<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
17 ธันวาคม 2551

เที่ยวเมืองลาวม่วนหลาย ไปที่ไหนก็ "สะบายดี" (เวียงจันทน์ -วังเวียง) ภาค 3

..

นักท่องเที่ยวบางคน ใช้เวลาในการท่องเที่ยวเมืองหลวงของประเทศลาวไม่นานนัก

บางคนอาจใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ในการแวะชมสถานที่สำคัญๆ

ขณะที่บางคน อาจมองว่าเมืองแห่งนี้เป็นเพียงทางผ่านออกไปสู่จุดหมายแห่งอื่น
.
.
สำหรับตัวผมเอง ไม่ได้แตกต่างไปจากใครๆ

แต่ทว่า ผมก็พยายามใช้เวลาที่มีอันน้อยนิด ทำความรู้จักกับเมืองแห่งนี้ให้ได้มากที่สุด

จนทราบว่า “เวียงจันทน์” มีเสน่ห์มากมายซุกซ่อนอยู่
..



.

รถตู้จากวังเวียง มาจอดปล่อยผู้โดยสารที่ริมแม่น้ำโขง ในเวลาประมาณบ่ายโมง

แม้ละแวกนั้นมีเกสต์เฮ้าส์มากมาย แต่ผมเดาโดยสัญชาตญาณว่า ที่พักใกล้แม่น้ำคงมีราคาแพง จึงตัดสินใจเดินลัดเลาะถนน ไกลออกจากแม่น้ำไปเรื่อยๆ

ผมเดินไปอย่างไร้จุดหมายที่แน่นอน เพราะไม่ได้วางแผนเรื่องที่พักในเวียงจันทน์เอาไว้ล่วงหน้า

เดินชมเมืองวนไปวนมาอยู่ราวครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเดินไปถึงน้ำพุ ซึ่งจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีเกสต์เฮ้าส์ให้เลือกมากมาย

ด้วยความขี้เกียจ บวกกับอยากอาบน้ำเต็มทน ผมจึงเลือกเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งที่ชื่อ “พรประเสริฐ”

..

..

พรประเสริฐเกสต์เฮ้าส์ เป็นอาคาร 4 ชั้น 2 คูหาติดกัน

ผมเข้าไปสอบถามราคา ซึ่งมีตั้งแต่ 400 – 800 บาท (แน่นอนว่า ผมเลือกราคาถูกสุดไว้ก่อน ฮ่าๆ)

ผมเลือกห้องราคา 400 บาท (แต่จ่ายจริงราว 415 บาท เพราะไม่มีเงินบาทติดตัว เลยต้องจ่ายไป 100000 กีบ)
.
.
สภาพห้องธรรมดาๆทั่วไป เตียงคู่ พัดลม ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น และมีน้ำฟรี 2 ขวด

แม้ใจจริงอยากจะนอนหรูดูบ้าง แต่นอนแค่คืนเดียว - คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ จะเอาอะไรนักหนา

..



.


ผมแอบย่องไปดูห้องข้างๆ ราคา 800 บาท

มีระเบียง เตียงเดี่ยวใหญ่ และมีพื้นที่กว้างพอให้แขกวิ่งไล่จับกันก่อนนอนได้

..



..

หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้ว ผมโทรศัพท์ไปหานักศึกษาลาวที่รู้จัก เธอชื่อ “จูลู่”.


“จูลู่” เป็นตัวแทนเยาวชนจากประเทศลาว ในโครงการเรือเยาวชนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโครงการหนึ่ง

เรารู้จักกันเพราะปีที่แล้ว เรือเยาวชนมาเยือนประเทศไทย และผมมีโอกาสได้ไปเก็บข้อมูลโครงการนี้

ดังนั้นเมื่อมาเที่ยวลาวทั้งที จึงต้องบอกกล่าวเจ้าถิ่นให้รับทราบซักนิด
.
.
ราวบ่ายสามโมง จูลู่ เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนๆอีก 3 คน เพื่อมารับผมไปทานอาหาร

เราไปทานกันที่ร้าน “Kong View - โขงวิว”

..



..

“โขงวิว” เป็นร้านอาหารเปิดใหม่ ตั้งอยู่บริเวณ “หนองปลาใน”

บรรยากาศติดริมแม่น้ำโขง มองเห็นฝั่งไทยไกลลิบๆ

เป็นร้านอาหารสไตล์ ลาว - ไทย - สากล

มีเล่นดนตรีสดในเวลากลางคืน เพลงที่ว่าก็เป็นเพลงไทยตามสมัยนิยมนี่แหละครับ เพราะขณะที่ผมนั่งทานอาหาร นักร้อง นักดนตรีกำลังซ้อมอยู่พอดี

..



..

มารู้จักกับ เพื่อนรุ่นน้องชาวลาวที่น่ารักของผม กันซักหน่อยนะครับ
.
.
สาวผ้าพันคอแดง คือ จูลู่ นั่นเอง ... จูลู่ เคยเป็นนักร้องวัยรุ่นของค่ายเพลงลาว เรคคอร์ด ด้วยนะครับ แต่ด้วยภาระเรื่องการเรียน เธอจึงเลิกงานด้านการบันเทิงไปแล้ว

ปัจจุบัน จูลู่ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ด้านการบริหารธุรกิจ

.

หนุ่มที่นั่งติดกัน คือ เนตร (ซึ่งก็เป็นคนรู้ใจ จูลู่ นั่นแหละ)

เนตร เป็นคนเก่งครับ เพราะเป็นนักศึกษาทุน เรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลียโน้น

แต่ช่วงนี้ปิดภาคเรียน จึงได้กลับมานอนอยู่บ้านสบายใจเฉิบ

.

สาวน้อยฝั่งตรงข้าม คือ ต้อม ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนในโครงการเรือเช่นกัน
ต้อม เรียนที่เดียวกับ จูลู่ และเป็นเพื่อนซี้กันครับ

.

หนุ่มหน้าทะเล้น เสื้อน้ำตาล คือ คนรู้ใจของต้อม ชื่อ เอก

เอก เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอีกแห่ง และเป็นสารถีขับรถนำเที่ยวในวันนี้

..

..

มาเมืองลาวทั้งที ต้องทานอาหารลาว

มื้อนั้น ผมจึงอิ่มแปล้ไปด้วย ต้มยำ ลาบ ส้มตำ ข้าวเหนียว ไส้กรอกลาว ... แซ่บหลายๆ

ราคาเบ็ดเสร็จ รวมทั้งหมด 817 บาท .. คิดเป็นเงินกีบเฉียด 2 แสน !

ผมตั้งใจจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง แต่กลุ่มเพื่อนรุ่นน้อง ต่างนั่งยัน นอนยันว่า ห้ามจ่ายเด็ดขาด

ผมจึงย้ำกลับไปว่า มาเมืองไทยอีกเมื่อไหร่ โทรหาด้วย จะเลี้ยงคืนให้อ้วนเชียว

เนตร จึงถือโอกาสแซวเพื่อนสาวว่า “นี่ก็อวบระยะสุดท้ายแล้ว”

..

..

หลังจากอิ่มหมีพีมันกันถ้วนหน้า น้องๆก็ขับรถพาผมชมเมือง น่าเสียดายว่า เป็นเวลาเย็นมากไปหน่อย ทำให้วัดที่น่าสนใจหลายแห่งปิดไปซะก่อน

เราจึงมุ่งหน้าไปสู่ ประตูชัย หนึ่งในสถานที่ที่ต้องแวะไปชมเมื่อมาถึงเวียงจันทน์

.

แต่ก่อนจะไปชมความงามของประตูชัย น้องๆชวนผมมาถ่ายรูป “ระฆังแห่งสันติภาพ”

(ซึ่งจะว่าไป บ้านเราคงเรียกว่า ฆ้อง มากกว่า)

จูลู่ บอกว่า ระฆังนี้ เป็นสัญลักษณ์ว่า เมืองที่ได้รับ เป็นเมืองที่มีสันติภาพ และความสงบสุข ซึ่งประเทศลาว เป็นประเทศที่ 3 ที่ได้รับระฆังนี้

..



..

บริเวณประตูชัย เป็นลานสาธารณะพื้นที่กว้างขวาง ทั้งชาวลาว และนักท่องเที่ยว ต่างใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

ผมสังเกตเห็นม้านั่ง “อุปถัมภ์โดย การบินไทย” ตั้งอยู่เรียงราย

ซึ่ง ผมเองเพิ่งทราบเป็นความรู้ใหม่ว่า “อุปถัมภ์” กับ “สนับสนุน” มีความหมายต่างกันอย่างไร


จูลู่ บอกว่า “อุปถัมภ์” คือ การให้เปล่าทั้งหมด ทุกบาททุกสตางค์


ส่วน “สนับสนุน” คือ การสมทบทุน หรือให้เพิ่มเติมจากทุนเดิมที่มีอยู่

..


..

กว่าจะได้ฤกษ์ถ่ายภาพประตูชัย ดวงอาทิตย์ก็คล้อยเคลื่อนเลื่อนลงต่ำลงไปพอสมควร

..



..

แต่บรรยากาศบริเวณสถานที่แห่งนี้ ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งชาวลาว และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

..


.



.



..

เนื่องด้วยเวลาจำกัด และเกรงใจเพื่อนๆรุ่นน้อง ผมจึงไม่ได้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเวียงจันทน์ บนประตูชัย

อิจฉาคนด้านบน คงถ่ายรูปกันเพลินไปเลย

..




..

ผมเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย จนเดินไปเจอะกับฝรั่งคนหนึ่ง กำลังนั่งร้องเพลงเล่นกีต้าร์เปิดหมวกอยู่พอดี


ผมจ่ายเงินให้ไม่กี่พันกีบ บอกไปว่า “สำหรับเพลงเพราะๆ” จากนั้นจึงถือโอกาส นั่งคุยไปด้วยซะเลย

.

เจ้าหนุ่มผมทอง ชื่อ เดวิด เป็นนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน

เดวิด บอกว่า ว่างๆ จึงมาเล่นกีต้าร์แก้เซ็ง (แถมได้ตังค์อีกต่างหาก)


เขายังเล่าว่า เพิ่งไปเที่ยวเมืองไทยมาก่อนหน้านี้ “ประเทศของยู เป็นเมืองที่สนุกมากๆเลยล่ะ ไอ ชอบมากเลย”

..


..

ผมกวักมือเรียกน้องๆ มานั่งฟังเพลงของเดวิด สาวๆวิ่งเข้ามาพูดคุย และชื่นชอบกันใหญ่ (แต่เจ้าเอก ออกอาการเซ็งอย่างเห็นได้ชัด ฮ่าๆ)

ผมถามเดวิดว่า “คุณเคยดูหนังเรื่อง Once หรือเปล่า”

เดวิด ไม่พูดอะไร แต่ตอบผมด้วยเพลง Falling Slowly ทันที

“โอ้ว...เจ้าหนุ่มคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยแฮะ”

ผม กับ เดวิด จึงร่วมกันร้องเพลงนี้ไปด้วยกัน

..



..

ส่วน จูลู่ ทำหน้าที่ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน

..

..

จากนั้น เมื่อสมควรแก่เวลา เราก็เดินทางมาที่พระธาตุหลวง

แต่ก็เป็นเวลาเย็นย่ำ พระอาทิตย์เกือบจะลับขอบฟ้าเต็มที
ผมจึงทำได้เพียงเก็บภาพจากด้านนอก

..



..

สถาปัตยกรรมของพระธาตุหลวง

..



.


.

.


..

เมื่อถึงเวลาเดินทางกลับ พระจันทร์ก็เริ่มฉายแสง

.

น้องๆ ขับรถมาส่งผมที่เกสต์เฮ้าส์ ผมย้ำอีกครั้งว่า มาเมืองไทยเมื่อไหร่อย่าลืมโทรหา

ก่อนจากกัน จูลู่ กับ ต้อม อุตส่าห์ทำเซอร์ไพร้ส์ ด้วยการมอบเสื้อยืด “สบายดีเมืองลาว” แก่ผมอีก 1 ตัว


ซึ้งใจหลายๆ น้ำใจน้องๆชาวลาว



..



..

ผมกลับมาดูทีวีที่เกสต์เฮ้าส์ได้ครู่หนึ่ง ก็เผลอหลับไปหนึ่งงีบ

ตื่นมาอีกครั้ง ล้างหน้าล้างตา แล้วออกไปเดินเล่ม ชมราตรีที่เวียงจันทน์

..



..

ความจริงแล้ว ระหว่างทางตั้งแต่ริมแม่น้ำโขง ไล่มาจนถึงบริเวณที่ผมพัก มีผับ บาร์ บรรยากาศดีๆมากมาย

หรือ ใครชื่นชอบ เธค – คาเฟ่ แบบลาว ก็ยังพอมีให้เห็น

แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนไม่ดื่ม จึงไม่ได้เข้าไปนั่งสังเกตการณ์ (แต่หากมีโอกาสเที่ยวครั้งหน้า ตั้งใจว่าจะเข้าไปสั่งข้าวกิน เพื่อดูบรรยากาศ ฮ่าๆ)

.

เดินไปเดินมา จนไปเจอตลาดเล็กๆ มีแผงลอยขายอาหาร

ผมจึงมานั่งกินซาลาเปา กับชานม ดูสาวๆลาววัยรุ่น ตรงร้านแถวๆนั้นไปแทน

..



..

อย่างที่บอกไว้ครับว่า หากเป็นคนที่กิน ดื่ม เที่ยว สักหน่อย เวียงจันทน์ ก็มีร้านรวงน่านั่งให้เลือกพอสมควร
.

ส่วนผม ไม่มีอะไรทำไปมากกว่า เดินเล่น หามุมเก็บบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนของเวียงจันทน์

และก่อนนอนคืนนั้น .... ผมไม่ลืมที่จะโทรศัพท์ไปคุยเรื่องเวียงจันทน์ กับ สาววังเวียง

..


..

เช้าวันสุดท้ายที่เมืองลาว ผมตื่นสายจนได้ ... อดได้ภาพพระบิณฑบาตอีกตามเคย

ภารกิจแรกจึงเป็นการเดินไปตลาดเช้า เพื่อซื้อตั๋วเข้าไปอุดรธานี

ระยะทางจากน้ำพุ ไปตลาดเช้า เดินทอดน่องไป 10 - 15 นาทีก็ถึงครับ

.

ระหว่างทาง ก็เจอเจดีย์ ที่น่าจะเรียกว่า พระธาตุดำ

..


..

ครู่เดียวก็มาถึง ตลาดเช้าชอปปิ้งมอลล์ ห้างใหญ่ใจกลางเวียงจันทน์

..


..

เดินข้ามฟากไปซื้อตั๋วเข้าอุดรธานี รอบ 10.30 น. ราคา 20000 กีบ
.

เจอสาวลาว ชุดชมพู รองเท้าเขียว .. สีได้ใจจริงๆ

.



..

ภารกิจที่สอง ของผม คือตั้งใจจะไปเยือนมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ที่จูลู่ และต้อม เรียนอยู่นั่นล่ะครับ

ตัวย่อของสถาบันแห่งนี้ คือ มช (ซึ่งมิใช่ ม.เชียงใหม่) แต่คนลาวจะเรียก มอ – ซอ

ผมอยากรู้ว่า บรรยากาศมหาวิทยาลัยของเมืองลาวเป็นยังไงบ้าง เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นสถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุด และก่อตั้งโดยรัฐบาลลาว

.

แต่มหาวิทยาลัย อยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองพอสมควรครับ

หากจะนั่งรถบัสไป คงไม่ทัน หรือ จะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเอง ก็ไปไม่ถูก


ผมจึงต้องยอมจ่ายค่าตุ๊กตุ๊กในราคามหาโหด ไป - กลับ 70000 กีบ (ประมาณ 300 บาท) ... ฮ่วย เท่ากับไปกลับวังเวียงเชียวนะเฟ้ย

..


..

พี่คนขับตุ๊กตุ๊ก คงเห็นผมสนใจเรื่องการศึกษา ระหว่างทางจึงชี้ให้ดูสถานศึกษาไปตลอด



ตึกแถวสีฟ้าๆ เป็นวิทยาลัยเอกชน เกี่ยวกับเทคโนโลยี

..

..

ตึกนี้เป็นสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสถานศึกษาระดับปริญญาตรีของเอกชนอีกแห่ง

รูปจะเอียงๆหลายรูปหน่อยนะครับ ถ่ายบนตุ๊กตุ๊ก - -"

..



..

ส่วนภาพนี้เป็นสถาบันด้านพลังงาน ฮ่าๆ

..



..

แต่แล้ว โครงการเที่ยวชม มช ก็ล่มสลายครับ


เพราะคนขับตุ๊กตุ๊ก ดันหวังดีเกินเหตุ เดินไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่ รปภ.ว่า ผมเป็นนักท่องเที่ยวจะเข้ามาถ่ายรูป

เท่านั้นแหละ จบเห่เลย “ต้องมีหนังสืออนุญาตจากกระทรวงแถลงการณ์ก่อนนะครับ”

.

มันน่าเจ็บใจตรงที่ จูลู่เคยบอกว่า คนทั่วไปเดินเข้าไปได้เลย ไม่มีปัญหาอะไร

.

จ่ายไป 70000 เสียเวลาเดินทางกว่าครึ่งชั่วโมง สุดท้าย ผมจึงได้ถ่ายแค่โรงเรียนที่อยู่ข้างๆ มช Y__Y

..


..

ผมนั่งรถกลับมาเช็คเอาท์ ที่เกสต์เฮ้าส์

คนขับตุ๊กตุ๊ก ยังแสดงความมีน้ำใจว่า พี่มาครั้งหน้า ไปกระทรวงแถลงการณ์ก่อนนะ อยู่ตรงนี้นะ บลาๆๆๆๆ

.

ผมเก็บกระเป๋า แล้วเดินหาขนมปังฝรั่งเศสกิน ด้วยความโมโห(หิว)

ไส้ทูน่า ราคา 10000 กีบ กับกาแฟดำอีก 5000 กีบ

.

เวียงจันทน์ก็กลมไม่ใช่เล่นนะครับ เพราะผมเจอ มาสะยูกิ ตรงหน้าร้านนี้พอดี

เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกผมว่า จะเดินทางกลับเข้าเมืองไทยรถเที่ยวเดียวกับผมนั่นแหละ

..



..

เหลือเวลาอีกแค่ 20 นาที ผมต้องเดินทางกลับแล้ว

แต่ระหว่างทางผมจึงพยายามเก็บบรรยากาศของเวียงจันทน์ให้ได้มากที่สุด

..



..

ครู่เดียวก็เดินกลับมาที่ตลาดเช้าอีกครั้ง

..




..

ไม่มีเวลาให้อาลัยอาวรณ์มากนัก รถบัสเข้าเมืองไทยจอดรออยู่แล้ว

ผมไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินไปนั่งบนรถโดยปริยาย

แต่โชคดีที่ได้นั่งติดริมหน้าต่าง จึงยังพอได้ส่องกล้องผ่านกระจก เก็บบรรยากาศเวียงจันทน์เป็นเฮือกสุดท้าย

..



..

หวังว่า โอกาสหน้าฟ้าใหม่ คงจะได้มาเห็นเมืองน่ารักๆแห่งนี้อีก

..



..

ในรูปนี้เป็นรถขอนแก่น - เวียงจันทน์ เพราะรถอุดรธานี เกิดขัดข้อง บริษัทจึงใช้รถจากขอนแก่นแทน

.

ผมเดินทางกลับในวันจันทน์ธรรมดาๆ จึงใช้เวลาบริเวณด่าน ต.ม. ทั้ง ลาว – ไทย น้อยกว่าขามา ประมาณ 3 เท่า

ไม่ถึงชั่วโมง ผมก็ข้ามกลับมายังฝั่งไทยโดยสวัสดิภาพ

.
.

การเดินทาง 4 วัน 3 คืน ของผม เต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำดีๆมากมาย
เก็บเกี่ยวเอาความประทับใจจากเมืองอันน่าหลงใหลมาเต็มกระเป๋า

.

...สะบายดี เวียงจันทน์ – วังเวียง...

..



..

ความประทับใจส่งท้าย

.
.


ขากลับ ผมใช้บริการ Air Asia จากอุดรธานี

ผมเลือกที่นั่งริมหน้าต่างเช่นเคย ที่นั่งตรงกลางนั้นว่าง ส่วนที่นั่งริมทางเดิน เป็นสาวอเมริกันคนหนึ่ง

เราเริ่มต้นมิตรภาพด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะพูดคุยกันไปตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมงของการเดินทาง

.

สาวมะกันคนนี้ ชื่อ โรเบอร์ต้า เป็นนักศึกษาจบใหม่ ซึ่งอุตส่าห์เดินทางข้ามทวีปมาเยี่ยมเพื่อนที่หนองคาย

คืนนั้น เธอตั้งใจจะนอนที่สุวรรณภูมิเพื่อรอเครื่องบินเที่ยว 6 โมงเช้า กลับบ้านเกิด

ผมจึงนั่งทานข้าว และนั่งคุยเป็นเพื่อนเธอ จนเกือบ 5 ทุ่ม ... เวลากว่า 3 ชั่วโมง เราพูดคุยกันมากมายหลายเรื่อง

.

โรเบอร์ต้า บอกว่า เธอจะกลับไปเรียนปริญญาโท ด้านการสอนภาษาอังกฤษ ในกลางปีหน้า

เธอตั้งใจว่า เมื่อเรียนจบจะไปสอนภาษาอังกฤษในประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา

ผมแซวไปว่า “จะไปสอนที่เม็กซิโก หรือ คิวบาล่ะ”
.
.
.

โรเบอร์ต้าหัวเราะ แล้วตอบว่า “ไม่แน่ ฉันอาจจะมาเป็นครูสอนภาษาที่เมืองไทย”




.

- จบบริบูรณ์ -



Create Date : 17 ธันวาคม 2551
Last Update : 16 มกราคม 2552 22:18:22 น. 12 comments
Counter : 2564 Pageviews.  

 
งอลเว่อมาก
พี่ป๊อกไม่มีชวนอ่า
ชิชิ

ถ่ายรูปสวยมาก
ไว้มาถ่ายรูปให้น้องสาวคนนี้มั้งจิ

ปล รักออกแบบไม่ได้ ยังจำได้เสมอ
55555


โดย: jubjang IP: 125.24.147.156 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:23:32:16 น.  

 
เขียนได้น่าอ่านมากเลยจ้า รูปก็สวยมากๆด้วย
ดูแล้วอยากเก็บกระเป๋าไปลาวเดี๋ยวนี้ ^^

อ่านมาทุกหน้าละ ขอลงชื่อไว้หน่อยค่ะ


โดย: นังนู๋วา วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:17:34:09 น.  

 
หวัดีเช้าวันศุกร์ครับ

อ่านบล๊อคนี้เเล้วยิ้มทุกทีเลย
ชอบการท่องเที่ยวแบบนี้จัง
เที่ยวไปเรือยๆ ได้พูดได้คุยทักทายกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

ไม่ต้องรีบร้อน

เพราะส่วนใหญ่ทริปผมจะรีบเที่ยว รีบไป รีบกลับนะครับ

ชอบรูปประตูชัยมากๆๆเลย

ไปไหนมาเคาะบ้านเรียกกันด้วยนะ
Photobucket


โดย: chalawanman วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:11:27:48 น.  

 
สนุกเนอะ...

เจอทั้งหนุ่มหล่อสาวงาม...

อ่านภาคจบ พูดได้สองคำ...อยากไป!!


โดย: น า รี ส ร า ญ วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:17:15:13 น.  

 


โดย: chalawanman วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:17:59:30 น.  

 
กะลังจะไปลาวพรุ่งนี้ ไปกับเพื่อนเบลเยี่ยม มันจะรีบกลับวันที่ 29 ก้อเลยมีเวลาแค่ 4 คืน 3 วันคาดว่าไปไม่ึึถึงหลวงพระบางแน่ๆ

ก้อเลยสรุปว่าขออนุญาต copy trip กันแบบ netๆ เลยละกัน แต่ก้อไปแบบไม่แพลนเหมือนกัน คงได้มีรัยกลับมา่เล่าบ้่าง


โดย: CoolAdrenaline (CoolAdrenaline ) วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:23:55:30 น.  

 


โดย: chalawanman วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:22:25:11 น.  

 
Photobucket


โดย: chalawanman วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:20:07:02 น.  

 
เฮ็อ รูปสวยมาก เล่าเรื่องได้น่าอ่านมากเลยจิงๆ..

เกิดอาการอยากอับบล็อกมั่งแล้ว..แต่ไม่มีเรื่องอะไรมาเล่าเล๊ยย..


โดย: รักได้ทีละคน วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:10:06:34 น.  

 
ว๊าว พี่ป๊อกนี่รู้จักสาวทั่วโลกเลยนะฮะ

บลา บลา บลา . . .


โดย: a€kz IP: 61.90.107.232 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:22:31:55 น.  

 
อ่านเรื่องเมือง เวียงจันทร์-วังเวียงจบแล้ว
เข้ามาขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าสนุกๆ และภาพสวยๆค่ะ


โดย: YCL&ZXT IP: 222.123.141.27 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:52:44 น.  

 
เป็นข้อมูลชั้น เยี่ยม ในการที่จะแบกกระเป๋าไป ตะลุยเวียงจันทน์ - วังเวียง - เวียงจันทน์

ขอบคุณมาก ๆเลยครับ


โดย: guru-peng IP: 10.3.239.181, 203.121.162.4 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:22:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

POGGHI
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




..

บทความ และผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามผู้ใดละเมิด ด้วยการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความ และ ผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


POGGHI

..
[Add POGGHI's blog to your web]