Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
เงาบรรณ 03


คุยกันก่อนอัพ


ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับนิยาย เงาบรรณ เล็กน้อย ในส่วนของสถานที่และตัวละครในนิยายเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่สมมุติขึ้นมาค่ะ อย่างพวกชื่อสำนักพิมพ์นี่นึกอะไรออกก็ใส่ๆไปค่ะ พอใช้หลายที่ก็ลำบากเหมือนกันเนอะ
-“-
ทำลิสต์ไว้นึกว่าเยอะพอแล้ว สุดท้ายก็ต้องตั้ง สนพ. เพิ่มอีกจนได้แฮะ...
แอบปลาบปลื้มนิดๆเหมือนกันนะคะ ประมาณว่าได้เป็นเจ้าของตั้งหลาย สนพ. แน่ะตั้งแต่ปั่นเรื่องนี้มา 55+

พยายามจะสร้างลักษณะเฉพาะให้แต่ละตัวละคร ไม่ทราบว่าพอจะมองออกกันบ้างไหมหนอ...อย่างพวกตัวนำนี่ง่ายหน่อยค่ะ เพราะมีคอนเซ็ปต์ก่อนเขียน ส่วนตัวประกอบประเภทนักเขียนต่างๆที่ผ่านมาเป็นวาระค่อนข้างยากทีเดียว

ที่ต้องแจ้งว่าสมมุติเพราะกลัวเกิดกรณีแก่งแย่งกันอยากเป็นนางเอกค่ะ ^ ^
แต่ที่จริงคนใกล้ตัวเรียบร้อยราวๆทัชฌานี่หายากนะคะ (โฮะ โฮะ โฮะ แอบนินทาเพื่อนๆด้วยล่ะ)

ฝั่งตัวร้ายไม่ยักมีใครยกมือเย้วๆบอกว่านี่เป็นเรานะ...สักกะทีเนอะ
...หรือจะมี (???)
ถ้ามีก็คงแปลกๆอยู่เหมือนกันล่ะนะคะ...ว่าไหม เพราะชื่อก็บอกอยู่ชัดว่าเป็น “ตัวร้าย”นี่นา
แถมพฤติกรรมต่างๆนานาที่ใส่ไปก็ไม่เบาเลยทีเดียว

ช่วงท้ายเรื่องอาจจะพัลวันกันหลายเหตุการณ์ตามพล็อตที่วางไว้ ยังไงก็ค่อยๆลองติดตามดูนะคะ

หลายเรื่อง หลายข่าวคราวอาจเคยได้ยินผ่านหู
แต่บางอย่างอาจแปลกใหม่จึงถูกนำมาใส่ในนิยายเรื่องเงาบรรณค่ะ

คงเป็นนิยายผีที่ไม่หนักด้านผีๆเสียทีเดียวนัก ความยากในการเขียนเห็นจะเทคะแนนให้ส่วนจัดลำดับของเหตุการณ์ค่ะ ต้องพยายามให้สอดคล้องรับกัน...เฮ้อ...จะรอดไหมหนอ

ใครมีกำลังใจ แบ่งเทมาช่วยให้เขียนจบไวๆทีเถอะค่ะ


Ploy666.




**************

เงาบรรณ 03
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



หล่อนไม่ได้แค่กล่าวอ้างขึ้นมาอย่างลอยๆว่า ‘ฝากได้’

คำๆนี้มันมีที่มา...

พรรณรังสีปิดจอคอมพิวเตอร์พักเครื่องชั่วคราว ลุกอาบน้ำอาบท่าทำธุระส่วนตัวก่อนจะแต่งกายใหม่ในเสื้อคอปาดสีม่วงอ่อนกับกระโปรงยาวระเข่า

หล่อนหมุนกายอยู่หน้ากระจกอย่างปวดใจ...

หล่อนไม่ใช่คนสวย ข้อนี้พรรณรังสีรู้ดีแก่ใจ ผมหยิกที่มัดไว้ด้านหลังเปิดใบหน้าให้แหลมยาวกว่าเดิม หญิงสาวเพียงเติมลิปมันกันไม่ให้ปากแห้งแตกก็เป็นอันสิ้นกระบวนการ

ทว่ารสนิยมในการแต่งกายไม่ใช่ข้อใหญ่ที่ควรแก้ไข หล่อนคิดถึงปัญหาอื่นที่มีให้จัดการโดยไวกว่านั้นยามเดินไปหยิบกระเป๋าธนบัตรเปิดดูและเห็นเพียงแบงค์ร้อยไม่กี่ใบ

“น้าสายใจ หนิงขอยืมเงินหน่อยสิจะออกไปข้างนอก”

ทันที่ที่ลงมาจากบันไดถึงชั้นล่าง สายตาที่ปะทะกับร่างของน้าสาวซึ่งเพิ่งกลับเข้ามาจากการดูแลรดน้ำต้นไม้ พรรณรังสีก็รีบบอกสิ่งที่หล่อนต้องการ

สายใจมีลูกชายสองคน คนโตคือหาญ...ขณะนี้ไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยนานๆกลับบ้านสักครั้ง ห้องที่ว่างลงจึงกลายเป็นสถานที่ยึดครองของพรรณรังสี แม้เมื่อเจ้าของเดิมกลับมาสิ่งที่พรรณรังสีทำคือหยิบยื่นเครื่องนอนให้ในห้องรับแขกแบบขอไปที

ในวัยสี่สิบเอ็ดสายใจดูทรุดโทรมจากการทำงานหนักมานานปี เพิ่งเริ่มมาสบายตอนที่ริเริ่มขายข้าวแกงในตลาดกลางคืนโดยมีองอาจผู้เป็นสามีคอยช่วยอีกแรง

สายใจเหมือนเป็นลูกหลงของพ่อกับแม่ที่มาเกิดในเวลาไม่เหมาะนัก ขณะที่พี่สาวอย่างอุบลอายุล่วงเข้าไปสู่วัยสาวแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อสายใจเพิ่งสี่สิบหล่อนก็มีหลายอย่างพรรณรังสีที่กลายมาเป็นเหมือนน้องมากกว่าสถานะตามจริง

ด้วยความอดทนของอุบลที่ทำมาหากินเลี้ยงดูสายใจมาหลังจากพ่อแม่เสียชีวิต ทำให้วันนี้สายใจไม่อาจปฏิเสธที่จะรับพรรณรังสีมาอาศัยร่วมชายคาได้

หญิงสาวเจ้าของบ้านพินิจมองขอบตาดำคล้ำของพรรณรังสีแล้วถอนใจ หยิบเงินที่มีในกระเป๋ากางเกงชุดอยู่บ้านออกมานับเตรียมส่งให้

“เอ๊ะ! จะให้เงินอะไรกันอีกน่ะแม่ ของเก่าที่พี่หนิงยืมไปผมยังไม่เห็นพี่หนิงคืนเลย”

เสียงเอะอะของอาทิตย์นั่นเองที่ดังมาขัดตาทัพ

มือที่กำลังจะยื่นรับเงินชะงักค้างเพราะสายตาแข็งกร้าวของญาติผู้น้องอย่างอาทิตย์กำลังจับจ้องเขม็ง

“อย่ายุ่งได้ไหมอาทิตย์!” พรรณรังสีแว้ดใส่อย่างหงุดหงิด

...อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแท้ๆทำไมถึงต้องแส่ด้วยนะ...หล่อนได้แต่แอบพ่นพิษในใจ

ภายนอกพรรณรังสีทำได้เพียงแค่สะบัดหน้าหนีและกระแทกเสียงใส่

“ของเก่าน่ะมีเมื่อไหร่ก็จะคืนให้เองแหละ นี่แค่ขอยืมค่ารถจะไปห้องสมุดไม่กี่บาทเท่านั้น เพราะไม่อยากออกไปกดจากตู้ เอ.ที.เอ็ม. ปากซอยตอนเช้าที่ยังไม่ค่อยมีคน”

อาทิตย์ขัดหูจนอดไม่ไหว

“แล้วถ้ามีเงินในบัตรที่กดได้ทำไมไม่กดมาใช้หนี้ หรือเงินในตู้น่ะพี่หนิงได้แต่กดมาใช้เอง พอใช้หนี้แม่เงินพี่หนิงมันละลายเหมือนไอติมงั้นสิ” หางเสียงมีแววเยาะ

พรรณรังสีหันขวับ มองเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ

สายใจหย่าศึกด้วยการยัดเงินสองร้อยใส่มือหลานสาวแล้วออกปากไล่

“หนิงจะไปธุระที่ไหนก็ไปเถอะ อาทิตย์เข้าไปช่วยแม่ตำเครื่องแกงในครัวหน่อย เจ้าประจำในตลาดดันไม่มาขายตั้งแต่วันก่อน ของหมดพอดีเห็นทีทำเองจะอร่อยกว่าไปลองเจ้าใหม่”

“หนิงไปนะน้า...บ่ายๆกลับ” หญิงสาวตัดบทเพียงเท่านั้นและเดินจากมา

นั่งรถเมล์ไปไม่กี่ป้ายก็ถึงห้องสมุดของมหาวิทยาลัยใกล้ๆนี่แล้ว

หล่อนไม่ได้อยากอ่านหนังสือค้นหาความรู้อะไรนักหนาหรอก แค่อยากไปหามุมสงบแอบหลับเต็มอิ่มตากแอร์สักงีบก็เท่านั้นเอง

ไม่มีใครหรืออะไรทำให้ใจว้าวุ่นได้อีก

เป้าหมายปลายทางสู่บันไดฝันของหล่อนยังอีกยาวไกล ใครจะไม่เข้าใจก็ช่าง...พรรณรังสีเชื่อมั่นว่าสิ่งที่หล่อนทำนั้นดีเลิศเหนือชั้นเสมอ

ใครกันจะมาหยุดฝันลงหล่อนได้

คนวางเกมกระหยิ่มยิ้มย่องเพียงลำพัง ไม่สนใจไยดีว่าเส้นทางสายที่ตนเองปรารถนาจะเหยียบย่ำนั้น กว่าจะมีได้ต้องถูกทับถมด้วยซากฝันของคนอื่นที่ค่อยๆก่อร่างสร้างมา

เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใครมีมันสมองมากกว่า...หล่อนเชื่อแบบนั้น...



ลังกระดาษกล่องแล้วกล่องเล่าถูกขนมาเรียงหลังห้องซึ่งเพิ่งเซ็นสัญญาเช่าทำสำนักงานชั่วคราวของ ‘สำนักพิมพ์กิ่งฝัน’

คำจำกัดความที่ป้าอ้นบอกเอาไว้ก่อนหน้านั้นคือสักวันกิ่งฝันจะต้องเติบโตมีอาคารสำนักงานเป็นของตัวเอง...

“เอาไว้ค้นคว้าเวลาตรวจทานงานเขียนที่เด็กๆส่งมาน่ะ ป้าไม่ค่อยอยากให้พลาด บรรณาธิการก็ต้องรับผิดชอบร่วมกับนักเขียนทันทีที่ผลงานเผยแพร่ออกไปในแบบรูปเล่ม”

เป็นความรับผิดชอบที่คนกล่าวแสนจะภาคภูมิใจ

ป้าอ้นมองกองหนังสืออย่างอิ่มเอมและมีความสุข สีหน้าแววตาไม่มีเลยสักนิดที่จะบ่งบอกถึงความอิดโรยในการเดินสำรวจตรวจตราข้าวของเหล่านั้น

ทัชฌามาช่วยยกไปสองสามลังที่น้ำหนักไม่เกินความสามารถ ชั้นหนังสือที่สั่งยังมาส่งไม่ถึงแต่หล่อนได้ยินป้าอ้นบอกใครต่อใครว่า

“สั่งร้านเฟอร์นิเจอร์ของหลานชายค่ะ รับรองไม่เบี้ยว แต่ส่งช้าเพราะป้าบอกว่าส่งก่อนจ่ายทีหลังนะ!”

เท่านั้นเองที่ใครต่อใครต่างยิ้มในอารมณ์ขันของหญิงสูงวัย

“มีหลานชายด้วยหรือครับ แบบนี้ก็สบายเลยมีคนไปรับไปส่งเวลากลับบ้านตอนค่ำๆ”

“จะว่าหลานก็ไม่ใช่หรอกค่ะ” ป้าอ้นปฏิเสธยิ้มๆ “แม่เขาเป็นแฟนคลับนิยายป้าสมัยยังสาวๆน่ะ...เหมือนคุณมุกแม่หนูเท็นนี่แหละ ลูกหลานคนรู้จักป้าอ้นกวาดมาใช้หมดเพราะป้าอ้นตัวคนเดียว”

คำว่า ‘ตัวคนเดียว’ ของป้าอ้นนั้น ทัชฌาเพิ่งรู้ในเวลาต่อมาว่ามันเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากมวลมิตรสหายมากหน้าที่อยู่รายรอบตัวท่านจนน่าริษยาเสียนี่กระไร!

รถยนต์คันเล็กแต่ราคาแพงลิบป้ายแดงแล่นเข้ามาจอดหน้าตึก

ทัฌชาจึงหยุดมือจากการทำงานและเงยมองตามร่างสตรีสูงวัยที่เดินออกไปรับคนมาใหม่

“มาแล้วเหรอจ๊ะน้อยหน่า”

“นานา ค่ะคุณป้าอ้น”
หญิงสาววัยสามสิบต้นๆในชุดแซคสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเหนือเข่า ถอดแว่นกันแดดอันโตเผยวงหน้าที่แต่งจัดจ้านแต่มองดูสวยงาม ผมดัดเป็นลอนใหญ่ทิ้งตัวอย่างมีสปริงเซตเข้าทรงทันสมัย

“ก็แม่เราบอกป้าอ้นว่าลูกสาวชื่อน้อยหน่า”

ป้าอ้นยังคงเถียงพลางหัวเราะขำ

นานาค้อนควับ “ไปเอาอะไรกับแม่ล่ะคะคุณป้าอ้น แกแก่จนหลงๆลืมๆไม่รู้กี่ทีแล้ว อายุเลยแซยิดมาเป็นสิบปีแล้ว ชื่อลูกสาวสามคนก็เรียกผิดมั่งถูกมั่ง จนชั้นหลานๆยังจะพานไล่ให้เปลี่ยนชื่อตามที่คุณยายเรียกผิดกันซะให้หมดปัญหา แต่ที่เรียกนานาว่าน้อยหน่าเนี่ยก็เพราะนิยายคุณป้าอ้นเป็นเหตุไม่ใช่หรือไงคะ”

“คุณน้อยหน่าในนิยายป้าเธอก็สวยน่า...”

ผู้ประพันธ์นิยายต้นเหตุเอาไว้พยายามประนีประนอม

“แต่มันผิดยุคนี่คะ ชื่อนานาอุตส่าห์ฟังดูทันสมัยดีจะตาย”

ทัชฌากำลังฟังเพลิน จังหวะนั้นหล่อนก็ถูกเรียกหาทันควันจากผู้เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์กิ่งฝัน

“หนูเท็นมารู้จักพี่นานาเอาไว้สิลูก...พี่นานาจะมาช่วยเป็นบรรณาธิการประจำที่กิ่งฝันของเรา”

“สวัสดีค่ะพี่นานา” ทัชฌายกมือไหว้อย่างสุภาพพลางยิ้มให้

ผิดกับอีกฝ่ายที่กอดอกกวาดตามองราวกับหาจุดตำหนิ แต่เมื่อไม่พบก็เพียงแค่พยักหน้า

“หน้าตาผ่าน ถึงจะมารับจ็อบแต่นานาก็ขอเลือกหน่อยเถอะค่ะป้าอ้น...คนมันต้องเจอกันบ่อยๆ ขืนไม่ถูกชะตาจะทำงานกันนานๆได้ยังไง จริงไหมคะ”

“ป้าอ้นไม่รู้หรอก น้อยหน่าว่าไงป้าอ้นก็เห็นด้วยจ้ะ ป้าแก่แล้วออกความเห็นค้านสาวๆมากไปจะยิ่งดูแก่เร็ว”

นานากลั้นหายใจเหมือนอยากจะกรี๊ดกับชื่อที่ถูกป้าอ้นล้ออีกหน

สุดท้ายก็ทำหน้างออย่างขัดอารมณ์ แต่คิดได้ว่าไม่ควรบ่นเปิดช่องให้คนขี้เล่นอย่างป้าอ้นได้ต่อความมากไปกว่าที่เป็นอยู่นี้

บรรณาธิการสาวหันไปทางทัชฌาและถามอย่างคนเจนงานว่า

“เคยทำในกองบรรณาธิการมาก่อนใช่ไหมเท็น”

“ค่ะพี่”

“แล้วเท่าที่ป้าอ้นบอก เรายังไม่แน่นอนเรื่องเวลาทำงาน เอางี้...พี่จะให้เรารับงานเป็นจ็อบจ่ายค่าจ้างไปตามเนื้องาน ช่วยหาต้นฉบับแล้วก็แก้ไขงานเป็นรายชิ้น ทำบัญชีพอเป็นไหม ไม่เป็นก็มาหัดๆเอาเพราะเราทำแบบง่ายๆต้องช่วยกันหลายอย่าง ส่วนไหนยุ่งยากพี่จะจ้างบริษัทข้างนอกมารับเหมาไปอีกที ว่างเมื่อไหร่เท็นก็ลงมานี่พี่จะตั้งโต๊ะทำงานพร้อมคอมพิวเตอร์ให้”

“ป้าเป็นบรรณาธิการบริหาร ก็คอยดูแลเรื่องคิวพิมพ์ ตามเรื่องส่งงานไปโรงพิมพ์หรืออะไรที่ไม่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากไป...สู้ไม่ไหว...ของใหม่ๆนี่ใช้ยาก ต้องมานั่งหัดตอนอายุเยอะก็แบบนี้แหละนะ” ป้าอ้นออกตัว

“เรื่องสัญญาที่จะทำกับนักเขียน นานาจะให้คนรู้จักที่ทำงานด้านกฎหมายร่างให้อีกทีค่ะ เดี๋ยวจะมาตกลงรายละเอียดกับป้าอ้นทีหลังนะคะ”

ทัชฌามองเห็นความสามารถและความกระตือรือร้นในตัวของนานาแล้วอดถามไม่ได้ว่า

“ทำไมพี่นานารับงานสำนักพิมพ์เปิดใหม่อย่างที่นี่ล่ะคะ”

เมื่อถามแล้วก็นึกได้ว่าตนเองหลุดปากไปต่อหน้าป้าอ้นซึ่งเป็นคนริเริ่มก่อตั้ง จึงพึมพำขอภัยอย่างเกรงใจ

“เท็นแค่สงสัยเพราะเห็นพี่นานาดูยังไฟแรงรักที่จะทำงานแนวนี้เป็นอาชีพน่ะค่ะ น่าจะเลือกเข้าสำนักพิมพ์ใหญ่มากกว่าที่เปิดใหม่ ไม่ได้มีเจตนาจะเปรียบเทียบกิ่งฝันกับที่อื่นที่เขาตั้งมานานกว่าให้เห็น”

“ไม่เป็นไรหนูเท็น...ป้าเข้าใจ” ป้าอ้นยิ้มละไมอย่างเอ็นดู

นานาเสียอีกที่หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ

“ให้มันได้อย่างนี้สิ นึกว่าเป็นพวกไม่รู้จักอ้าปากเสียอีก ดูแวบแรกเรียบร้อยชะมัดนะเรา พี่น่ะมันมีดีที่รวยไงเท็น...แต่พอจะเปิดสำนักพิมพ์เองพ่อแม่ก็บ่นว่าสงสัยเราจะเอาเงินมาผลาญเพราะไม่เคยเรียนด้านนี้มาโดยตรง ทั้งที่พี่ก็ช่วยงานเพื่อนๆที่เปิดสำนักพิมพ์เองมาตั้งหลายคน แต่ทำๆเลิกๆตามประสาลูกคนรวยกันน่ะนะ พ่อกับแม่ก็เลยไล่ให้มาทำงานกับป้าอ้นเป็นการดัดสันดานเสียยกหนึ่ง เพราะเขาบอกว่าป้าอ้นไม่มีวันเลิกฝันแบบพวกนั้นจนกว่าจะสำเร็จเหมือนที่ตั้งใจ”

ผลงานในอนาคตเท่านั้นที่จะบอกได้ว่านานาจะทำฝันนี้แบบเล่นดังเช่นเคยเป็นมาหรือเอาจริง

ทัชฌามองหน้าผู้ร่วมงานสองคนอย่างมึนงง...

นิยายที่พ้นมือสำนักพิมพ์นี้จะออกมาแบบไหน หล่อนชักเริ่มสงสัยตงิดๆแฮะ



ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อยืดกางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบ กำลังยืนสั่งการให้คนงานขนโต๊ะลงจากรถกระบะสองคันที่จอดใกล้กัน แสงแดดร้อนแรงส่องต้องลงมาจับผิวพรรณค่อนข้างขาวจัดแบบคนไทยเชื้อสายจีนจนเริ่มออกแดง แม้เหงื่อซึมเต็มแผ่นหลังแต่เจ้าตัวก็ยังอดทนดูแลงานตามหน้าที่

ทัชฌาเดินออกมาดูอย่างให้ความสนใจพอๆกับคนอื่นอีกหลายรายตั้งแต่ยามไปจนคนงานประจำอาคาร

นานาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์มือถือห่างออกไปอย่างเพลิดเพลิน

“หล่อเนอะ...อย่างกับพระเอกหนัง”

“หน้าคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นจัง”

คำพึมพำนั้นเงียบหายไปเมื่อคุณมุกดาลงมาสมทบอีกราย

“เฟอร์นิเจอร์มาแล้วเหรอคะพี่อ้น”

เมื่อถูกถามกึ่งชวนคุย ป้าอ้นก็ไม่รอช้าที่จะตอบว่า

“มาตรงเวลานัดค่ะ ไม่ต้องโทรตาม...เจ้านี้ดี๊-ดี ไหนบอกแวะส่งก่อนหน้ามาอีกที่ยังนึกว่าจะช้า คุณมุกสนใจปรับปรุงห้องใหม่ใส่เฟอร์นิเจอร์ยกชุดอย่าลืมเรียกใช้นะคะ ราคาคุยกันได้ เดี๋ยวป้าอ้นหักคอเจ้าของร้านให้เพราะเป็นคนกันเอง”

คนฟังหัวเราะขบขัน

“น่าสนใจค่ะ เท็นแน่ะ...อย่าลืมจดเบอร์โทรเอาไว้เผื่อแม่สั่งทำตู้เสื้อผ้าติดผนังห้องชั้นสองใหม่ด้วยล่ะ”

“ค่ะแม่” ทัชฌารับคำเพียงสั้นๆตามนิสัย

“บอกคนเอาน้ำในตู้เย็นใส่แก้วไปเสิร์ฟคนงานหน่อยไป ชั้นหนังสือต้องขนลงมาต่อในร่มใช่ไหมคะพี่อ้น” ตอนท้ายคุณมุกดาหันไปถามนักเขียนในดวงใจ

“กำลังคิดว่าต่อที่ลานจอดรถตรงว่างๆคงได้ค่ะ ค่อยยกเข้ามาตั้งในออฟฟิศทีเดียว ถ้าต่อข้างในมันยังรกๆกลัวจะเกะกะคนงานเขาเปล่าๆ”

คุณมุกดาเห็นคล้อยตามจึงกำชับบุตรีว่า

“ถ้าอย่างงั้นเท็นไปดูแลบอกให้เรียบร้อยนะลูก ว่าให้ยกมาแค่โต๊ะเก้าอี้ส่วนไม้ที่จะต่อชั้นเอาไปไว้ข้างหลังอย่างที่ป้าอ้นบอก ให้ยามช่วยไปเคลียร์ที่จอดรถนิดสิ...ตรงไหนว่างมั่ง คนในตึกไปทำงานกันเกือบหมดแล้วมั้ง น่าจะว่างเยอะหรอกที่มีพื้นที่หลายล็อกติดๆกันน่ะ

ทัชฌารับคำสั่งของมารดาไปปฏิบัติตาม

น้ำเย็นถูกรินแจกจ่ายทั่วกัน

หญิงสาวเป็นเดินถือแก้วน้ำดื่มไปยื่นให้ชายหนุ่มที่ยืนสั่งงานอย่างเข้าใจสถานะสำคัญของเขาและออกจะเห็นใจอยู่บ้างที่ต้องทำงานกลางแดดจ้าในเวลาสายแบบนี้

“น้ำดื่มค่ะ...”

“ขอบคุณครับ” คนกล่าวคำขอบคุณยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ

สายตาที่มองมายังหล่อนไม่ได้จาบจ้วง หากแต่แฝงการพินิจพิจารณาอย่างเงียบๆและสุภาพในที

“ป้าอ้นให้ขนชั้นหนังสือไปประกอบที่ลานด้านในค่ะ ส่วนโต๊ะกับเก้าอี้ที่ขนลงมาไว้ก่อนแล้วเอาเข้าไปในออฟฟิศได้เลยแต่คงต้องขอแรงคนงานยกจัดให้นิดหน่อย...ทางเรามีแต่ผู้หญิง”

“คุณทำงานกับป้าอ้นเหรอครับ ผมชื่อน่านฟ้า เรียกนอตก็ได้” ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง

ทัชฌาตอบตามจริงว่า “เท็นมารับทำงานให้กิ่งฝันชั่วคราวค่ะ คุณแม่กับป้าอ้นสนิทกัน”

“แฟนนิยายป้าอ้นอีกคนหรือเปล่า...แม่ผมก็เป็นแฟนคลับ” เขาลดเสียงลงกระซิบกระซาบเจือขบขัน

ทำให้คนฟังเผยอยิ้มตามไปด้วย

เขาชอบจังเวลาที่หล่อนยิ้ม...

น่านฟ้าไม่ได้ชวนคุยนานไปกว่านั้น เมื่อคนงานเดินมาถามเจ้านายถึงบางสิ่งที่ขลุกขลักในการทำงาน ทัชฌาจึงเลี่ยงเอ่ยคำขอตัวแล้วจากมา ปล่อยให้คนอื่นๆได้ทำงานต่อไปตามหน้าที่

หล่อนไม่รู้เลยว่าสำนักพิมพ์กิ่งฝันกำลังจะกลายเป็นอีกที่ซึ่งน่านฟ้าคิดว่าเขาคงพาตัวเองมาบ่อยครั้งขึ้น

ก็ป้าอ้นเคยบอกเองนี่นา

...อยากให้ทุกๆคนได้ฝันดี...

ชายหนุ่มอมยิ้มยามลอบมองตามร่างหญิงสาวที่เดินลับหายพ้นประตูสำนักพิมพ์ไป

บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจสามารถทำให้ฝันของเขาสดใสได้ทุกๆค่ำคืนนับจากวินาทีนี้!












Create Date : 04 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มีนาคม 2559 20:04:07 น. 6 comments
Counter : 631 Pageviews.

 
นี่เป็นคู่พระนางแน่เลย :D


โดย: adel_ew วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:10:09:43 น.  

 
จริงไหมน๊า...หุหุ :P


โดย: ploy666 IP: 124.157.237.206 วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:13:51:10 น.  

 
ไปห้องสมุดเพื่อนอน?โห คิดได้ไงเนี่ยยยยย

พระนางออกมาแว้วววว ใช่มะๆ
ชื่อน่านฟ้าซะล่วย


โดย: ท้องฟ้า IP: 61.90.75.154 วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:2:55:55 น.  

 
เพราะห้องสมุดไม่เสียเงินไงฟ้า
เหตุผลออกจะง่าย หุหุ



โดย: ploy666 (ploy666 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:3:32:49 น.  

 
หนิงเนี่ย ... ก็น่าสงสารเหมือนกันนะ คล้ายๆมีปมด้อย

พระเอกชื่อน่านฟ้า กริ๊ด ประโยคสุดท้าย
"บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจสามารถทำให้ฝันของเขาสดใสได้ทุกๆค่ำคืนนับจากวินาทีนี้!"

ขอเป็นนางเอกแทนได้มั้ย?


โดย: อ้อ IP: 203.150.210.151 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:7:49:41 น.  

 
คำตอบ...ม่ายยย...
อย่ามาแย่งน่านฟ้าเรานะ!!!

(มีหวง หุหุ)


โดย: ploy666 IP: 124.157.207.220 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:19:15:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.