Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

เงาบรรณ 13


คุยกันก่อนอัพ


จาก น่านฟ้า...แสนยากร...วันนี้มีมาเปิดตัวอีกหนึ่งรายชื่อค่ะ
อคิน--เขาคือใครกันนะ
รายนี้เป็นหนึ่งในตัวละครที่คนเขียนตั้งใจวางไว้ในพล็อตมาตั้งแต่แรกเริ่ม
และหวังว่าสิ่งที่เกี่ยวกับอคินจะทำให้หลายคนได้ฉุกคิดบางประการ
ว่าโลกแห่งการเขียนบางครั้งก็น่ากลัว ถ้าหัวใจเราไม่แกร่งพอ...

แต่สิ่งดีๆก็ยังมีรออีกเยอะนะคะ สู้ๆ

ขอให้สนุกกับการอ่านเงาบรรณค่ะ
^ ^
สัปดาห์หน้า ฝนพรางฟ้า จะกลับมาลงอัพให้อ่านกันต่อค่ะ (ก็วันนี้วันอาทิตย์ หมดสัปดาห์แล้วนี่นา)
ส่วน แม่สื่อจอมจุ้น วุ่นรักอลวน ยังไม่ได้คิวค่ะ รอคุณปาย่าพร้อมก่อน
แต่ก็แอบหวังๆแทนคนติดตามอ่านอยู่นะคะ...

Ploy666.




**************

เงาบรรณ 13
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



เงิน! เงิน! เงิน!

ความหมายเดียวที่อยู่ในใจพรรณรังสีเสมอมา

นิยายต้นฉบับสองบทซึ่งหล่อนเขียนขึ้นมาถูกนำลงอวดในเว็บบอร์ดหลายแห่งโดยหวังให้บรรณาธิการที่ไหนสักที่สะดุดตาต้องใจ

แต่ไม่เลย...หญิงสาวปัดเอาเม้าส์ใกล้มือร่วงลงไปกระแทกพื้นด้วยความหงุดหงิด

“พี่ว่าภาษามันดูประดิดประดอยมากไปหน่อยนะหนิง ลองแก้สักนิดไหม”

เท่านั้นเองที่ทำให้พรรณรังสีหมายหัวคนพูดเอาไว้หนึ่งราย

...อย่าให้ถึงทีหล่อนบ้างก็แล้วกัน!

เมี่ยงคำโผล่มาทักทายในประเด็นที่พอเหมาะพอดี

“เห็นนิยายพี่หนิงโพสต์ไปแล้ว เมี่ยงยังรอว่างๆจะเข้าไปอ่านอยู่เลยค่ะ”

อ่านแล้วคอมเม้นท์ไม่ดีหล่อนก็บรรลัยหมดน่ะสิ...พรรณรังสีคิดหาทางออกได้อย่างฉับพลัน

“จริงๆว่าจะไม่โพสต์ให้สะเทือนใจพวกนักหัดเขียนใหม่ๆหรอกนะ แต่เรื่องนั้นน่ะ ‘ต้นกล้าขอมา’ ก็เลยลงๆอัพไป...เด็กมันจะได้ดูเป็นตัวอย่างว่างานดีๆแนวสืบสวนมันเป็นแบบนั้น”

“พี่หนิงต้องเขียนดีแน่ๆเลย เมี่ยงเห็นพี่หนิงคอมเม้นท์นิยายใครๆในเว็บไซต์อื่นออกบ่อย”

“ไม่รู้สินะ...”

แม้จะตอบแบบนั้นทว่าหัวใจพรรณรังสีพองฟู

นิยายหล่อนจะเอาไปเทียบชั้นกับพวกมือใหม่ได้ยังไงกัน เสียชื่อหมดพอดี

จึงแต่งเติมเรื่องราวลงไปทันทีว่า “นี่ขนาดพวกพี่บูรหรือบรรณาธิการที่อื่นๆยังมาถามกันให้เพียบเลยว่าเมื่อไหร่จะเขียนเสร็จ เขาบอกอยากอ่านต้นฉบับเต็มๆเสียทีน่ะเมี่ยง พี่เลยลังเลไม่รู้จะเลือกส่งที่ไหนดี”

ต่อให้สิบเมี่ยงคำก็ย่อมไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์งานของพรรณรังสีอีก

ความเกรงใจว่าตนเองอาจอ่อนด้อยประสบการณ์ทำให้ไม่อาจข้ามผ่านกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นโดยภาพมายานั้นไปได้ สุดท้ายพรรณรังสีแน่ใจว่าคอมเม้นท์ที่เมี่ยงคำจะมอบให้ หากๆไม่ออกแนวให้กำลังใจก็ย่อมต้องชื่นชมไปตามน้ำ...

แต่ชาตินี้หล่อนคงไม่เขียนต่ออีกแล้วนอกจากสองบทนั่น

เสียอารมณ์ตอนที่มีใครสักคนจับได้ว่าฝีมือหล่อนยังมีข้อบกพร่องซะเปล่าๆ เอาแค่พออวดได้ว่าหล่อนเขียนอยู่ เป็นหนึ่งในแวดวงนักเขียนก็พอแล้วล่ะน่า

“พี่หนิง...เมี่ยงอยากลองส่งกิ่งฝัน พี่หนิงพอจะรู้จักใครข้างในไหมคะ”

พรรณรังสียิ้มมุมปากอย่างพออกพอใจ

“พี่เพิ่งได้อีเมลจากบรรณาธิการกิ่งฝันส่งมาคุยพอดี คุยกันไปเรื่อยๆเรื่องโน้นเรื่องนี้ตามประสาคนสนิทน่ะนะ ส่งต้นฉบับเมี่ยงมาก็แล้วกันเดี๋ยวพี่ฝากให้”

“ขอบคุณค่ะพี่ พอดีเรื่องนี้ไม่ตรงแนวที่สำนักพิมพ์เดิมขายน่ะค่ะ เมี่ยงเลยต้องหาที่ใหม่ดู”

“ไม่เป็นไร พี่ก็ช่วยไปอย่างงั้นเอง น้องๆเนี่ยพี่ช่วยไปหลายคนแล้ว”

“พี่หนิงใจดีจังค่ะ”

เมี่ยงคำชื่นชมจากใจจริง

หากหล่อนจะรู้ถึงข้อตกลงที่พรรณรังสีเพิ่งส่งเข้าไปที่กิ่งฝันคงไม่มีอีกแล้วถึงคำขอบคุณเหล่านี้


‘...ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากหรอกค่ะ สักหนึ่งพันบาทหรือมากกว่านั้น ก็แล้วแต่จะพิจารณากันไป เข้าใจว่าคุณทัชฌาที่เป็นคนหาต้นฉบับส่งให้สำนักพิมพ์กิ่งฝัน ก็ได้เปอร์เซ็นต์จากนักเขียนพวกนั้นอยู่แล้วนี่คะ...’

แบ่งมาบ้างจะเป็นไร...

พรรณรังสีคิดแค่นั้นตอนตอบกลับไป

แต่ลืมฉุกใจคิดว่าเหตุใดสำนักพิมพ์อื่นๆที่หล่อนยื่นข้อเสนอนั้นจะต้องจ่ายให้

ในเมื่อหล่อนไม่ได้มีอำนาจใดๆเหนือนักเขียน หรือมีฝีมือมากพอจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของสำนักพิมพ์

และข้อตกลงเหล่านั้น เจ้าของผลงานที่ส่งไปต่างมิได้รู้เห็นหรือยินยอมให้เรียกร้อง!



“แบบนี้เข้าข่าย ขายนักเขียน กันหรือเปล่าครับคุณเท็น”

น่านฟ้าตั้งคำถามขณะอยู่ในร้านอาหารยามเที่ยงวัน มุมสงบของเขาอยู่ที่หน้าร้านแบบเปิดโล่งแต่อาศัยซุ้มไม้บังแดดฝนและปล่อยให้สายลมอ่อนๆพัดโชยชายผ่านสระเล็กซึ่งมีน้ำตกจำลองเอาไว้

ทัชฌาปล่อยตัวตามสบายในชุดลำลองสีเขียวนวลตา ผมยาวถึงกลางหลังรวบพันเอาไว้หลวมๆด้วยที่ผูกเส้นเล็กบาง ใบหน้าเนียนใสแทบไร้การแต่งแต้ม เคลือบแต่เพียงลิปกลอสวาวๆบนริมฝีปาก


หยุดคิดอึดใจก่อนจะตอบคำถามนั้นอย่างระมัดระวัง

“ขายนักเขียนหรือเปล่านี่เท็นไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกค่ะ แต่เข้าใจว่า ขายพี่ๆน้องๆ ที่รู้จัก อาจใช่เลยก็ได้...ในกรณีที่ซึ่งส่งงานมาอีกต่อพวกนั้นไม่ได้รู้เลยนะคะว่าคนๆนี้มีรายได้จากพวกเขาโดยตรง”

“ต่างจากคนหาต้นฉบับของสำนักพิมพ์ยังไงครับ”

ความคิดแวบแรกของน่านฟ้าจากที่ฟังทัชฌาเล่ามา เขายังมองหาความแตกต่างไม่เจอ

“คนหาต้นฉบับ สำนักพิมพ์คัดสรรมาโดยดูว่ามีความสามารถหรือไม่...เรียกว่าคัดคนในระดับหนึ่งค่ะ แต่กรณีของคนที่ชื่อพรรณรังสี เท็นไม่รู้จักเขามากพอจะไว้วางใจขนาดนั้น ที่สำคัญคือคนหาต้นฉบับของสำนักพิมพ์สามารถดูแลงานให้นักเขียนได้จริง ติดตามผลของเรื่องที่ส่งเข้ามาได้จนกระทั่งผ่านพิมพ์เล่ม”

ตามที่ตกลงกัน รายได้ของทัชฌาอิงอยู่กับการออกผลงานของนักเขียน

ดังนั้นหากนักเขียนเสียผลประโยชน์ใดๆ หล่อนก็เสียตามไปด้วย การตามดูแลงานอย่างเอาใจใส่จึงจำเป็นยิ่งยวด

บางสำนักพิมพ์นั้นตกลงจ่ายให้คนหาต้นฉบับเป็นเปอร์เซ็นต์คล้ายเงื่อนไขที่ให้นักเขียน แต่บางที่ก็อาจเหมาจ่ายเป็นรายเล่ม ที่ให้ราคาดีๆเป็นหมื่นบาทก็เคยมี

“คุณพรรณรังสีคนนี้เขาเหมือนเสือนอนกิน รับส่งผ่านมาแต่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย”

“อันที่จริงถ้ามองในแง่ตัวแทนนักเขียน ระบบเดียวกับตัวแทนดาราก็ไม่ผิดนะครับ”

“ไม่ผิดค่ะ” ข้อนั้นทัชฌายอมรับ “แต่เท็นมองในแง่ที่ว่าเขาเข้ามากินเปล่าจากสำนักพิมพ์ แถมถ้าเท็นไปรับรองก็เหมือนยืนยันการเป็นตัวแทนสำนักพิมพ์ให้เขาใช้อ้างได้ในกรณีเกิดปัญหา อย่างน้อยการส่งงานกับเท็น นักเขียนก็มั่นใจว่าเท็นจะดูแลจนไปถึงระบบสำนักพิมพ์แบบเต็มที่ และเท็นสามารถเคลียร์ภายในสำนักพิมพ์ได้หากเกิดปัญหาขึ้น”

น่านฟ้าได้แต่ทอดถอนใจ

“หวังว่านักเขียนคงรู้นะครับ ว่าคนที่เขาฝากส่งกิ่งฝันเข้ามาต้องการรายได้”

ทัชฌาเองก็หวังอย่างนั้น

...ป้าอ้นแนะนำได้อย่างถูกต้องว่าหล่อนควรถามไป แต่ป้าอ้นไม่เคยเตือนให้หล่อนเตรียมใจว่ามีคำตอบรูปแบบนี้อยู่...

ปกติในวงการนี้ส่วนมากเขาก็ให้อีเมลต่อๆกันเพื่อส่งงานโดยไม่คิดมูลค่ามิใช่หรือ

เพิ่งรู้ว่าบางทีมันก็เป็นโอกาสที่ใครบางคนจะหารายได้อันไม่ชอบธรรม

“เท็นเองก็ตอบปฏิเสธเขาไปชัดเจนแล้วด้วยว่าเราไม่มีนโยบายจ้างคนนอกต่ออีกช่วง ช่างเถอะค่ะ เงินพันเดียวคงไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้หรอก”

“แต่เงินพันเดียวนี่ไม่รู้เรียกร้องไปกี่สำนักพิมพ์กันนะครับ”

คำถามกึ่งเปรยของน่านฟ้ากลับทำให้ทัชฌาฉุกใจคิดเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

“ตกลงคุณเท็นจะต้องนั่งรอคุณแสนยากรอยู่ที่นี่ไปอีกกี่ชั่วโมงครับ”

“นั่นสิคะ เขานัดเท็นมาเองแท้ๆแล้วก็เบี้ยว ไม่น่าเชื่อพี่นานาเลยว่าให้มารอตามนัด ทำเอาคุณนอตเสียเวลาไปด้วย”

“ผมว่างครับ”

น่านฟ้าเข้าไปที่สำนักพิมพ์กิ่งฝันในจังหวะพอดีที่จะรู้ความต้องการเดินทางของทัชฌาและอาสามาเป็นสารถีให้ทั้งวันหากจำเป็น

ทัชฌามองไปยังร้านอาหารที่ค่อนข้างเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเพราเป็นเวลาพักรับประทานอาหารเที่ยงวัน ไม่มีวี่แววของใครซึ่งน่าจะเป็นแสนยากรเลยสักราย ตอนนี้คนส่วนใหญ่กลับไปทำงานกันเกือบหมด มีเหลืออีกเพียงสองสามโต๊ะห่างออกไปพอเห็นกัน

“เขาไม่ได้นัดเวลาค่ะ แค่บอกสั้นๆว่าตอนกลางวันให้เท็นมารอเขาที่นี่ ถ้าไม่ติดธุระอะไรเขาจะมาพบ”

สองครั้งแล้วสินะที่ข้อความจากคนๆนั้นมีคำว่า ‘ถ้า’ เติมท้าย

ผู้ชายในเงาจันทร์จะปรากฏกายกลางวันแสกๆหล่อนคงฝันไป...ทัชฌายิ้มเยาะกับความตื่นเต้นเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เมื่อหลงนึกว่าตัวเองจะได้พบนักเขียนลึกลับคนนั้นง่ายดายทั้งที่ใครต่อใครตามหาตัวเขานับครั้งไม่ถ้วนมาแล้ว

เขาไม่ได้ระบุเวลานัดที่ชัดเจนแต่หล่อนเหมาเอาเองว่าจะนัดทานอาหารเที่ยงด้วยกัน

ความเข้าใจของทัชฌาคงคลาดเคลื่อนเมื่อประเมินนักเขียนรายนี้...

“เท็นผิดเองแหละค่ะที่ไม่ส่งอีเมลกลับไปถามเวลา”

“ถ้าเขาไม่มาเขาน่าจะโทรบอกหรือแจ้งได้นี่ครับ รออีกสักพักก็แล้วกัน อันที่จริงผมมีอะไรบางอย่างให้คุณเท็นแปลกใจ...” น่านฟ้าไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับการติดอยู่ที่นี่กับสาวสวยตรงหน้านานกว่าที่คาดไว้แต่แรก

เขาหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลยื่นส่งให้

“อะไรกันคะ”

“เอาต้นฉบับส่งให้พิจารณาครับ”

ทัชฌาหยิบออกมาดูอย่างขบขัน “อย่าบอกเท็นนะคะว่าคุณนอตเขียนทั้งหมดนี่เอง”

“ทำไมครับ ผู้ชายเขียนนิยายก็ได้นี่นา ดูอย่างพายุสิ...น้องเขาเขียนเก่งออก”

“ไม่ได้เจตนาจะหมายความว่าผู้ชายเขียนไม่ได้ค่ะ แค่จะบอกว่าแบบคุณนอตน่าจะชอบแค่อ่านมากกว่าที่จะมานั่งเขียนเอง ก็เท่านั้น”

“คุณเท็นพูดเหมือนมานั่งอยู่กลางใจผมเชียว” น่านฟ้าทำตาปรอยอย่างคนถูกจับผิดได้ “อันที่จริงเป็นของทรายขวัญฝากมาส่งน่ะครับ แล้วยังบอกให้ผมตามเรื่องให้บ่อยๆด้วยเผื่อจะได้คิวอ่านไวๆ”

“ที่นี่ใช้เส้นพี่ชายไม่สำเร็จหรอกค่ะ แต่จะเร่งให้ อันที่จริงก็อ่านกันไวนะคะแต่ต้องทิ้งช่วงตอบนานเพราะอยากให้นักเขียนทำใจ”

สามเดือน...นั่นทำให้ทัชฌานึกไปถึงบทความต่อว่าต่อขานจากแสนยากร

ผู้ชายคนนั้นประณามการทิ้งช่วงทำใจเหล่านี้ใช่หรือไม่

มันอาจจะนานเกินไปเมื่อนึกว่านักเขียนในปัจจุบันส่งงานหนึ่งชิ้นได้แค่สำนักพิมพ์เดียว และบางทีนักเขียนก็อาจไม่ได้ต้องการเวลาทำใจอะไรมากมายขนาดนั้นหากงานไม่ผ่าน แต่คนตั้งกติกาคือสำนักพิมพ์ที่จะยื้อเวลาให้ไม่ต้องเร่งงานส่วนของตนเอง...หรือย่างไร...

ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อ บริกรก็ถือกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้

“มีคนเขาฝากไว้ให้คุณผู้หญิงที่โต๊ะนี้ครับ”

“คนฝากข้อความยังอยู่ไหมคะ”

“ไม่ได้เข้ามาในร้านครับ”

แค่เพียงเดินผ่าน ฝากข้อความแล้วก็จากไป...

ทัชฌาก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือแล้วก็หน้าเผือดซีดไร้สีสัน หล่อนผลุนผลันผุดลุกวิ่งออกจากร้านไปทันทีจนน่านฟ้าตกใจ

ชายหนุ่มเงอะงะยามหยิบธนบัตรหลายใบจ่ายโดยไม่รอเงินทอน

กระดาษต้นเหตุปัญหาแผ่นนั้นหล่นอยู่ข้างเก้าอี้ เขาไม่ลังเลที่จะหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านอย่างถือวิสาสะขณะเตรียมลุกตามไป ทว่าขาสองข้างของเขาราวกับถูกตรึงด้วยประโยคนั้น

คำถามสั้นๆที่เขียนด้วยลายมือตวัดเล่นหางราวกับอำพรางบางสิ่งเอาไว้...

“จำได้ไหมทัชฌา คุณ...เคย ‘ฆ่า’ ใคร!”



หล่อนหนาวสั่นราวกับจับไข้หนัก หูอื้อ สมองเหมือนมีค้อนรัวทุบกระหน่ำลงไปซ้ำๆช่างทรมานนัก ทัชฌาพยายามขดตัวเพื่อหวังเกาะเกี่ยวเอาไออุ่นบางเบาซึ่งหลงเหลือไว้ให้มารวมกันเพื่อต่อชีวิต แต่ดูเหมือนมันช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าที่คิดหวัง

เปลือกตาที่บางครั้งก็เปิดขึ้นแต่ภาพในจักษุกลับรางเลือนด้วยพิษไข้

...หล่อนไม่ได้ทำ...

...อย่างน้อยก็ไม่ได้เจตนาทำ...

หญิงสาวบอกตัวเองซ้ำซากอย่างไร้เรี่ยวแรง เสียงที่แว่วเข้าหูดังมาจากรอบกายคล้ายเสียงกระพือปีกหึ่งๆของแมลงนับร้อยๆตัว

“เป็นยังไงบ้างคะพี่บูร ดีที่ไปเจอเธอเข้านะคะ”

“หมอบอกไข้สูง เช็คตัวไปหลายรอบแล้ว...ติดต่อที่คนบ้านเท็นได้หรือยัง”

“พี่พิณกำลังพยายามติดต่ออยู่ค่ะ”

“ดูแลกันเองได้ใช่ไหม พี่บังเอิญติดธุระต้องรีบไป”

“กุ้งนางจะดูแลเท็นเองค่ะ” หล่อนอาสาอย่างเต็มใจ

ใครอีกคนที่เพิ่งเข้ามา กระซิบกระซาบอะไรเบาๆทำให้คนกลุ่มนั้นพากันออกจากห้องไปแบบไม่ให้เกิดเสียงรบกวน

ครู่ใหญ่ที่ทัชฌาดิ้นรนต่อสู้กับความอ่อนล้า ริมฝีปากหล่อนแห้งผากกระหายเผยอขึ้นอยากน้ำดื่มสักแก้ว เงาดำรางๆของร่างสูงก็ทาบมาบดบัง หล่อนสำเหนียกถึงมือแข็งแรงค่อนข้างเย็นที่เอื้อมมาช้อนคอยกศีรษะสูงพ้นหมอนเล็กน้อย ขอบแก้วบางแตะเข้ามาพร้อมน้ำที่ล่วงผ่านสู่ปลายลิ้นลงในลำคออย่างช้าๆ...

สัมผัสเหล่านั้นอ่อนโยนจนทำให้ไว้วางใจ

นัยน์ตาพร่าพรายของหล่อนทำให้ไม่อาจตอบที่มาที่ไปของคนใกล้ตัวได้แม้แต่จะจับยังใบหน้าอันเห็นเป็นภาพซ้อนกัน แสงไฟจ้าที่ส่องมาจากเพดานยิ่งทำให้ลำดับความได้ยากเย็นไปกันใหญ่ ทว่าเมื่อริมฝีปากชุ่มพอจะระงับความกระหายเหลือไว้เพียงความกังวลลึกล้ำรุนแรง

ทัชฌาจึงพยายามอีกครั้งที่จะถามเสียงแหบแห้งว่า

“คุณ...เป็นใคร...”

กิริยาต่างๆที่หยุดลงกะทันหัน

เสียงห้าวกระซิบแผ่วสั้นแนบหูเพียงว่า

“คุณจำผมไม่ได้จริงๆน่ะเหรอเท็น”

“เป็นคุณใช่ไหม...” หล่อนทำเหมือนคนละเมอเพ้อเพราะฤทธิ์ไข้

เขาผ่อนศีรษะหล่อนลงคืนหมอนก่อนยืนมองอยู่อีกอึดใจก่อนก้าวเดินออกจากห้องไป

ทัชฌาเสียอีกที่เป็นฝ่ายน้ำตาค่อยๆไหลรินหยดต้องหมอนจนเป็นวงชื้น ร่างสะอื้นตัวโยนด้วยความรู้สึกผิดที่โถมเข้ามากลางใจ

“อย่าไป--ได้โปรด...อคิน ฉันรักคุณ!”

หล่อนมั่นใจว่าเจ้าของแผ่นหลังนั่นได้ยินเสียงผะแผ่วที่เรียกหาราวกับวิงวอน

แต่ทุกบททุกตอนของเรื่องราวระหว่างทั้งสองก็ทำให้ทัชฌามั่นใจว่าวันเก่าๆไม่อาจย้อนกลับคืนได้อีก ความปวดร้าวในอกยิ่งทำให้น้ำตาร่วงริน สิ่งที่อคินเคยเป็นย่อมเจ็บปวดมากมายกว่านี้นับร้อยเท่าพันทวี

ทัชฌารู้ดีว่าหล่อนไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบได้เลย...ไม่มีทาง...
















 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2552
6 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2559 20:09:37 น.
Counter : 638 Pageviews.

 

พลอยสบายดีมั๊ยค๊ะ

 

โดย: fuku 5 กรกฎาคม 2552 6:39:15 น.  

 

นู๋พลอยสบายดีค่า แม่ข้าวปั้น
^ ^

 

โดย: ploy666 IP: 124.157.211.134 6 กรกฎาคม 2552 0:56:44 น.  

 

อคิน และ แสนยากร ต้องเป็นคนเดียวกันแน่เลย
เรื่องนี้ประมาณกี่ตอนจบคะ ลุ้นมากเลยค่ะ อยากทราบตอนจบ

 

โดย: peerisa IP: 124.120.122.157 6 กรกฎาคม 2552 14:20:33 น.  

 

แวะมาแอบสปอยล์คุณ peerisa แบบเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะว่าเรื่อง เงาบรรณ ยังไม่ได้แบ่งบทในครึ่งเรื่องหลัง (เขียนไปแบ่งไป--ประมาณนั้นแล หุหุ) แต่ที่ลงตอนนี้อยู่ประมาณหน้าที่ 60 ได้ค่ะ ^ ^

การจัดหน้าต้นฉบับกับตอนอัพลงอาจแตกต่างกันนิดหน่อยเพื่อให้อ่านง่ายนะคะ

ยังมีให้ลุ้นอีกครึ่งเรื่องค่ะ...ยังเขียนไม่จบ

เขียนไปพลอยเลยลุ้นตอนจบไปพลางๆเหมือนกันค่ะแม้จะเห็นโครงเรื่องหลักที่คาดการณ์ไว้ก็ตามที T^T

ถ้าประมาณแบบคร่าวๆสัก 30 บท(ในบล็อกนี้) น่าจะได้มั้งคะ...

 

โดย: ploy666 (ploy666 ) 7 กรกฎาคม 2552 16:02:52 น.  

 

กำลังลุ้นอยู่เลยค่ะ

 

โดย: รัลดา IP: 112.142.15.225 9 กรกฎาคม 2552 12:23:30 น.  

 

สวัสดีค่าคุณรัลดา กำลังจะอัพตอนใหม่อยู่เลยเชียว
ช่วงนี้เม้าส์เจ๊งค่ะ แง๊ๆ ...
ยังไม่สะดวกไปซื้อใหม่สักที แถมวันหยุดนี้ก็ไม่ได้อยู่บ้านอีก...ใช้คอมฯลำบากมากมาย

 

โดย: ploy666 (ploy666 ) 9 กรกฎาคม 2552 14:09:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.