Group Blog All Blog
|
สอนลูกเองก็ได้...ง่ายจัง12 : คุณคือครูคนแรกของลูก ฉิก : หวัดดีครับ วันนี้ขอคุยกันเรื่องการเรียนรู้ของลูกกันต่อนะครับ ครั้งก่อนเราพูดกันเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องพฤติกรรมเด็กไปแล้ว แบบว่า...มีคนบ่นกันเยอะว่า ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง "สอนลูกเองก็ได้...ง่ายจัง" ตรงไหนเลยง่ะ งั้นเที่ยวนี้ขอเป็นอะไรๆที่เกี่ยวกับเทคนิคการเรียนรู้บ้างดีมั้ยครับ ป้อม : ดีครับ หลังจากที่อู้มานาน มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คือแรกๆจะพูดเกี่ยวกับแนวคิดซะเยอะ เพราะว่ามันสำคัญจริงๆนะครับ หลังจากนี้จะลองพูดแนวทางภาคปฏิบัติดูบ้าง อย่างไรก็ตาม ก็ขอฝากให้พวกเราช่วยกันทำให้ลูกๆของเรา "เรียนรู้อย่างมีความสุข" มากกว่า "การเรียนรู้แบบยัดเยียด" เพราะ จะมีผลต่อทัศนคติในการเรียนรู้ในเด็กมากอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ ถ้าพูดในแง่ศาสนาพุทธเรา พระท่านก็คงจะบอกว่ามันเกี่ยวกับ"อิทธิบาท4" คือ ฉันทะ วิริยั จิตตะ วิมังสา อะไรทำนองนั้น แต่ถ้าพูดในแง่วิทยาศาสตร์ จะอธิบายได้ว่า ในสมองคนเราจะมี สมองส่วนนึงที่เรียกว่า ระบบลิมบิก(Limbic system) ซึ่งเป็นสมองในส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความทรงจำ ซึ่งกำลังพัฒนาอย่างสูงในเด็ก หากเขามีความสุขในการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้จะ"โปรแกรม"ลงไปในระบบลิมบิกนี้ ทำให้เขาไม่กลัวในการเรียนรู้สิ่งยากๆซับซ้อนๆในภายภาคหน้า แต่มีความกระหายในการเรียนรู้และสนุกไปกับมัน ก็จะทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีเต็มศักยภาพของเขา ตรงกันข้ามหากเขาโดนยัดเยียดให้จำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตั้งแต่เด็ก โดยที่เขาไม่ได้มีความสุขกับตรงนี้เลย ระบบลิมบิกก็จะจดจำความรู้สึกที่ไม่ดีอันนี้เอาไว้เช่นกัน แรกๆก็ดูเหมือนเด็กจะเรียนเก่ง แต่พอโตๆมาต้องเจออะไรที่ยากๆหน่อย เขาก็จะเกิดความ"ขยาด" และ ความรู้สึกแย่ๆจากโปรแกรมที่เขาเคยรับรู้ในตอนเด็กๆก็จะหวนกลับมาอีก ทำให้เขาไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพที่เขามี ฉิก : โอ้ว!!!!!มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอครับ ป้อม : ครับ ดังนั้นจงยึดคติ Learn + Play = Plearn(เพลิน) เอาไว้นะครับ เอาล่ะ ทีนี้มาพุดกันเรื่อง Learning resources หรือ แหล่งเรียนรู้กันดีกว่า คุณรู้มั้ยว่าเด็กๆเราสามารถเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ไหนได้บ้าง ฉิก : ก้อ...ที่โรงเรียนน่ะสิครับ ถามได้ ป้อม : เฮ้อ! เหนื่อยใจจริงวุ้ย หัวข้อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว ว่าสอนลูกเองก็ได้ ช่วยตอบแบบที่สอนเองที่บ้านได้หน่อยสิครับ ฉิก : อ้าว! งั้นเหรอ งั้นก็ที่"บ้าน"เป็นไงครับ ป้อม : "เสื่อม" จริงๆเลยคุณเนี่ย OK ผมถือว่าผมไม่ได้ถามอะไรคุณดีกว่านะครับ คืองี้ แหล่งเรียนรู้ที่เราสามารถไปหาความรู้เพิ่มเติมได้มีหลายอย่าง อันแรกก็"คน"น่ะครับ ฉิก : เอ๋ ! "คน"ของคุณนี่หมายถึงเราๆท่านๆนี่นะเหรอครับ ป้อม : คงหมายถึง การเอาของมากวนๆๆๆๆๆๆๆให้มันเข้ากันมั้งครับ ม่ายช่ายๆๆๆ ล้อเล่นน่ะครับ ก็พ่อๆแม่ๆเรานี่ล่ะครับ แหล่งความรู้สำคัญเลย ไม่ใช่แต่ความรู้ทั่วๆไปที่เราเข้าใจกัน ยังเป็นความรู้ที่สำคัญต่อการมีชีวิตรอดในโลกเบี้ยวๆใบนี้อีกด้วย ที่สำคัญ คือ เด็กในช่วงแรกๆเรียนรู้ผ่านการเล่นกับพ่อแม่ ดังนั้น อย่าลืมเล่นกับลูกทุกวันนะครับ นอกจากนั้น ก็ยังมีปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้องที่เป็นแหล่งภูมิปัญญาชีวิตที่สำคัญ เพื่อนๆและคุณครู ก็จะมีบทบาทในเวลาต่อมา ฉิก : แล้วที่ไม่ใช่คนล่ะครับ อย่าบอกนะครับว่าเป็น พืช สัตว์ สิ่งของ ป้อม : อันนั้นก็เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีนะครับ หมายรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราด้วยน่ะครับ เวลาเราพาลูกไปเที่ยวไหนก็อย่าลืมชี้ชวนให้เขาสังเกตสิ่งต่างๆด้วยนะครับ อย่าลืมว่า การเรียนรู้น่ะเกิดขึ้นได้ทุกที่นะคร้าบ ส่วนที่เป็น"สื่อ"ต่างๆ ก็มีหลากหลายเลยครับ เริ่มจากbasicๆก่อน คือ หนังสือ หนังสือนี้มีทั้งให้พ่อแม่อ่านเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ในการดูแล อบรมสั่งสอนลูก และ หนังสือนิทานที่ให้พ่อแม่อ่านให้ลูกฟัง รวมไปถึงหนังสือนิทานที่ให้เด็กฝึกดูรูปประกอบ และ ฝึกอ่านเองก็มี ฉิก : ลองแนะนำหนังสือน่าอ่านซัก 2-3 เล่มหน่อยสิครับ ป้อม : ได้ครับ เริ่มจากคู่มือให้พ่อแม่อ่านก่อนนะครับ คุณคือครูคนแรกของลูก ผู้เขียน Rahima Baldwin Dancy (ราหิมา บาลด์วิน แดนซี) ผู้แปล สุวรรณา โชคประจักษ์ชัด อุชุคตานนท์ อยากบอกว่า หนังสือเล่มนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณและคนที่คุณรักเท่าชีวิตได้เลยนะครับ ฉิก : ฮ้า!!! ขนาดนั้นเลยเหรอครับ เว่อร์ไปมั้ง ป้อม : จริงครับ ปกติผมจะเป็นคนที่อ่านหนังสือได้เร็วมากๆๆๆ เล่มหนาๆแบบนั้นเนี่ยปกติผมอ่านชั่วโมงเดียวก็จบแล้ว แต่ขอโทษเหอะ เล่มนี้ผมต้องอ่านกันเป็นเดือนๆเลย ฉิก : อ่านไปหลับสัปหงกไปเหรอครับ ป้อม : ครับ เอ้ย!ไม่ใช่ๆๆ คือ เล่มนี้มันต่างจากหนังสือHowtoทั่วๆไปมากครับ คือ เล่มนี้ผมต้องค่อยๆละเลียดอ่านน่ะครับ อธิบายไม่ค่อยถูก แต่ผมรู้สึกได้ถึงความละเมียดละไม และ ความอ่อนโยนที่สัมผัสได้จากทั้งผู้แต่งและผู้แปล เพราะ ทั้งคู่ต่างก็เป็นคุณแม่ที่ให้ความรัก ความอบอุ่นในการสอนลูกด้วยประสบการณ์ความเป็นแม่จริงๆ อ่านแล้วนอกจากได้ความรู้ดีๆในการดูแลลูกแล้ว ผมยังรู้สึกว่าตัวเองได้ยกระดับจิตใจขึ้นมาอีกขั้น มันลงลึกลงไปถึงระดับจิตวิญญาณเลยนะครับ ฉิก : โอ้โห! ป้อม : โดยรวมเนื้อหาจะเป็นการดูแลเด็กตามพัฒนาการของเขาจริงๆ ไม่ไปแทรกแซงเขา และ ไม่ยัดเยียดสิ่งต่างๆให้เด็ก แต่ให้ความเคารพเขาในฐานะเด็กคนนึง ที่มีขั้นตอนการเรียนรู้ที่แตกต่างกันตาม"ตารางเวลาภายใน" ตัวเขา โดยรวมจะมีการพูดถึงการศึกษาแบบ"วอลดอร์ฟ" ของรูดอล์ฟ สไตเนอร์ ค่อนข้างมากน่ะครับ ฉิก : อืมม์ น่าสนใจมากครับ ลองไปหามาอ่านมั่งดีกว่า วันนี้แค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาต่อกันใหม่นะครับ มาหาเคล็ดลับไว้สอนลูกค่ะ
โดย: AM NUCH วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:07:21 น.
จริงๆด้วยค่ะ
หนังสือเล่มนี้ อ่านยากมากๆ ต้องใช้เวลาอ่านแบบตั้งใจ ค่อยๆเก็บรายละเอียด เป็นหนังสือดีมากๆ เล่มนึงเชียวค่ะ เล่มแรกๆ ราคาแพงกว่านี้มาก ตอนนี้ลดราคาเหลือ 199 บาท คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ น่าเป็นเจ้าของมากๆค๊า ปล. อ่านตั้งแต่สาวน้อยขวบกว่าๆ จนตอนนี้สองขวบกว่าๆ ยังอ่านไม่ครบเลยค่ะ เลือกอ่านบางหัวข้อเพราะหนามากๆจริงๆ โดย: ปลายดินสอ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:55:20 น.
สวัสดีค่ะคุณหมอป้อม
ขาประจำอีกรายกลับมาแล้ว แวะเวียนหลายรอบว่าเมื่อไรจะขึ้นเรื่องใหม่ อ่านขำดี มีสาระค่า ชอบบบบบบบบบ น่าอ่านทั้ง 2 เล่มเลยค่ะ เล่มแรกเล็งไว้นานแล้ว เล่มสองไม่เคยเห็น .. เดี๋ยวตามไปซื้อค่า โดย: ภุชงค์.ชมภูมิ IP: 203.99.253.12 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:56:53 น.
อ่านพอลงลึกๆแล้วเลิกอ่านค่ะ ฮ่า ฮ่า คุณหมอแนะนำแบบนี้เดี๋ยวไปพลิกอ่านต่อ อิ อิ
โดย: IcyRose วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:6:32:03 น.
ชะแว๊บ มาเยี่ยมอ่าน ได้ความรู้มากมาย เลยค่า ขอบคุณมากค่า Learn + Play = Plearn(เพลิน) ชอบที่สุดค่า เวลาหา เรื่องพาลูกเที่ยว แล้ว สาละมี ไม่เห็นด้วย หรือขี้เกียจ ขับรถ ก็จะอ้างคำนี้แหละค่า อิอิ โดย: mnpinpin IP: 58.8.237.43 วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:22:39:49 น.
อ่านจบแล้วค่ะ ตั้งใจอ่านมากๆค่ะ เพราะปกติเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว เล่มนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ค่ะ แต่ก็ใช้เวลาว่างๆนั่งอ่านค่ะ แนะนำคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ ควรมีหนังสือเล่มนี้ไว้อย่างยิ่งเลยค่ะ
โดย: นก IP: 125.26.155.221 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:15:04:27 น.
|
ฉิกซิงแซ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?] เกิดและโตที่กรุงเทพ เป็นศิษย์เก่าร.ร.ใกล้บ้าน คือ วัดสุทธิ จับพลัดจับผลู สอบติดหมอจุฬา แบบงงๆ แล้วมาต่อเฉพาะทางด้านเด็กที่ มอ. หาดใหญ่ บังเอิญมาเจอ"จอม" ที่ต่อมากลายมาเป็นคู่ชีวิต เลยได้มาอยู่อยู่ภาคใต้ยาวเลย ไม่ได้กลับมาอยู่กทม.อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะ"คุณนาย"ไม่ชอบรถติดอย่างแรง เป็นอาจารย์ด้านโรคหัวใจเด็กที่ มอ.ได้ไม่เท่าไหร่ ก็มาได้ข่าวดีว่าจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ต้องมาตัดสินใจกันอีกว่าจะไปเรียนต่อที่ ILLINOIS, USA ดีหรือเปล่า เพราะ "ผบทบ." กลัวหนาวมาก เลยลาออกมาซะเลยดีกว่า ตอนนี้ สบายๆกับงานที่คลินิก 2 แห่ง ว่างๆก็เล่นกับลูกสาว(น้องพลอย)และ ลูกชาย(น้องเพชร)จอมซนน้อยๆ และ หาเรื่องไปเที่ยวกับครอบครัวบ้างตามสะดวก
Friends Blog
Link |