Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
21 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
Essay Zone






Create Date : 21 กันยายน 2549
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2550 21:03:10 น. 13 comments
Counter : 1163 Pageviews.

 
To banish the trace of a tear from your eye,
A thousand deaths would I gladly die;
If one more life were granted me,
I'd spend that life in serving thee.

Avetik Isskyan
The people's of Armenia

...............................................

เพื่อขจัดคราบน้ำตาประชาราษฎร์
ถึงชีวาตม์สิ้นพันครั้งยังหรรษา
แม้นตนกูเกิดได้อีกสักครา
จักอุทิศชีวาเพื่อมวลชน

" โยธิน มหายุธนา "

" โยธิน มหายุธนา " เป็นบุคคลแรกที่แปล
บทกวี "เพื่อลบรอยฯ" และ จิตร ได้ยกย่องว่า
แปลได้กระชับดีมาก

...................................................

เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน

" ศรีนาคร "
จิตร ภูมิศักดิ์






โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:17:36:55 น.  

 
เคยฟังเพลงนี้ครั้งแรก ในชื่อเพลง " ยามห่างไกล "
เป็นเพลงที่ดี และเป็นเพลงที่ชอบเพลงหนึ่ง
ดัดแปลงเนื้อหาให้เหมาะสำหรับในเมือง
ได้ฟังเพลงต้นแบบในภายหลัง

มีข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยของที่มาของเพลง
ค้นคว้ามาจากบันทึกของผู้แต่ง
..." มีข่าวข่าวหนึ่งออกอากาศ เป็นจดหมายเปิดผนึก
ของ คุณสุธรรม แสงประทุม
ซึ่งเป็นเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
ได้ตกเป็นจำเลยคดี หก ตุลา ร่วมกับเพื่อนอีกสิบแปดคน
เป็นจดหมายที่เขียนมาจากในคุกส่งถึงเพื่อนๆและมิตรร่วมรบ
ทั้งในและนอกประเทศ มีใจความว่า
' ขอให้พวกเราหยัดยืนสู้ต่อไปเป็นกำลังใจให้กันและกัน '
และเล่าถึงชีวิตในคุกโดยสังเขป พวกเราได้รับฟังเนื้อหา
ในจดหมายด้วยความสะเทือนใจยิ่ง ".....
ผู้แต่งอยากจะตอบจดหมายให้เพื่อนในคุกทุกๆคน
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้บอกความรู้สึกนี้ให้สหายในหน่วยทราบ
จึงเป็นที่มาของการแต่งเพลงนี้ โดยร่วมแต่งด้วยกันสองคน
คือ คุณแสง และ คุณตา วงกงล้อ ให้ คุณเอื้อย เป็นผู้ร้องนำ
คุณพจน์ ร้องนำในท่อนแรก และร้องคู่กันในท่อนสุดท้าย
อีกหนึ่งปีต่อมา เมื่อเพลงนี้ได้ออกอาศทาง
' สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย ' ( สปท.)
ก็กลายเป็น ' จดหมายตอบ ' ที่มีทำนอง
ถึงจะตอบช้าแต่ก็ถึงผู้รับอย่างถ้วนหน้า ดั่งที่ผู้แต่งวาดหวังไว้

ว่าด้วยเพลง " จากใจสู่นาคร "


โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:17:45:30 น.  

 
เช ไม่เพียงแต่จะเป็นนักปฏิวัติที่ดีที่สุดในยุคของเขาเท่านั้น
เขายังเป็นคนที่ทรหดอดทนต่อความยากลำบากได้อย่างยอดเยี่ยม
เช เป็นคนที่รักมนุษย์ เป็นฝ่ายซ้ายที่ดี เป็นแบบอย่างของคนที่
กอปรด้วยคุณธรรม แม้แต่กับการปฏิบัติต่อศัตรูของเขา
ใบหน้าของเขาก่อความยุ่งยากหลายพันครั้งให้กับรัฐบาลหลายประเทศ
ถ้อยคำของเขาก่อให้เกิดการจราจลหลายร้อยครั้ง
เช เป็นนักปฏิวัติควบคู่กันไปกับที่เป็นนักบุญ
เป็นมาร์กซิสต์ที่ยอมอุทิศชีวิตและความตายเพื่อมนุษย์ที่ยากจนที่สุด
ที่ปราศจากความช่วยเหลือจากพระเจ้าองค์ใด
ตามผนังตึก ห้องเรียน และห้องพักต่างๆ
ของนักศึกษามากมายทั่วโลก มักจะมีชอล์ค
เขียนคำว่า " เช ยังมีชีวิตอยู่ "
.....................................................................
จากหนังสือ เช กูวารา : นายแพทย์นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่


โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:21:57:34 น.  

 
ซามูไรพ่อผู้ ชราภาพ
ดำริจักมอบดาบ ลูกไว้
จึ่งทดสอบเพื่อทราบ ใครคู่ ควรนอ
คนใหญ่ครั้นเข้าใกล้ ประตู

พินิจดู เบื้องล่าง เบื้องบน
เอื้อมหยิบหมอน ณ หน แห่งนั้น
บนบานประตูกล ใกล้ตก
นำจัดวางไว้ขั้น ที่เดิม

คนกลางเริ่มสู่ห้อง บิดา
หมอนตกลง ณ ครา ที่นั้น
รับได้ว่องไวสา- มารถยิ่ง
นำจัดวางไว้ขั้น ที่เดิม

คนเล็กเริ่มย่างเข้า ทันใด
หมอนตกดาบกราดไกว กวัดเป้า
เศษนุ่นกระจายไหว ตลบว่อน
ใบดาบปลาบพลิ้วเข้า ฝักพลัน

คนหนึ่งนั้นชอบจ้อง ขจัดเหตุ สูญแฮ
หนึ่งชอบรับผลเลศ เลิศไซร้
หนึ่งชอบเผด็จผลเดช กระเดื่องภพ
ดาบพ่อควรผู้ให้ เหตุสูญ

เซ็นซามูไร ๒
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:22:00:36 น.  

 
เพลงชนิดใดหนาประชารัก
เรื่องประจักษ์ค่าล้ำทำนองไฉน
การบันเทิงเริงเล่นชอบเช่นใด
ศิลปอะไรสูงเกินค่าเงินตรา

เพลงบรรเลงจากใจทวยไทรัก
เรื่องพิทักษ์ประชนล้นคุณค่า
ละครเพื่อประชาชัยใฝ่รอมา
ศิลปเพื่อมหาชนชาติไม่อาจซื้อ

เปลื้อง วรรณศรี


โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:22:51:18 น.  

 
ฟังเถิด....ฟังเสียเถิด
ดนตรีเกิดจากหนไหน
ศิลปะจะนำชัย
น้อมดวงใจให้มวลชน
ชีพนี้แม้ยังอยู่
ยืนหยัดสู้ทุกแห่งหน
เพลงชัยประชาชน
ก็คือผลสัจธรรม

( ไม่ทราบที่มา )


โดย: พุกไม้ วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:22:56:43 น.  

 
" ถั่งโถมโหมแรงไฟ"
เป็นเพลงแรกที่ทำในป่า
หลังจากเข้าสังกัดหน่วยจรยุทธแล้ว ได้มีการเรียนทฤษฎีปฏิวัติ
จึงเอาทฤษฎีมาแต่งเป็นเพลง
เกิดขึ้นขณะจะเดินทางเข้าสู่จุดศุนย์กลางของเขต แต่งขึ้นขณะเดินทาง
มีเทียนสีแดง ปากกา สมุด จึงอยากเขียนเพลง และฮัมเพลงไปขณะแบกปืน
พอถึงจุด ทองกรานฮัมเพลงขึ้นมาเป็นอิสระ " ลาย " ออกมาเป็นอย่างนี้
แล้วโยนกันไปโยนกันมา เป็นทำนองปนๆกันอยู่
สุรชัย มานั่งจัดทำนอง เป็นอารมณ์อีกทีหนึ่ง
การอัดเสียงเพลงนี้ลำบากมาก ร้องไป เล่นไป ใครล่มต้องอัดใหม่
อัดเพลงนี้ครั้งสุดท้าย มีเพื่อนทหารคนหนึ่งไปยิง"ค่าง"ในป่า
ที่เหลือนั่งอัดเพลงกันไป เพลงนี้ช่วงแรก ทำนองออกมาเป็นเพลงช้า
ช่วงหลังเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็ว ความยากจึงอยู่ตรงนี้
พอร้องช่วงช้าเสร็จ กำลังจะขึ้นจังหวะเร็ว เสียงปืนดัง"ปัง" พอดี
ทุกคนคึกคัก จังหวะลงตัวพอดีกับเสียงปืน ไม่มีใครล่มเลย
พออัดเสร็จ ทุกคนไชโยโห่ฮิ้วกัน ด้วยความดีใจในความบังเอิญครั้งนี้
ต่อมาภายหลัง ผู้ที่ร่วมเดินทางขณะแต่งเพลงนี้ตายหมด
เหมือนกับว่า "เข้าคิว" ไปตาย ทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้
ทำให้สุรชัย นึกถึงเพื่อนๆเหล่านั้นมาก
......................................................................................................
คัดลอกจาก ตำนานชีวิต คาราวาน


โดย: พุกไม้ วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:12:51:53 น.  

 
ปลายปากกระบอกปืน
เคยหันหาประชาชน
บัดนี้สิบันดล
กลับหันใส่เผด็จการ

ดอกไม้ที่ปลายปืน
ก็เชิดชื่นขึ้นเบ่งบาน
ทแกล้วทหารหาญ
ก็อวดหาญขึ้นเต็มเห็น

แสบเผ็ดเผด็จการ
ทุรย่านระยำเย็น
กุมปืนและไกเป็น
อำนาจเถื่อนอธรรมครอง

อำนาจอธิปไตย
แห่งประชาคือครรลอง
เผด็จการกี่เกลื่อนกอง
ที่กลับทวนสวนกระแส

แสนปากกระบอกปืน
จงศูนย์ปืนอย่าศูนย์แปร
เป้าเที่ยงจงเที่ยงแท้
อย่าเบี่ยงเป้าให้เสียศูนย์

ใดเท็จที่ควรทิ้ง
แลใดแท้ที่ควรทูน
มื้อนี้แหละเพียบพูน
ด้วยดอกไม้เสียบปลายปืน !!!

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


โดย: พุกไม้ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:23:03:06 น.  

 
ชั่วเหยี่ยวกระหยับปีกกลางเปลวแดด
ร้อนที่แผดก็ผ่อนเพลาพระเวหา
พอใบไม้ไหวพลิกริกริกมา
ก็รู้ว่าวันนี้มีลมวก

เพียงกระเพื่อมเลื่อมรับวับวับไหว
ก็รู้ว่าน้ำใสใช่กระจก
เพียงแววตาคู่นั้นหวั่นสะทก
ก็รู้ว่าในหัวอกมีหัวใจ

โซ่ประตูตรึงผูกถูกกระชาก
เสียงแห่งความทุกข์ยากก็ยิ่งใหญ่
สว่างแวบแปลบพร่ามาไรไร
ก็รู้ได้ว่าทางยังพอมี

มือที่กำหมัดชื้นจนชุ่มเหงื่อ
ก็ร้อนเลือดเดือดเนื้อถนัดถนี่
กระหืดหอบฮวบล้มแต่ละที
ก็ยังดีที่ได้สู้ได้รู้รส

นิ้วกระดิกกระเดี้ยได้พอเห็น
เรี่ยวแรงที่แฝงเร้นก็ปรากฎ
ยอดหญ้าแยงหินแยกหยัดระชด
เกียรติยศแห่งหญ้าก็ระยับ

สี่สิบปีเปล่าโล่งตลอดย่าน
สี่สิบล้านไม่เคยเขยื้อนขยับ
ดินเป็นทรายไม้เป็นหินจนหักพับ
ดับและหลับตลอดถ้วนทั้งตาใจ

นกอยู่ฟ้านกหากไม่เห็นฟ้า
ปลาอยู่น้ำย่อมปลาเห็นน้ำไม่
ไส้เดือนไม่เห็นดินว่าฉันใด
หนอนย่อมไร้ดวงตารู้อาจม

ฉันนั้นความเปื่อยเน่าเป็นของแน่
ย่อมเกิดแก่ความนิ่งทุกสิ่งสม
แต่วันหนึ่งความเน่าในเปือกตม
ก็ผุดพรายให้ชมซึ่งดอกบัว

และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฎ
เป็นความงดความงามใช่ความชั่ว
มันอาจขุ่นอาจข้นอาจหม่นมัว
แต่ก็เริ่มจะเป็นตัวจะเป็นตน

พอเสียงร่ำรัวกลองประกาศกล้า
ก็รู้ว่าวันพระมาอีกหน
พอปืนเปรี้ยงแปลบไปในมณฑล
ก็รู้ว่าประชาชนจะชิงชัย

เพียงความเคลื่อนไหว
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


โดย: พุกไม้ วันที่: 11 ตุลาคม 2549 เวลา:13:37:28 น.  

 
ดินสอโดมจารึกด้วยหมึกเลือด กับฟ้าเดือดแดงก่ำตอกย้ำมั่น
เอาความสัตย์เข้าซัดอสัตย์ธรรม จุดหมายนั้นแน่นอนต้องชำนะ

แต่จะเจ็บจะปวดจะรวดร้าว ในย่างก้าวทุกก้าวรกระกะ
จะเลี้ยวลดคดค้อมหย่อมระยะ จนกว่าจะกำชัยที่ปลายทาง

มวลมหาประชาชนคนรักชาติ ต้องมุ่งมาดสามัคคีอย่างกว้างขวาง
ลุกขึ้นชูไฟเข้าโหมฟาง ร่วมกันสร้างทางที่ดีกว่าเดิม

แต่งสนามรกร้างให้เรียบร้อย กำแพงพร้อยรอยร้าวต้องเร่งเสริม
หลังคาตึกรั่วแตกต้องแต่งเติม เราจะเริ่มวันใหม่ในวันนี้

มันไม่ใช่เริ่มต้นแห่งอวสาน เป็นแต่เพียงทางผ่านอันผิดที่
อวสานการเริ่มต้น ซึ่งต้องมี เพื่อจะชี้ช่วงทางให้ย่ำเท้า

ไม่ใช่วันไถ่ถามความเจ็บปวด ไม่ใช่วันจะนั่งสวดเพลงบทเศร้า
ไม่ใช่วันรีรอร้องขอเอา วันเก่าเก่า ก็คือวันที่ผ่านเลย

เราคือคนหนุ่มสาวของวันนี้ มีภาระหน้าที่ที่ผ่าเผย
หนทางเราก้าวหน้ากว่าใครเคย ต้องตั้งต้นและลงเอยด้วยตัวเอง

เราจักเป็นเช่นข้าวเปลือก ตกที่ไหนไม่เลือกจะเร้าเร่ง
งอกต้นกล้าเติบใหญ่ไม่ยำเยง พร้อมบานเบ่งจากเมล็ดไปเป็นรวง

เราคือคนหนุ่มสาว คือแสงดาวแห่งศรัทธาอันโชติช่วง
จงส่องทางให้เห็นเส้นทางปวง เพื่อก้าวล่วงสู่ทางที่เที่ยงตรง

เช็ดน้ำตาเช็ดเลือดให้เหือดแห้ง แล้วจัดแจงฝังศพเพื่อนอย่าเลือนหลง
รวบรวมแรงลุกขึ้นหยัดยืนยง เพื่อชูธงผืนใหม่ใหญ่กว่าเดิม


เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


โดย: พุกไม้ วันที่: 11 ตุลาคม 2549 เวลา:13:43:21 น.  

 


หกตุลาอาถรรพณ์บันทึกเลือด
จารึกวันตะวันเดือดแผ่นดินดับ
นกพิราบเสรีที่พ่ายพับ
แหลกลงกับแสนปากกระบอกปืน

ในเงื้อมมืออำนาจเผด็จการ
โขมดมารโสมมเข้าข่มขืน
ทั้งรากพิษรากเน่าโยงยาวยืน
ยังชำแรกแทรกพื้นแผ่นดินไทย

เผด็จการก้าวหน้าโลกาภิวัตน์
ตัดต่อตัดสายพันธุ์เป็นพันธุ์ใหม่
แท้คือแก่นเผด็จการฉกรรจ์ไกร
เอาประชาธิปไตยกำบังตน

เอาเงินต่อเงินตั้งเงินสั่งได้
อำนาจเงินเป็นใหญ่ในทุกหน
แปรอำนาจเป็นทุนเข้าหมุนวน
ประชาชนเป็นเหยื่อมายาการ

หกตุลาสาหัสอุบัติโหด
ยังแตกโจทย์แตกใจสอบไม่ผ่าน
อำนาจใดของประชาใดสาธารณ์
ประชาธิปไตยขานแต่เพียงคำ

สามสิบปีหกตุลามาท้าทาย
ให้ทบทวนความหมายให้เรียนร่ำ
ใดผิดถูกใดธรรมะใดอธรรม
เราจะต้องไม่ย่ำซ้ำรอยเดิม !.

สามทศวรรษหกตุลา
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์





โดย: พุกไม้ วันที่: 11 ตุลาคม 2549 เวลา:15:37:11 น.  

 
อดีตเหมือนความฝันวันก่อนเก่า
ฝันร้ายเข้าครองใจจุดไฟฝัน
ฝันแห่งแค้นเคียดฆ่าล่าชีวัน
ฝันร้ายอันผ่านลิบสามสิบปี

6 ตุลาคม 2519
โฉดรุ่งเช้าปืนปัง ปัง ปัง ดังรัวถี่
ระเบิดบาปกระสุนบ้าพล่าชีวี
ดินสอโดมกลอนกวีจารึกไว้

ว่าคนหนุ่มคนสาวสู่ราวป่า
หวังสร้างฟ้าสีทองผองชนไสว
ประชาชาติประชาชนประชาชัย
สามสิบปีผ่านไปให้จดจำ

อดีตคือความจริงวันก่อนเก่า
ใช่เพียงเฝ้าโกรธเกลียดขึ้งเครียดคร่ำ
ประวัติศาสตร์อย่าซ้ำรอยย้อนรอยย้ำ
อดีตกรรมกรรมใครใช้กรรมตน

อดีตเหมือนความฝันวันก่อนเก่า
ฝันวัยเยาว์สดใสไม่สับสน
ปัจจุบันเป็นไฉนในกมล
รอยยับย่นในหัวใจอย่าได้มี

รอยยับย่นบนใบหน้าอย่าอาวรณ์
อกอุ่นร้อนฝันไฟไม่หน่ายหนี
ฝันร้ายรอกลายเห็นเป็นฝันดี
น้องพี่ยังฝันใฝ่ร่วมใจกัน

ฝันร้ายและไฟฝัน
วัฒน์ วรรลยางกูร






โดย: พุกไม้ วันที่: 11 ตุลาคม 2549 เวลา:15:48:12 น.  

 
ทางสีขาว
คำร้อง : ทำนอง สุรชัย จันทิมาธร

คำร้องดัดแปลงและบันดาลใจจากบทกวีชื่อ "เดินคนเดียว"
ในหนังสือ "ฤดูดอกไม้บาน" ของ "บันไดไม้"

อ่านบทกวีเล็กๆชื่อ เดินคนเดียวหรือ walk alone
ของนามปากกา "บันไดไม้" ประทับใจ ดูๆน่าจะเป็นเพลงได้
ก็เลยทำออกมาในแนวหนักๆ...แบบวัยรุ่น...โดยดัดแปลงเนื้อหา
ส่วนชื่อทางสีขาวเป็นชื่อที่ชอบอีกชื่อหนึ่ง...ตอนแรกตั้งชื่อว่า
"ทางสีขาว หญ้าสีเขียวและป่าใหญ่" มงคล อุทก บอกมันยาวไป
ทางสีขาวก็พอแล้ว...
...............................................
บันทึกบทเพลง : คาราวาน ชุด คนไกลบ้าน ปี 2529


โดย: พุกไม้ วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:23:49:38 น.  

พุกไม้
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ทางใดผู้ใดสร้าง
ทางนั้นวางเพื่อทางเขา
ทางร่วมคือทางเรา
ประชาชนผู้ใช้ทาง
ก้าวไปให้อบอุ่น
ทุกทุกรุ่นผู้ถากถาง
เมื่อทางยังรกร้าง
จงช่วยสร้างใช่หมางเมิน








Friends' blogs
[Add พุกไม้'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.