|
เงาบรรณ 14
คุยกันก่อนอัพ
เพิ่งไปเดินขึ้นดอยกลับลงมาค่ะ สนุกดี แถมจ๊ะเอ๋กับน้องที่เคยรู้จักกันมาก่อน เลยได้นั่งคุยถามไถ่ข่าวคราว
มาว่ากันเรื่องนิยายต่อก่อนเนอะ ถึงผีไม่หลอนแต่ก็อดคิดอยากให้คุณหนิงเธอเจอผีเสียมั่งไม่ได้นะคะ จะได้รู้ว่าทุกอย่างที่ทำ ยังมี 'อะไรบางอย่าง' จับตามอง
มาลองดูมุขหากินง่ายอีกมุขหนึ่งค่ะ ถ้าชอบใจอย่าลืมโหวตให้พรรณรังสีนะคะ ขอโหวตออกจากแวดวงอย่างเดียวค่ะ อย่าโหวตเข้ามาเลยเจ้าประคุณเอ๋ย... 5555+
แต่คนเขียนบอกตรงๆว่า ไม่ชอบ เอาเสียเลยค่ะ คงเป็นอีกตัวละครที่ 'ไม่ปลื้ม' พอๆกับคนอ่านเลยเชียว T^T
Ploy666.
**************
เงาบรรณ 14 ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
ห้องกว้างตกแต่งสวยงามด้วยอาหารเต็มโต๊ะ รอบๆมีการจัดวางที่นั่งเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บนเวทียกพื้นสูงมีสัญลักษณ์ของสำนักพิมพ์ พิราม พร้อมป้ายบอกให้รู้ว่าเนื่องในงานเลี้ยงเป็นการภายในของสำนักพิมพ์
ไม่ทราบว่าเป็นนักเขียนหรือครอบครัวคะ...ขอเช็คบัตรเชิญด้วยค่ะ พนักงานประจำเคาน์เตอร์ทางเข้าบอกอ่อนหวาน
หญิงสาวที่ถูกถามถึงบัตรเชิญวางหน้าเฉยเมยยามบอกว่า
ไม่ได้ให้มาค่ะ แต่รู้จักกับน้องนักเขียนที่ชื่อลิต้า...ลลิตา ลองโทรถามได้นะคะ เธอชวนมา พรรณรังสีอ้างอิงเต็มปากเต็มคำ
วันนี้หล่อนคิดว่าตัวเองดูดีอยู่ในชุดกระโปรงสีน้ำตาลอ่อน ผมรวมพันเรียบมิให้หยิกฟูเหมือนอย่างทุกวัน ในมือนอกจากกระเป๋าสะพายใบหนึ่งแล้วยังมีกล้องดิจิตอลถือไว้อย่างเตรียมความพร้อม
คนของสำนักพิมพ์อีกรายเดินเข้ามาถามไถ่ เมื่อทราบความตามนั้นจึงหันมาถามซ้ำอีกครั้งว่า
น้องลิต้าเชิญมาเหรอคะ เมื่อเช้าเธอแจ้งว่าจะไม่มาเพราะป่วยกะทันหันนะคะ
เบอร์โทรก็มีนะคะ...ลองโทรถามได้ค่ะ
พรรณรังสีกดหาเลขหมายพลางยื่นส่งให้ ยิ้มนิดๆคล้ายไม่อนาทรร้อนใจที่คนชวนไม่ได้เข้างานมาในวันนี้ เต็มที่หล่อนก็แค่เดินไปรอบๆทำความรู้จักบรรดานักเขียนและคนของสำนักพิมพ์ด้วยตัวเอง นี่ไม่ใช่คนแรกที่หล่อนมางานสังสรรค์ประเภทนี้ ช่วงงานสัปดาห์หนังสือยิ่งเยอะ ที่เปิดชวนเชิญคนอ่านทั่วไปมาร่วมงาน
มีอาหารกลางวันเลี้ยงดูปูเสื่อ มีการเล่นเกมชิงรางวัล
...ได้กับได้ทั้งนั้น แค่ยอมเสียค่ารถออกจากบ้านนิดเดียวสุดจะคุ้ม...
โทรไม่ติดค่ะ สงสัยเครื่องขัดข้อง
ปกติเธอก็ใช้เบอร์นี้อยู่แค่เบอร์เดียวนี่คะ พรรณรังสีทำท่าประหลาดใจ
ค่ะ...คุ้นเบอร์เหมือนกัน อีกฝ่ายไม่ได้ติดใจสงสัยมากมายนัก จึงบอกว่า ถ้ายังไงเชิญด้านในตามสบายเลยนะคะ ถึงน้องลิต้าไม่มาก็ไม่มีปัญหาค่ะ สำนักพิมพ์เราสบายๆเป็นกันเองอยู่แล้ว
ผู้มาเยือนไม่รีบร้อนเดินเข้าไปกะทันหัน กวาดตามองราวกับจะแลหา ปากก็ถามทันควันว่า
คนไหนบรรณาธิการคะ อยากจะสัมภาษณ์ไปลงนิตยสารน่ะค่ะ
...นิตยสารออนไลน์...ข้อความถูกเว้นไว้ให้อีกฝ่ายคาดหวังว่าจะเป็นนิตยสารดังๆอื่นใด
คราวนี้รอยยิ้มแต้มบนดวงหน้าคนถูกถามยิ่งเด่นชัด
บรรณาธิการอยู่ทางด้านโน้นค่ะ
กำลังคุยธุระอยู่นี่คะ รอได้ค่ะ...ขอไปหาอะไรทานก่อนดีกว่า จะไปทักทายน้องๆคนอื่นด้วย
หล่อนทำเป็นมองไม่เห็นกิริยาของนักเขียนบางคนซึ่งเคยพูดคุยกันบ้างผ่าน เอ็ม.เอส.เอ็น. ต่างหลบวูบวาบคล้ายไม่อยากประจันหน้าโดยมิได้นัดหมายอีกหลายราย...จะหลบพ้นงั้นสิ ฝันไปก่อนเถอะย่ะ!
หิวจะตายเรื่องอะไรต้องรีบร้อน วันนี้มีเวลาทั้งวัน ชื่อของลลิตาเป็นบัตรผ่านชั้นดีๆพอๆกับหมายเลขโทรศัพท์ที่มีอยู่
พรรณรังสีค่อยๆเยื้องย่างอย่างกรีดกรายไปยังโต๊ะบุฟเฟ่ต์ราวกับนางพญา
เสียแต่ว่าบุคลิกภาพที่สะท้อนออกมาน่าจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ พญาสัตว์ล่าเนื้อ เสียมากกว่ากลุ่มนางหงส์อันสวยงาม!
โถงรับแขกของโรงพยาบาลค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คน กระนั้นยังมีเหตุบังเอิญให้มิรันตีมองไปพบใครอีกคนซึ่งคุ้นตา
ลิต้า มาอยู่นี่ได้ไง
ท้องเสียสิ มานอนให้น้ำเกลือตั้งแต่กลางดึก นี่กำลังจะกลับนะรอแม่ไปรับยามาให้ หญิงสาวหน้าตาค่อนข้างซีดเซียวทักทายอย่างเป็นกันเอง
มิรันตีไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเพื่อนนักเขียนรายนี้บ่อยนัก แต่ก็เคยเห็นหน้าค่าตากันผ่านจอสนทนาออนไลน์แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดกันเป็นครั้งคราว ด้วยความที่วัยใกล้เคียงกันทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันไม่ยากนัก
อ้าว...งั้นก็ไม่ได้โผล่ไปงานมีตติ้งของสำนักพิมพ์สิวันนี้
หกโมงเย็นแล้วน่า ป่านนี้เขาเลิกงานกันหมดแล้ว ลลิตาตอบอย่างอดเสียดายมิได้
เมื่อกี้ส้มแป้นยังโทรมาบ่นยกใหญ่ มิรันตีเอ่ยถึงนักเขียนอีกรายที่อยู่สังกัดเดียวกันกับลลิตา ว่าทำไมลิต้าดันไปชวนพี่หนิงมา พาเอาเขาวงแตกงานกร่อยไปเลย ปากแก...ก็รู้ๆกัน อยู่ที่ไหนตายหมู่ที่นั่น ฝ้ายถึงได้บล็อกไม่คุยกับเขาไปตั้งนานแล้ว
...อยู่ที่ไหนตายหมู่ที่นั่น...
เป็นคำนิยามที่ไม่ได้เกินความจริงแม้แต่น้อย
เฮ้ย! เราไม่ได้ชวน
จะไม่ได้ชวนได้ไง ก็เขาโผล่ไปบอกพวกนักเขียนในกลุ่มว่าลิต้าน่ะชวน ยังมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน
มิรันตีไม่ได้รู้สึกว่าการคบหากับพรรณรังสีจะผิดร้ายแรงอะไร
หล่อนแค่ไม่ชอบใจในพฤติกรรมหรือคำพูดจาบางอย่างก็เลยถอยห่างออกมา...
ลลิตาทำหน้างง ตาโตอย่างไม่รู้เรื่องจนมิรันตีเริ่มเอะใจ
โทรศัพท์ลิต้าทำไมโทรหาไม่ได้ ส้มแป้นว่าจะถามสักหน่อยแต่มันไม่ติดทั้งวันเลยโทรหาใครต่อใครให้ช่วยเช็คสัญญาณ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มิรันตีรู้ข่าวด้วยเช่นกัน
ตกน้ำ เครื่องเสียไปตั้งแต่หลายวันก่อน ตอนคุยกันยังบอกอยู่เลย
บอกใคร
บอก... ลลิตากระสับส่ายตอนแย้มพรายว่า บอกพี่หนิงไปน่ะ เคยเผลอบอกเขาด้วยว่ามีงานเลี้ยงภายในของสำนักพิมพ์ทั้งที่ข่าวไม่ได้กระจายไปข้างนอกนะ
เวรกรรม แล้วไปให้เบอร์เขาไว้ทำไม
ทว่าคนถูกซักไซ้กลับส่ายหน้า ไม่ได้ให้ ไม่เคยคิดจะให้...แค่คุยกับพี่หนิงไปวันๆไม่ได้อยากสนิทอะไรนะ ก็เธอมาทักตลอดไม่คุยตอบบ้างก็เกรงใจนี่นา
คำว่า เกรงใจ กลับกลายมาเป็นพิษภัยในเวลานี้เอง
ที่แน่ๆพรรณรังสีมีทั้งหมายเลขโทรศัพท์ อ้างไปทั้งชื่อแบบนี้ แถมเพื่อนยังพากันยืนยันว่าการไปแทรกกลางวงสนทนานักเขียนเหล่านั้นไม่ใช่ท่าทีอันสร้างสรรค์แต่ประการใดยิ่งทำให้ลลิตาร้อนใจ
คนโดนอ้างรีบถามกลับไปยังมิรันตีว่า
ฝ้ายมาทำอะไรที่นี่
พี่ที่สำนักพิมพ์ป่วย เพิ่งรู้ข่าวเลยแวะมาเยี่ยม หล่อนชูตะกร้าผลไม้ที่ถือติดมือให้ดู
แล้วจะกลับบ้านเลยใช่ไหม
คงอยู่ไม่นานหรอก ทำไม...มีอะไรหรือเปล่า
สืบให้ลิต้าที พี่หนิงทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร...ที่สำคัญเธอไปเอาเบอร์โทรลิต้ามาได้ยังไง ลิต้าเริ่มกลัวๆแล้วนะฝ้าย ทำไมพี่หนิงเธอนิสัยแบบนี้ นี่ถ้าเธอเป็นคนโรคจิตขึ้นมาลิต้าคงมีปัญหาใหญ่แน่
พวกโรคจิตมักทำอะไรที่คนปกติเขาไม่คิดจะทำกัน ช่วยไม่ได้ที่ลลิตาจะหวั่นระแวง
มิรันตีได้แต่เพียงถอนใจ ปลอบเพื่อนว่า
เอาไว้จะลองถามๆคนที่ไปงานให้ ลิต้าก็พักให้เยอะๆเรื่องอื่นไม่ต้องไปคิดมัน
ไม่รู้พี่หนิงทำลิต้าเสียชื่อไปด้วยแค่ไหนแล้ว... ลลิตาพึมพำอย่างหนักใจ
นักเขียนส่วนใหญ่มีเพียงนามปากกาไว้ประดับเป็น เกียรติยศ
หากนามปากกาเหล่านั้นถูกนำไปใช้อ้างอิงโดยคนที่ไม่หวังดี ก็ย่อมเป็นที่น่าหวั่นใจ
มิรันตีระแวงสงสัยเช่นเดียวกับคู่สนทนา
...พรรณรังสีไม่ใช่บุคคลที่พึงคบหาอีกต่อไป!
น่านฟ้าขยับตัวทันทีที่ได้ยินเสียงไอจากคนบนเตียง เขาแทบจะกระโจนจากโซฟารับแขกชิดผนังเข้าที่ร่างบางบนเตียง หากไม่เพราะคุณมุกดาอยู่ภายในห้องนั้นด้วยและท่านตรงไปหาบุตรีอย่างห่วงใย
ดื่มน้ำหน่อยนะลูก...นี่จ๊ะ
คุณมุกดาจัดแจงประคับประคองแก้วจรดริมฝีปากบางที่แห้งเป็นขุย
นัยน์ตาที่เปิดเต็มที่กว่าทุกคราวของทัชฌาทำให้คนเฝ้าสังเกตอาการโล่งอกมาบ้าง เพราะเป็นสัญญาณว่าความเจ็บไข้เริ่มจางหายไปและหญิงสาวสามารถรู้สึกตัวได้เต็มที่กว่าเมื่อสี่วันที่ผ่านมา
น่านฟ้าทำได้เพียงไปเกาะขอบเตียง ยิ้มอำพรางความร้อนใจเมื่อถามไถ่
ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับคุณเท็น ผมจะไปบอกหมอมาเช็คใหม่ก็ได้นะครับ
เท็นค่อยยังชั่วแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ หล่อนตอบพอได้ยิน
ฝ่ามือของมารดาที่ลูบไรผมอบอุ่นและอ่อนโยนนัก...ทัชฌาจึงเงยมองแทนคำขอบคุณ
สี่วันที่ผ่านมาหล่อนรู้สึกตัวเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นเกือบตลอดเวลา ความฝันมากมายทำให้การจับต้นชนปลายเหตุการณ์ต่างๆยุ่งเหยิง
สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยจางหายจากความทรงจำ
ยามใดที่ร่างกายหล่อนร้อนราวกับจะลุกเป็นไฟด้วยพิษไข้ ใครคนหนึ่งจะมาอยู่ใกล้ๆและกุมมือไว้โดยไม่พูดไม่จาเสมอ
...ผู้ชายคนนั้น...คนที่ทัชฌาติดหนี้เขามากเกินกว่าแค่จะเอ่ยคำขอโทษแล้วให้เรื่องทุกอย่างจบไป
ทัชฌาซ่อนสายตาเอาไว้ตอนถามใครๆว่า
นอกจากคุณนอตกับแม่ ช่วงที่ไม่ค่อยรู้สึกตัวมีใครมาหาเท็นอีกบ้างไหมคะ
หนูฝ้ายแวะมาเมื่อวาน ป้าอ้นกับคุณนานาก็มานะ... คุณมุกดาพยายามทวนความจำ ถ้าไม่นับคนที่คลังบุ๊คส์ว่าเขาไปเจอเท็นตากฝนสลบอยู่ข้างทาง ก็คงไม่มีคนอื่นแล้วจ้ะ
ผมมาทุกวัน น่านฟ้ารีบบอก
คุณมุกดาอดยิ้มขบขันกับกิริยาเหมือนเด็กๆที่ต้องการยื้อแย่งความสนใจของน่านฟ้ามิได้ อันที่จริงท่านก็ไม่ได้รังเกียจชายหนุ่มคนนี้แม้แต่น้อย เขาเทียวไล้เทียวขื่อทัชฌามานานนับเดือน ท่าทางดูจะจริงจังมากกว่าที่เพียงถูกตาต้องใจชั่วครู่ชั่วคราว
จึงช่วยสนับสนุนไปว่า
คุณนอตเขามาบ่อยกว่าแม่เสียอีก นี่ถ้าหมอไม่ว่าอะไรแม่คงปล่อยเฝ้าไข้แทนไปแล้วล่ะ
ผมเต็มใจนะครับ คุณน้าจะได้พักผ่อนเสียบ้าง
ตลอดเวลาที่ทัชฌาอยู่ในภาวะไม่มีสติ น่านฟ้าเห็นคุณมุกดาไม่มีแก่ใจดูแลตัวเองเท่าไหร่เอาแต่วนเวียนใกล้ๆบุตรี แต่จะนอนพักหากไม่มีเขามาอาสาผลัดเวร ท่านก็แทบจะไม่อยากหลับตาลง
ห้องพักส่วนตัวนี้ก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่วิ่งเต้นโยกย้ายให้
ใครจะว่าอาศัยบารมีเจ้าสัวสุธีผู้บริจาครายใหญ่ของโรงพยาบาลก็ช่างปะไร น่านฟ้าไม่เห็นจะสนสักนิด
สำหรับเขาขอแค่ให้ทัชฌาปลอดภัยเท่านั้นเป็นพอ!
ชายหนุ่มกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า
ขออนุญาตไปโทรบอกป้าอ้นกับพี่นานก่อนนะครับว่าคุณเท็นฟื้นแล้ว พวกนั้นจะได้สบายใจหายห่วงเสียที
ตามสบายเลยจ้ะ คุณมุกดาอนุญาตด้วยความยินดี
น่านฟ้าถือโอกาสตามแพทย์และพยาบาลเข้ามาดูแลคนป่วยในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของทัชฌากลับกวาดมองไปยังกลุ่มคนที่เข้ามาใหม่เหล่านั้นละม้ายแลหา
ดวงตาคู่สวยรื้นอีกครั้งเมื่อนึกได้ว่าวันที่จะเห็นใครคนนั้นยามตื่นย่อมไม่มีวันเป็นจริงได้เลย
ความสูญเสียบางครั้งก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีอันไร้สาระ...
พรรณรังสีพยายามปลอบใจตัวเองเมื่อเห็นอีเมลต่อว่าต่อขานจากลลิตา ในตอนนี้หล่อนยังไม่มีแก่ใจจะมาหาข้อแก้ตัวในสิ่งที่ทำลงไป จึงไม่สนใจมากไปกว่ากดปิดกล่องรับจดหมายอิเลคทรอนิกส์นั้นลงรวดเร็ว
ลลิตาก็เหมือนใครอีกหลายคนที่หล่อนเคยมีปัญหาด้วย อย่างรายที่ชื่อกิ๊บซึ่งเคยมีเรื่องมีราวกันหล่อนก็เขี่ยตกขอบวงการนักเขียนไปเสียเรียบร้อย ใส่สีตีไข่สักหน่อยผู้คนเบาปัญญาก็พร้อมจะเชื่อโดยไม่พินิจพิจารณา
พวกนี้นี่ก็แปลก...พอนักเขียนออกหนังสือมาก็แห่กันไปซื้อโครมๆ พอมีข่าวหน่อยเดียวไม่ทันรู้อะไรจริงไม่จริงก็พร้อมจะเชื่อ ยิ่งถ้าเป็นข่าวร้ายๆเรื่องนิสัยเป็นอันแน่ใจได้ว่าคนส่วนใหญ่มักคิดว่าพวกช่างฝันความเชื่อมั่นรุนแรงเสมอ
นาฬิกามุมจอคอมพิวเตอร์บอกเวลาตีสอง
มีนักเขียนไม่กี่รายที่ยังอยู่ในระบบสนทนา
ทว่า...ล้วนแล้วแต่ไม่น่าสนใจ...
เงินร้อย เงินพัน หล่อนก็สรรหามาได้จากความพยายามมากมายผ่านอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ได้เวลาขยับขั้นไปสู่เงินหมื่นและเงินแสนกันเสียทีสินะ
พรรณรังสีไม่เคยเรียกมันว่าเล่ห์กล หล่อนไม่คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องเลวร้ายที่ตรงไหน...
จะเงินสามร้อยหรือเงินหนึ่งพันหล่อนก็อยากเรียกมันว่า ข้อต่อรอง ทางธุรกิจ
ใครต่อใครคิดจะคบกับหล่อนเพื่อหาข่าววงใน หล่อนก็สรรหามาให้แล้วไงจากการถามเอาเพราะมีคนพูดคุยด้วยมากมาย
คิดเสียว่าแลกเปลี่ยนกันเท่านั้นก็จบ!
ระยะหลังหล่อนส่งผ่านนิยายบางเรื่องจนได้พิมพ์เล่ม เงินในบัญชีจึงมีรองรังอยู่พอสมควร
มันจะยากอะไร...หล่อนก็แค่เลือกคนที่เคยมีผลงานรวมเล่มกับที่เล็กๆไปส่งที่ใหญ่กว่า หนังสือที่เคยพิมพ์มามันก็รับประกันไว้ขั้นหนึ่งแล้วว่านักเขียนไม่ถึงกับห่วยจนยากจะทน แถมดีไม่ดีไปคว้าได้คนมีแฟนคลับมาแต่เดิมยิ่งสบายเลย สำนักพิมพ์สมัยนี้ที่ไหนๆก็อยากได้กันทั้งนั้นแหละ
ไฟฟ้าในห้องกระตุกวูบวาบก่อนดับหาย ห้องนอนตกอยู่ในความมืดสนิท
อ้าว...อะไรอีกล่ะ
คนบ่นงึมงำกำลังจะลุกไปเช็คหลอดไฟแต่ก็ยั้งตัวไว้ทันเมื่อหน้าจอมีแถบสีส้มกระพริบวูบวาบขึ้นมาใต้ชื่อ...แสนยากร...
ไม่จริงน่า อย่าบอกนะว่าโอกาสที่หล่อนรอคอยจะจับเงินหมื่นเงินแสนมันมากองตรงหน้า
หูตาหล่อนพราวพรายอย่างมีความหวัง
รีบกลับนั่งลงก้มหน้าก้มตาเปิดขึ้นดูทันที
ผมแสนยากร... คำแนะนำตัวสั้นๆเพียงเท่านั้น
เนื้อตัวของพรรณรังสีระริกร้อนผ่าวด้วยความปลาบปลื้มยินดี
หนิง พรรณรังสีค่ะ
ที่ใช้นามแฝงว่า พน. ตามเว็บบอร์ดใช่ไหมครับ
เคยเห็นด้วยเหรอคะ
แบบนี้ก็เข้าทางอีกรายแล้วสินะ...
ทว่าคำตอบจากอีกปลายทางก็ช่างทำให้ใจของหล่อนฟุบแฟบลงได้ดีนักสมกับนิยามนักเขียนปากร้ายลึกลับในเว็บไซต์แท้ๆ
เห็นครับ แต่ไม่เคยสนใจ!
แสนยากรเป็นคนแรกที่ทำให้พรรณรังสีรู้สึกว่าความโอหังของหล่อนถูกโยนใส่หน้ากลับคืนมา
หมอนี่มันอวดดี...พรรณรังสีจับความเย็นชาในแต่ละข้อความที่ถูกส่งมาได้หรอกนะ ถึงกระนั้นความหวังของหล่อนยังจำเป็นต้องมีเขา ทำให้ไม่อาจเมินหน้าหนี
หล่อนวาดภาพชายหนุ่มผิวขาวหน้าตานิ่งขรึมเอาไว้หลังบทสนทนาเหล่านั้น
สักวันเถอะหล่อนจะนัดเจอตัวจริงเพื่อเอาภาพลงในเว็บไซต์ให้ได้ คงมีคนอยากเห็นกันเต็มทีแล้วกระมังว่าคนอย่างแสนยากรเป็นแบบไหนกัน
เฉพาะตอนนี้ที่พรรณรังสียังคงต้องปั้นหน้ายิ้ม
หนิงเป็น Editor เว็บไซต์ค่ะ หญิงสาวส่งลิงค์ไปให้ดู ตอนนี้มีหลายๆคนมาโปรโมทนิยายในเว็บไซต์เรา ขนาดบรรณาธิการสำนักพิมพ์ใหญ่ๆยังเข้ามาดูงานเลยนะคะ อย่างคุณกรรบูรนี่ก็สนิทกัน...คุยกันทุกวันค่ะ...เขาเขียนนิยายด้วยก็เลยเอามาอัพลง ว่างๆก็ดูงานพวกน้องๆนักเขียนในนี้เผื่อมีเข้าตากรรมการ
มันเกี่ยวกับผมตรงไหนครับ
ให้ตายสิ! เขาไม่รู้จักตื่นเต้นบ้างเลยหรือไงนะ
คุณแสนยากรไม่สนใจจะมาลงนิยายบ้างเหรอคะ
ผมเขียนแค่เรื่อง เงาบรรณ ตอนนี้ลงที่เว็บไซต์คืนฝันกลางจันทร์ยังไม่จบ
พรรณรังสีรีบขัดทันควัน ลงอีกที่ก็ได้ค่ะ ลงเยอะๆยิ่งดีนะคะ เป็นการหาแฟนคลับ...
ยังพิมพ์ไม่ทันจบคำก็มีเสียงของหนักทึบตันร่วงหล่นลงทางด้านหลังทำให้พรรณรังสีสะดุ้งและเอี้ยวกายมองฝ่าความมืดไปยังส่วนที่ตั้งเตียงนอนเอาไว้
หล่อนเห็นเพียงเงาไม้ที่ผ่านหน้าต่างวูบไหวโอนเอนแช่มช้าราวกับมือยาวๆระเกะระกะของสิ่งที่มิใช่มนุษย์แกว่งไกว
ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงจิตนาการยามที่อยู่เพียงลำพังก็เท่านั้นเอง
พรรณรังสีกลืนน้ำลายและพยายามนับหนึ่งถึงสิบตั้งสติในใจ
เมื่อหันกลับมาอีกครั้งจึงอ่านทวนข้อความนั้นและพิมพ์ต่อไปว่า
...ถ้ามีแฟนคลับเยอะ เราดังเมื่อไหร่ จะส่งนิยายพิมพ์ที่ไหนก็ได้นี่คะ
อีก ตุ้บ!
มือที่พิมพ์ระรัวชะงักงัน กำแน่น พยายามไม่หันไปมอง พรรณรังสีมั่นใจว่าในห้องหล่อนไม่มีสิ่งของบนที่สูงซึ่งสามารถร่วงหล่นได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว!
รวบรวมสติคืนได้จึงพยายามต่อบทสนทนาที่เริ่มไม่ค่อยจะเข้าที่เข้าทางอีกต่อไปเพราะใจมัวพะวงกับความมืดรอบกาย
ได้ยินว่าคุณเคยพูดถึงกรณีมีนักเขียนของเว็บไซต์ที่หนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกฆ่าตายก่อนนิยายจะออกพิมพ์
จู่ๆแสนยากรก็นำเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
คะ...อ๋อ... ทบทวนความจำครู่เดียวก็นึกออก รายนั้นข่าวนานหลายเดือนแล้วนี่คะ พูดไปก็น่าขำนะคะ จะบอกว่านักเขียนรายนั้นสงสัยจะโดนแฟนคลับฆาตกรรมมากกว่า...ก็แหมเขียนอะไรมาให้อ่านก็ไม่รู้ ขยะวรรณกรรมชัดๆเลย
ความขบขันทำให้พรรณรังสีเผลอหัวเราะออกมาจริงๆ
แม้จะมีคนเคยติงหล่อนว่าไหนๆอีกฝ่ายก็ตายจากไปแล้วไม่น่านำมาเยาะหยัน ในเมื่อตัวงานนั้นก็ไม่ได้เผยแพร่และถูกลบหายไปในเวลาไม่นานนัก
อันที่จริงพรรณรังสีไม่ได้อ่านงานเขียนนั่นหรอก หล่อนก็แค่มองว่านักเขียนรายนั้นไม่น่าจะมีปัญญาส่งที่ใหญ่ๆ เพราะไม่งั้นป่านนี้น่าจะอวดโอ่ไม่ใช่เพียงตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่างานผ่านกำลังจะตีพิมพ์แล้วหายเงียบไปโดยฉับพลันภายในไม่กี่วัน
ชื่ออะไรนะคะ...อคิน...ใช่ไหมคะ คุณแสนยากรเคยอ่านงานเขาหรือเปล่า
มีคนบอกผมว่าอันที่จริงเขาไม่ได้ถูกฆ่าตาย
แล้วเขาหายไปไหนจนแฟนคลับกลุ่มเล็กๆออกมาโพสต์ไว้อาลัยแบบนั้น อย่าบอกนะคะว่าแค่สร้างเรื่องหายตัวไปแล้ววันหนึ่งจะกลับมา
ไม่มีคำตอบจากแสนยากรราวกับชายหนุ่มหายไปพ้นหน้าจอ...
คราวนี้เสียงของหล่นนั้นดังใกล้เหมือนเฉียดด้านหลังพนักเก้าอี้ พรรณรังสีสะดุ้งวาบเย็นสันหลัง
หล่อนพิมพ์ข้อความสุดท้ายโดยพลันว่า
ถ้าคุณแสนยากรอยากเป็นนักเขียนดังก็ต้องโปรโมทตัวเองค่ะ สนใจอยากลงนิตยสารออนไลน์ของหนิงก็บอกได้นะคะ พรุ่งนี้หนิงจะทำบทสัมภาษณ์ส่งไปให้ทางอีเมลก่อน คุณจะได้อ่านดูแล้วตัดสินใจง่ายขึ้น
จบคำหว่านล้อมที่คลิกส่งไป พรรณรังสีก็ไม่ทำแม้แต่จะปิดจอคอมพิวเตอร์
...ห้องนอนบ้าๆนี่มันต้องมีอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ!
หล่อนเผ่นออกจากเก้าอี้ราวกับฝีเท้าติดสปริง พุ่งกระชากประตูเปิดออกและวิ่งลงบันไดไปยังห้องรับแขกชั้นล่างที่ใครต่อใครนั่งดูทีวีอยู่
ทิ้งให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด
หน้าจอสนทนากระพริบรัวเร็วผิดปกติอยู่ครู่ใหญ่ ใครบางคนที่ซ่อนตัวอยู่ลึกเข้าไปในมุมห้องกลับค่อยก้าวเดินตรงออกมาอย่างช้าๆทว่าฝีเท้ากลับมั่นคง ก้มลงจับเม้าส์เลื่อนไปปิดจอสนทนาที่พรรณรังสีพูดคุยกับแสนยากร
ใบหน้าของเขาถูกซ่อนอยู่ในเงามืดมัว...
เสียงสิ่งของตกกระทบพื้นดังขึ้นอีกครั้ง มันกลิ้งหลุนๆตรงมาชนขาโต๊ะและหยุดลง
เขาทำเพียงก้มลงไปดู
...ก็แค่เสื้อผ้าชุดเดียวที่มัดพันกันแน่นหนาจนเป็นก้อนกลม...
แต่เมื่อมันค่อยๆกลิ้งอีกหนคล้ายมีแรงลมมาปะทะ ไปสู่พื้นที่ว่างส่วนที่แสงสว่างนอกหน้าต่างยามม่านถูกลมพัดปลิวส่องตกต้องลงมา จึงเห็นจะแจ้งต่อนัยน์ตาว่าเสื้อผ้าชุดนั้นชุ่มโชกชโลมไปด้วยโลหิต!
Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 10 มีนาคม 2559 20:09:58 น. |
Counter : 616 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: peerisa IP: 124.120.209.162 9 กรกฎาคม 2552 19:38:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 124.157.188.110 10 กรกฎาคม 2552 7:14:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: อั้ม-อัสสมา IP: 124.121.68.176 11 กรกฎาคม 2552 17:19:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 (ploy666 ) 12 กรกฎาคม 2552 10:26:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นค่ะ ใครเป็นคนฆ่าอคิน