ห่างหายไปกับการ up blog ไปนานที่เดียว ก็ด้วยสาเหตุเดิม ๆ กับชีวิต ที่วุ่นวาย อยู่กับงาน ๆ ๆ อยากจะบอกว่า เดือนกุมภา ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่รู้สึกว่ากดดัน และเครียดเกี่ยวกับการทำงานมากที่สุดในชีวิตการทำงานมา 7 ปี มันเหมือนโดนคลื่น ลูกแล้ว ลูกเล่า ถาโถมเข้าใส่ ทั้ง ๆ ที่ก็พยายามบอกกับตัวเองอยู่เสมอ ลูกพ่อขุน ท้อได้แต่อย่าถอย ความทุกข์ ที่เกินทนจะหลอมคนให้ทนทาน งานหนักไม่เคยฆ่าคน ความอดทน คือสิ่งที่ขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นอยู่เสมอ ที่เอามาจากบ้านพี่ บ้านน้องใกล้ ๆ
แต่ความอดทนของคนก็มีขีดจำกัด แล้วในที่สุดความอดทน ก็สิ้นสุดลง เคยมั้ย เช้าวันจันทร์ กับความรู้สึกที่ไม่อยากไปเริ่มงาน ทั้งๆ ที่ก็พยายามข่มความรู้สึกแล้ว ไม่ใช่เพราะทำงานไม่ได้ แต่ไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว ไม่อยากหลอกตัวเอง หรือพยายามฝืนเพราะอะไรก็ตามที่ทำด้วยความจำใจ ผลมันจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่หรอก พูดกับตัวเองอยู่เสมอ
แล้วก็รู้ว่า Short clock ของตัวเองสำหรับการทำงานที่นี่มันหมดลงแล้ว ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่ดีนะ ดีที่เดียว และดีกว่าทุก ๆ ที่ ที่ผ่านมาโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงาน ยังอยากอยู่กับทุก ๆ คน เจอกันมากว่า 2 ปี สัปดาห์ละ 6 วัน วันละกว่า 11 ชม. ไม่ใช่คนในครอบครัว ก็เหมือนคนในครอบครัว ก็นั่นแหล่ะนะ มันไม่มีที่ไหนที่จะ PERFECT ไปทุกอย่าง แต่ทุกวันนี้ เหนื่อย ๆ นะ เหนื่อย ที่เห็นคนเก่ง และ คนมีความสามารถเข้ามาทำงานและก็ออกไป ทั้ง ๆ ที่ทำงานด้านนี้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้
ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแล้วนะว่า จะ ต่อ ป.โท ซึ่งต้องเรียนอีก 2 ปีเป็นอย่างน้อย ถ้าต้องทนอีก 2 ปี คงเป็นสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของตัวเองสุดๆ............ แล้วผมก็หางาน หนึ่งวัน หลังจากสมัคร ก็เรียกสัมภาษณ์ หลังสัมภาษณ์ หนึ่งวัน ก็ได้คำตอบว่า เรารับคุณเข้าทำงาน มันเป็นการสัมภาษณ์ที่ดูจะตื่นเต้นน้อยที่สุดในชีวิต ทั้งๆที่สัมภาษณ์กับ Consult ที่เป็นดอกเตอร์ร่วมกับเจ้าของ อาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่ 2 ปีกว่าที่ทำงานหนักและทุ่มเท ว่าไปแล้วนี่คงเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ได้จากที่นี่ นั่นคือการมอบงานในตำแหน่งใหม่ในที่ทำงานใหม่ กับจำนวนวันทำงานที่น้อยลง ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้กับผม กับระยะเวลา 2 ปีกว่า ถ้าไม่มีที่นี่ ผมก็คงไม่มีโอกาสกับตำแหน่งงานใหม่ที่จะไปเริ่ม กับเวลาที่เหลืออยู่ อีก 27 วัน ผมจะทำให้ดีที่สุด
แต่เรื่องเรียนก็ยังไม่ทิ้งนะ โชคดีที่ที่ใหม่โอเคกับเรื่องเรียน
อยากบอกว่าเสียใจกับ การขอร้องให้อยู่ต่อของลูกน้องและเพื่อนร่วมงาน แต่เราทำตามที่เขาร้องขอให้ไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ครั้งหนึ่งเราก็เคยขอเขามาแล้ว มันเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัว แต่นั่นละ แต่ละคนมีเส้นทางเดินของชีวิตเป็นของตัวเอง เมื่อผมตัดสินใจแล้ว ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าต่อไป แต่ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเส้นทางข้างหน้าต่อจากนี้จะดีหรือร้าย แต่ที่รู้คือ บทเรียนใหม่สำหรับผมกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งกับการทำงานที่ท้าทายขึ้น ผมจะทำมันให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาบวกหรือลบ ผมจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ ชีวิตที่ผมลิขิตเอง...
อ่านมาทั้งหมดแล้วนี่คือข้ออ้างในการหาที่ทำงานใหม่ใช่หรือไม่ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเสี่ยงกับการเปลี่ยนงานและการเริ่มต้นใหม่หรอกครับ
Create Date : 22 มีนาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2551 16:07:37 น. |
Counter : 1001 Pageviews. |
|
|
ก็แค่เลี้ยงชีวิต แต่ไม่ได้สร้างชีวิต
ใส่เรื่องสร้างชีวิต..ไว้ในชีวิตประจำวันบ้าง
คนที่ไม่มีเป้าหมาย..ต้องทำงานให้คนมีเป้าหมายไปตลอดชีวิต..
เป้าหมาย คือความฝันที่มีระยะเวลากำหนด
ความฝัน คือเป้าหมายที่ไม่มีระยะเวลากำหนด
อย่าสอนหมูให้ร้องเพลง
งานที่ชอบ..ตอบโจทย์ชีวิตได้จริงหรือ
หมากรุกยังต้องคิด..หมากชีวิต ไม่คิดได้ไง
ถ้าเสียเวลาเถียงกับพวกงี่เง่า..ที่ตรงนั้นจะมีพวกงี่เง่าอยู่2คน