UVA – UVB – UVC
UVA เป็นรังสีคลื่นยาว ซึ่งความยาวคลื่น 320 - 400 nm คลื่นรังสีนี้สามารถทะลุทะลวงผ่านเข้าชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ได้ สามารถเข้าไปทำลายโครงสร้าง สร้างความเสื่อมโทรมให้กับคอลลาเจนและอิลาสตินเจน หมดความยืดหยุ่น ก่อให้เกิดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง แต่ไม่ทำให้เกิดการอับเสบของผิวหนัง
UVA ทำให้แก่....แล้วแก่เลย UVB เป็นรังสีคลื่นสั้น ช่วงความยาวคลื่น 290 - 320 nm เมื่อผ่านเข้ามาสัมผัสร่างกาย จะผ่านชั้นหนังกำพร้าแล้วหนังแท้ด้านบนเข้าไปได้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าลึกกว่านั้นได้ แต่รังสี UVB นั้นมีอยู่มาก และเป็นสาเหตุของการเกิดผิวไหม้อับเสบ
UVB ทำให้ดำ ผลัดเซลผิวแล้วก็กลับมาเป็นปกติได้ UVC เป็นรังสีคลื่นสั้น ช่วงความยาวคลื่น 200 – 290 nm แสงช่วงนี้ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดนก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับผลกระทบในรังสีชนิดนี้ แต่หากในอนาคต ชั้นบรรยากาศไม่สามารถดูดซับได้หมด รังสี UVC ก็จะเป็นอีกหนึ่งรังสี ที่เราจะหาทางรับมือป้องกันมัน
รังสี UVA ,UVB ที่ผ่านเข้าสู่ชั้นผิวเราSPF ,PA+++ SPF ย่อมาจาก Sun Protecting Factor หรือเรียกง่ายๆ ว่า
ค่าป้องกันแสงแดด โดยถ้าเราเคยตากแดดแล้วผิวไหม้ใน 15 นาที แต่ถ้าทาครีมที่มี SPF6 ผิวก็จะไหม้ในเวลา 6 เท่าคือ 90 นาที ถ้า SPF8 ก็จะกลายเป็น 120 นาที หรือ 2 ชั่วโมง
PA+++ ย่อมาจาก Protection Grade of UVA
หมายถึงค่าการปกป้องรังสี UVA มีทั้งในแสงแดดและแสงไฟรังสี UVA สามารถทะลุชั้นผิวหนังได้มากกว่า รังสี UVB และสามารถไปทำลายได้ถึงในส่วนของโครงสร้างได้ภายใน
เป็นสาเหตุให้เกิดจุดด่างดำ เกิดฝ้า มะเร็งผิวหนัง และรอยเหี่ยวย่น
มาตรฐานการป้องกันรังสี UVA แบ่งได้เป็น 3 ระดับ
PA+ ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVA 2 เท่า
PA++ ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVA 2 - 4 เท่า
PA+++ ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVA 4 - 8 เท่า
สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตครีมมักจะอ้างสรรพคุณแบบเกินจริง อาทิ การใช้คำว่า waterproof และ sunblock ที่ให้ความรู้สึกว่าสามารถกันน้ำและป้องกันแสงแดดได้ทั้งหมด ทั้งที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้ให้ถูกต้องว่า
water resistant และ sunscreen เลือกครีมกันแดดครั้งต่อไปอย่าลืมมองหาคำว่า
SPF 30 PA+++ water resistant นะคะ การทาครีมกันแดด ต้องทาไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปข้างนอกด้วยนะคะ
Review SUNRIGHT30PA+++เหตุผลง่ายๆที่ใครๆ ไม่ชอบทากันแดดก็เพราะว่า มันหนักหน้า ทาแล้วรู้สึหนึบหนับ หน้า วอกอีกต่างหาก มาดูวิธีการทดสอบง่ายๆที่จะบอกเราได้ว่าที่ผ่านมาทากันแดดแล้วหนักหน้า หนึบหนับ หน้าวอก เพราะอะไร
เนื้อครีมไม่ข้นคลั่ก ทาแล้วซึมลงสู่ผิวง่ายไม่ทิ้งคราบ ขาวๆ หน้าไม่วอก และัไม่รู้สึกหนึบหนับอยู่บนหน้า สังเกตุจากกระดาษซับมันที่วางทาบทิ้งไว้ทันทีที่ทาครีมที่หลังมือ
ทำไมต้องกระดาษซับมัน ก็ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่าซับมัน ซับแล้วมันก็แสดงว่า กันแดดตัวนี้ผสมน้ำมันเยอะฉาบอยู่บนผิวเราหน่ะสิ ต้นเหตุของสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง และความมันนั้นอมความร้อน ยิ่งฉาบไว้นานแค่ไหน ผิวหน้าเราก็ยิ่งสร้างเม็ดสีมาปกป้องตัวเองมากขึ้น แทนที่จะกันหน้าดำแต่ดันไปพา ฝ้ากระมาซะนี่
เปรียบเทียบความมันและการซึมลงสู่ผิวของกันแดด Nive Sun SPF50 PA+++ กับ sunright 30 PA+++ เปรียบเทียบให้ดูหลังจากที่ทากันแดดแล้วเอาซับมันซับความมันออกมาจะเห็นว่าชิ้นแรกคราบมันติดมา ส่วน อีกชิ้นไม่มีคราบความมันไว้
ฉลากข้างขวด แปะไว้ให้แล้วนะเพราะเรารู้่ว่าคุณชอบร้องหา ไหนจิ๊....ไหนจิ๊ ไหนขอดู อินกรีเดี๊ยนหน่อยสิ
Review ENHANCERเป็นมอยซ์เจอร์ไรเซ่อส์ เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นแต่ไม่ต้องการความมัน
ใช้เป็นครีมบำรุงประจำวัน หรือเอาไว้ทาหลังจากผิวโดนแดดจัดๆ เป็นเวลานาน เพื่อสมานผิวจากการโดนแสงแดดทำร้าย
ฉลากข้างขวด ส่วนประกอบหลักก็สกัดจากว่านหางจรเข้ (ส่วนกลางลำต้นซึ่งให้ความชุ่มชื้นสูงสุด)
Sodium PCA ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นสู่ผิว
สิ่งที่ไม่ควรลืมเวลาไปเที่ยวทะเลก็คือ 2พีท, กันแดด SPF30PA+++ ก่อนออกแดด
และที่ขาดไม่ได้เลยENHANCER สมานผิว เติมความชุ่มชื่นให้กับผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดด้วยนะคะ
กลับไปหน้าหลักคลิกที่นี่
Create Date : 11 เมษายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2554 1:05:46 น. |
Counter : 3714 Pageviews. |
|
|
มันไม่เหนียวแล้วก็ซึมเร็ว
รีวิวได้ความรู้ดีจ้ะ ไว้จะตามเข้ามาหาข้อมูลบ่อยๆนะ ^^
ขอบคุณนะค้า