Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

เงาบรรณ 06


คุยกันก่อนอัพ

ฝนซาแล้วค่ะ แต่ฟ้ายังคงหม่นอึมครึมเป็นพักๆ
เพื่อนสนิทอีกรายที่เป็นขาเม้าท์ส่งข่าวว่าจะไปบาเซโลน่า
จะไปดูทะเลสเปนว่าหน้าตาเป็นยังไง...555+
เดี๋ยวรอฟังข่าวอีกทีว่าหน้าตาเหมือนทะเลไทยไหมนะ
เพราะชาตินี้นู๋พลอยคงไปไม่ไหวค่ะ--ไกลเกิน

ว่าแล้วก็นะ...หาโปรแกรมไปใกล้บ้านดีกว่า
ร้านไหนมีของอร่อยๆหนอ วันหยุดนี้จะไปเซอร์เวย์แล้วล่ะ
เอ้า! ลุ้ย...

^ ^


Ploy666.




**************

เงาบรรณ 06
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



“ประชุมค่ะ สาวๆทุกคนสนใจพี่นานาหน่อย ป้าอ้นคะ...ขออนุญาตเริ่มประชุมนะคะ”

บรรณาธิการสาวยืนอิงสะโพกกับขอบโต๊ะพลางส่งเสียงเรียกร้องความสนใจจากใครต่อใครที่นั่งบ้างยืนบ้างอยู่ภายในห้องทำงานเดียวกันนั้น เครื่องปรับอากาศเปิดไว้เย็นฉ่ำ ทำให้ทุกสีหน้ามีแต่ความสดใสกระตือรือร้น

จะเว้นเสียก็เพียงรายเดียวที่นานาหันไปถามอย่างห่วงใยว่า

“เท็นประชุมไหวไหม หน้ายังซีดๆอยู่เลยนะเรา”

“ไม่เป็นไรค่ะ น้องๆอุตส่าห์มารวมตัวกันทั้งที” ทัชฌาแสดงความตั้งอกตั้งใจให้เห็นเด่นชัด

หล่อนเพิ่งฟื้นไข้หลังจากไม่สบายอยู่หลายวัน จึงรับทราบว่านานานัดหมายบรรดานักเขียนรุ่นเยาว์ของสำนักพิมพ์รวมไปถึงผู้รับผิดชอบการทำปกมาพูดคุยทำความรู้จักกันในวันนี้

“ทุกคนคงรู้จักพี่นานากับป้าอ้นแล้วนะคะ”
บรรณาธิการสาวเริ่มการแนะนำตัวอีกหน

“ส่วนนี่คือพี่เท็นเป็นผู้ร่วมงานอีกคนของเรา มาช่วยงานพี่นานาเองค่ะ คนนั้นก็น้องอัสสมา...เรียกน้องอั้มก็ได้...นักวาดปก ที่อื่นอาจจะมีนโยบายไม่ให้พบกันแต่พี่นานาไม่หวงทีมงานค่ะ คุยกันได้แต่อย่ากัดกัน เข้าใจนะคะ”

“น้อยหน่าก็พูดเกินไป ใครเขาจะกัดกัน” ป้าอ้นโบกมืออย่างขำๆ

“เห็นออกจะบ่อยค่ะป้าอ้น ก็นักเขียนอยากได้อย่างหนึ่ง คนวาดก็ทำได้อีกแบบหนึ่ง นานาไม่ว่าหรอกค่ะถ้าค่อยคุยถ้อยทีถ้อยอาศัย ต่างฝ่ายต่างต้องรับรู้ขอบเขตงานของตัวเองและไม่ก้าวก่ายล้ำเส้น ใจจริงนานาว่านักเขียนกับนักวาดรู้จักกันไว้น่ะดีเสียอีก มีอะไรก็ปรึกษากันง่ายขึ้น สำนักพิมพ์อยู่ตรงกลางคอยเป็นพี่เลี้ยงและควบคุมรูปแบบตามนโยบายการตลาดก็พอ รายละเอียดก็ให้เด็กๆเขาคุยกันเองไปซะ”

ไม่มีใครทำมาก่อน เพราะเกรงว่าจะเดือดร้อนและปัญหาก็มักมีจริงหากคนดูแลไม่เข้มแข็งต่อกติกามารยาทมากพอ

แต่สิ่งที่ทัชฌามองเห็นในขณะนี้กลับไม่ใช่ปัญหาในอนาคต หากแต่เป็นจิตวิทยาการผูกใจคน

นานาให้เกียรตินักวาดปกเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของทีมงาน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าคนทำจะไม่เทใจให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์...

“ตกลงพี่นานาชื่อเล่นว่าน้อยหน่าเหรอคะ”

คนเอ่ยปากถามพลางทำหน้างุนงงเป็นสาวน้อยวัยเพียงยี่สิบ รูปหน้าอิ่มกลมแต่คิ้วคมตาวาววะวับ หล่อนสวมเสื้อแจ็กเก็ตทับเสื้อยืดกับกางเกงยีนและดูทะมัดทะแมง ผมยาวลงมายังกึ่งกลางหลังซอยไล่ระดับทำสีน้ำตาลอ่อน

เพียงมองผาดๆทัชฌาก็เห็นเค้าความกระตือรือร้นในตัวผู้ร่วมงานรายใหม่ที่หล่อนเองก็เพิ่งรู้จักวันนี้

ทัชฌาอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นกิริยาหลับตาลงคล้ายกำลังพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจของนานายามถูกเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ก่อนที่บรรณาธิการสาวจะเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาว่า

“ถ้าไม่ใช่ป้าอ้น กรุณาอย่าเอ่ยคำว่าน้อยหน่าให้พี่ได้ยิน”

“เอ่อ...ค่ะ” อัสสมาทำตาปริบๆ

หนุ่มน้อยเพียงคนเดียวในห้องนั้นแทรกเสียงเจือหัวเราะขึ้นมาว่า

“ต่อเรื่องงานเถอะครับ ผมว่าถ้าเรื่องชื่อพี่นานาท่าทางจะต้องคุยยาว...ผมชื่อพายุ สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มวัยสิบหกปียกมือไหว้ไล่เรียงตัว

ใครอีกคนยกมือชูขึ้นเพื่อถามว่า

“ใช่น้องพายุที่เขียนแฟนตาซีกับคลังบุ๊คส์เมื่อปลายปีที่แล้วหรือเปล่าคะ พี่ติดตามผลงานอยู่น่ะค่ะแต่ยังไม่เห็นออกเล่มสอง...ยังรออยู่นะคะ”

“ครับ...แต่ย้ายบ้านมาสังกัดกิ่งฝันเรียบร้อยอย่างที่เห็น เพราะพี่นานาทาบทามตัวมา”

ทัชฌาไม่เคยพบปะพายุเป็นการส่วนตัว ตอนที่ยังทำงานในคลังบุ๊คส์หล่อนได้รับมอบหมายให้ดูแลหนังสือหลายเล่มแต่ไม่ใช่แนวแฟนตาซี

ทว่าประเมินจากสิ่งที่กรรบูรทำกับเด็กในสังกัด การโยกย้ายของพายุออกจะเบาไปเสียด้วยซ้ำ

หากเกิดการโวยวายขึ้น สำนักพิมพ์นั่นแหละจะเสียหายจากแฟนคลับที่รอคอยผลงานเด็กหนุ่มรายนี้

แต่พายุก็คงเหมือนนักเขียนทั่วไปที่อยากเดินอย่างมั่นคงโดยไม่พะวงกันเรื่องอื่น เลยทำลืมๆ

...ลืมได้จริงงั้นหรือ...

พายุเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าใคร และเขาก็ไม่ใช่รายแรกที่ถูกกรรบูร ‘สร้าง’ และ ‘ทำลาย’ ราวกับการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าอย่างไร้สามัญสำนึก!

นักเขียนอีกสองรายถูกแนะนำให้รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม

“นี่น้องฝ้าย...มิรันตี เคยมีงานตีพิมพ์กับรอยวาดค่ะ”

มิรันตีรีบออกตัวว่า “ฝ้ายแจ้งพี่นานาไว้แล้วนะคะว่าขอส่งที่เดิมด้วย เพราะฝ้ายแจ้งเกิดกับที่นั่นแล้วพี่ๆกองบรรณาธิการก็ดูแลฝ้ายค่อนข้างดีค่ะ...ฝ้ายไม่ทิ้งที่เก่า”

ป้าอ้นมีสายตาเอื้อเอ็นดูยามเอ่ยว่า

“ดีแล้วหนู พี่ๆเขาดีกับเราจะไปเลิกทำงานด้วยกันทำไม”

ทุกคนเข้าใจดีว่าสำนักพิมพ์รอยวาดจ่ายน้อย การที่นักเขียนจะหาแหล่งสร้างรายได้เพิ่มเติมเพื่อดำรงชีพจึงไม่ผิดแต่อย่างใด และต้นสังกัดเก่าของมิรันตีก็รับทราบข้อนี้ด้วยดีอย่างมีสปิริตน่าชื่นชม

รายสุดท้ายเป็นหญิงสาววัยใกล้เคียงกับมิรันตี หากแต่ไม่ได้มาทั้งชุดนักศึกษาอย่างเดียวกัน ภัทรธิดาสวมเสื้อขาวมีระบายสีฟ้ากับกระโปรงสั้นเคลียเข่า ดูสุภาพน่ารักทีเดียว

“น้องภัทรเพิ่งออกใหม่เล่มแรก รายนี้ยังไม่เคยลงโพสต์ออนไลน์หรือเผยแพร่มาก่อนนะ แต่งานที่ส่งมาเข้าตากรรมการอย่างพี่นานากับป้าอ้นก็เลยให้ผ่านค่ะ ใครอยู่มาก่อนก็ช่วยๆกันดูแลนักเขียนในสังกัดเดียวกันด้วยนะคะ นับจากนี้พี่ถือว่าพวกเราเป็นคนบ้านเดียวกัน มีอะไรก็มาพูดมาคุยกันได้ทุกเรื่อง” นานาบอกกล่าวชัดแจ้ง

ภัทรธิดายกมือไหว้อย่างเขินอาย แก้มสองข้างแดงก่ำ

ทัชฌาหันไปทางอัสสมาและพูดขึ้นว่า

“ในส่วนปกของเซตนี้พวกพี่ประชุมเรื่องรูปแบบไว้แล้วคร่าวๆ ถ้ายังไงเดี๋ยวอั้มคุยกับพี่เท็นนอกรอบอีกทีนะคะ”

“ได้ค่ะพี่...อั้มไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”

ป้าอ้นรีบลุกยืนเลยผายมือไปยังโต๊ะกลางห้องที่จัดเตรียมของว่างละลานตาเอาไว้

“พอสำหรับการแนะนำหน้าที่การงานดีกว่า ป้าอ้นหิวแล้วค่ะหนูๆ...มาจัดการหยิบจานกับช้อนส้อมตามสะดวก วันนี้เรากินไปคุยกันไปนะคะ”

เสียงเฮดังลั่นอย่างถูกใจ

ทัชฌากำลังจะลุกขึ้นไปสมทบแต่ช้ากว่ามือที่กดบ่าหล่อนให้นั่งลงเชิงบังคับ

“อะไรคะพี่นานา”

คนถามมองอย่างแปลกใจเมื่อกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งถูกยัดใส่มือมา

“พอดีมีนักเขียนอีกรายที่พี่สนใจอยู่น่ะเท็น ขอร้องล่ะ...ช่วยหน่อยสิ ถ้าทาบทามรายนี้ได้พี่ว่าสำนักพิมพ์เราสบายแน่นอน”

“ใครที่ไหนกันคะ...นี่...” ประโยคท้ายขาดหายโดยพลันเมื่อก้มลงอ่านคำซึ่งเขียนด้วยลายมือหวัดๆเอาไว้

ชื่อนักเขียนรายใหม่ซึ่งนานาต้องการให้หล่อนรับอาสาไปทาบทาม

ทัชฌานิ่งงันเหมือนมีบางสิ่งแล่นวาบเข้ามาสู่ร่างกายจนชาดิก

...หล่อนหนีเขาไม่มีวันพ้นเลยใช่ไหมนะ...

“คนนี้พี่ได้ยินข่าวมาพักหนึ่งแล้วก็เลยรวบรวมชื่อเว็บไซต์ที่มีกระทู้เกี่ยวกับเขามาให้เท็นเอง คนเล่นอินเตอร์เน็ตคงรู้จักกัน...พี่คงไม่ต้องเท้าความให้เท็นฟังแล้วล่ะนะ”

“พี่นานาอยากได้คนๆนี้เพราะเขาดัง หรือเพราะตัวงานเขาดีคะ” คำถามของหล่อนแผ่วนัก

นานาตอบอย่างไม่ลังเลว่า “พี่อ่านงานที่เขาเขียนแล้ว พี่ชอบ...แรงดีแถมมีแง่คิด”

นิสัยของนานาไม่แปลกเลยที่จะสบอารมณ์เมื่อเจอคนใจคอเด็ดเดี่ยวคล้ายๆกันและอยากร่วมงานด้วย คุณลักษณะของผู้นำซึ่งเห็นได้ว่าในอนาคตจะทำให้ใครหลายคนทึ่งจัด

ครู่หนึ่งที่นานาเริ่มจะจับได้ถึงความผิดปกติบนสีหน้าปั้นยากของผู้ร่วมงาน จึงถามไถ่อย่างอาทรว่า

“ทำไมเท็นทำหน้าเหมือนจะเป็นลมแบบนั้น สงสัยจะเริ่มไม่สบายอีกหรือเปล่า สุขภาพไม่ค่อยดีนะเราน่าจะไปให้หมอเช็คร่างกายเสียบ้าง”

“เท็นไม่เป็นไรค่ะ”

หญิงสาวเรียกสติกลับคืนก่อนยิ้มฝืนๆส่งให้พลางย้ำ “ตกลงพี่นานาอยากได้ตัวเขาแน่นะคะ เท็นจะได้ลองตามหาตัวแล้วก็ทาบทามดู”

“หวังว่าเท็นคงไม่เชื่อเรื่องเมลคำสาปที่ส่งมาให้คนที่ควานหาตัวนักเขียนคนนี้หรอกนะ”

“ไม่ค่ะ...เท็นไม่อยากเชื่ออะไรทั้งนั้น” หล่อนปฏิเสธทันควัน

มีหลายอย่างเหลือเกินที่หล่อนยังต้องการไม่เชื่อ...

“งั้นพี่ฝากด้วยก็แล้วกัน อีกสองสามวันก็พระจันทร์เต็มดวงแล้วนี่นา ถึงพี่จะไม่เชื่อเท่าไหร่ว่าจะมีเว็บไซต์ไหนโผล่มาได้เฉพาะวัน ยังไงเราก็ต้องลองล่ะนะ ถ้าได้คุยกับเจ้าของนิยายเรื่องเงาบรรณเมื่อไหร่ บอกเขาว่าไปเลยว่าเราอยากตีพิมพ์และพร้อมรับทุกเงื่อนไข!”

คำสั่งสุดท้ายของนานาทำให้ทัชฌายกมือทาบลงกลางอก

หัวใจหล่อนกำลังจะหยุดเต้นหรือไร...

ใจหนึ่งหล่อนอยากพบเขา แต่อีกใจกลับหวั่นไหวจนเผลอนึกภาวนาให้ผู้ชายที่ใช้นามแฝงว่า ‘แสนยากร’ นั้นลึกลับจริงดังข่าวลือ ไม่มีใครตามพบได้เลยตลอดกาล

มือที่ถือกระดาษจดข้อความเล็กขยับไล่ปลายนิ้วไปยังชื่อเว็บไซต์

...คืนฝันกลางจันทร์...

คำๆเดียวกันนั้นที่เต้นโลดอยู่บนปกนิยายสั่งพิมพ์เองเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มสำคัญที่ทัชฌาจงใจเก็บงำไว้มิดชิดและไม่เคยนำออกมาให้ใครเห็น

แต่จนบัดนี้หล่อนก็ยังไม่รู้เลยว่านั่นเป็นของขวัญที่ได้รับเนื่องในการพบกัน

...หรือคนมอบให้เจตนาใช้กล่าวแทนคำอำลา



ต้นกล้ามองชื่อคนที่มาทักทายใหม่ก่อนยิ้มอย่างสมใจ

แฟนคลับล่ะสิท่า...นี่ขนาดเขาเพิ่งแปะปกโชว์ไปนะ ยังไม่ได้แจ้งกำหนดวางขายยังแห่กันเข้ามาแสดงความยินดี

เด็กหนุ่มวัยสิบห้าพองโตในหัวใจเหมือนโลกกลายเป็นบอลลูนฝันอันสวยงามยามทักกลับไปว่า

“สวัสดีครับพี่พรรณรังสี”

“สวัสดีค่ะ เรียกพี่หนิงก็ได้นะคะ เห็นบอกเป็นนักเขียนใหม่ของคลังบุ๊คส์ใช่ไหมคะ...เก่งจัง”

อีกฝั่งหยอดคำชมมาตามนั้น จะไม่ให้เขายินดีสนทนาสืบต่อได้อย่างไร

“ผมชอบเขียนแนวใหม่ๆน่ะครับ ไม่ชอบอะไรซ้ำซาก”

“ต้นกล้าทำงานกับบรรณาธิการคนไหนคะ เผื่อพี่จะรู้จัก อันที่จริงในวงการนี้พี่รู้จักผู้ใหญ่ของสำนักพิมพ์หลายที่เชียวแหละ”

แม้จะแปลกใจแต่ต้นกล้าไม่อยู่ในวิสัยจะเลี่ยงตอบในเมื่อไม่ใช่ความลับอะไร

“พี่บูร ครับ... บ.ก. กรรบูร”

“เอ๊ะ! คนเดียวกับที่ดูแลงานของพายุหรือเปล่าคะ”

“รู้จักพี่พายุด้วยเหรอครับ”

“พี่รู้จักนักเขียนหลายคน”

เจ้าตัวกลับไม่ตอบตรงคำถามมากนัก หากแต่เลี่ยงพลิ้วอย่างสวยงามเพิ่มความน่าเชื่อถือของตัวเองไปว่า

“อย่างเมี่ยงคำนี่ก็รู้จักนะ...ของสำนักพิมพ์เขียนลักษณ์...เธอดัง ต้นกล้ารู้จักบ้างไหม”

พอโดนโยนกลับมาเช่นนั้นครั้นจะตอบว่าไม่รู้จักเลยก็คงจะโกหก

“เคยผ่านตาเหมือนกันครับ แต่ไม่เคยคุย”

“พี่คุยบ่อย อย่างน้องฝ้าย...มิรันตี ที่พิมพ์งานกับรอยวาดนั่นพี่ก็สนิท คุยกันเรื่องดูหนังฟังเพลงประจำ คอเดียวกัน”

ต้นกล้าแอบทึ่งในใจ

จะว่าไปแล้วเขาก็เป็นนักเขียนมือใหม่ เพิ่งมีโอกาสพิมพ์เล่มงานกับสำนักพิมพ์ แม้จะมีเพื่อนที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนอยู่บ้างแต่ส่วนมากก็ไม่กว้างขวางคบกันเองแค่ในกลุ่ม จึงอดไม่ได้ที่อยากจะทำความรู้จักคู่สนทนามากกว่านี้

เมื่ออีกฝ่ายเกริ่นนำมา เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากระโจนลงหลุมพรางที่ดักล่อไว้เกือบจะทันที

“เตรียมตัวสัมภาษณ์หรือยังล่ะ”

“สัมภาษณ์อะไรครับพี่”

“อ้าว...นิยายออกเขาก็มีสัมภาษณ์ลงเว็บสำนักพิมพ์สิ ทีนี้ล่ะต้องตอบคำถามดีๆว่าแรงบันดาลใจอะไรพวกนี้มาจากไหน แล้วก็อย่าลืมหารูปหล่อๆแปะนะ ของคลังบุ๊คส์นี่ดีไม่ดีมีเขียนเชียร์โปรโมทหนังสือใหม่ลงสำนักพิมพ์ด้วย”

“ผมไม่เคยรู้เลยครับ นี่เพิ่งทราบกำหนดพิมพ์”

“นั่นแหละ เตรียมตัวเอาไว้”

ต้นกล้าปลาบปลื้มกับภาพฝันที่ตัวเองจะโด่งดังจนลืมใส่ใจที่มาของคนส่งข่าวสาร

คำว่าถูกสัมภาษณ์ช่างฟังดูดี...

“พี่เองก็ทำเว็บไซต์ นี่เริ่มเปิดให้บริการแล้วว่าจะขอสัมภาษณ์เราสักหน่อย คนที่จะสัมภาษณ์นี่ก็คัดมาแต่คนที่เขียนงานมีคุณภาพทั้งนั้น”

งานเขียนมีคุณภาพแบบไหนกันที่พรรณรังสีคัดสรร ในเมื่อแม้แต่ตัวอักษรเดียวของต้นกล้าเขาก็ยังไม่เคยผ่านตา

แต่ในบทสนทนาวันนั้นเด็กหนุ่มมีแต่ความดีใจในความสำเร็จอีกขั้นของตนเองจนลืมคิดใคร่ครวญ

“เว็บพี่ไม่มีหาผลกำไรนะ ถือว่าช่วยๆกันโปรโมท สนใจส่งนิยายมาลงโพสต์ไหมล่ะ พี่ไปทาบทามนักเขียนมาหลายคน...รีบมาจองที่นะ พี่อยากให้พวกเราช่วยๆกัน อีกหน่อยพี่จะทำนิตยสารออนไลน์ให้โหลดข้อมูลข่าวสารวงการนักเขียนไปอ่านฟรีๆอีกด้วย พี่เคยทำอยู่พักหนึ่งยอดดาวน์โหลดสูงลิ่วจนใครๆพากันตกใจว่าพี่ทำได้ยังไง”

“ดีจังครับพี่ มีอะไรก็บอกได้ ผมจะให้สัมภาษณ์ทุกอย่างเลย”

“พี่อยากได้อีเมล บ.ก.บูรด้วยน่ะ จะได้ลงคู่กันไง สัมภาษณ์บรรณาธิการกับนักเขียนชื่อดัง”

“ผมมีอีเมลพี่บูรครับแต่ไม่รู้เขาจะยอมให้สัมภาษณ์ไหม ยังไงพี่หนิงลองติดต่อดูนะ...ผมเอาใจช่วย”

อีเมลแอดเดรสถูกแจกไปอย่างกระตือรือร้น

พรรณรังสีรีบออกตัวว่า “พี่ทำเว็บไซต์ไปเนี่ยเงินทองอะไรก็ไม่ได้หรอกนะ อาศัยว่าทำเพื่อน้องๆ ทำด้วยใจจริงๆ อยากให้วงการเขียนพัฒนาเสียที ถ้าเรามารวมกลุ่มกันมันก็น่าจะดีกว่าต่างคนต่างไปอัพนิยายลงตามเว็บบอร์ดอื่นใช่ไหมล่ะ”

“ครับ”

คิดแต่เพียงว่าดีเสียอีกที่ได้โปรโมทผลงานในอีกช่องทางหนึ่งผ่านเว็บไซต์

ต้นกล้าไม่รู้เลยว่าเขาจะจำทุกถ้อยคำในวันนั้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

...เว็บไซต์พี่ไม่หวังผลกำไร...

...ทำเพื่อน้องๆ ทำด้วยใจ...

...มุ่งหวังพัฒนาวงการเขียน...

คนๆเดียวกันนี้เองที่วันหนึ่งจัดแจง ‘ขาย’ ทุกคนที่รู้จักเพียงเพื่อ ‘เงิน’ ตัวเดียว!

















 

Create Date : 12 มิถุนายน 2552
6 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2559 20:06:03 น.
Counter : 647 Pageviews.

 

ง้า....วันนี้ไม่ตอบเม้นเหรอออออ

 

โดย: Tukta21 12 มิถุนายน 2552 20:18:49 น.  

 

อ้อ ลืมถามว่าหายป่วยอ๊ะยาง ดูแลตัวเองนะ

แล้วก็ เซกิกับหนูนาตอนที่15 มาแว้วววค่า

 

โดย: Tukta21 12 มิถุนายน 2552 20:21:20 น.  

 

ยังตามอ่าน...ได้รู้ว่าอ้อ ตอนเขาทำงาน เขาคุยกันอย่างนี้นี่เอง สำนักพิมพ์น่ะ

ปล.หายป่วยไวๆ นะน้องพลอย

 

โดย: อะเดล IP: 116.58.231.242 12 มิถุนายน 2552 22:44:24 น.  

 

มอลลี่ ตอบเม้นท์นั่นเฉพาะของรักดีมั้ง
ตอบทิ้งท้ายตอนอัพใช่ไหมคะ คริคริ

เดี๋ยวไปจ๊ะเอ๋ เซกิกับหนูนา(รุมิ) จ้า

*********
พี่อะเดลคะ เวลาทำงานคงแล้วแต่สไตล์มั้งคะ
แต่พอดี "กิ่งฝัน" สมมุติให้มันเล็กๆเลยอยู่แบบอบอุ่นหน่อยน่ะค่ะ
^ ^

เข้าใจว่าถ้า สนพ. ใหญ่ๆคงใช้ "ภาษาธุรกิจ" สนทนากันภายใน...มั้งคะ

...แต่ที่แน่ๆ ภาษาของ พน. ค่อนข้างมาตรฐานค่ะ 55+

 

โดย: ploy666 IP: 124.157.201.183 13 มิถุนายน 2552 20:27:46 น.  

 

นางเอกมีความหลังอะไรกับแสนยากรเนี่ย?

แหม ... พรรณรังสียังร้ายไม่เลิกเลยแฮะ ... มันน่าเหนี่ยวจริงๆ

 

โดย: อ้อ IP: 203.150.210.151 25 มิถุนายน 2552 8:11:57 น.  

 

เชียร์อ้อได้ป่ะ ลุยกับพรรณรังสีเลยค่ะ สู้ๆ
(ซะงั้น)

 

โดย: ploy666 IP: 124.157.207.220 25 มิถุนายน 2552 19:07:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.