To sooth my soul
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

นโยบายบล็อกของผม

เช้าวันนี้สมองปลอดโปร่งแม้เมื่อคืนผมไม่ค่อยได้นอน เนื่องจากกังวลกับเรื่องอนาคตของตัวเองเพราะความอยากที่จะประกอบอาชีพครูหวนคืนกลับมาอีกผมไม่อยากปล่อยให้ความรู้ที่มีตายไปกับตัวโดยเสียเปล่าแต่กระนั้นหนทางที่ผมจะได้เป็นครูมันช่างริบหรี่เหลือเกิน อย่างที่เคยเล่าไว้น่ะครับว่าผมป่วยเป็นโรค อารมณ์แปรปรวนสองขั้ว แม้ตอนนี้อาการจะดีขึ้นมากแต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่

ผมเคยคิดว่าจะหนีไปอยู่ต่างจังหวัดไปที่ไกลๆสักที่ ที่ๆไม่มีใครรู้จักผมมาก่อน ไปเริ่มชีวิตใหม่ ไปเป็นครูบ้านนอกใช้ชีวิตอย่างพอเพียงแต่ปัจจัยต่างๆในตอนนี้ไม่อำนวยเท่าไหร่ เพราะผมมีภรรยาและลูกแล้วภรรยามีหน้าที่การงานมั่นคงแน่นอนว่าผมคงไม่บังอาจร้องขอให้เธอละทิ้งอนาคตไปกับผมแน่ๆ ผมจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลลูกและช่วยงานพ่อแม่อยู่กับบ้านหลายครั้งที่ความทะเยอทะยานอยากระอุขึ้นในใจ อยากออกไปสู้โลกกว้างอีกแต่ถูกผลักดันกลับมาให้อยู่ที่เดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมอายุสามสิบห้าถือว่ามากไปสำหรับการหางานใหม่ๆทำ คำถามที่ถูกถามบ่อยๆคือช่วงเวลาที่ขาดหายจากการทำงานไปไปทำอะไรมา หากผมบอกตามตรงว่าผมป่วยก็ยากนักที่นายจ้างจะรับไว้ทำงาน หากไม่พูดความจริง ผมก็จะรู้สึกอึดอัดในใจตลอด ผมพยายามหางานที่เป็นนายของตัวเองเป็นนักเขียน เป็นคนสร้างงานศิลปะ แต่ผมก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้ และไม่มีความรู้ทางศิลปะมารองรับ

ผมเสียดายความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของตัวเองผมอยากจะถ่ายทอดมันออกมา แต่ด้วยปัจจัยที่จำกัด ผมไม่อาจเอาศักยภาพที่มีออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ผมมีโครงการมากมายในหัวสมอง อาจจะเป็นเพราะตัวโรคที่ทำให้ผมมีความคิดมากมายขนาดนี้

โครงการที่หนึ่งเขียนหนังสือนิยายเพ้อฝันให้จบสักเรื่อง

โครงการที่สองเขียนบล็อกทุกอาทิตย์ ผมจะพยายามหาสิ่งใหม่ๆมาเขียนบล็อกทุกอาทิตย์และที่คิดได้ตอนนี้คือเขียนการ์ตูนและมีโครงการที่จะตามมาอีกคือการเขียนแบบฝึกหัดของนักเรียนประถมด้วยตัวเองโดยเฉพาะวิชาเลข กับ วิทยาศาสตร์

โครงการที่สามคือการเขียนบันทึกประสบการณ์ต่างๆ และข้อคิดที่ได้ในชีวิตเก็บไว้ให้คนใกล้ชิดอ่านถ้ามีโอกาสจะเอาไว้พิมพ์แจกตอนวันตาย

ผมมีโครงการมากมายที่ก่อให้เกิดรายจ่ายแต่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเสียเวลาโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะผลิดอกออกผล คนรอบข้างมักจะปรามาสว่า ผมทำเพื่ออะไรไม่ได้อะไรสักอย่าง เงินก็ไม่ได้ เสียเวลา ทำไมไม่ออกไปหางานทำ หรือไปเรียนต่อ

ผมก็ได้แต่นิ่งเพราะผมเลือกที่จะอุทิศเวลาให้กับสิ่งที่ผมชอบและสิ่งที่ผมเชื่อผมจะไม่ละทิ้งหน้าที่ดูแลลูก เพราะเขาเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้

ผมอยากเขียนบล็อกแม้ข้อมูลมันจะดูตื้นๆบ้าง ผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ก็อยากจะทำ

ผมคิดว่าการเขียนเรื่องที่ง่ายที่สุดก็คือเขียนจากประสบการณ์เรื่องใกล้ตัวเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัว แน่นอนว่าผมมีบันทึกไว้ในเฟซบุ๊กนั่นแหละครับไม่กล้าเอาลงบล็อกเพราะมันเป็นที่สาธารณะจนเกินไป

ผมไม่ค่อยจะหวงในสิ่งที่ผมคิดและเขียนได้เท่าไหร่นักหรอกครับเพราะคิดว่าสรรพสิ่งในโลกนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของมันได้อย่างแท้จริง แม้วันนี้เราคิดค้นและค้นพบได้ ก็ใช่ว่าก่อนหน้านี้หรือหลังจากนี้จะไม่มีใครคิดค้นและค้นพบได้อย่างเรายิ่งถ้าเป็นความรู้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งควรจะเผยแพร่ ไม่ควรเก็บงำไว้ แต่ทั้งนี้ผมมิได้สนับสนุนในการคัดลอกงานของคนอื่นนะครับ

ผมเชื่อว่าทุกคนมีความคิด มีประสบการณ์ของตัวเองการที่จะสร้างงานและเขียนงานชิ้นหนึ่งขึ้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แค่เราจับเอาสิ่งที่เราได้พบขบคิดสักหน่อย ก็ได้อะไรมาเขียนแล้ว ดีหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่งอาจารย์ที่สอนผมคนหนึ่งบอกว่า เขียนไปเถอะไม่ต้องคาดหวังว่ามันจะดีจะสนุกทุกเรื่องทุกตอน

ผมก็เลยเริ่มเขียนตะลุยเขียนไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเรื่องยาวก็เขียนให้จบแล้วค่อยตามแก้ส่วนเรื่องสั้นนั้นยากจริงๆครับ โดยเฉพาะการคิดหัวข้อที่จะเขียนขึ้นมาเองส่วนเรื่องบทความหรือการเขียนบล็อก ผมรู้สึกเหมือนการเขียนบันทึกเขียนให้เรื่อยเปื่อยบ้างก็ได้ เพราะไม่ได้คิดชักชวนใครให้มาอ่านมากนัก ดังนั้นเรื่องในบล็อกของผมส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของผมเองเกือบหมดล่ะครับ

แม้เคยยกเรื่องที่เคยอ่านมาเขียนบ้างแต่ก็ตามลบไปเสียกลัวว่าจะโดนหาว่าไปลอกเขามานั่นก็ทำให้ต้องคิดเรื่องใหม่ขึ้นมาหมดทำให้ปวดหัวในระดับหนึ่งทีเดียว ก็เลยคิดว่าบางบล็อกก็คงต้องอ้างถึงและเล่าถึงบ้างแหละน่า

บล็อกนี้ไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่เขียนขึ้นมาแก้ขัด เพื่อบอกว่าเจ้าของบล็อกยังมิได้ป่วย หรือ ม่องเท่งแต่มาแจ้งนโยบายการเขียนบล็อกไว้ก่อนครับ ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านมาจนใกล้จะจบบล็อก

ก่อนจบฝากกลอนไว้ผมแต่งขึ้นเพื่อรอไว้ทำภาพประกอบ ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือแบบฝึกหัดอ่านภาษาไทยของลูกและนิทานหลายๆเล่ม พอดีว่าสอนลูกอ่านไป ก็เลยอยากแต่งให้ลูกอ่านบ้างครับและเก็บไว้วาดรูปประกอบด้วย อาจไม่มีข้อคิดเหมือนนิทาน ก็ถือว่าเป็นแบบฝึกหัดอ่านแบบเล่าเรื่องธรรมดาก็แล้วกันนะครับ

แสงแดดส่องจ้า ท้องฟ้าสดใส

นกน้อยบินไป ปลาใหญ่ว่ายวน

ร่าเริงทุกคน ร้องรำทำเพลง

เจ้าตูบตัวใหญ่ วิ่งไล่รีบเร่ง

แมวลายแสนเก่ง หลบหลีกไปมา

ผีเสื้อตัวหนึ่ง หน้าบึ้งหนักหนา

มันบ่นบอกว่า ดอกไม้ไม่มี

นี่อยู่ตรงนี้ ฉันร้องเร็วรี่

ดูให้ดีๆ นี่ไงชบา

ผีเสื้อดีใจ บินไวเข้าหา

เกาะดอกชบา หรรษาชอบใจ

ผีเสื้อขอบคุณ บินวุ่นกันใหญ่

ฉันเกือบลืมไป ต้องรีบไปเรียน

ฝึกหัดอ่านเขียน ร่ำเรียนวิชา

มุ่งมั่นศึกษา ภายหน้าก้าวไกล

เมฆขาวคล้อยเคลื่อน ตะวันเลื่อนไป

ตอนบ่ายนั้นไซร้ คุณครูให้นอน

หลับตาหนุนหมอน อากาศไม่ร้อน

นอนสบายใจ ตกเย็นเมื่อไหร่

ก็ได้เวลา เลิกเล่นเฮฮา

กลับบ้านเถิดเรา บอกลาเพื่อนๆ

คุณครูร้องเตือน "การบ้านต้องทำเอง"


บล็อกหน้าจะเขียนให้มีสาระกว่านี้ครับ m(_ _)m




 

Create Date : 24 มกราคม 2556
1 comments
Last Update : 24 มกราคม 2556 20:10:45 น.
Counter : 1619 Pageviews.

 

เขียนเลยครับ
เขียนบล็อกทุกวันได้ยิ่งดีครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 4 กุมภาพันธ์ 2556 12:46:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Polarbee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ไม่เขียน ไม่เลอะ
ไม่เปรอะ ไม่ผิด
ไม่เขียน ไม่คิด
ไม่ผิด ไม่จำ
New Comments
Friends' blogs
[Add Polarbee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.