Group Blog
|
Tokyo
2. Hello , Tokyo !! บันทึกการเดินทาง Tokyo ...2. Hello, Tokyo. ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะแล้วค่ะ หลังจากเดินผ่าน ต.ม. มาสวยๆ (ไม่โดนถามอะไรซ๊ากกกกคำ ผิดหวังนิดๆ นะ ฮ่าๆ) รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็มาถึงภารกิจแรกของเราค่ะ นั่นคือ...หาจุดที่จะซื้อตั๋วรถไฟเข้าโตเกียว ก็ต้องมองหา JR Ticket Office ค่ะ จุดขายตั๋วรถไฟที่เราจะไปนั่นเอง เราเลือกใช้บริการ NEX หรือ Narita Express ซื้อตั๋วแบบไปกลับเลยค่ะ ราคา 4000 เยน ขากลับต้องระบุวันกลับ แต่ไม่ได้ล็อคเวลาและขบวนรถไว้ค่ะ เราสามารถไปสำรองที่นั่งได้ทีหลัง หน้าตาตั๋วขาเข้าโตเกียวเป็นแบบนี้ค่ะ ... ต้องขึ้นคันที่ 8 ที่นั่ง 8B ... และคุณพี่คนขายตั๋วบอกว่า ---- คุณมีเวลาอีก 4 นาที รถจะออกแล้วนะครับ ----- รออัลไลลลล วิ่งสิคร้าบบบบบ แม้จะตื่นเต้นนิดหน่อย แต่เราก็ขึ้นรถได้ทันเวลาค่ะ ... นี่คือสภาพหลังวิ่งหน้าตั้ง แถมยังหอบหิ้วกระเป๋าใบโต รถไฟขบวนนี้ มีที่ให้เก็บกระเป๋าเดินทางบริเวณด้านหน้าตู้ด้วยค่ะ แต่ถ้ามีกระเป๋าเยอะช่องก็อาจจะไม่พอใส่ แต่เราก็สามารถเอากระเป๋ามาไว้ตรงข้างหน้าที่นั่งเราได้ค่ะ คือเราขาสั้นเลยรู้สึกว่ามีที่ว่างเยอะ 5555 นั่งรถไฟ NEX นี่ไปเรื่อยๆ ค่ะ ประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงจุดหมาย ... ที่ไหนน่ะเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน ถามน้องมัดเอาเป็นทีๆ ไป อ่ะ!! นี่ไง แผนการเดินทาง น้องมัดเขียนมาให้อย่างละเอียด แต่เราไม่อ่านหรอก กร๊ากกกกก นี่คือแผนทั้งหมดของวันนี้ค่ะ ... จบที่เข้าโรงแรม แต่เดี๋ยวเล่าเรื่องโรงแรมนิดนึง ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะพักที่ไหนดี แต่มีเป้าหมายว่า พักที่ใกล้ๆ แหล่งชุมชน หาของกินง่ายๆ ใกล้สถานีรถไฟ ขอแบบเป็นห้องส่วนตัวที่มีห้องน้ำในตัว เพราะพักสามคนและจะอยู่ยาวหลายวัน ขออยู่แบบสบายๆ หน่อย ได้แบบ Japanese style ยิ่งดี ไปอยู่ญี่ปุ่นทั้งทีมันต้องดูเข้าถึงกันนิดนึง ขอราคาไม่แพงมาก หลังจากดูรีวิวหลายๆ ที่แล้ว เราก็เลือก โรงแรมนี้ Hanabi Hotel อยู่ใกล้ชินจูกุ ... จริงๆ อยู่ตรงสถานี ชินโอคุโบะ จากสถานีเดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ โรงแรมอยู่ในซอยเล็กๆ คนละฝั่งถนนกับสถานีรถไฟ แต่ตอนเราไปถึงสถานีชินโอคุโบะครั้งแรก ออกมาที่ถนน แล้วสับสนมาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี มองไปทางไหนป้ายร้านมีแต่ภาษาญี่ปุ่น เลยต้องอาศัย google map ช่วยค่ะ .. แต่ถึงกระนั้น.... มนุษย์ผู้ดูแผนที่ไม่เป็นอย่างพวกเราสามสาวน้านนนนนนน ก็ยังหลงทาง คือเดินผิดทางจากคำแนะนำไปทางตรงกันข้ามค่ะ 55555 ดีนะ กลับตัวทัน ในที่สุดก็ถึงโรงแรมประมาณ 4 ทุ่มค่ะ
เป็นที่น่าแปลกใจมาก... เราพักที่โรงแรมนี้ทั้งหมด 7 คืน ... มีรูปถ่ายหน้าโรงแรมมารูปเดียวนี่แหละ คือมันเป็นตึกหน้าตาปกติอะนะ ด้านหน้ามีตกแต่งนิดหน่อย ประมาณจัดมุมไว้ถ่ายรูปได้เล็กๆ เข้าไปด้านในจะเป็นฟร้อน เคาท์เตอร์เช็คอิน กับตู้เก็บรองเท้าค่ะ เขาจะให้ถอดรองเท้าเก็บในตู้ใส่กุญแจ ก่อนเข้าไปในโรงแรม
ในที่สุดเราก็มาถึงห้องพักแล้วค่ะ คือเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างประหยัดมาก ปูที่นอนได้ 3 ที่พอดี มีมุมที่เป็นครัว มีอุปกรณ์ทำอาหาร เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ จานชามช้อนตะเกียบ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น ไดร์เป่าผม มีห้องน้ำในตัวแต่ว่าแคบมาก อาบน้ำทีนี่แขนขาโดนผนังดังกุกกักๆ ตลอดเวลา แต่วันหลังๆ เริ่มชิน ไม่โดนแล้วค่ะ มีแชมพู ครีมนวดผม สบู่เหลว ผ้าเช็ดตัวใหญ่กับเล็กให้อย่างละผืน เปลี่ยนทุกวัน มีแม่บ้านมาเก็บขยะในห้อง แต่ไม่ทำความสะอาด เราจะต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดห้องเองค่ะ อันนี้พนักงานแจ้งชัดเจน ...ดีใจ พนักงานพูดอังกฤษได้ดี ... แต่เราเองที่ฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง ฮ่าๆ ช่วงที่เราไปนั้น เมืองไทยกำลังร้อนมากกกกกก เหมือนหนีร้อนไปพึ่งเย็น ที่โตเกียวอากาศเย็น ประมาณ 19 - 22 องศาค่ะ ใส่เสื้อคลุมบางๆ ก็พอ คุณพนักงานโรงแรมที่พาไปแนะนำห้อง ก็แนะนำนู่นนี่นั่น จบลงที่แอร์ ... แล้วฮีก็ถามว่า จะเปิดแอร์ไหม หรือจะเอาฮีตเตอร์ดี? .... อิป้าสามคนกรี๊ดลั่น อย่าาาาาาาาา!! บรรยากาศในซอยเข้าโรงแรมค่ะ ก็เดินชมบ้านเรือนไปชิลๆ . . . คืนนี้ยังไม่จบนะคะ คือว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยอะ นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ (ถ้านับตามเวลาบ้านเราก็สองทุ่ม) ก็เลยออกไปหาอะไรกิน เดินออกมา ไม่รู้จะไปทางไหนก็สุ่มเดินไปเรื่อย ในที่สุดก็เจอ เซเว่น ... มีของกินให้เลือกเยอะเลย แล้วมันก็กลายเป็นแหล่งอาหารเจ้าประจำของเรา (แต่อยากจะบอกว่า มารู้เอาวันสุดท้ายว่าถ้าเราลองเดินไปในทิศตรงกันข้ามกับเซเว่นนั้น จะเจอร้านอาหารญี่ปุ่นมากมายยยยยยยยยย เสียดายจริงๆ) ป.ล. ขอขอบคุณ samurai wifi Pocket wifi , google Map กับแอป Hyperdia ทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นมากเลยค่ะ . . พรุ่งนี้จะเริ่มเที่ยวจริงๆ แล้วค่ะ
|
polyj
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?] 2019 Reading Challenge
Polyj has
read 2 books toward
her goal of
200 books.
2018 Reading Challenge
Polyj has
read 5 books toward
her goal of
200 books.
2017 Reading Challenge
Polyj has
read 4 books toward
her goal of
200 books.
2016 Reading Challenge
Polyj has
read 0 books toward her goal of 200 books.
Polyj's bookshelf: read
คุณตั้ม ธรณ vs รับขวัญ
ประทับใจคุณตั้มกับบิ๊กไบค์ของเขา เป็นพระเอกที่เท่จริงๆ
ส่วนนางเอก เห็นหงิมๆ ติ๋ม ๆ อยู่ในบ้าน
แต่กลางคืนนั้นเธอเริงร่าเป็นแม่สาวสวมหน้ากากผู้ลึกลับในผับบาร์นะจ๊ะ
สาวสวมหน้ากากนี้ จะถูกกระชากออกมาตอนไหนน้า มาลุ้...
ราล์ฟ รวินรุตน์ vs แพนด้า ภีรดา
ช่วงนี้เจอหนุ่มบิ๊กไบค์ติดๆ กันนิดนึงค่ะ
พระเอกเรื่องนี้เป็นไบค์เกอร์ตัวท็อป เป็นเจ้าของโชว์รูมขายบิ๊กไบค์รายใหญ่
เลยได้เจอกับน้องแพนด้า นางเอก ซึ่งเป็นพริตตี้สาวดาวยั่ว/รั่วได้ทุกงาน จริงๆ นางสวยนะ แถมย...
ฉู่ชิงหยาง vs มู่เซียงหนิง
ปกแซ่บมาก
เนื้อเรื่อง ช่วงแรกเหมือนจะดราม่า แต่จริงๆ แล้วไม่ 555
อ่านสบายๆ ค่ะ
พระเอกเป็นแม่ทัพที่หยิ่งทะนง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
พอโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้ชอบก็เลยโกรธ
ส่วนนางเอกรักเขามาก แ...
ท่านแม่ทัพ เยียนชิงหลาง vs อวี้หมี่ เถ้าแก่เนี้ยร้านอาหารริมทาง
เรื่องนี้อ่านไปหิวไปค่ะ เนื่องจากนางเอกเปิดร้านอาหารริมทาง เลยได้โชว์ฝีมือทำอาหารอยู่มากมาย แล้วบรรยายซะละเอียด ถึงเครื่องปรุง วิธีการปรุง ความรู้สึกที่ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส โ...
อู๋หยา โผล่มาโดดเด่นในเล่มนี้
อาจารย์สวมหน้ากาก เขาคือใคร
หลินอีชวนของข้ากำลังจะกลายเป็นพวกหลงนางไปซะแล้ว
โชติระเส vs ตยาวดี
เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการขยายภาพจากเรื่องพักตร์อสูร
โดยเน้นที่ตัว พ่อกับแม่ คือโชติระเส กับตยาวดี
ดังนั้นควรอ่านพักตร์อสูรมาก่อนนะคะ
โชติระเส ในพักตร์อสูร ในสายตาเรา คือผู้ชายที่ไม่ค่อยได้เรื่องนัก ถ้าไม่มีลูกที่เก...
|