Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ทำหมันซักทีดีมั๊ยนะ...

ทำหมันซักทีดีมั๊ยนะ...

ทำเพื่ออะไร มีประโยชน์อย่างไร???
การทำหมันถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของคุณเจ้าของทั้งหลายที่ปรารถนาจะเลี้ยงหมาให้ดีค่ะ คือนอกจากจะช่วยชะลอปัญหาการเพิ่มจำนวนประชากรสุนัขอันแสนจะมากมายในปัจจุบัน โดยเฉพาะ
จำนวนประชากรที่ไม่ได้คุณภาพ แล้ว

(เช่นในบางตัวที่มีโรคหรือลักษณะด้อยทางพันธุกรรม
ที่จะสืบต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น)

ยังช่วยให้สุนัขที่รักของคุณมีสุขภาพที่ดี อายุยืน
และแข็งแรงขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคต่างๆอีกด้วยนะคะ
ดังนั้นเจ้าของที่ไม่ต้องการให้เจ้านายที่บ้านมีทายาท
ก็จับไปทำหมันโดยไวเถอะค่ะ


โรคที่จะพบได้กับสุนัขที่ยังไม่ผ่าน
การทำหมันนั้นมีดังนี้ค่ะ
ในเพศเมียนั้น จะสามารถป้องกัน มดลูกอักเสบ อาการท้องเทียม
และ เนื้องอกมะเร็งเต้านม ได้อย่างเด็ดขาด
โดยเฉพาะยิ่งทำไวเท่าไรก็ยิ่งอัตราเสี่ยงการเป็นโรคเหล่านี้
ก็จะน้อยลงตามไปด้วยค่ะ
(ปัจจุบันโรคเหล่านี้มีเปอร์เซ็นสูงที่จะเกิดกับสุนัขนะค่ะ)

ที่สำคัญป้องกันการท้องโดย(เจ้าของ)ไม่พร้อมได้ด้วยค่ะ อิอิ

ส่วนสุนัขเพศผู้นั้น
เมื่อทำหมันแล้ว จะสามารถลดการเกิดปัญหาของต่อมลูกหมาก
มะเร็งอัณฑะ ของสุนัขได้ด้วย ทั้งยังทำให้ง่ายต่อการฝึก
ลดการทะเลาะกับสัตว์อื่น ลดความต้องการหนีเที่ยว
ซึ่งอาจทำให้สัตว์ถูกรถชนหรือโดยขโมยได้
(เพราะบางตัวไปแล้วก็ไม่กลับมาค่ะ)

แล้วหมันนี่มันทำยังไงกันนะ??
การทำหมันสุนัขเพศเมียที่เหมาะสมคือ
การตัดทั้งมดลูกและรังไข่ออกทั้งหมด
ซึ่งพอทำแล้วสุนัขเพศเมียจะไม่มีประจำเดือนค่ะ
ไม่เลอะเทอะบ้านอีกต่อไป~

ส่วนสุนัขเพศผู้นิยมทำหมันโดยการตัดอัณฑะออก
ซึ่งจะสามารถทำง่ายได้กว่าในเพศเมีย
รวมทั้งจะมีแผลที่เล็กกว่าด้วย


ดังนั้น การทำหมันในหมาไม่มีรีแพร์หรือ
แก้หมัน ปลดห่วงแบบคนนะคะ ตัดแล้วตัดเลย ทำแล้วทำเลยค่ะ

แล้วมันจะทำได้ตอนไหนนะ??
ในช่วงก่อนวงจรการเป็นสัดค่ะ คือ
ตัวเมียอายุ 6 - 8เดือน ตัวผู้ 6 - 10 เดือนค่ะ
แล้วแต่สายพันธุ์ ขนาด น้ำหนัก และ ความสมบูรณ์ค่ะ

ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดเพราะยังเด็กแผลก็ยังเล็กยังฟื้นตัวได้ไว
แถมลดเปอร์เซ็นต์การเกิดโรค ที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ได้ดี
กว่าการทำหมันในช่วงเริ่มวงจรการเป็นสัด ครั้งที่ 1 2 ...
(ยิ่งทำหมันช้าเปอร์เซ็นการเกิดโรคก็จะมากขึ้นตามลำดับค่ะ)

แต่ถ้าทำในช่วงที่มีการเริ่มของวงจรการเป็นสัดแล้ว
ในตัวเมียจะทำหมันได้อีกครั้งต้อง
ห่างจากก่อนและหลังมีฮีท 2 เดือนไปแล้ว


แล้วใช้ยาคุมแทนได้มั้ยไม่อยากทำหมันให้มันเจ็บอ้ะ??
ยาคุมกำเนิดมีส่วนประกอบของฮอร์โมนบางอย่าง
ที่ไม่เหมาะสมต่อสัตว์เลี้ยง จึงทำให้เกิดภาวะความผิดปกติ
ในระบบสืบพันธุ์ของสัตว์ได้ โดยสัตว์จะไม่ได้แสดงอาการ
ความผิดปกติให้สังเกตได้อย่างชัดเจนอย่างทันทีทันใด
แต่ผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะยาวที่อาจตามมาคือ
ภาวะการเกิดถุงน้ำบนผนังมดลูก และมดลูกอักเสบเป็นหนอง
ซึ่งอาจจะอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตในภายหลังได้

โดยเฉพาะการใช้ยาไม่ถูกช่วงวงจรการเป็นสัดของสุนัข
(ช่วงการเป็นสัดของสุนัขมันมี 4ช่วง )
อาจทำให้เกิดภาวะมดลูกอักเสบในเพศเมียได้มากกว่าปกติ

อีกทั้งในการให้ฮอร์โมนประเภทนี้ในช่วงที่ติดสัดอยู่
หรือ ยอมผสมพันธุ์แล้ว สัตว์อาจตั้งท้องได้ตามปกติ
แต่จะไม่สามารถให้กำเนิดได้ เนื่องจากฮอร์โมนที่ให้เข้าไป
ทำให้ระยะการตั้งท้องยาวนานออกไป
จนตัวอ่อนเจริญเกินขนาดที่มดลูกของแม่สัตว์จะส่งผ่านสารอาหาร
และออกซิเจนได้เพียงพอ ผลที่เกิดคือการตายของตัวอ่อนในมดลูก
และเป็นอันตรายต่อแม่สัตว์ตามมา


ทำหมันจะอ้วนมั้ยน่ะ??
ไม่จำเป็นทุกตัวค่ะที่ว่าทำหมันแล้วจะอ้วน
ถ้าเจ้าของมีการควบคุมการให้อาหาร และการออกกำลังกายที่ดี
กระตุ้นให้เค้าออกกำลังกายบ่อยๆก็ไม่อ้วนแล้วค่ะ


ที่บ้านเลี้ยงทั้งตัวผู้และตัวเมียทำหมันแต่ตัวเมียหรือแค่ตัวผู้ได้มั้ย??
อันที่จริงควรทำทั้งคู่เลยค่ะ
เพราะ ทำตัวเมียอย่างเดียว
ตัวผู้ก็ยังพร้อมจะปีนป่านหนีออกไปนอกบ้านอยู่ดี
(อย่าลืมนะคะถ้าตัวเมียตัวใดตัวหนึ่งไม่ว่าในหรือนอกบ้านมีฮีท
ตัวผู้ก็พร้อมจะwant ได้ตลอดเวลา)
แถมยังมีอัตราเสี่ยงโรคเช่นเดิม

ส่วนถ้าทำหมันเฉพาะตัวผู้อย่างดียวตัวเมียก็ยังมีโอกาสท้องอยู่
เราอาจได้ทายาทหน้าตาแปลกๆมาโดยไม่ตั้งใจ
และ ตัวเมียก็ยังมีอัตราเสี่ยงโรคเช่นเดิม


ทำยังไงปลอดภัยที่สุด??
สอบถามและหาข้อมูลให้มากที่สุด
อย่าลืมว่าการวางยาสลบหรือผ่าตัดทุกครั้งมักมีความเสี่ยงเสมอ


ตัดสินใจจะทำหมันแล้วเริ่มยังไงดีเอ่ย?
หาไปหาหมอค่ะ
หมอจะทำการตรวจเลือดหาความพร้อมในการผ่าตัดก่อน
ถ้าพร้อมจึงจะสามารถทำได้


เลือกโรงพยาบาลไหนดีนะ??
การเลือกโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดหรือทำหมันนั้น
มีความจำเป็นอย่างมากค่ะ
เพราะนั่นคือการเลือกทางรอดของชีวิตให้เจ้าหมาน้อยของเราด้วย..

เนื่องจากสัตว์จำนวนไม่น้อยเสียชีวิตจากการวางยาสลบ
หรือเสียชีวิตเนื่องจากเกิดภาวะการติดเชื้อในร่างกาย
ที่มาจากการทำการผ่าตัดที่ใช้เทคนิคการทำที่ไม่ถูกต้อง

ดังนั้นเพื่อให้ปลอดภัยและคุ้มค่ากับทุกเงินทุกบาทที่เราเสียไป
ต้องถามค่ะ!!!
(ชีวิตก็ลูกเรา แถมเราเป็นคนจ่าตังนะคะดังนั้นอย่าเกรงใจหมอค่ะ)

อันดับแรกอาจลองถามสัตวแพทย์ถึงกรรมวิธี
ในการทำการผ่าตัดซะก่อน

อาจเริ่มถามว่าเค้าใช้ใช้วิธีการฆ่าเชื้อ
เหล่าอุปกรณ์เครื่องมือผ่าตัดอย่างไร
ถ้าตอบว่าล้างน้ำเอาเฉยๆ แช่พวกเดทตอล ผงซักฟอกต่างๆ
หรือ นึ่งในหม้อนึ่งปกติ ก็ลาเลยค่ะ
อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับ รพส. นั้นจะดีกว่า
อย่าลืมนะคะว่าเครื่องมือที่จะใช้ผ่าตัดเข้าไปในช่องท้อง
หรือ อวัยวะภายใน สะอาดแค่นั้นจะพอเหรอค่ะ
ถ้าสะอาดพอโรงพยาบาลคนก็ใช้ไปแล้วละค่ะ..

ดังนั้นทางที่ดีควรได้รับคำตอบว่า
ใช้เครื่องมือนึ่งที่เรียกว่า ออโต้เครป AUTOCLAVE ค่ะ
จึงจะเรียกว่าได้มาตรฐาน
เพราะ วิธีนี้เป็นการนึ่งโดยใช้ความดันและความร้อนที่สูง
ที่มากกว่า 100อาศาเซลเซียส ในเวลาที่ตั้งไว้ตามมาตราฐาน
จึงมั่นใจว่า เครื่องมือทุกชิ้นที่เข้าไปในช่องท้อง
หรือทำการผ่าตัดลูกของคุณสะอาดและปราศจากเชื้อจริง ๆ ค่ะ

ต่อมาก็ถามถึงยาสลบค่ะ
ยาสลบไม่ได้มีแบบเดียวนะคะ มีทั้งแบบlong acting
แบบ ultra-short หรือ short acting
และ ยาในกลุ่มยาดมสลบ ค่ะ

โดยlong acting สัตว์จะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยานานประมาณ 1 -2 วัน
ซึ่งยาประเภทนี้มีฤทธิ์ตกค้างนานอาจจะ
มีความเสี่ยงมากกับสัตว์เลี้ยงในกลุ่มพันธุ์หน้าสั้น
เช่น ปักกิ่ง ปั๊ก บูลด็อก แมวเปอร์เซีย ได้ค่ะ

ต่อมา ประเภท ultra-short หรือ short acting
ยาสลบประเภทนี้จะมีความปลอดภัยในการใช้ยาสูง
ซึ่งหมายถึงการขับออกของยาออกจากร่างกายสัตว์ทำได้รวดเร็ว
ไม่มีการตกค้างหรือตกค้างน้อยมาก ๆ
สังเกตุง่าย ๆ คือทำผ่าตัดเสร็จ สัตว์เลี้ยงของคุณ
แทบจะลุกขึ้น แล้วยืนเดินกลับบ้านได้เลยค่ะ ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ

แต่ข้อเสียคือ
ยากลุ่มนี้จะมีราคาต้นทุนสูงมากผิดกับ
ยาในกลุ่มแรกอย่างลิบลิ่วทีเดียว~

ส่วนยาประเภทในกลุ่มยาดมสลบ
หลัก ๆที่ใช้กันก็จะปลอดภัยอยู่แล้ว
ถ้าเครื่องดมยาสลบได้มาตราฐานมีการปล่อยยาดมสลบออกมา
ได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ
(ยาดมสลบเองก็มีหลายกลุ่ม ค่ะ )

**ถ้าสัตว์เลี้ยงเราอายุมากหน่อย
ก็เลือกอันที่ปลอดภัยหน่อยแล้วกันค่ะ

ถัดมาลองถามถึงความใส่ใจของหมอที่ รพส.
ถามดูนะคะว่าต้องให้สัตว์อยู่ในความดุแลของเค้านานแค่ไหน?
เพราะช่วงเวลาที่ฟื้นจากการวางยาสลบ
ไม่ว่าจะเป็นดมยาหรือฉีดยาสลบเป็นช่วงที่ต้องมีคนดูแล
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาอีกช่วงหนึ่งที่อันตรายเหมือนกัน
เนื่องจากสัตว์หลาย ๆ ตัวหลังจากผ่าตัดเสร็จ
อาจมีการอาเจียนในกรณีที่อาจมีอาหาร
หรือน้ำที่กินค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งต้องมีคนเฝ้า
เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เมื่อฟื้นตัวแล้ว
จะไม่มีการสำรอกอาหารหรือน้ำแล้วสำลักตกกลับไปยังหลอดลม
ทำให้สัตว์เสียชีวิตในเวลาถัดมา และถ้ามีการสำรอกออกมาจริง ๆ
ก็ต้องมีคนคอยเฝ้าเคลียร์ทางเดินหายใจของสัตว์
อยู่ตลอดช่วงการสำรอก ซึ่งถือว่าตกม้าตายตอนจบ
ถ้าสัตว์ตายจากการสำรอกอาหารหรือน้ำลงไปที่หลอดลมค่ะ

และการนำสัตว์เลี้ยงกลับบ้าน เจ้าของหลายท่านก็ไม่ทราบว่า
ห้ามให้อาหารหรือน้ำจนกว่าสัตว์จะลุกขึ้นมายืนเดินได้ตามปกติ
จึงค่อยให้เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์ฟื้นตัวดีแล้วจริง ๆ
ทางรพส.หรือคลินิคที่ดีต้องบังคับให้เจ้าของฝากสัตว์ไว้
ก่อนหลังการผ่าตัดจนกว่าจะปลอดภัยโดยปกติก็ประมาณ 2-3 ชม.
ให้สัตว์รู้ตัวมากขึ้นตามลำดับแล้ว จึงจะส่งกลับบ้านได้

อีกทั้งในสัตว์บางตัวหลังฟื้นจากยาก็มีอาการโคลงเคลง
ถ้าไม่เฝ้าแล้วปล่อยให้นอนเองตามลำพัง
หลาย ๆ ครั้งก็พบว่า สัตว์เอาศีรษะฟาดกับกรงบ้าง
กับพื้นที่นอนบ้าง เนื่องจากเค้ายังคงทรงตัวไม่ได้
หลังการฟื้นจากยาในช่วงแรก
ส่วนในสัตว์บางตัวจะมีอาการสั่นหลังจากการฟื้นยาสลบ
ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่สัตว์สลบอุณหภูมิในร่างกายจะลดต่ำลงกว่าปกติ
เมื่อฟื้นตัว สัตว์จะมีอาการหนาวสั่น
ซึ่งเป็นสาเหตุให้บางที่มีอุปกรณ์ ที่ใช้ในการให้ความอบอุ่นกับสัตว์
ในช่วงตลอดการผ่าตัด และการฟื้นตัว

ดังนั้นถ้าที่ไหนบอกคุณว่า อย่าเพิ่งเอากลับค่ะ
แต่รอให้สัตว์เลี้ยงของคุณฟื้นดีก่อนแสดงว่า
ทางคลินิคหรือรพ.
ได้ทำการเฝ้าอภิบาลจนสัตว์ไข้อยู่ในช่วงที่ปลอดภัยแล้วค่ะ
จึงอนุญาตให้คุณนำสัตว์เลี้ยงกลับได้ ถือว่าคลินิคหรือรพ.นั้นใช้ได้
ให้การเอาใจใส่ที่ดีค่ะ

**เมื่อลูกรักของคุณกลับบ้านแล้วควรดูแล
อย่าให้เค้ากระโดดโลดเตนจนแผนฉีก
หรือกัดแผลตัวเองจนอวัยวะออกมาลืมตาดูโลกนะคะ

มาอีกข้อนึงเผื่อเป็นทางเลือกในการถามอีกอย่างให้มั่นใจ

ลองถามคุณหมอว่าระหว่างการผ่าตัดทางคลินิกหรือรพ.
มีอุปกรณ์ใดที่ใช้เสริมหรือเช็คความมั่นใจ
ในการวางยาสลบสัตว์หรือไม่ เช่น
มีเครื่องจับวัดการหายใจของสัตว์หรือไม่ (ApAlert)
มีเครื่องจับวัดความดันหรือในเครื่องนั้น ๆ
มีการจับวัดการเต้นของหัวใจได้หรือไม่ (Pulse Oximeter)
หรือมีอุปกรณ์การให้ความอบอุ่นสำหรับสัตว์ในช่วงการผ่าตัด
ซึ่งเหล่านี้จะเป็นตัวใช้วัดความเอาใจใส่
ในเรื่องความปลอดภัยขึ้นมาอีกที่ระดับหนึ่ง
ของสัตวแพทย์กับสัตว์เลี้ยงของคุณ
แต่ถ้าไม่มีอะไรเลย ในอุปกรณ์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ
รพ.หรือคลินิคยังไม่มีกำลังซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ อย่าคิดมากค่ะ


แล้วค่าใช้จ่ายล่ะยังไงกัน??
ตามแต่สายพันธุ์ น้ำหนักตัว ความสะอาด ความพร้อม
อุปกรณ์ ตัวยา รวมไปถึงความหรูหรา ของแต่ละโรงพยาบาลค่ะ

ของดี มีคุณภาพ ไม่มีราคาถูกค่ะ
แต่ของที่ราคาแพงไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นของดีเสมอไป ..

อย่าเห็นแก่ถูกแล้ววิ่งโร่ไปทำจนเกิดเหตุไม่คาดฝันนะคะ



Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 25 มีนาคม 2552 2:25:53 น. 5 comments
Counter : 2344 Pageviews.

 
ขอบคุณนะค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีกแย้ว


โดย: iam_zuzie (iam_zuzie ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:45:01 น.  

 
ถูกต้องละก้าบบบบบบบบบบบ


โดย: patra_vet วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:44:29 น.  

 
อ่านแล้วได้ความรู้ดีจัง
อยากเลี้ยงหมาตัวเมียบ้าง
แต่ไม่ง่ายแหะ..ต้องศึกษา


โดย: luda IP: 124.121.20.202 วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:22:54:46 น.  

 
ขอบคุณค่ะ กำลังจะให้เจ้าปิงปองทำหมันอยู่พอดี
แต่ยังหาหมอที่ดีๆแถวเอกชัยไม่ได้เลยค่ะ
ไม่อยากหาหมอไกลไป เดี๋ยวล้่งแผลลำบาก

เห็นแต่ละที่ ไม่ค่อยจะสะอาดเท่าที่ควร จนมันฮีทแรกแล้วเนี่ย

อ้อลืมบอก เป็นพันธ์ชิสุห์ค่ะ แปดเดือนเต็มพอดี


โดย: นิด IP: 58.9.69.69 วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:20:18:55 น.  

 
ขอแสดงความเห็นเรื่องประจำเดือนสุนัขหลังทำหมัน
สุนัขอาจมีประจำเดือนได้ เนื่องจาก ฮอร์โมนสามารถสร้างได้จากที่อื่นอีก เช่น ต่อมหมวกไต เพราะสุนัขที่ทำหมันที่บ้านทั้งหมด 8 ตัว มีประจำเดือนปีละ 2 ครั้งทุกตัวเลยครับ


โดย: Kvin IP: 118.173.17.100 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:16:10:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ployberian
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตของหมามีแค่เจ้านายเพียงคนเดียวแล้วชีวิตเจ้านายละมีหมาบ้างรึเปล่า?
Friends' blogs
[Add ployberian's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.