาถูก (ว่ากันว่าถ้าโรงกลั่นน้ำมันจะกำจัด Mineral Oil โดยการย่อยสลาย ค่าใช้จ่ายในการย่อยสลายMineral Oil แพงกว่าราคาที่ขายได้เสียอีก) แถมยังไม่เน่า ไม่หืน ไม่หมดอายุ จึงมักถูกนำมาใช้ในสูตรเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทั้งชนิดราคาถูกและแพง ทำหน้าที่ในการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว แต่เบื้องหลังการทำงานของมันนี้ ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้ หากสะสมในปริมาณมาก



ทำไมถึงทำร้ายผิวแค่เราลองนึกเล่นๆ ว่าเอาน้ำมันรถยนต์มาทาผิวก็รู้สึกประหลาดๆ แล้วใช่ไหม แต่มากไปกว่านั้น สารสกัดตัวนี้ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ อีกด้วย นั่นก็คือ การทาครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของ Mineral Oil ลงบนผิวนั้น สารสกัดตัวนี้จะทำหน้าที่เหมือนฟิล์มบางๆ มาเคลือบบนชั้นผิว ผลลัพธ์ก็คือ เมื่อผิวถูกเคลือบปิด จึงไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ใต้ชั้นผิวออกมาได้ เท่ากับเป็นการปิดกั้นการถ่ายเทของน้ำและอากาศระหว่างชั้นผิวกับภายนอก ผิวหายใจเข้าออกยาก และถ่ายเทของเสีย (เช่น เหงื่อ) ตามธรรมชาติไม่ได้รังสียูวีในแสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย (Photo Aging) ทำให้มีกระแดด ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอย และการใช้เครื่องสำอางที่มี Mineral Oil จะยิ่งช่วยเร่งปฏิกิริยาการแก่ก่อนวัยของผิวมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นการให้ความชุ่มชื่น กลับเป็นการทำให้ผิวแห้งขึ้นในระยะยาว


การใช้ Mineral Oil ในเครื่องสำอางเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและปกป้องไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำตามกลไกธรรมชาติ ดูเผินๆ แล้วเหมือนเป็นการช่วยบำรุงผิว แต่แท้จริงแล้ว กลับเป็นการรบกวนกลไกของต่อมไขมันใต้ชั้นผิว (Natural Moisturizing Mechanism) นานวันเข้า กลไกธรรมชาติของผิวก็จะเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวคอยพึ่งแต่ความชุ่มชื่นจากเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว ข้อสังเกตคือถ้าวันไหนที่เราไม่ใช้ครีมบำรุง แล้วผิวแห้ง แทบดูไม่ได้ นั่นแปลได้ว่าเรากำลังประสบปัญหานี้อยู่


Mineral Oil เป็นสิ่งแปลกปลอมจากร่างกาย เพราะได้มาจากสารปิโตรเลียม เมื่อมีการดูดซึมผ่านทางผิวหนังก็จะเข้าสู่กระแสเลือด และผ่านไปยังตับเพื่อทำหน้าที่ขับของเสีย และเมื่อมีปริมาณมากขึ้นตับจึงทำงานหนักขึ้น มีงานวิจัยบางชิ้นระบุว่าสารสกัดชนิดนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตับของผู้ป่วยทำงานบกพร่อง Mineral Oil มีขนาดโมเลกุลใหญ่ จึงมีแนวโน้มที่จะอุดตันรูขุมขน และทำให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ อาทิ เกิดสิวอักเสบ ระคายเคือง ผดผื่นแพ้ เป็นต้น นอกเหนือจาก Mineral Oil ในรูปน้ำมันใสแล้ว ยังมีวัตถุดิบที่มาจากแหล่งเดียวกัน แต่อยู่ในรูปแบบของ ขี้ผึ้ง (Wax) ซึ่งมีลักษณะการทำงานในรูปแบบเดียวกันด้วย


ข้อมูลจาก Sabai-arom




 

Create Date : 03 กันยายน 2553
2 comments
Last Update : 3 กันยายน 2553 18:55:17 น.
Counter : 1464 Pageviews.

 

เพิ่งซื้อครีมของ Olaz (ที่เยอรมัน ชื่อแปลกๆ ที่เมืองไทยคงเป็น Oil of Olay) แบบว่าซื้อมาใช้แก้ขัด ดันเจอดีซะนี่ ซวยจัง ใบเสร็จทิ้งไปแล้ว คืนไม่ได้ด้วย

 

โดย: currywurst 3 กันยายน 2553 22:23:15 น.  

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ เราเป็นคนที่แพ้ เบบี้ ออย อ่ะ อ่านแล้วขนลุกเลย.........

 

โดย: ti IP: 124.121.59.188 1 สิงหาคม 2554 13:15:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Pookie-NSE
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Pookie-NSE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.