|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โรงเรียนอนุบาล (ตอนที่ 3)
ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลที่นี่หนึ่งปี ก็ย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนวัดซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับพี่สาวทั้งสามคนเพื่อที่จะสะดวกในการไปส่งเรียน ซึ่งเขาเรียกโรงเรียนนี้ว่า วัดใหญ่ ที่โรงเรียนนี้ผมเข้าอนุบาลพร้อมกับน้องชาย เรียนชั้นเดียวกัน ตอนเช้าก็ตื่นมารอรถครูมารับไปโรงเรียน ช่วงเปิดเทอมแรก ๆ ก็ไปกับรถโรงเรียน พอหลาย ๆ วันก็ตื่นไม่ทันรถโรงเรียน เลยต้องให้พี่ ๆ พนักงานขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงเรียน ซึ่งก็จะไปโรงเรียนสายเป็นประจำ
ตอนผมอยู่อนุบาลที่นี่ก็มีความสุขสบายดี แต่ไม่วายชอบหาเรื่องผิดกฎทำ นักเรียนที่นี่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขนมออกจากโรงอาหาร เนื่องจากอาจจะทานแล้วทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง โดยที่จะมีสารวัตรนักเรียนมาอยู่ตรงทางเข้าออกและก็ตรวจกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ากระโปรง คล้าย ๆ กับตำรวจตรวจผู้ร้าย ดังนั้นก็ไม่สามารถที่จะซ่อนขนมไว้ในตัวได้ แต่ผมก็มีวิธีแหกกฎนี้อย่างสบาย โดยที่ห้องเรียนผมอยู่ติดกับโรงอาหาร ผมก็ไปซื้อขนมจากโรงอาหารแล้วก็โยนเข้าไปในห้องเรียน แล้วผมก็เดินผ่านสารวัตรนักเรียนโดยที่เขาไม่สามารถตรวจพบ แล้วผมก็เข้ามาเอาขนมที่ห้อง แล้วก็นั่งกินในห้องเรียนอย่างสบายใจและคะนองที่ผมสามารถแหกกฎโรงเรียนได้ตั้งแต่ชั้นอนุบาล
เมื่อตอนที่ผมยังเรียนชั้นอนุบาล พี่สาวก็มีครูมาสอนพิเศษที่บ้าน และเนื่องจากมาสอนพี่สาวแล้วก็เลยมาสอนผมด้วย คุณครูมีชื่อว่า ครูตั๊ก ซึ่งครูตั๊กสอนพิเศษผมโดยสอนวิชาเลข ให้ผมบวกเลข ลบเลข โดยที่ตอนนั้นที่โรงเรียนยังไม่มีการสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้กับเด็กอนุบาล มีอยู่วันหนึ่งผมเอาสมุดที่ผมเรียนพิเศษนั้นไปโรงเรียนด้วย เมื่อครูประจำชั้นมาเห็น ก็เลยให้ผมไปเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลย แต่เมื่อผมขึ้นไปเรียนได้ไม่เท่าไร ผมก็ต้องกลับมาเรียนอนุบาลอีกครั้ง ผมก็ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใด แต่อาจจะเป็นเพราะว่า พวกเขาเรียนกันไปแล้วและผมอาจจะเรียนตามไม่ทันก็เป็นได้ ผมก็เลยได้ไปเรียน ป.1 ตอนเช้า แล้วกลับลงมาเรียนชั้นอนุบาลในปีเดียวกัน
ด้วยการที่ผมไม่อยากเรียนพิเศษ ผมก็แอบครูตั๊กเวลาที่ครูเขามาสอนที่บ้าน ผมเข้าไปแอบในครัว ไม่อยากออกมาเรียนพิเศษ แต่สุดท้าย ผมก็ต้องโดนครูตั๊กตามมาจับ เหมือนเล่นซ่อนแอบกัน หรือตำรวจจับผู้ร้ายก่อนที่จะมีการเรียนการสอนกันเกิดขึ้น โชคดีที่ครูตั๊กใจดี และใจเย็น ไม่งั้นผมคงโดนมีดอีโต้ที่อยู่ในครัวสับแล้วพามานั่งเรียนพิเศษเป็นแน่ ครูตั๊กมักจะไม่รับเงินค่าสอนพิเศษที่แม่ให้ ดังนั้นเวลาแม่มีของอะไรก็ให้ครูตั๊กเป็นสินน้ำใจแทนเงินสด ต่อมาแม้ว่าครูตั๊กจะไม่ได้สอนพิเศษผมแล้ว แต่เราก็ยังติดต่อกัน และผมก็ยังนับถือครูตั๊กของผม
Create Date : 08 มกราคม 2548 |
|
0 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2548 22:31:39 น. |
Counter : 323 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|