Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
อุ่นไอข้าว ยามเช้าตรู่

อุ่นไอข้าว ยามเช้าตรู่

นานๆครั้งผมถึงจะมีโอกาสตื่นเช้า และได้ทำกับข้าวสักครั้ง และก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะรู้สึกดีและสดชื่นเท่ากับวันนี้

เมื่อเช้า ขณะที่กำลังอุ่นแกงเขียวหวานที่เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น ในสมองก็คิดถึงเรื่องจิปาถะสารพัด เรื่องที่เป็นเรื่องบ้าง และเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องบ้าง แต่ที่สุดแห่งความคิดที่ทำให้ต้องรีบมานั่งเขียน ก็คงจะเป็นความทรงจำในครั้งเก่าก่อน...ความทรงจำที่ผุดโผล่ขึ้นมาพร้อมๆกับไอข้าวหอมกรุ่น ไอสีขาวที่ลอยขึ้นสูงและกระจายไปในอากาศ ท่ามกลางอวลแดดบางเบาที่ลอดผ่านประตูเข้ามา

...ย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเด็ก ยังจำได้ว่าพื้นที่แถวนี้ยังเป็นป่า ในหมู่บ้านแต่ละแห่งจะอยู่กันอย่างเงียบๆ ยามกลางวันผู้คนจะออกไปทำงานเกษตรกรรม เย็นๆค่ำๆจึงจะกลับบ้านมาพักผ่อน รถราที่ไม่ได้มีเยอะแยะมากมายทำให้อากาศดี และปลอดมลภาวะทางเสียง สิ่งเดียวที่อาจทำให้คนทั้งหมู่บ้านตกใจ ก็คือเวลาที่เด็กๆเล่นกันแล้วมีเสียงร้องกรี๊ดๆ แต่เสียงนั้นก็ยังจัดไว้อยู่ในความสงบสบายของหมู่บ้านในอดีตได้

ในยามเช้า... สิ่งที่ผมมักลืมตามาเห็นจะเป็นกลุ่มควันขาวๆซึ่งลอยมาจากครัวของบ้านแต่ละหลัง สมัยก่อนแม้จะมีเตาแก๊ส แต่ก็ใช้ว่าทุกคนจะนิยม ยังคงมีการก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวกันราวกับว่าทุกคนคือสาวกของเตาอั้งโล่ (และจะว่าไป ผมก็ยังไม่เคยเห็นใครใช้เตาแก๊ส - เตาไฟฟ้านึ่งข้าว) จากนั้นฆานประสาทก็จะรับรู้ถึงกลิ่นหอมของฟืนไหม้หอมๆที่ไม่ได้มีกลิ่นเหมือนควันจากท่อรถยนต์หรือควันจากการเผาขยะ เพราะในกลิ่นไหม้นั้นไม่ได้แห้งแล้ง แต่ชุ่มชื้นอย่างน่าประหลาด

พอลองตรงไปที่ห้องครัวประจำบ้านแต่แยกออกจากตัวเรือน ก็จะพบว่าที่ตรงนั้น คุณยายจะนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กที่เรียกว่าก๊อบ แล้วก็จะใช้กระบอกไม้ไผ่ที่กลวงในตลอดลำ ปลายข้างหนึ่งจะจ่อไปทางเตาไฟที่มีถ่านสีแดงคุ ส่วนอีกปลายหนึ่งจ่อติดกับปาก แล้วเป่าลมลงไป ถ่านที่มีสีแดงหม่นๆอยู่ก็จะแดงวาบตามแรงลม วาบ...วาบ... แล้วไฟก็ลุกพรึ่บ เปลวเพลิงส่ายสาดอยู่ในขอบเขตของเตา ข้างใต้ซึ้งนึ่งข้าวที่ดำแสนจะดำ

ตอนเช้าๆ หากเป็นวันที่ไม่ได้ไปโรงเรียน(ผมนิยมจำวันที่ไม่ต้องเรียนหนังสือมากกว่า) สิ่งที่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำคือการเล่น พื้นที่ในการเล่นจะถูกจำกัดแถวๆบริเวณบ้าน เพราะหากคุณแม่เรียกแล้วไม่ได้ยิน หรือมาไม่ทัน คุณแม่ก็จะกลายร่างเป็นคุณแม่มดไปเลยทีเดียว... ของเล่นยามเด็กนั้นจะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย ถ้าหากนับแต่เฉพาะของเล่นที่ต้องซื้อหามา ก็เรียกได้ว่ามีน้อยเกือบๆจะไม่มีเลย แต่ในขณะเดียวกัน ของเล่นริมทางกลับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพียงก้อนหิน เมล็ดต้อยติ่ง กิ่งไม้ ก้านกล้วย หรือซีกไม้ไผ่ แค่ผืนแผ่นดินโล่งๆสักหน่อยก็สามารถเป็นที่เล่นของเด็กๆได้แล้ว...

แต่สิ่งสำคัญของเด็กๆดูเหมือนจะเป็นเพื่อนเล่นมากกว่า ขอให้มีเพื่อนเล่นเถอะ เล่นได้หมดแหละ

จนกระทั่งช่วงเกือบๆเจ็ดโมงครึ่ง คุณแม่(ภาคใจดี)ก็จะเอาเสื่อมาปูตรงชานหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นปูน จากนั้นก็ยกสำหรับมาตั้งบนขันโตก สักครู่ ทุกคนก็จะมาล้อมวง อาหารบนขันโตกนั้นไม่ได้มีมาก กับข้าวเพียงแค่อย่างสองอย่าง แต่ว่าเยอะพอสำหรับคนทุกคน ผมสังเกตเห็นคุณตาจะปั้นข้าวกำใหญ่ๆ แล้วค่อยบิดข้าวจากปั้นนั้นใส่ปาก ในขณะที่ผมมักจะบิดทีละน้อยจากจานมากกว่า ระหว่างที่กินข้าวนั้นก็จะมีเสียงข่าววิทยุคลื่นเอเอ็ม ชื่อรายการยังจำติดหูถึงทุกวันนี้ “เซียนเป๋เฮข่าว” ซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆในจังหวัด และถ้าหากมีข่าวไหนที่น่าสนใจพอ ตาก็จะวิพากษ์วิจารณ์ประหนึ่งหัวหน้าหน่วยงานอะไรสักอย่างที่เปิดประชุม แล้วคนอื่นๆก็จะแสดงความคิดเห็นกันยกเว้นแต่พวกเด็กๆอย่างผมที่รีบกินแล้วจะรีบไป(เล่น)

ที่บ้านมีหมาอยู่ตัวหนึ่ง(แต่ตอนนี้มันตายไปแล้ว) ทุกวันมันจะมานั่งรออยู่ห่างๆ คุณหมามารยาทดีไม่เคยแม้แต่จะกล้ำกรายเข้ามาใกล้วงอาหารจนเกินไป จนคนลุกกันหมดแล้ว มีคนเอาอาหารไปให้ นั่นแหละ มันจึงจะได้กิน เป็นมารยาทที่ไม่รู้ว่าใครหัดมา แต่น่ารักดี

อุ่นไอข้าวในวันนี้ ทำให้ผมได้ระลึกย้อนไปในวันเก่าๆแล้วยิ้มออก ยามเช้าตรู่สมัยก่อนกับสมัยนี้ดูแตกต่างกันลิบลับ อาจแยกไม่ออกทางสายตา แต่มันแบ่งชัดเจนในความรู้สึก... ในส่วนลึกของจิตใจ อาจเป็นไปได้เพราะผมโตขึ้น แต่...โลกก็โตขึ้นเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ดี... วันนี้ผมก็คงกินข้าวอย่างมีความสุขอีกวัน...

********



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2551 9:15:49 น. 8 comments
Counter : 883 Pageviews.

 
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง นึกย้อนไปถึงวันเก่าๆ สมัยเด็กไปด้วยเลย
เคยทาน ข้าวสีนิล/ข้าวบาร์เล่ย์ ไหมคะ
มีประโยชน์มากค่ะ นำมาผสมกับข้าวที่ทานปรกติ หุงปรกติได้เลย

เพิ่งลองหุงทานที่บ้าน เคยเอามาบอกต่อในบล็อก ไว้เหมือนกัน




โดย: แม่ส้มแป้น วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:36:25 น.  

 

อ่านเเล้วเห็นภาพบรรยากาศเเบบไทยๆที่จะกลับไปไม่ได้อีก
เเต่ก็เป็นความทรงจำที่ดีเเละมีความสุขค่ะ


โดย: * ยูกะ * (YUCCA ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:30:42 น.  

 
เห็นรูปที่แม่ส้มแป้นเอามาฝากแล้วเริ่มหิว
พอดีพลอยเป็นพวกตื่นเที่ยง เลยยังไม่ได้หม่ำข้าวเช้าแฮะ
T^T
ต้องรีบไปหาของกินซะแล้ว

-------------
คุณยูกะ
เมืองไทยไว้มีโอกาสก็แวะกลับมาเยี่ยมเยียนได้ค่ะ
โลกมันกว้างนัก เอาเมืองไทยไว้พักใจก็ไม่เลวเนอะ
^ ^

*********
ป.ล. เถอะเจ้าค่ะ
คุณชายน้อยรักดีหนีไปไหนไม่มารับแขกเจ้าคะ?
สงสัยต้องหักคะแนนความประพฤติซะมั่งนะนี่

(ทีตัวเองอู้อัพบล็อกล่ะทำเนียนไม่เอ่ยอ้าง 55+)


โดย: ploy666 (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:11:08 น.  

 


โดย: ดราก้อนวี วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:30:53 น.  

 
อ่านแล้วมีความสุขจังเลยค่ะ
คิดถึงสมัยอยู่บ้านสวนตอนเล็ก ๆ เหมือนกัน
ต้องตื่นแต่ฟ้ายังมืด มาหุงข้าวด้วยฟืน สนุกสนานเวลาสับฟืน และลุ้นจุดเตา
เขม่าควันฟืน ดำปี้ มีขี้เถ้าฟุ้งอีกต่างหาก

แล้วก็มีน้าข้าวอร่อย ๆ ข้าวหอมชื่นใจ
บางวันก็นึ่งข้าวหอมกรุ่น

คิดถึงเตาถ่านมากมาย สมัยนี้ใช้แต่ไมโคเวฟ หงือ หงือ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:30:15 น.  

 
ตอบ คุณแม่ส้มแป้น...

แม่เคยซื้อข้าวกล้องมาหุงครับ
อร่อยเนาะ... แต่ตอนผมหุงเอง
ไมถึงแข็งเป๊กก็ไม่รู้อ่ะ T_T

+++++++++++++++++++

ตอบคุณ* ยูกะ *

มีความสุขเหมือนกันครับ
แต่...แค่นึกถึงก็มีความสุขได้นะคร้าบบบ

+++++++++++++++++++

ตอบ พี่พลอย...

อะไรเนี่ยะ มีแอบมานินทาเค้าด้วยอ่ะ
แง่งๆๆๆ......


+++++++++++++++++++

ตอบคุณดราก้อนวี

ช่ายคร้าบบบ....
บางที ถ้าอยู่กะอะไรนานมากเกินไป
อาจละเลยสิ่งนั้นไปได้...ก็ได้เนาะ

++++++++++++++++++

ตอบคุณพรายทราย(พี่อ้อ)

เคยก่อไฟ แล้วควันมันโขมง
เลยโดนถามว่า ตกลงจะหุงข้าวหรือเผาบ้านกันแน่ ฮ่าๆ

++++++++++++++++++

โชคดีนะคร้าบทุกคน หวัดดีครับ

ไปนอนละ....

+++++++++++++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:40:19 น.  

 
ขอบคุณที่ไปสวมรอยต่อกลอนที่บ้านนะคะ แวะมาทักทายค่ะ เอ...เราเคยรู้จักกันบ้างมั้ยคะ น่าจะนะ ชื่อล็อคอินคุ้นๆนา

สบายดีนะคะ


โดย: teansri วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:53:32 น.  

 
นึกถึงหน้าหนาว เช้าๆระหว่างรออาหารมือเช้าของแม่ เราจะมานั่งขอไออุ่นที่รอบกองไฟ บางครั้งก็กล้วยปิ้งมันปิ้ง

ถ้าจะหาดูบรรยากาศแบบนี้อีกคงต้องไปชนบท ซึ่งต้องเป็นชนบทจริงๆซะด้วยสิ


โดย: พิญาดา IP: 125.26.80.18 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:24:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.