คาเมนไรเดอร์ คิบะ ตอนที่ 10

คาเมนไรเดอร์ คิบะ ตอนที่ 10 : เสียงดนตรีที่หล่อเลี้ยงชีวิต จากตอนที่แล้ว โอมูระ (ที่ไม่ใช่ประธานมุราคามิแห่งสมาร์ทเบรนนะ เหอๆ) ช่างไวโอลินที่มีชื่อเสียง ได้มาพบวาตารุ เพราะเคยรู้จักกับพ่อของวาตารุมาก่อน ได้มาสอนการทำไวโอลินให้กับวาตารุ แต่ว่าตัวจริงของเขาก็คือ ฟรอกแฟงไกอา ซึ่งในปี 1986 เป็นแฟงไกอาที่ไล่ทำร้ายคนที่เป็นเจ้าของไวโอลินที่มีชื่อเสียง แบล็คสตาร์ แต่ในปี 2008 เขาดูท่าทางปรากฎตัวแบบเป็นมิตร แต่ว่าดูจะเกลียดเสียงอึกะทึกครึกโครมของโลกภายนอกมาก และเขาก็ต้องมาเผชิญหน้ากับนาโก ที่แปลงร่างเป็นไรเดอร์อิกสะได้ และกำลังกำจัดเขา แต่ในตอนนั้นวาตารุก็มาขวางไว้ แล้วฟรอกแฟงไกอาก็หนีไปได้ นาโกหัวเสียมากกับการกระทำของวาตารุ ไอ้มารคอหอย บทตูจะโชว์เทพดันมาขวาง ถือว่าเป็นพระเอกเรอะ กลับมาที่ปี 1986 โอโตยะซึ่งรู้ความจริงว่าจิโร่แท้จริงคือปีศาจหมาป่า การูลู พยายามจะบอกทุกคนไม่ว่าเป็นยูริ , ชิมะ หรือ มาสเตอร์ แต่ว่าด้วยความที่ทุกคนเหม็นหน้าป๋าขี้หลี เลยไม่มีใครเชื่อ หาว่าโอโตยะพยายามใส่ความ พอจิโร่เข้ามาก็เลยมีการหาเรื่องกันหน่อย แล้วก็โดนจิโร่บีบซอสมะเขือเทศยัดหน้าเพื่อไล่ไปให้พ้นๆ จะบอกความลับให้ ไอ้หมอนี่ตอนปี 2005 มันตายแบบโชว์ตูดด้วยล่ะ กลับมาที่ปี 2008 วาตารุยังคงเรียนการทำไวโอลินเป็นปกติ แม้ว่าทั้งคู่จะรู้ตัวจริงของกันและกันแล้วว่า วาตารุคือคิบะ และโอมูระคือแฟงไกอา โอมูระจึงยอมที่จะเล่าความหลังของตัวเขาเอง ที่เกี่ยวข้องกับไวโอลินแบล็คสตาร์ (รายละเอียดต้องดูจากซับนะครับ เป็นไปได้ว่าแบล็คสตาร์คือไวโอลินที่โอมูระเคยทำ แต่ไม่อยากให้มนุษย์หน้าไหนไปเล่น) ที่ลาออกจากสมาร์ทเบรนเพราะทางบริษัทไม่มีนโยบายทำไวโอลินน่ะครับ กลับมาที่ปี 1986 ยูริกำลังใช้แบล็คสตาร์เพื่ออ่อยเหยื่อล่อแฟงไกอาออกมา โอมูระก็ออกมาตามคำเรียกร้อง เมื่อเข้าต่อสู้กับยูริ โอโตยะก็โผล่มาช่วยแต่ทั้งคู่ก็โดนตบกลิ้งตามเดิม ตอนนั้นพอจิโร่เข้ามาช่วย ฟรอกแฟงไกอาก็หนีไป (รู้นี่ว่าไอ้นี่เป็นหมา) โอโตยะหายตัวไป แต่ไม่ได้หายเปล่าเพราะป๋าขี้หลีกลับใช้แผนสับเปลี่ยน แฮบเอาแบล็คสตาร์ไปซะแล้ว ทิ้งของปลอม (สุดๆ) ไว้ให้พวกยูริกับจิโร่แทน แผน 18 มงกุฎของป๋าเหลือร้ายจริงๆ เอาของเล่นมาใส่แทน จิโร่ตามติดเจ้าป๋าหวังไปชิงแบล็คสตาร์คืน แต่ว่าป๋าเราไม่หวั่นแม้รู้ว่าจิโร่มันแปลงเป็นหมาได้ ตอนนั้นจิโร่ก็บอกว่ามันเป็นมอนสเตอร์แต่ไม่ใช่พวกแฟงไกอา (จากตอนที่แล้ว จิโร่จะคุยกับพวกรามอนและริกิว่า เผ่าพันธุ์ของทั้งสามถูกแฟงไกอาทำลายไป ดังนั้นจะล้างแค้นคืน โดนยืมมือมนุษย์ แต่ว่าเผ่าพันธุ์ของทั้งสาม ก็เป็นพวกที่กินวิญญาณมนุษย์เป็นอาหารเช่นกัน) เมื่อเคลียร์กันไม่ลง ป๋าก็ทำการโชว์เทพชิงอาวุธมาขู่เจ้าจิโร่ไว้ได้ แต่ก็ไม่ลงมือต่อ จิโร่จึงยอมปล่อยป๋าไปแต่โดยดี (บทจะเก่งก็เก่งแฮะ พอจะเกรียนนี่ก็เกรียนได้ใจ ป๋าของเรา) อะโท่ ไม่เอาจริงเฉยๆ ที่จริงป๋าน่ะระดับเทพ โอมูระตามโอโตยะไปถึงบ้าน ตอนนั้นป๋าคิดจะทำลายแบล็คสตาร์ทิ้งแต่ก็เปลี่ยนใจ จนในที่สุดพอทั้งสองเริ่มรู้จักกัน โอมูระได้ขอฟังเพลงจากไวโอลินของป๋า บลัดดี้โรส ซึ่งพอเขาได้ยินเสียงไวโอลินก็ถึงกับอึ้ง เพราะเหมือนจะถูกสะกดไปทั้งวิญญาณ ยังได้มีการอัดเก็บไว้ฟัง ซึ่งในปี 2008 ก็เอามาให้วาตารุฟังด้วย (ในยุค 1986 สงสัยจะใช้เทปอัด) สุดท้ายโอมูระเลยบอกกับโอโตยะว่า เขาจะนำแบล็คสตาร์ไปทิ้ง และสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายมนุษย์ โดยเขาจะใช้เพลงของโอโตยะที่ฟังอยู่เป็นสิ่งล่อเลี้ยงจิตใจของเขา ไม่ให้ไปบ้าคลั่งอาละวาด ผมว่าเอาไปขายดีกว่านะครับ ไม่ต้องทิ้ง เอาทุนไปซื้อก๊อดมาร์สน่าจะดี นี่รึเพลงที่เราร้องเอง มันไปติดโอริค่อนชาร์ทได้ไงฟะ โอมูระที่จะนำแบล็คสตาร์ไปทิ้งก็ถูกยูริและจิโร่สะกดรอยจนพบ ตามสัญญาต่อโอโตยะ เขาจึงไม่แปลงร่างเป็นแฟงไกอา เกือบจะโดนจิโร่ยำตรีนจนน่วม ป๋าโอโตยะก็ออกโรงมาช่วยไว้พอดี ทำให้โอมูระหนีไปได้ หาเรื่องคนไม่มีทางสู้ เดี๋ยวจะไปฟ้องทั่น มท.1 นะจะบอกให้ และแล้วโอมูระก็ทำตามสัญญา ได้นำแบล็คสตาร์ไปถ่วงน้ำที่กลางทะเลสาบแห่งหนึ่ง ไม่น่าไปพนันเลยว่าทีมชาติไทยจะชนะ ซวยเลยตู กลับมาปี 2008 วาตารุได้นัดนาโกไปคุยกัน วาตารุพยายามจะอธิบายเรื่องของโอมูระ คือให้นาโกไว้ชีวิตแฟงไกอาไว้ซักตัว เพราะอาจจะมีตัวที่ไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่ว่านาโกก็ปฏิเสธ เพราะถือว่าแฟงไกอาทุกตัวคือสิ่งชั่วร้าย ไม่มีข้อยกเว้นในการที่จะต้องกำจัดทิ้ง ที่จริงกะเรียกมาให้เลี้ยงข้าวน่ะครับ สิ้นเดือนเริ่มแกลบ โอมูระในปี 2008 ต้องพบกับความยากลำบาก เพราะแม้จะใช้เสียงเพลงของโอโตยะที่อัดไว้เพื่อกล่อมตัวเอง แต่ว่าก็เจอเสียงรบกวนจากมลพิษต่างๆมากมาย (แล้วทำไมมันไม่ไปหลบอยู่ในป่า หรือที่เงียบๆไกลๆเมืองหว่า) ตอนนั้นหูฟังของเครื่องเล่นเพลงก็หลุดออก นาโกมาพบพอดีก็เข้าไปเหยียบทำลายหูฟัง ทำให้ตอนนั้นโอมูระที่ไม่ได้ฟังเพลงต้องเกิดอาการบ้าคลั่ง ไอ้พวกใช้ของก๊อป ต้องโดนเหยียบทิ้ง พอโอมูระบ้าคลั่งกลายเป็นฟรอกแฟงไกอา ไล่ทำร้ายคนงานในบริเวณก่อสร้าง วาตารุที่รู้สัญญาณของแฟงไกอาจากไวโอลินบลัดดี้โรส ก็ต้องจำใจออกมาดู และได้แปลงร่างเป็นคิบะ พยายามจะห้ามโอมูระไว้แต่ก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจใช้ท่าไม้ตายที่ไม่ได้แสดงมาแล้วหลายตอนนั่นคือ ดาร์คเนสมูนเบรค แต่ว่าคิบะกลับเตะวืดไป เหมือนเพื่อเป็นการเตือนให้โอมูระคืนสติ อย่าทำตัวเป็นม๊อบรับจ้างสิครับ อาละวาดมั่วอายเขานะครับ ขว้างนกหวีดไปให้งับก็ได้ คิบัตนี่เจ๋งจริงๆ ไม่ได้แกล้งเตะวืดหรอกครับ แค่อยากประทับตราเล่นๆ โอมูระเมื่อคืนสติได้ เขาก็ไปยังทะเลสาบที่เขาถ่วงแบล็คสตาร์ไว้ แต่ว่าที่นั่นเขากลับได้พบกับนาโก และก็แน่นอน นาโกแปลงร่างเป็นอิกสะ และทำการโชว์เทพ ยำใหญ่ฟรอกแฟงไกอาจนสิ้นชีพด้วยท่าไม้ตายของอิกสะ อิกสะ จัดจ์เมนท์ Ready in ! Fist On !! โชว์เทพ 1 โดนยิงยังเฉย โชว์เทพ 2 อิกสะคาลิเบอร์ กันโหมด โชว์เทพ 3 อิกสะคาลิเบอร์ ซอร์ดโหมด นี่คือการใช้ท่าไม้ตาย อิกสะ จัดจ์เมนท์ (Ixa Judgement) เลือกนกหวีดมาก่อน อย่าหยิบผิดล่ะ ใช้วิธีเสียบเข้าหัวเข็มขัดแบบคิบะ แต่มีการกดที่อิกสะนัคเคิลตรงด้านข้างด้วย ช่วงนี้จะมีคำพูดยาว แต่เนื่องจากเป็นเสียงยังกะ คอมพิวเตอร์โบราณ เลยฟังไม่ออก (สงสัยระบบของปี 1986 แน่ๆ ยุคนั้นมีแต่คอมพ์รุ่น 8088) แบล็คกราวน์คุ้นๆตา นี่มัน..ช.ชาลีบัน ครัช ดูกันแบบเวอร์ชั่นเต็มในตอนนี้ เพราะตอนต่อไปรับรองจะตัดลง จากนั้นก็ขอเก๊กหล่อ เดินจากไป ก่อนที่โอมูระจะตาย วาตารุก็ได้มาพบพอดีและเขาก็ได้สั่งเสียทิ้งไว้ ก่อนที่จะเดินจากไปสลายร่าง เศษร่างของเขาที่สลายก็ร่วงหล่นลงสู่ก้นบึ้งของทะเลสาบ ลงไปหลับไหลอยู่กับแบล็คสตาร์ที่นอนรอเจ้าของมันที่นั่นเอง ไม่ต้องห่วงครับ ตอนเป็นออลเฟน๊อกซ์ก็ตายมาแล้ว แบล็คสตาร์จมในน้ำมา 22 ปี สีไม่ลอก ไม้ไม่พุ สีทนได้จริงๆ ตอนต่อไปท่าทางสนุกแล้วครับ ไรเดอร์จะตีกันเอง อิกสะได้แมงกะไซค์ใหม่ อิกซาเลียน (Ixalion) ควบมาอัดคิบะทันที โอ .. กระหน่ำยิงคิบะซะด้วย

Create Date : 30 มีนาคม 2551		8 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2551 16:29:56 น.
Counter : 3214 Pageviews.
Share Tweet