ออกพรรษาปีนี้ เทศบาลบ้านดิฉันเค้าประชาสัมพันธ์ว่า..
"ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 480 รูป
เนื่องในวันเทโวโรหณะมหาปวารณาออกพรรษา
ในวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2551 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
ณ บริเวณเชิงบันไดวัดดอยงำเมืองไปจนถึงสี่แยกศาลจังหวัดเชียงราย"

โดยปกติ ดิฉันไม่ได้ตื่นเต้นนัก กับพิธีกรรมดังกล่าว (ตื่นสาย)
แต่ช่วงนี้กลุ่มของเรากำลังเตรียมทำสารคดีเรื่อง "Ladder to Heaven"
ในโครงการจินตภาพลุ่มน้ำโขง (Imaging Our Mekong) 2008
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวพุทธ 2 ฝั่งโขง (ไทย-ลาว)
การเก็บภาพ stock shot กิจกรรมทางศาสนาต่างๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

เราเดากันว่าการตักบาตรเทโวออกพรรษา คนคงจะมากมายมหาศาล
ดังนั้น เราต้องวางแผนเรื่องทางกล้อง เพื่อให้ได้มุมสวยๆ
ในเมื่อเทศบาลเขาประกาศว่าจะเริ่มตอน 6 โมงเช้า
ก็ต้องออกจากบ้านกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปปักหลัก และดู Location ก่อน

ดิฉันแสนจะง่วงแต่ก็ทนตื่น หลังจากนอนไปแค่ 3 ชม. (เอาวะ.. เพื่องาน)
ไปถึงวัดดอยงำเมือง ประมาณ ตีห้าครึ่ง ท้องฟ้ายังสลัวอยู่เลย
มีญาติโยมพุทธศาสนิกชน อยู่บริเวณตีนบันไดวัดไม่เกิน 30 คน (โอ้ว..)
อ้อ.. 30 คน นี่รวมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลที่มาเตรียมการด้วยนะ
เราก็แอบบ่นกันว่า "เอ๊ะ ทำไมคนมาแค่นี้เอง" แต่ยังไม่คิดอะไรมาก

...

...

ประมาณ หกโมงเช้า พี่เล็กตัดสินใจเลือกมุมที่จะถ่าย shot แรก
เป็นบริเวณบันไดขั้นบนสุด ที่พระภิกษุ (ที่เขาบอกว่า 480 รูป) จะเดินแถวลงไป
เราเลยต้องระเห็จกันขึ้นไปอยู่บนวัด จัดแจงหาที่วางขาตั้งกล้อง
แสนจะประหม่าและขวยเขินเป็นยิ่งนัก ดิฉันเป็นสีกาเพียงลำพังผู้เดียว
ที่ยืนอยู่ท่ามกลางพระภิกษุ สามเณร จำนวน (ที่เค้าบอกไว้ว่า) 480 รูป
พระเณรท่านขึ้นมาเตรียมเข้าแถว เพื่อเดินลงบันไดไปให้ญาติโยมใส่บาตร

ลุงคนหนึ่ง มายืนตรงบันไดขั้นบนสุดใกล้ๆ ดิฉัน แล้วบ่นพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง
จับใจความได้ว่า ทุกปีที่ผ่านมาเวลาป่านนี้ (6 โมงเช้า) คนจะเนืองแน่นไปหมด
ลุงตั้งข้อสังเกตว่า "สงสัยอีกสัก 5 ปี คงไม่มีตักบาตรเทโวแล้วมั้งนี่"
แกบ่นงึมงำเรื่องคนมารอตักบาตรน้อยอีก 2-3 คำ แล้วก็ส่ายหัวเดินลงบันไดไป

ประมาณ 7 โมงเช้า มีการเรียกรวมให้พระทั้งหมดเข้าแถว
"นิมนต์เข้าแถว เริ่มจากฝั่งนี้วัดพระสิงห์ ฝั่งนั้นวัดพระแก้ว ฯลฯ"

ดิฉันตื่นเต้น ไม่เคยเห็นกระบวนการก่อนที่พระจะเดินลงไปยังญาติโยมข้างล่าง
จินตนาการที่มีมาโดยตลอดคือพระท่านทยอยเดินลงไปตามธรรมชาติ
เพิ่งทราบว่าที่แท้ก็มีการจัดระบบการเดินตามลำดับความสำคัญของวัดด้วยแน่ะ

พระภิกษุสามเณรทั้งหมด เข้าแถวแบ่งเป็น 2 แถว เพื่อเตรียมเดินลง
แต่ก็ยังไม่ได้ลงสักที ยืนเข้าแถวอยู่ประมาณ 15-20 นาทีเห็นจะได้
หลวงพ่อจากวัดพระสิงห์ ซึ่งยืนอยู่หัวแถวสุดมองลงไปที่ตีนบันไดแล้วพึมพำว่า
"วังเวงเหลือเกิน ญาติโยมมาใส่บาตรกันเท่านี้เองเหรอ"

วิญญาณคนทำสารคดีเข้าสิงทันที ดิฉันรีบสะกิดบอกพี่เล็ก
หลวงพ่อพูดเหมือนลุงคนเมื่อกี๊เลย ขอถ่ายท่านดีกว่า
จากนั้นดิฉันเรียนให้ท่านทราบว่าจะขอบันทึกภาพท่านและสัมภาษณ์
ท่านอนุญาต แต่เกร็งเล็กน้อยพูดไม่ธรรมชาติเหมือนตอนบ่นพึมพำ (ซึ่งดิฉันต้องการแบบนั้น)

ดิฉันขอให้หลวงพ่อพูดประโยคที่ท่านพูดไปแล้วเมื่อสักครู่ ท่านบอกใหม่แบบนี้ค่ะ

หลวงพ่อ
"ปีนี้ญาติโยมมารอใส่บาตรน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ปีก่อนๆ สัก 6 โมงเช้านี่คนจะเต็มลานข้างล่างหมดแล้ว"

ดิฉัน
"หลวงพ่อคิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ ทำไมคนจึงมาตักบาตรน้อยลง"

หลวงพ่อ
"ความเห็นของอาตมาคิดว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีน่ะ"

ประมาณ 7 โมงครึ่ง ทางทีมงานเทศบาลจึงวิ่งขึ้นมาบอกให้เริ่มเดินลงบันได
เพราะญาติโยมเริ่มทยอยมารอตักบาตรมากขึ้นแล้ว
อ้อ.. ที่รอจนสายนี่ เค้ารอญาติโยมมาให้เต็มๆ หรอกหรือ?

ขณะที่พระภิกษุสามเณรทยอยเดินลงบันไดไป ดิฉันจึงเริ่มสังเกตเห็นว่า..
"ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 480 รูป"
หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ พระสงฆ์และสามเณรรวมกันแล้ว ไม่น่าจะเกิน 150 รูป

นี่ไม่ใช่แต่จำนวนญาติโยมแล้วล่ะค่ะหลวงพ่อ ที่ทำให้วังเวง..

เป็นเหตุผลเรื่องเศรษฐกิจอย่างที่หลวงพ่อบอก
หรือคนเดี๋ยวนี้ หมดศรัทธาต่อการขึ้นสวรรค์เสียแล้ว?

15 ตุลาคม 51
ตักบาตรเทโว ที่เชียงราย

...

หมายเหตุ

ไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งมาค่ะ พี่เล็กเอา Footages ไปทำ thumbnail เล่น
เลยขอยืมมาลงประกอบเอนทรี แต่ไม่เป็นไรค่ะไม่ได้เน้นโชว์ภาพ
เพราะเอนทรีนี้ เขียนขึ้นเพียงเพื่อบันทึกเตือนความจำของตัวเอง
สำหรับการเริ่มงาน Ladder to Heaven

---

เขียนไว้ในบล็อกอีกแห่งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว นำมาแปะไว้ที่นี่อีกครั้ง

Create Date : 07 มีนาคม 2552
Last Update : 7 มีนาคม 2552 18:20:13 น.		3 comments
Counter : 368 Pageviews.
Share Tweet