...ไหว...ไหว...ยอดหญ้าส่าย ในป่าฝน....เพียงยอดหญ้าไหว ที่บ้านปลายฟ้า.......
ประตูบานที่หนึ่งข้างซ้ายที่สั่นไหว




หนังสือเล่มเล็ก "ห้องของความรัก" จากสำนักพิมพ์ ' วตา หนังสือเล่มที่ฉันเคยสงสัยว่า เขามีหนังสือวัยรุ่น วัยหวานนี้อยู่ในแฟ้มผลงานเก่าๆได้อย่างไร จนกระทั่งฉันพลิกเข้าไปดูข้างในว่าใครเขียน ใครวาดภาพประกอบ ฉันจึงเข้าใจ และเก็บงานนี้ไว้อย่างดีอีกครั้งในแฟ้มเก็บงานเก่าที่ฉันตัดเก็บรวบรวมไว้จากนิตยสารต่างๆ

หนังสือเล่มเล็กที่เก็บอยู่ในลิ้นชักกาลเวลา วันนี้ฉันเปิดออกมาตามหาเรื่องราวภายใน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเขียนข้างใน แต่เป็นภาพที่อยู่ในนั้น



"ปะการัง" ปรากฏตัวขึ้นมาในวันหนึ่งที่บล๊อค "พ่อพเยีย" กลับมาแล้วพบว่ายังมีคนร่วมวงการรำลึกทั้งที่เวลานั้นล่วงผ่าน บางคนสูญหาย บางคนเพิ่งกลับมา บางคน "ปะการัง" อยู่ในความทรงจำเสมอ

ประตูบานเล็กๆ จากบ้านพ่อพเยีย เปิดเพลงฝากรักฯ ของสุชาติ ชวางกูร ซึ่งมีคุณณรงค์ฤทธิ์ เป็นคนเขียนคำร้อง.....ประตูเปิดไว้หลายวันแล้ว แต่ฉันไม่ใช่นักอ่านที่ดีจึงไม่รู้จักใคร ไม่ได้อ่านผลงานของนักเขียนคนไหนทั้งเรื่องสั้น นิยาย ในสิบปีที่ผ่านมา..ฉันจึงไม่รู้จักใคร

ฉันจึงอ่าน "ปะการัง" สนทนากับใครๆอย่างผ่านเลย
"นั่นพี่ฤทธิ์นี่นา" เขาชะโงกหน้ามาในประตูในวันหนึ่ง
"ใครหรือ....?" ...........คือคำถาม


"ห้องของความรัก" หนังสือเล่มเล็กนั้นคือคำตอบ.......หนังสือเล่มเดียวที่เป็นผลงานวาดภาพประกอบของเขาเมื่อครั้งยังทำอยู่กับสำนักพิมพ์ ' วตา แม้ไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด ทั้งมวล แต่เปิดประตูหัวใจใครบางคนขึ้นมาได้......


ไม่ใช่การผจญภัยอันยิ่งใหญ่....ไม่ใช่การเดินทางอันเลิศหรู และอาจไม่ใช่ความทรงจำที่ตราตรึงใจ แต่เป็นวันเวลาที่มีเรื่องราวระหว่างการเดินทางของชายคนหนึ่ง

ฉันจำได้เสมอว่าครั้งแรกที่รู้จักเขา ฉันเอาเรื่องสั้นจากฟ้าเมืองทองให้ดู เขาบอกว่าคนนี้เพื่อนพ่อ...คนนี้ที่ชื่อไพบูลย์ ฉันแค่พยักหน้า....เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่คนที่ตะเกียกตะกายอยู่รอดในสังคมเมือง

สิบปีที่แล้ว.....เขาเล่าให้ฟังว่า หันหลังให้สถาบันการศึกษาออกมาสู่มหาวิทยาลัยชีวิต ที่มีล้มและลุก การเดินทางอย่างเปลี่ยวดายในวัยเยาว์ ทั้งขลาดเขลา และคึกคะนอง จึงล้มด้วยฮึกเหิม กลิ้งเพราะเขลา แล้วลุกขึ้นมาด้วยวัย

ความพยายามยังชีพด้วยการวาดภาพประกอบให้กับหนังสือ นิตยสาร ไม่ใช่อาชีพที่ใครๆปรารถนาจะให้เป็น เพราะชีวิตที่คิดว่าเดินเดี่ยวกลับไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างที่ต้องการ การมีอยู่ของตัวเราตั้งอยู่บนความคาดหวังของคนรอบข้าง








ส่วนหนึ่งของภาพสีน้ำ จากนิตยสารหยก ประมาณ พศ.2530



สุดท้ายเขาก็เดินหันหลังให้กับวงการ ด้วยปัจจัยและเหตุผลที่ต่อสู้ขับเคี่ยวกันอยู่ภายในและภายนอก เส้นทางที่เดินเข้ามาจึงไม่แตกต่าง ล้วนเป็นเส้นทางที่สร้างบาดแผลลึกลงไปในใจตนและใครต่อใครหลายคน

การที่ฉันพบกับเขาก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับด้ายแดงที่ผูกร้อยเราไว้แต่ชาติปางไหนเพื่อสร้างตำนานรักบันลือโลกให้ใครชม แต่เราต่างมีกรรมซึ่งกันและกันเกาะเกี่ยวกันมา เพราะเราต่างเป็นคนล้มเหลวในสายตาใครๆ เป็นนักเดินทางที่เอาแต่ใจ อยากก้าวเดินไปไหนก็ออกไปแสวงหาแล้วซมซานกลับมา

ชีวิตไม่ได้ถูกพรหมลิขิต ไม่ใช่ฟ้าดินบันดาล เป็นศิลปะการจัดวางของเวลาเราคือผู้จัดเรียงชีวิตแห่งกาลเวลาให้เป็นระบบ จะเป็นระเบียบมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับเงื่อนและปัจจัยในกาลเวลาของแต่ละคน

เรื่องราวของฉันกับเขาจึงถูกจัดวางมาตั้งแต่ต้น เมื่อถึงเวลาเหมาะสมเราจึงมาบรรจบกัน เพราะสำหรับฉันชีวิตไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ประตูบานข้างขวาในชีวิตฉันที่ผลักออกไปเพราะลุงบูลย์มากระตุกสายใยที่เชื่อมโยง ประตูบานข้างซ้ายที่เขาครอบครอง “ปะการัง” อาจเป็นคนเขย่าเตือนให้รับรู้ถึงแรงกระเพื่อมของเวลา

บานประตูของชีวิต ประตูหลายบานเปิดผ่านเพราะไม่ใช่โลกของเราหากก้าวข้ามธรณี แล้วเดินทางเปิดประตูบานใหม่ บานถัดไป……บานต่อๆไป ในการเดินทาง…..วันหนึ่งเราอาจกลับมาเปิดประตูบานเดิม โดยที่หลังประตูบานนั้นสภาพยังไม่เคยแปรเปลี่ยนไปจากสิบกว่าปีที่เดินผ่าน เพียงแต่วันนั้นมันไม่ใช่โลกของเรา…..

ประตูเวลา….นานเท่าไรแล้วที่มือของเขาไม่ได้แตะต้องพู่กัน ไม่ได้จับดินสอ ไม่ได้สัมผัสสี นานเท่าไรที่พยายามดิ้นรนจะเดินบนถนนของวิถีชนปกติ นานเท่าใดที่ก้าวผ่านอย่างเคืองขุ่นกับจิตตน จากแผ่นกระดาษ ผืนเฟรม ผ่องถ่ายไปสู่หน้าจอจับปากกาวาคอมแทนดินสอ

นานเสียจนมือที่กลับมาจับดินสอสั่นสะท้าน จนร่ำไห้ยามดินสอร่วงลงจากมือ ด้วยเส้นที่ลากไม่ปรากฏรอยอย่างที่หวัง

นานเท่าไรที่เราพยายามจะสร้างครอบครัวเยี่ยงวิถีปกติชน นานเท่าไรที่ต่อสู้แก่งแย่งให้ได้มาซึ่งฉากเนื้อครอบหน้าบังใจ การดิ้นรนของคนสองคนในซอกมุมเมืองใหญ่….เราทำงานได้เงิน เพื่ออยู่อย่างทัดเทียม แต่สิ่งที่ได้มาไม่เคยหล่อเลี้ยงวิญญาณและจิตใจ เพียงได้กินอิ่ม ประโคมกาย

“กลับบ้านกันเถอะ” ฉันเอ่ยปากในวันวิกฤตของชีวิตเมือง

การกลับมาเริ่มต้นใหม่ในวัยขนาดนี้ อาจเป็นเรื่องขลาดเขลายิ่งกว่าเด็กเดินหลงทางในวัยเยาว์ แต่ห้วงเวลาที่ผ่านมาทำให้เราเรียนรู้ว่า การที่เราทำอะไรได้หลากหลาย ทำได้เกือบทุกอย่างนั้นไม่ใช่ตัวเรา เราไม่อาจ “เป็น” ในสิ่งที่เรา “กระทำ” แต่สิ่งที่เราไม่ได้ “กระทำ” คือสิ่งที่เรา “เป็น” เราจะเป็นคนเขียนรูป…เราจะเป็นคนเขียนหนังสือ….


คนว่างเปล่าสองคนกลับมาเริ่มต้นใช้สี เรียนรู้การใช้พู่กัน ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามแฝงความผิดหวังไว้เร้นลึก ดำรงอยู่ในความกดดันของพันธะทางใจ

เราตัดสินใจกลับมาที่นี่ เพราะฉันรับรู้ว่ามีโซ่พันธนากาลเขาไว้ที่ขอบเหวแห่งความร้าวฉาน ซึ่งเขานั้นต้องมาปลดโซ่ตรวนนั้นด้วยตนเอง

ขอบเหวแห่งความร้าวฉานนับแต่วันที่เขาเดินหันหลังให้สถาบันการศึกษา ขยายถ่างกว้างเกินจะบรรจบ ลูกชายที่ล้มเหลว…..คือโซ่ตอกใจไว้ที่ขอบเหวแห่งนี้ ไม่ว่าก้าวเดินไปสู่หนใด โซ่นั้นลากตามไปทุกแห่งหน…

เราไม่ได้กลับมาพิสูจน์อะไร ไม่ได้กลับมาเพื่อให้ใครยอมรับ เพียงแค่กลับมาเรียกศรัทธากลับ ณ ขอบเหวของความร้าวฉาน….ผู้ชายคนหนึ่งสูญเสียศรัทธาในตัวเอง ณ ที่ตรงนี้ แม้จะไม่ได้กลับคืนมา….แต่ถึงเวลาที่จะต้องก้าวข้ามความร้าวฉานไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง…..แม้จะเจ็บปวด และทุกข์ทรมาน

ชีวิตหนึ่งชีวิต ทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีที่สุดก็ขอให้ได้ทำ….แม้จะทำได้ไม่ดีที่สุดก็ตาม ดีกว่าปล่อยความฝันนั้นเฉาตายไปกับร่างที่มอดไหม้ในเปลวเพลิง…./

การกลับมาแล้วพบพา…..จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญสำหรับฉัน ทั้งการพบลุงบูลย์ ฉันจึงไม่คาดหวังว่า “ปะการัง” จะเป็นกุญแจที่ไขดาลประตูให้เขาเปิดออกมารับโลกภายนอก อย่างน้อยก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนที่บานประตูนั้น เพียงได้น้ำมันสักหยดหยอดบานพับ ก็อาจเปิดออกได้เพียงลมหายใจผ่าน

ฉันจึงไม่ใช่แรงบันดาลใจใดๆในชีวิตเขา…..เพียงรับรู้ว่าใคร ในการดำรงอยู่ ฉันเฝ้ามองผู้ชายสองคน ซึ่งหัวใจเต็มไปด้วยบาดแผลและซ่อนน้ำตาไว้ในอกตน ทุกคราที่ฉันมองผ่าน…ฉันพยายามจะบอกว่า

“พ่อ….เวลาเมื่อ 20 ปี นั้นผ่านไปนานแล้ว อยู่กับลูกชายพ่อวันนี้ที่เป็นอยู่เถิด”

ไม่มีใครอยากก้าวพลาด
ไม่มีใครอยากเดินหลงทาง
เพียงแค่ยามที่เราล้มลง
ไม่ต้องเข้ามาพยุงประคับประคอง
เพียงหยุดรอเราบ้างเท่านั้นพอ….




วันนี้....สีอะคริลิคบนแผ่นไม้....หลังจาก 20 ปีที่ทิ้งพู่กัน



Create Date : 19 กรกฎาคม 2550
Last Update : 30 สิงหาคม 2550 8:47:37 น. 52 comments
Counter : 1865 Pageviews.

 
ขนาดทิ้งพู่กันนะคะเนี่ย ยังงามได้ขนาดนี้


โดย: รุ้งสีที่แปด วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:11:55 น.  

 
อะโห.. อาเจ้..

เก็บรายละเอียดภาพวาดได้แจ่มแจ๋วดีจัง
หนูช้อบ..ชอบ



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:20:10 น.  

 
อ้อ..นิ๊ดดดดดดดดดดหนึ่ง..

ช่วยปลดล็อคหน่อยเถอะ บางทีมาแบบไม่ล็อกอิน แล้วคอมเม้นท์ไม่ได้ ช่วงนี้ไฟดับบ้าง สัญญาณเน็ตไม่ค่อยดีบ้าง..

เห็นใจกันหน่อยเต๊อะ



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:21:16 น.  

 
สวัสดีจ้ะปลายแปรง

แหมอ่านเรื่องที่เขียนวันนี้ ซาบซึ้งดื่มด่ำจริงๆ
เขียนหนังสือได้อย่างนี้
ยังจะคิดไปหางานอื่นทำอีกหรือโยม ?

ช่างเล่า ช่างเลือกถ้อยคำมาใช้ได้ความรู้สึกเสียจริงๆ

และคนนั้นก็เหมือนกัน คนที่วาดรูปนั่นแหละ ถึงเวลาแล้ว
ดีใจจริงๆ

ที่เห็นนุลงมือเขียนรูป และเห็นปลายแปรงได้เขียนหนังสือ
เรื่องอื่นๆน่ะเรื่องเล็ก

พ่อพเยียก็ไม่ใช่ว่าเก่งกาจอะไร
ก็อย่างที่เคยคุยกันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนั่นแหละ

ตอนแก่ๆกว่านี้จะได้ไปอยู่จังหวัดเดียวกัน
ไม่อยากไปอยู่ใกล้บ้านศรษฐีนี คุณนายมังคุดหรอก

เพราะเขามที่ที่สวยๆเยอะ


นี่ปลายแปรง ไปททำอะไรกับล็อก ไปปลดล็อคซะ คุณยานากับป้าชุเข้าบ้านไม่ได้น่ะ ด่วน !


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:50:27 น.  

 
ขออภัยพ่อแม่พี่น้องแต๊ๆก๊า ไม่รู้ว่าทำอะไรพลาดไป รีบจออกไปซมซานเซนซะ

มาพับลิชแล้วก๊า...


โดย: ปลายแปรง วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:13:26 น.  

 
โอ๊ย.....อี่น้องอี่นายเหย

กำลังปรึกษากับสหายสุดเลิฟ ว่าจะเข้าบ้านนี้ยังไง
งัดหน้าต่างก็แล้ว แงะประตูก็แล้ว ไม่สำเร็จ
สงสัยว่ามีสมบัติล้ำค่าเยอะเลยล็อคกลอนซะแน่นหนา
เฮ้อ.....รอเข้าบ้านจนอี่น้องยานาไปนอนแล้ว


โดย: ป้าชุ IP: 172.207.96.177 วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:23:01 น.  

 
อิอิ.. ไงล่ะ ๆ แจมบอกนิ่ม ๆ เนิบ ๆ ไม่ได้ผล ต้องให้พ่อใหญ่ออกโรง

สวัสดีค่ะป้าชุ และทุกท่าน

พี่ปลายแปรงเช็คเมล์ด้วยนะ.. หนนี้ป่วนหลังไมค์ อิอิ


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:44:16 น.  

 
แฮ๋...ปี้นาง คำหล้าสุมาเจ๊า
จันทร์เป็งแจ่มหล้า ท่าจะหลับไปวอยๆ
ว่าจะปิ๊กมากอยแกงซ่า แกงขม ปีนางท่าจะยมซูดหลับวอยๆ
เหลือแค่ป้าน้อย..ยังกอยจันทร์สม..เป็งจันทร์นั้นยมน้ำเมาแล้วนา
ไค่อยากวอดก้า..น้ำตาเปียงเข่า...ซํดแต่เหล้าขาวก็ท่าบ่ไหว
เลยย๊อกหงส์ไปเสียฟ้อนเก้งเก้ย...
ปี้เหย...ป้าเหย..บ้านสันปูเลยเขาเจยคางส่อง
สีท่าต้องลองน้ำขาวบ้านท่า....ติดขันบูจาสอยเหล้าต๊ะมา
ว่าแตป้าจะมาก๊งก่อ..


ป้าชุ....รับไปคนเดียวล้วนๆเน้อ..เพราะพี่ยานาคงจะหลับไปแล้ว


โดย: ปลายแปรง วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:46:45 น.  

 
โอ้ ปลายแปรงภาคนี้ก็มีด้วยเหรอ
รู้สึกสะทกสะท้อนใจไปกับชีวิตคุณและเขา
อืมม์..เป็นกำลังใจให้วิถีที่เลือกครั้งนี้นะคะ
เข้าใจและเข้าใจจริงๆ

รูปที่เพิ่งกลับมาจับพู่กันอีกครั้งของพี่นุวาดใช่ไหม
เยี่ยมเลยค่ะ

ปล.ว้า มาไม่ทันบล็อกที่แล้วอ่ะ
เห็นฮีโร่หญิงแวบๆ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:18:38 น.  

 
ปลายแปรงจ๊ะ

แวะเข้ามาบ้านกลางดึก (อีกแล้ว)
ยังไม่ได้อ่านอะไรหรอก
เอาแค่ผ่าน ๆ ตา
เพราะงานยังไม่เสร็จ

แล้วจะแวะมาอ่านอีกทีนะ
(ต้องห้ามใจแทบแย่...
เพราะถ้ามัวนั่งอ่าน เดี๋ยวก็เช้าพอดี...)


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:56:43 น.  

 
ทุกชีวิตย่อมมีเรื่องราวเสมอ--

เข้ามาอ่านด้วยความระลึกถึงและห่วงใย
ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสอง กับเส้นทางที่ตัวเองวาดฝัน

ณุ มีความเป็นศิลปินสูง
ทั้งฝีมือและอารมณ์
ณุ มีเส้นสายที่พลิ้วไหว
รู้จักการวางน้ำหนักของสีสันบนเฟรม

ลองใช้พู่กันวาดชีวิตตัวเองดู--
เบาอย่างมีน้ำหนัก--
หนักอย่างมีจังหวะ--
ประสานและสอดคล้อง
ก็จะเป็นท่วงทำนองที่งดงาม..

ปลายแปรงบทจะจรังจัง
ก็เขียนหนังสือได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
พี่นึกว่าเขียนเก่งแต่ภาษาที่พี่อ่านไม่ออก
น่าจะเขียนหนังสือกันสักเล่ม
ให้ณุวาดภาพประกอบ

ไม่ว่าโลกข้างนอกจะเป็นอย่างไร
แต่ขอให้คิดว่า
อย่างน้อย ทั้งสองก็ยังมีกันและกัน--

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะครับ

(พี่คิดว่า ณุ ทำภาพประกอบเล่มอื่นด้วยนะ ไม่ใช่แค่ปกข้างบน- - ให้ณุเขียนมาคุยกับพี่บ้างนะ)


โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:15:06 น.  

 
ปลายแปรงจ๊ะ..

ไปทำยังไงกับบล็อกล่ะ..ตัวเล็กๆแค่นี้คิดจะยึดอำนาจเหรอ

ทำเอาผู้ไม่มีบล็อกอย่าง ยานากะป้าชุต้องรีบเข้าห้องกัน
ประชุมยกใหญ่..โดยเฉพาะ วัย..สะ..รุ่น อย่างป้าชุ แก
แปลงร่างเป็นงิ้วออกโรงต่อว่า ยานาไปหลายยก ซักยิ่ง
กว่าทนายซะอีก..ว่าไปคุยกับเจ้าหูตูบได้อย่างไร พร้อมทั้ง
แว๊ดๆดว้ยเสียงดังอันทรงอำนาจว่า..

" ตรู..ไม่ยอม..ว๊อย...ตรู..ไม่ยอม..ปลายแปรงเล่นมาชม
ยานาต่อหน้าประชาชีเช่นนี้..ตรู..อิจฉา..แง้...ๆๆๆ "
[ พยายามนึกภาพตามไปด้วยนะ ]

ว่าแล้วแกก็สรุปของแกว่า " อ๋อ ku รู้แล้วปลายแปรง
ไม่ต้องการ ha แล้ว " เลยล็อกอินว่างั้น.

ป่านนี้แกคงหลับปุ๋ย..ไปแล้ว..


โดย: ยานา IP: 61.7.173.75 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:28:43 น.  

 

แวะมาจองที่ก่อน

เดี๋ยวมาอ่านแบบช้า ๆ อีกที


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:47:31 น.  

 
เออ เมื่อตะวามาแล้ว บ่เปิดประตู๋ ก็เลยไปบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน
อ่านการเล่าเรื่องของปลายแปรง นึกภาพออกเลยล่ะ แต่เขียนได้ดีนะจ้ะ ชมเลยล่ะ แต่ก็น่าอิจฉา คุณนุ นะ ที่ยังมีกันและกัน เป็นกำลังใจซึ่งกันกัน แต่อย่างอื่นไม่รู้

ป้าชุ ยานา คุยกันสนุกเลยเน้อ แล้วเฮาไปไหนมาว้า ....ลุงบูลย์ชอบเมาเฮ้ย งอนเหรอ บอกชิว่า วันหน้ามาเจอกันซะหน่อยจะเป็นไรไป หายงอนเลยล่ะ โอ้ย พูดมาก ไปแล้ว ไปดีกว่า


โดย: p tim IP: 222.123.65.119 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:10:41 น.  

 
ไชโย.....
เรามีไอ้ตี๋ขี้เกียจมานอนพึ่งพุงแย้ว...

ขอบคุณก๊าบท่านผู้มีอุปการะคุณ
ไปเตรียมเครื่องเซ่นก่อนนะ...เดี๋ยวจะลองเล่นที่ส่งมาให้ก่อน


โดย: ปลายแปรง วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:25:27 น.  

 
สวัสดีคุณปลายแปรง


ขอสารภาพก่อนว่า เพิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรก...ไม่รู้เรื่องราวแต่หนหลัง..แต่มาอ่านเรื่องราวในอดีตรอบนี้...

ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา...กลับบ้านเรา คนรักรออยู่ แม่ปัน-ปอง เองก็ไม่ใช่อยากกลับมาอยู่บ้านนัก แต่แฟนซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯ เขาเบื่อกรุงเทพฯ เบื่อรถติด เขาชวนกลับบ้าน

กลับก็กลับ...กลับมาอยู่บ้าน จะ 15 ปีแล้ว พอเข้ากรุงเทพฯทีไร เบื่อก็เรื่องรถติดนั่นแหละ ไม่ชอบเลย

มีอะไรที่รักและอยากจะทำอีกมากมาย อยู่ที่ไหนก็ทำอะไรอย่างที่ใจชอบได้ และที่ๆอยู่ มีความรัก มีความสุข มีความเข้าใจ

มีโอกาสจะเข้ามาเก็บเรื่องราวดีๆ อีก


โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.25.173.183 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:38:31 น.  

 
สวัสดี ปลายแปรง..

ทีเรื่องตัวการ์ตูนล่ะ เก่งเชียว..รู้มั้ย ยานายังเข้าไม่เป็น
เลยสักตัว..

โดยเฉพาะไอ้ตัวที่มันโดนฆ้อนทุบหัวอยู่นั่นน่ะ อยากเอาเข้ามาใส่นักแล...


โดย: ยานา IP: 61.7.173.75 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:13:16 น.  

 

ไม่มีใครอยากก้าวพลาด
ไม่มีใครอยากเดินหลงทาง
เพียงแค่ยามที่เราล้มลง
ไม่ต้องเข้ามาพยุงประคับประคอง
เพียงหยุดรอเราบ้างเท่านั้นพอ…(ตูกลัว..!)

แล้วในที่สุด จอมยุทธหญิิงก็หวนคืนสู่ยุทธภพ มือที่ว่างเว้นจากกระบี่ไปนาน
ก็กลับมาทบทวนเพลงยุทธอีกครั้ง
เป็นโชคของจอมยุทธหญิงโดยแท้ ที่ยังมีจอมยุทธชายอยู่ข้างกาย
เกิดมาเป็นจอมยุทธ ก็ต้องเป็นจอมยุทธอยู่วันยังค่ำ...



โดย: ธารดาว IP: 203.146.63.185 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:15:22 น.  

 
คุณปลายแปรง

ได้อ่านเรื่องราว...ทั้งของพ่อพเยีย ปะการังเหมือนนวนิยาย ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้ ผมได้ข้อคิดมากมายในการใช้ชีวิตที่เหลือให้คุ้มค่าตั้งแต่เข้ามาอ่านบล๊อกที่พ่อพเยียแนะนำ

ขอขอบคุณทุกเรื่องที่อ่าน ทุกเม้นต์ที่ให้ข้อคิด


โดย: เรวัตร IP: 203.113.45.198 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:25:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ
มาหลังเพื่อน ๆ วันนี้มีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ
ไฟไหม้ที่ที่ทำงานนกแสงตะวัน ไหม้ตึกอื่นหรอกนะ แต่พระเจ้า! ตึกนั้นมี4ชั้น ชั้นที่ไหม้มีคนไข้หนักอยู่ 12 เตียง
แต่ทุกชีวิตปลอดภัยจ๊ะ ขอบคุณที่เกิดเหตุในช่วงกลางวัน

เป็นเหตุให้เข้ามาบ้านคุณปลายแปรงล่าช้า

ขอบคุณค่ะปลายแปรง ที่มีเรื่องประทับใจมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้ว
โอ๊ว..ภาพสวยมาก

แต่เอ๊ะทำไม นกแสงตะวันน้ำตาซึมล่ะเนี่ย



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:53:43 น.  

 

ปลายแปรง
ลุงยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้มาซะวันหนึ่งมั้ง มัวไปปล้ำกับเวบไซต์อยู ใครหาว่าลุงงอน ฮึ ใคร บอกมา...

ตะเพิดเลย ใครแอบอยู่นั่น...

เอ้อ อ่านแล้วพูดไม่ออกหวะ แต่ว่าชีวิคก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักนี่ ล้มลงไปก็ลุกยืนใหม่ได้ ที่ใดไม่มีการต่อสู้ก็ไม่ใช่ชีวิต

เท่าที่อ่านมาลุงแย่กว่าเธอสองคนเป็นไหน ๆ แต่การที่พยายามต่อสู้จึงพอได้มีที่ให้หยัดยืน โชคดีที่ลูก ๆ ซึ่งเรียนศิลปะเหมือนนุ ก็สามารถพบเส้นทางของเขา อย่างนุอย่างปลายแปรงยังมีเวลและระยะทางอีกมากที่จะเดิน

จงเดินต่อไปอย่าหยุด ศาสน่อิสลามที่ลุงเคยฟัวมาเป็นปี ๒ ปีก่อนถูกให้เลิกออกอากาศ สอนว่า
"คนเราเกิดมาใช่ว่าจะมีชีวิตที่ยืนยาวนัก และเมื่อมีโอกาสเกิดมาแล้วก็ควรจะใช้เวลาทุกนาทีให้เป็นประโยชน์ แต่ในทางที่ดี เพราะพ้นจากชาตินี้แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะได้เกิดอีกหรือเปล่า..." แต่เรื่องภาคใต้น่าจะไม่เกี่ยวกับคำสอนนี้

แต่มีสิ่งหนึ่งคือ ในคำสอนของศาสนาอิสลามที่ลุงฟัง เขาเกลียดความประพฤติของวัยรุ่นไทยปัจจุบันนี้มาก บอกว่าตามหลังฝรั่ง

เหตุนี้กระมัง เขาจึงไม่อยากให้ไปพัฒนาเขา แบบที่เรา ๆ ชอบอ้างว่าพัฒฯ ในสามจังหวัดภาคใต้

เอ๊ะพูดไปออกการเมืองจนได้ ขอมาให้กำลังว่า "ไม่เป็นไร อีกไม่นานจะดังทั้งคู่" ขอให้ยืนหยัดต่อไป


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:59:46 น.  

 
สวัสดีจ้า ค.ป.ป. และมิตรรักทุกท่าน

แหะๆ.....ได้ข่าวว่านั่งรอป้าชุจนเหงือกแห้งเลยเหรอ
ก็เวลาเรามันต่างกันตั้ง 6 ช.ม. อ่ะ
วันนี้มีเพื่อนๆมาให้ซ้อมนวด 2 คน คนนึงเป็นครูที่ถอด
วิชาให้ นวดเป็นวิทยาทาน แต่เขาก็ให้ตังค์นะ
ก็ตั้งใจว่าจะเอาไปทำบุญ
มาร่วมให้กำลังใจ คุณและคนข้างเคียง สู้ต่อไปนะจ๊ะ
มหาวิทยาลัยชีวิตน่ะ เรียนไม่รู้จักจบหรอก
มีบททดสอบตลอดแหละ ถ้าเราเข้มแข็งและอดทน
เราก็จะสอบผ่าน
สู้ สู้ ไอ้มดแดง สู้ ตาย......


โดย: ป้าชุ IP: 172.207.96.177 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:03:59 น.  

 
สวัสดีเช้าวันเสาร์อันหมองหม่น แต่ในจนไม่หม่นหมอง......

เฮ้อ...เข้าบ้านตัวเองยังไม่ได้เลยค่ะพ่อแม่พี่น้องเจ้าขา

ตอนแรกจะแย้มหน้ามาตอนเย็นๆ....ปรากฏว่า ฟ้าฝน ถล่มจากขี้เมฆหลงทางตามหาเพื่อนไม่เจอเลยมาร้องไห้อยู๋ที่บ้าน น้องดาวเทียมสายลมแสงแดดก็เลยร้องไห้ไม่ยอมทำงานกะเขาไปด้วย....เอาใจยากจริ๊งพวกเครื่องใช้ไม่มีหัวใจเนี่ย

ปลายแปรงกะพี่นุขอกราบขอบพระคุณงามๆกับกำลังใจอันมากล้นทะลักสี่ห้องหัวใจ บวกอีกสี่...เอ๊า


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:42:27 น.  

 
เข้าไปปัดกวาดทำอะไรที่บ้านตัวเองไม่ได้เช่นกันเลยมาลองที่นี่ ไม่รู้เอ้อเร้อเหมือนกันหรือเปล่า

เลยทุบหัวใครไม่รู้เสีย ๓ ครั้งแก้เซ็ง


โดย: lungboon IP: 125.27.233.89 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:12:24 น.  

 
เอ....เกิดอะไรขึ้นกับบล๊อกหนอ วันนี้เข้าจัดการบ้านช่องตัวเองไม่ได้....

ช่างเถอะ...คุยย้อนล่าสุดขึ้นไปดีกว่าเรา เอาสบายเข้าว่านิ

ป้าชุ....
ขิ่ม...อึ้งกิมกี่นะเนี่ย
กะว่าจะเจอสาวใหญ่ไฟแรงสูง เอาหนัง เดอะคิงแอนด์ ฮามาเล่นให้ฟังสักกะหน่อย แพ้เทคโนโลยี่อีกแล้วสิ
ตอนนี้รู้เหตุผลแล้วล่ะว่าทำไมป้าชุไม่อยู่เมืองไทย เพราะเวลาที่โน่นช้ากว่าตั้ง 6 ชั่วโมง
ไอ้สาวรุ่นอย่างเราเลยแก่กว่าป้าชุตั้งวัน..แหมมีวิธีชะลอความสาวแยบยลจริงๆนะป้า
ว่าแต่ว่า..จะเอาใบเสร็จไปเบิกค่าเสียหายจากลุงลันได้ที่ไหนล่ะ ป้าชุเล่นมางัดบ้าน ทุบประตูแหกไปหลายบาน วันนี้เจ้าบ้านเลนเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ กุญแจคาอยู่..เข้าไม่ได้นิ ป้าชุสอนนวดฝรั่งก็โอเคนะ...ลำหักลำโค่นพอฟัดพอเหวี่ยงกัน....


ลุงบูลย์คะ
จริงๆแล้ว..ลุงบูลย์ก็รู้อะไรดีอยู่แล้วนี่นา ปลายแปรงก็แค่เอาหนังเก่ามาเรียบเรียงใหม่ แล้วปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น...
เหมือนนักเขียนหญ่ายยยยยที่เวลาพิมพ์หลายครั้งแล้วต้องปรัปรุงเรื่อยๆน่ะ...ฮี่..ฮี่

แต่จริงๆค่ะ...เราวิ่งตามวัตถุจนกระทั่งเราลืมวิถีตะวันออก...ศาสนาที่เกิดขึ้นมาต่างค้อมคารวะเพื่อจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แต่ตะวันตก...เขาต้องการเอาชนะและครอบครอง ผลสุดท้าย..โลกก็หายนะ


พี่นกแสงตะวันคะ
เกือบเป็นนกตากแดดแห้งเกรียมแล้วใช่ไหม...
โชคดีมากค่ะที่ทุกคนปลอดภัย...
พี่นกก็คงจะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ....
แล้วที่น้ำตาซึมน่ะ...ควันไฟตอนไฟไหม้ยังเคืองอยู่ที่ลูกกะตาอ๊ะป่าว.....


คุณเรวัตรคะ
ด้วยความยินดีจริงๆและจริงจังนะคะที่แวะเวียนมาเยี่ยมบ้าน
ครั้งหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งเกือบจะโดนรีไทร์เมื่อปี 2 แต่เธอนังระรื่นแล้วบอกว่า "ชีวิตเธอเกี๋ยวเส้นด้ายไว้ด้วยปลายนิ้วก้อย แต่ก็จะเกี่ยวรั้งไว้อย่างสนุกสนาน"
ยอมรับว่าตอนนั้นเคืองขุ่น...กับคนที่ไม่จริงจังกับชีวิต
แต่เธอก็สามารถเรียนจบอย่างทัดเทียมกับใครๆ...
ผ่านเรื่องราวร้อนหนาวของชีวิต...วันนี้ย้อนกลับไปดูความขุ่นเคืองของตัวเองแล้วจึงรัยรู้ว่า...เพื่อนให้ข้อคิดกับชีวิตไว้ 20 กว่าปีโดยที่เราไม่รู้ตัว และไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้ด้วยหรือไม่...
เหนื่อยหนักกับเส้นทางกันดาร...แม้วันนี้ถนนชีวิตยังไม่ได้ลาดยาง ก็จะเดินเก็บกรวด เก็บหินอย่างเพลิดเพลินเหมือนที่เธอเคยรั้งด้ายชีวิตไว้อย่างเริงรื่น....
คำพูดติดปากค่ะ....สู้ต่อไป...ไอ้มดแดง!!!!!!


ท่านจอมยุทธ์ไร้นาม ท่านธารดาว
ข้าน้อยขอคารวะพี่ท่านสักพันจอก.....
ว่าแต่เราจะเล่นเรื่องอะไรดีล่ะ...ฟงอวิ๋นไหม ขี่พายุทะลุเมฆ จะได้ไปเจอกะโงกุลที่ขี้เมฆทองไล่ตีผู้เฒ่าเต่าอยู่
ถนนที่บ้านยังไม่ได้ลาดยางเลยค่ะ...กว่าจะเดินทางไปถึงถนนใหญ่เยี่ยงพี่ท่านธารดาว เกรงว่าจักนานเนิ่น...มิไยจิบชาสิบกายังมิพานพบ หยิบเหล้านารีแดงจนเมามาย...ไอ้บ้านนั่นทำไมมันยังมาไม่ถึงวะ!!!!!!


พี่ยานาคะ
ไอ้ตัวทุบหัวนี่ป๊อบปูล่าโหวตแต๊ๆ ขอขอบพระคุณผู้เมตตากรุณาเอื้อเฟ้อแมงดุ๊กดิ๊กทั้งหลายให้เด็กบ้านนอกซอกเขาเช่นข้าเจ๊า
ผู้ใดรู้ตัวว่าส่งมา...ฝากก้อนเมฆไปหอมแก้มคนละทีแล้วจ้า
พี่ยานาคะ..ตกลงก็ยังปล้ำเรื่องโทรศัพท์ไม่รอดอยู่ดี
วันนี้เข้าบ้านตัวเองก็ม่ายล่าย...จะซ่อมประตูที่ป้าชุถีบไว้ก็ยังไม่ได้ทำเลยค่ะ.....


แม่ปัน-ปองคะ
แค่แวะเข้ามาชมก็แอบนิยมคุณในใจ....เอ สโลแกนของที่ไหนเนี่ยจำไม่ได้แล้ว
เห็นเงาไหวๆของแม่ปัน-ปอง ที่บ้านพ่อพเยียเสมอค่ะ นึกเดาเอาว่า แม่ปัน-ปองก็คงจะมีเรือกสวนไร่นาอยู่แถวๆพังงา หรือย่านนี้ใช่ไหมคะ ถึงมาเก็ลองกอง มังคุดขึ้นกรุงเทพเสมอ.....
อยู่บ้านโน้นก็ไม่กล้าทักทายหรอกคะ...ดูแม่ปัน-ปองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงพ่อพเยียเขา ไม่กล้าทะลึ่งตึงตังด้วยหรอกค่ะ เกรงพ่อพเยียเขาจะไล่ตีออกจากบ้าน
ตอนนี้มีความสุขดีใช่ไหมคะ....ชีวิตเมืองใหญ่เหนื่อยนะ เดี๋ยวนี้ปลายแปรงจะกลับบ้านที่พะเยา ก็มักจะเลี่ยงไปออกเส้นวงแหวนตะวันออกแล้วไปพาเพื่อนพี่นุที่อยุธยาเลย...ล้ากับชีวิตที่มีนาฬิกาเดินอย่างเร่งร้อนราวกับพรุ่งนี้โลกจะแตกถ้าไม่รีบเดินทาง...อะไรปานนั้น
บ้านปลายแปรงเปิดเสมอค่ะ...(ยกเว้นวันไหนลืมเปิด...ชาวบ้านด่าจมดูเลย)


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:32:50 น.  

 
ปะการัง (พี่ฤทธิ์ของพี่นุ)
ขอบคุณสำหับกำลังใจและความระลึกถึงคนห่างเวลาของพี่ค่ะ...
เพราะชีวิตมีเรื่องราว เรื่องราวเล็กๆของเรามันเป็นสิ่งไม่คาดฝันที่ได้เจอพี่โดม พี่ปะการัง ลุงบูลย์ รวมทั้งทุกคนที่ยังส่งเสียงอยู่บ้านนี้
เป็นการพบพาที่เสมือนขอบฟ้าหน้าฝน...ทะเลมีก้อนเมฆซํบซ้อนหลายมิติ...
ฟ้าหลังฝน...นั้นงามสดชื่น
เมฆหลังจากฝนสาดฟ้ากระจ่าง เกิดมิติมากมายจริงๆค่ะ
เราก็ยังเป็นหนึ่งมิติในก้อนเมฆนั้น สักพักก็อาจเปลี่ยนรูป....
ขอบคุณค่ะ..ที่เวลาทำให้พี่ๆกลับมาพบกัน
จะเคี่ยวเข็ญให้คุยกับพี่ให้ได้ค่ะ...จะพยายาม


สองหนอนจ๋า...ทั้งหนอนบ้าน หนอนกรุง
เอาเหมารวมกันไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน
ดูท่าจะงานยุ่งด้วยกันทั้งคู่ใช่ไหม ถึงชะแว้บมา ชะแว้บไป
จะปัดพื้น..ปูเสื่อไว้รอก็แล้วกันนะ
อย่าลืมซื้อข้าวเหนียวกลับมาด้วยล่ะ
จะรอกินแล้วเอนพุง.......


ยิปซีจ๊ะ
อย่าว่าอย่างนั้นสิ...
เขาเขินนะตัวเอง....
ปลายแปรงเป็นดาราเล่นได้หลายบทน่ะ...ตลกได้บ้าง ผู้ร้ายก็เอา อิจฉาน่ะถนัด
แต่ไม่มีใครจ้างเล่นเป็นนางเอกเลยเนี่ย ขนาดหม่ำยังไม่เอาเลย
เอ...แล้วเขาจะเอานิยายรักอีโรติคออกหรือยังนะ ว่าจะตามไปอ่านอยู่เนี่ย


อานู่แจมเอ้ย.....
อาตี๋นอนพัดพุงจนเย็นฉ่ำเลี้ยว....
สุขซำบายดีแท้....อาหมาวยเอาน้ำชามาล่วยสักกานา
จะได้คารวะปะหลกๆอาหมาวยไปล่วยที่เอาของเล่นมาให้อาตี๋ล่ายมีหน้ามีตากะเขาพรรค์นี้
(อาตี๋หลงแหลงต้ายอีกเลี้ยวนิ)
กลับมาบ้านรอบนี้...ข้อมูล คลังความรู้ล้นทะลักเป็นสึนามิมาอีกรอบแล้วสิ.....


พี่ติ๋มขา
คนชื่อติ๋มนั้นน่ารักที่สุดในโลกทุกคนเล้ย......!!!!!!
ดีนะที่พี่ติ๋มย่องมาแค่เปียกฝน เดินมาดูกะตูบ้านสิพังไปตั้งหลายบานแน่ะ...
ป้าชุแกนึกว่าเล่นคาราเต้คิก พองิ้วออกซัดตูมไปหลายบานเลยล่ะ.....วันนี้เปิดปั๊กกะตู๋แล้วเน้อ...หูก็ตูบหมดแย้ว...


พ่อพเยียเจ้าคะ
คิดว่าคงจะไม่หูชาเพราะไอ้บ้าตัวนี้นะคะ....
ก็พอได้หนังสือก็รีบตะแล้ดแต๊ดแต๋ไปหาที่อ่านน่ะ
โยนกล่องนี้เข้าปึ้งในบล๊อคแล้วปิดเครื่องไปโลด...

ลืมเช็คเลยว่ามีอะไรอีกมั่ง...ฮี่...ฮี่...ผู้น้อยขออำภัย

หนังสืออ่านจบแล้วค่ะ....เดี๋ยวจะส่งต่อไม่ว่ากันนะคะ...


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:02:22 น.  

 
โลกนี้มันกลมหน้อ ติ๋มว่าก้อ อะหยั๋งๆ อีกหลายๆ อย่าง ก็คงจะวนมาเจออีกนะ อย่างเช่น คุณปะการะรังและพี่นุ ของหนูติ๋ม พี่อ่านแล้ว เป็น งง เพราะว่า ไม่รู้ที่ไปที่มา ก่อน แต่ก็จะพยายาม เข้าใจ ตามเจ้า

ติ๋มรู้ไหม ตอนที่ทำงาน แบงค์นะ สาขาที่ที่ทำงานอยู่ มีติ๋ม อยู่ ทั้งหมด สี่ คนแน้ะ เวลาเรียกชื่อเล่นที หันมาพร้อมกันหมด สุดท้าย ต้องตามด้วยชื่อจริง จริงๆ แล้วเรียกชื่อจริง ก็หมดเรื่อง แต่เหตุผลการตั้งชื่อของพี่เหรอ แม่บอกว่า ก็มัน ติ๋มๆ ไม่ทราบว่า น่ารักหรือโง่ ก็ไม่อาจทราบได้ และชื่อจริง พรรณา แม่บอกว่าไง รู้ไหม ก็แม่ไม่อยากมีเราแล้ว อายชาวบ้าน มีลูกตอนแก่ อายุ ก็ปาไป สี่สิบเอ็ดแล้ว (ลูกหลง) ก็ห่างจาก พี่ จน งง ว่า นี้พี่เราจริงๆ เหรอ เราเล็กมากและไหนก็บอกที่มาชื่อเล่นแล้ว ก็ขอบอกที่มาของชื่อจริงซะเลย แม่แก่แล้ว(คำบอกเล่าของแม่) ดันมามีเรา พอถึงเวลาคลอด แม่ก็บ่น พร่ำพรรณา เพื่อนแม่เป็น ผดุงครรภ์ ก็ บอกว่า อย่าพรรณามากนัก
โอ้โห้ นั้นแหละที่มาของชื่อ ....ช่างไม่ตั้งใจตั้งเสียเลย นั้นคือที่มา ติ๋ม พรรณา 555555
แต่เหตุผล การตั้งชื่อของคนอืนๆ อิฉันไม่ทราบจ้ะ


โดย: p tim IP: 222.123.65.119 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:08:44 น.  

 
โอ...พี่ติ๋มขา
ฤา..นี่คือชะตากรรมของคนชื่อติ๋ม
พี่รู้ไหม..ว่าแม่กินยาคุมไปหลายปีดีดัก จนพี่ๆเขาใส่ขาสั้นเต่อเป็นจิ๊กโก๋หน้าเสาธงไปแล้ว
แม่กระเตงไอ้ลูกหลงคนนี้จนพุงปริ.....เข้าห้องคลอดแม่ภาวนาอย่างเดียว...ครบ 32...ครบ32...เอา 32 ครบเป็นพอ....
ปรากฏว่า...พี่ขา มันมาเกิน....ออกมาเกือบ 4 โล แล้วหัวดังดำปื๋อ ดกดำเป็นเงางาม....ชะตากรรม
ส่วนที่ได้ชื่อนี้มา..ตัวเป็นปล้องๆเช่นนั้นคงดูตุ๋มติ๋ม นุ่มนิ่ม น่าจิ้มกระมัง..
ชะตากรรม...ของคนชื่อติ๋ม

พี่....เราเอาเรื่องไปขายลิขสิทธิ์ให้พี่โดมไหม พี่โดมแกมีชื่เรื่องแต่คิดว่าเนื้อเรื่องข้างในยังไม่ลงตัวหรอก...เราไปขายเอาค่าลิขสิทธิ์มาเลี้ยงกันก่อน
แล้วพอหนังสือขายดีเป็นเบสต์เซลเลอร์...เราก็ไปขอหนังสือฟรีกะขอลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์เรื่องอีกรอบ...
ถ้าไม่ให้เราไปฟ้องศาลปกครองกัน...ดังกันทั่วถ้วนหน้าเลยนะ...
เอาไหม...เอาไหม....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:06:18 น.  

 
สวัสดี ปลายแปรง..

วันนี้หายไปไหนล่ะ..ป้าชุแกอุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ทัน
จะโห่เลย..

เฮ้อ..สวนกันไป..ก็สวนกันมา..แล้ว บ่ายๆล่ะว่างมั้ย
ไป จะชวนไปล้อนด้อนซะกะหน่อย


โดย: ยานา IP: 61.7.173.37 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:45:38 น.  

 
โอ๋ โอ๋...ปลายแปรงก็
ใจน้อยไปได้ เจ้าของบ้าน แถมตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อตไปแล้วแถมหมุนเป็นลูกข่างอีกต่างหาก เมื่อคืนกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไป5ทุ่มแล้ว โอ...แม่เจ้า วันนี้ก็ต้องปั่นงานอีกชิ้นให้เสร็จก่อนที่จะไปช่วยงานแซยิดผู้ใหญ่ที่นับถือ จะได้นอนเปล่ายังไม่รู้เลย
ดื่มน้ำอัญชันผสมมะนาว หวานซ่อนเปรี้ยว เหมือนจขบ. เอิ๊กๆๆๆคิดได้ไงหว่า...มุกนี้ ดื่มไปพลางนะคะ เพราะคงต้องดอกงบล็อกอีกไม่ต่ำกว่า3-4วันกว่าจะเสร็จงานราษฎร์ จาเป็นลม....

Image Hosted by ImageShack.us


ป.ล. อยากคุยด้วยเป็นอย่างยิ่ง
จะโทรไปหาคุณพ่อพเยียเพื่อขอเบอร์โทรปลายแปรง
ก็เกรงใจว่าจะไปรบกวนเวลาคุณพ่อเพยีย
ไม่รู้จะติดต่อได้ไง
ทางเมล์ไมไม่ทันใจวัยรุ่นตอนปลายอะค่ะ
อีกอย่างในวันสองวันนี้ อาจไม่ได้เข้ามาเช็คเมล์
เพราะต้องไปช่วยงานสำคัญ
อาจกลับบ้านดึกดื่นจนหมดแรงเช็คเมล์ค่ะ


โดย: สเลเต วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:51:12 น.  

 
เป็นไงปลายแปรง..ไปเที่ยวล้อนด้อนสนุกมั้ย......

ดีเนอะเจอกันตัวเป็นทั้งนั้นเลย..วันหลังเราไปกันอีกนะ..


โดย: ยานา IP: 61.7.173.37 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:16:08 น.  

 
..พี่ปลายแปรง..

ขอมาลงทะเบียนไว้ก่อนนะคะ ไว้จะแว๊บมาอ่านค่ะ เสาร์-อาทิตย์ นี้ นกไม่ว่างเลย มีสัมมนาค่ะ

ชะแว๊บบบบบบ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:33:27 น.  

 
แวะมาอ่านตามสัญญาแล้วเจ้าข้า

จะให้พูดอีกกี่หน
ก็คงต้องเป็นไปในทำนองเดียวกัน
จนปลายแปรงเบื่อออออ.....ซะ...

รีบ ๆ แผ้วถางทางเถอะ
พี่หนอนฯ ฟันธงจริง ๆ นะ
(ไม่พลาดหรอก...เชื่อด้ายยยย....)

งานทุกชิ้นของปลายแปรง
เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าใคร
อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้
(พ่อพเยียเขาว่างั้น เชื่อผู้ใหญ่ไว้ก่อนเป็นดี)

พี่หนอนฯ อ่านบล็อกหน้านี้ยังชอบเลย
แม้สำนวนภาษาไม่ฉวัดเฉวียนเหมือนเรื่องสั้นที่ตีพิมพ์ในหน้านิตยสาร (เท่าที่เคยอ่านผ่านมา)
แต่ลึกซึ้ง กินใจ ซะจน คุณนกแสงตะวัน น้ำตาซึม
(อ้าว...ไหงไปเกี่ยวกะนกแสงตะวันล่ะ อิ อิ ขออ้างอิงอ่ะจ้ะ)
พี่หนอนฯ ก็รู้สึกเหมือนนกแสงตะวันเขานั่นล่ะ (โธ่ ! บอกมาตรง ๆ ซะก็สิ้นเรื่องนิ)

เป็นกำลังใจให้เช่นกัน
(ปลายแปรงคงคิดว่า เฮ้อ...แจกจ่ายกำลังใจ...ง่ายกันจริง ๆ เลยนะ ก็...ต้นทุนมันน้อยนิด แค่ออกมาจากใจ ยิ่งใช้ก็ยิ่งเพิ่มพูน ทั้งผู้รับผู้ให้ชื่นบานสำราญใจ เป็นเรื่องงดงามจะตายไป)

เมืองอาจจะไม่เหมาะกับบางคน
เพื่อนพี่หนอนฯ บางคนยอมลาออกจากราชการ
กลับบ้านเกิดไปอยู่แบบพอเพียงก็มี
เธอคนนั้นไม่มีความสุขกับชีวิตราชการ
นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอเลือก
เมื่อพี่หนอนฯ ได้คุยกับเธอ
วันนี้เธอมีความสุขมากเลยจ้า

เมื่อวันศุกร์ได้คุยกับ ฉมังฉาย
(เราไม่ได้คุยกันมานานแล้ว
แต่เมื่อได้โทรศัพท์คุยกัน...ก็ยืดยาวซะจน
ไม่มีใครยอมฟัง ต่างขอพูดให้คลายคิดถึง)
เนื่องเพราะเรื่องสั้นของเขาในเนชั่นสุดฯ
"บาดลึก" เรื่องสั้นอิโรติกอีกเรื่องของเขา
เมื่อเทียบกับเรื่องแนวนี้ของเขาในยุคแรก ๆ
ก็นับว่ามีพัฒนาการตามสมควร

ตอนนี้เขาอยู่ใต้น่ะ
เมื่อคุยกันก็รู้ว่าเขามีความสุขกับชีวิตที่เลือก
อาจมีความไม่มั่นคงบ้าง (เพราะเคยใช้ชีวิตแบบมั่นคงในเมืองใหญ่)
แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ
เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับในปัจจุบัน
เขามีความฝัน มีไฟ ที่จะสร้างงานเขียนมากมาย

ได้ยินข่าวคราวเช่นนี้
พี่หนอนฯ ก็รู้สึกยินดีจ้า

ปลายแปรงก็เช่นกัน
สู้ต่อไป...ไอ้มดแดง...!!!

ไปล่ะ...มีราชรถมารอรับกลับบ้านของเราเองแล้วล่ะจ้ะ
ว่างจะมาคุยใหม่


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.176.172 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:32:46 น.  

 
จิตรกรกะนักเขียน
ทุเรียนกะมังคุด
เหมาะเหม็งสุด-สุด
ปลายแปรงเอ๋ย
นี่ขนาดทิ้งพู่กันไปนะนี่ยังเขียนรูปสวยขนาดนี้
ฝากบอกว่าไปเก็บมาซะดี ๆ
ที่สำคัญยิ่ง เพลงโดนมั่ก น่าหยิก


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:27:38 น.  

 
wow มีพลุดอกไม้ด้วยนะคะ

พี่ปลายแปรง.. แจมจะหมั่นมาดูบ่อย ๆ
อย่าเหงา อย่าเศร้าไปเลย.. แจมกับพี่มีปมเดียวกันคือคนสึนามิ

แต่พี่ยังดี.. มีไร่ มีสวน เป็นของเล่นยามยาก
แจมนี่สิพี่..เหลือแต่ตัวกะหัวผุ ๆ แทบจะเอาตัวไม่รอด

อย่าน้อยอก น้อยใจกับชะตาชีวิตนะพี่นะ..
ปล่อยให้มันปลิวไปสุดสายป่าน.. นี่แจมไม่อะไรกะมัน(ชีวิต)แล้ว .. ไม่ปล้ำ ไม่ไล่ล่าความฝัน.. ปล่อยให้มันเป็นไป ตามที่มันจะเป็น

เฮ้อ... ว่าแล้วก็ไปเช็คเมล์นะ.. จะส่งของเล่นใหม่มาให้อีก

wo.. wo แก้มหนูช้ำแล้วนะ ตัวเอง ..


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:27:49 น.  

 
อุแม่เจ้า ตกกะใจหมดเลย คลิกแล้วมีอะไรพุ่งออกมาด้วยอ่ะ
เลยแทรกตัวดุ๊กดิ๊กไม่ได้เลย

ได้อ่านแบบค่อย ๆ และเล็มแบบไหมวัยอ่อน 555 ฟังโดราเอมอนหลายรอบ555


อ่านแล้ว บอกได้หลายคำว่า "สู้ ๆ ไอ้มดแดง เอ๋ย " เหมือนกับที่หลายคนบอกค.ป.ป.ไปค่ะ

ภาพวาดสวยนะคะ ไม่บอกไม่รู้เลยว่าละทิ้งไปนานขนาดนั้น
โอ ข้าน้อยอยากฝากตัวเป็นศิษย์



โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:45:53 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์.....ฝนกระหน่ำฟ้า
มีแววว่า น้องดาวสายลมแสงแดดก็จะไปอีกเช่นเคย
เลยรีบมาเปิดหน้าต่าง หากโผล่หน้าเข้ามาไม่เจอใครก็อย่าด่าทอกันเลยนะเจ้าคะ.....เดี๋ยวน้ำท่วมขึ้นมาจะไม่ได้คุยกันอีก


src=https://www.bloggang.com/emo/emo31.gif>อานู๋แจมเอ๊ย....src=https://www.bloggang.com/emo/emo31.gif>
อาตี๋พัฒนาขึ้นเป็งยังงายล่า...
ปูเลี๋ยวจาหาว่าอาตี๋สอนไม่ขึ้น...สอนกี่ทีๆก็ได้แต่หน้าจอ
อาตี๋กัวว่าจะไมมีมดไรไปไต่ตอมแก้มสาวๆก็เลยส่งไปตอมเสียเอง...ฮ๊..ฮ๊

อย่าพูดดัง...อายเขา อยู๋ที่นี่ก็อาศัยขอยืมที่ปลูกผักปลูกหญ้าเท่านั้นจ้า...ของพ่อกะแม่พี่นุ กะน้องๆเขา เราก็ปลูกผักกินซะก่อนที่เขาจะกลับมาสร้างบ้านสร้างเมืองตอนเขาแก่ตัว.....อะเหอ....อะเหอ....เสียดายดินไง รีบทำให้มันจืดก่อน.....

สึนามิมาปลายแปรงก็ตัวเปล่าเหมือนกันแหละ...ยังเปล่าจนถึงวันนี้เลย...อย่าซีเรียสนะจ๊ะ....เรื่องร้ายเข้ามาเพื่อพิสูจน์ว่าเราเป็นทองจริงๆนะ ไม่ใช่ทองชุบไง.....แต่เป็นทองเหลือง!!!!!!!
สู้ต่อไป....ไอ้มดแดง(น้อย)!!!!!!!!!



อะเหอ.....หนอนบ้านนอกเอ๋ย
ข้าพเจ้ารอหนอนคั่วมานาน ก็ยังไม่ยอมแตกตัวมาลงกะทะ ข้าพเจ้าเลยหลบไปปลูกดอกไม้..ตั้งแผงขายไม่ได้จึงเอามาโปรยปรายเล่นให้กิ๊บเก๋...เป็นไงมั่งล่าพัฒนาขึ้นไหม
ถ้าอยากมาคารวะเป็นศิาย์ลูกพี่เขานะ...เอามาเป็นไหๆนะ..หลอดมาหาแถวนี้ได้...






พี่ปอน...สัญจรมาส่องทางบ้านนี้ได้แล้วเอ้อ...
ตะแคงคิดอยู่ตั้งนานว่ามันไปเกี่ยวกะมังคุด ละมุด ลำใยตรงไหน
แล้วก็ถึงบางอ้อ..อยู๋สวนแต๊ๆ กินทุเรียนแล้วต้องกินมังคุดดับร้อนเนอะ....
ถ้าพี่ปอนชอบเพลงประกอก็แอบมาฟังที่นี่ได้นา อย่าเอาไปแอดในบล๊อคพี่ปอนเลย...เดี๋ยวประชาชนหลงเข้าไปจะเหวอกันหมดนิ.....


พี่หนอน..นอนกลางวันไม่ได้เพราะอยู่กรุงต้องนอนดึก...ช่ายแล้ว หนอนนอนดึก
รับคำติชมด้วยความยินดีและกลับมาพิจารณาตัวเองค่ะ
ทราบเบื้องหลังความเป็นมาของแม่หนอนฯแล้ว
ต้องบอกว่า......ขอคารวะ.....
คนเราจะแต่งตัว แต่งหน้า ถ้าไม่มีกระจกก็ไม่อาจล่วงรู้ว่าตัวเองแต่งตนเป็นเช่นไร...
มีกระจกใสๆ...มากล้นความจริงใจ
คนแต่งกายย่อมอาบอิ่มใจ
แม่หนอนฯ...อ่านมาก รู้มาก..จนปลายแปรงเองยังยอมพ่ายค่ะ เข้าใจแล้วว่า...กัลยาณมิตรของนักเขียนอย่างลุงบูลย์และพี่โดมเป็นอย่างไร
ก็พบได้ตรงพี่หนอนนอนดึกของปลายแปรงนี่เอง....



คุณนกแสนสวย....หทัยชนก
คุึยกับคนสวยๆไม่ค่อยจะถูกแฮะ.....

ขมวดคิ้วเคืองขุ่นไปใยล่ะน้องเจ้า.....
แค่ความสาว สวยใส ไม่ไร้กึ๋น...
ครุ่นคำนึง...กังวลไปไฉนกัน
ทั้งสวย ดี มีความคิด....ย่อมติดตรึง
ใครไม่ซึ้ง...ซึ้งคนเดียวได้
ช่างใครว่าหลงตน...สนไปไย.....

อะเหอ...อะเหอ....แอบได้ยินไปบ่นที่ไหนม่ายรู้ว่าสวยแล้วสมองเต็มไปด้วยปรัชญา และความคิด เพื่อนฝูงหาว่าแปลก...

เข้าใจนะ.....ปลายแปรงก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน



สเลเตจ๋า
ขยันเข้านะจ๊ะ....ท่าจะหนัก
คนทำงานนี่เหนื่อยนะ...
เนี่ย..นั่งจิบน้ำอัญชัญทำตัวให้ดูไฮโซจนโซเซแล้วล่ะ
เผลอหยิบขวดผิดนึกว่าเฮลล์บลูบอย.....
ดันเป็นขวดฟ้าๆ ม่วงๆ ที่เขาซ่อนบนชั้นไว้...เพลินเลยจ้า

ส่งแรงใจไปช่วยทำงานนะจ๊ะ......


พี่ยานากะป้าชุ
อย่าทุบบ้านหนูอีกนา.....
อาจจะหายหน้าชะแว้บๆ ไปแกะเครื่องล้างตากซะกะหน่อยนะ...
ลุงลันไม่อยู่ใกล้นี่นา...จะได้ให้ช่วยมั่ง
จะส่งไปก็ค่าส่งซื้อเครื่องใหม่ได้พอดี....
ฝาก...morning kiss ยามเที่ยงเมืองไทยถึงสองลุงป้า
และก้อพี่ยานา ก็อย่าบ่นนะ...เดี๋ยวฟาง ฟางจะกัดเอา....


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:37:42 น.  

 
สีน้ำฟ้าจ๊ะ...
อุตสาห์จะอวดซะหน่อย
ไก่ออกจากป่าอีกละ...
ดูเอาเต๊อะ....


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:39:47 น.  

 
ปากาด ท่านผู้รักความโรแมนติกหรือไม่ ก็ ประมาณนั้นนะ วันที่ 27 สิงหาคม 2550 คือวันที่คนทั้งโลกตั้งตารอคอยเพราะว่า ....


โดย: p tim IP: 222.123.86.110 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:16:54 น.  

 
สวัสดี..ปลายแปร้ง..

ดอกซากุระบานที่บ้านปลายแปรงด้วยนิ..แต่เจ้าของบ้าน
อยู่หือเปล่าก็ไม่รู้

ป้าปลายแปรงไม่อยู่ แม่ฟาง ฟาง เหงานะคะ แม่ไม่ได้หัวเราะเลย..ฟาง ฟาง ก็พลอยคิดถึงเจ้าหูตูบด้วยค่ะ..


โดย: ฟาง ฟาง IP: 61.7.173.40 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:28:10 น.  

 
ดีจ๊ะปลายแปรง (พู่กันวาดฝัน)
----------------------------------------------------------
เพิ่งว่างแว๊บ ๆ มาอ่านค่ะ
21-22 ก.ค. สาวฯ ไปเดินท่อม ๆ ท่องทุ่งดอกกระเจียว
มีเสียวและตื่นเต้นนิดหน่อย..ขอบอกค่ะ
อะคึ่ ๆ

โปรดเดินตามตูด เอ้ย! ติดตามไปชมภาพงาม ๆ เด้อค่ะเด้อ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:41:55 น.  

 
แวะมาเยี่ยม มาปลุกเจ้าของบ้านค่ะ
ตื่นมาคุยกันซะดี ๆ
กลับมารอบนี้ยิ้มแล้วนะ
ยิ้มอิ่มใจ
เห็นมั้ย เห็นมั้ย กำลังใจล้นจนไม่มีที่เก็บแล้วสินะ
และในจำนวนนั้นมีหัวใจนกแสงตะวันอยู่ด้วยล่ะ

นั่นแน่ มีพลุดอกไม้ด้วย
คิดถึงเธอ ทุก ๆวันที่ดอกไม้บาน...

ว้าาา ปลุกไม่ยอมตื่น หนำซ้ำอาตี๋น้อยกรนเสียงดัง โบกพัดไล่อีกต่างหาก

ไปแล้วจ้าาาาา......




โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:03:25 น.  

 

โอ ข้าน้อยจนปัญญา มิรู้จะหามาให้ได้ไงเลย เพราะไม่ได้ทำซะแล้ว

ถ้ามีจะส่งไปคาราวะถึงที่ แบบถัง 20 ลิตรเลยล่ะ ไม่เมา เราไม่ลุก 55++

สวัสดีในวันที่อากาศอึมครึมค่ะ

เมื่อไหร่อาตี๋จะลุกเนี่ย ...


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:20:59 น.  

 
มาสอบถาม

เจ้าของบ้านไปไหนใจห่วงหา..................มัวแต่มาแต่งบล็อกยกสมัย
สวยสะพรั่งทุกครั้งก้าวดาวอำไพ.............เขาก้าวไปลิบลิบหยิบเดือนดาว
ปล่อยให้บล็อกคนแก่เป็นแค่ถ้ำ..............เป็นขนำปูฟากซากฝุ่นท้าว
ไม่มีใครไปมาทำตาวาว........................ฒ ผู้เฒ่านั่งโงกง่วงช่วงเปิดคอมฯ


โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:41:44 น.  

 
สวัสดีจ้ะ ปลายแปรง คิดว่าไม่อยู่บ้านแน่เลย เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่ขานรับ ไม่เป็นไร ยังไงก็จะฝากข้อความไว้นะค่ะ (ต่อจากวันก่อน) ถ้ามีใครทราบมาก่อน ก็ขออภัยจ้ะ

เพราะดาวอังคารจะส่องแสง เจิดจรัส บนฝากฟ้า ให้เห็นแบบชัดเจนที่สุดเดือนสิงหาคม ด้วยรูปทรงขนาดใหญ่ ประดุจ ดังพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม
(27 สิงหาคม 2550) เที่ยงคืนครึ่ง เราจะเห็นดวงจันทร์สองดวงบนท้องนภา(โรแมนติกมั๊ก มั๊ก)

ปรากฏการ์ณ เช่นนี้จะมีให้เห็นอีกครั้งในปี คศ.2287(2830) ช่วยขอกต่อคนที่คุณรักด้วยนะจ้ะ เพราะนี่คือโอกาสเดียวในชีวิต



โดย: p tim IP: 222.123.86.110 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:06:52 น.  

 
..มาสวัสดียามเช้าค่ะ พี่ปลายแปรง..

มีแต่คนบ่นว่าหายไปไหน อิอิ นั่นสิ หายไปไหน

ขอบคุณ p tim สำหรับข้อมูลค่ะ ดูแน่ ๆ โรแมนติคแบบนี้ นกชอบๆๆ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:19:21 น.  

 
มาแล้วจ้า.....มาช้าดีกว่าไม่มาเน้อ


หายหัวและก้อหายตัวไปหลายวัน
เพราะมัวแต่ปล้ำกับเครื่องคอมนี่ล่ะก๊า....
เอาโปรแกรมเข้า เอาไอ้นี่ออก ให้อีรุงตุงนังไปโม้ด...

กราบขออภัยพี่ป้าน้าอา น้องนุ่งยุงจิ้งหรีด ทั้งหลายทั้งปวง
ก็ยังไม่เรียบร้อยดี....ก็ยังไม่ได้อัพบล๊อคอะไรเลย
เดี๋ยวเข้าสู่ภาวะปกติ คปป. จาปากาดคืนอำนาจให้อย่างเร่งด่วนทันที

คุณหทัยชนก

นะ....ต้องเรียกให้เรียบร้อยสมกะความสวย...
ปลายแปรงทะลึ่งมากเดี๋ยวจิ๋กโก๋จะรวนเอานิ
สงกาสัยว่าช่วงนี้ลุงบูลย์ไม่ว่างล่ะสิ มัวแต่ไปแต่ง้านใหม่รับรองแขกอยู่
เหงาไม่...ไม่มีโก๋รุ่นใหญ่คอยแซว แนมเหน็บ
ชีวิตเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างใช่ไหมล่า

ตอนแรกก็งงนะ p tim แกมาชวนโรแมนติคอะไร วาเลนไทน์เดือนนี้ก็ใช่ที่ ครบรอบแต่งงานก็หาไม่ หรือวันอะไร.....
จึงถึงซึ่งบางอ้อ....p tim หนอ p tim
ช่างทำให้หัวใจน้องนุ่งไหวหวั่น
เพราะใจนั้นหวลนึกถึงเรื่องเจ้าหญิงบนดาวอังคารซะทุกทีสิน่า.....ถ้าไม่มี p tim มาเตือนก็คงพลาดแน่ๆเลย ยายหลังเขาปลายแปรง......แล้วนู๋นกจะชวนใครขึ้นเรือโนอาห์ไปทำกระติกกันสองคนล่ะ เพราะท่าทาง p tim คงจะมีเป็นของตัวเองแล้วล่ะ....โฮะ....โฮะ....โฮะ.....

รอบนี้รำวงรอบปิดไฟ...เหมาทีเดียวสองคนเลยทั้ง p tim กะ นู๋นกโนอาห์.....


ลุงบูลย์คะ

ให้ทุบหัวห้าร้อยทีค่ะ......
ดีใจจังที่คิดถึง...แกล้งหายไปอย่างนั้นแหละ จะลองใจว่ามีใครคิดถึงไหม

จริงๆแล้ว...ไปนั่งปาลองกองเล่นกะป้าพิศค่ะ
เครื่องคอมก็ยังต้องเอาโปรแกรมเข้าๆออก งานตานุเปิดเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ ลบ...ใส่ใหม่....ยังไม่ได้...เปลี่ยนอีก....เออร์เรอร์อีก....เอาใหม่อีก.....มึนตื๊บ

ช่วงนี้ก็ต้องเร่งเอาลองกองออก.....
ใครมาซื้อก็รีบขาย 10 บาทก็ยังดี ปีนี้เน่าคาสวนตายกันเป็นแถบๆ เงินบาทมันแข็ง รถผลไม้ไม่วิ่งก็ไม่มีใครเข้ามาซื้อ.....จบ
ก็ตัดให้หลานป้าพิศในภูเก็ตไปขายท้ายรถทีละ 4-5 เข่ง มากกว่านั้นก็ไม่ไหว
จะออกไปขายกันสองคนกะตานุก็คงขนกลับบ้าน
เพราะขายของทีไรมีแต่คนเดินชม...ไม่เข้าใจ จนเพื่อนข้างแผงเขาต้องมาขายให้ด้วยความเวทนา.....กลุ้มใจ ไม่มีดวงเป็นแม้ค้ากะเขา ปากโฆษณาจนจะฉีกถึงหู
สงสัยหน้าจะวิชาการไปหน่อย....

เสียดายไม่ได้อยู่ใกล้จะขโมยของป้าพิศไปให้ลุงบูลย์สักเข่งหนึ่ง....เข่งหนึ่งถูกยังกะ......!!!
เข่งหนึ่งลูกโตๆ ช่อเต็มๆ ยังไม่ถึงสองร้อย กินจนคลานก็ยังไม่หมด.....
นี่ละนรกของชาวสวน.....
ในหลวงพูดถูกแล้ว วิถีชุมชนไทยไม่ใช่เกษตรอุตสาหกรรมตามที่รัฐบาลและผู้สรางนโยบายชาติต้องการให้เป็น....
เมือง
ไทยยังเหมาะกับเกษตรพอเพียงอย่างแท้จริง...จึงขอยืนยันไม่ใช่ตามกระแส...
เราปลูกอย่างละสิบต้น พอขายได้เงิน พอกิน พอถนอมไว้กินในภายภาคหน้า....
ถ้าเราไม่เอาวัตถุมาวัด มามอมเมาว่าคุณจะต้องมีเครื่องเสียง ทีวี 40 นิ้ว มอไซค์ มือถือให้เท่าใครๆ...ชุมชนจะอยู่ได้ อย่างไม่อดอยาก สามารถเลี้ยงปากท้องคนได้ทั้งชาติ
แต่ความไม่พอ...ทำให้เราตะกายไปแสวงหาจนลืมรากเหง้าและบรรทัดฐานของการยังชีพแห่งตน...
เราจึงมีเกษตรอุตสาหกรรมที่พ่อค้าคนกลางถอยรถใหม่ทุกปี.....แต่คนผลิตยางมังคุดกัดขึ้นสนิม หนามทุเรียนข่วน ก็ยังใช้อยู่นับสิบๆปี

แล้วทุกวันนี้...ผัก ผลไม้ก็ต้องสั่งมาจากเมืองจีน เพราะพื้นที่เพาะปลูกของเรากลายเป็นสวนอุตสาหกรรมไปหมด...เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้เอฟทีเอมา....

วันนี้มามาดเกษตรกรบ่นให้ลุงบลย์ฟังก็แล้วกันนะคะ...
เหน็ดเหนื่อยใจค่ะ...ยิ่งเห็นพวกกะเฬวกะรากที่ทุบบ้านทุบเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์แค่เศษชิ้นเนื้อที่เขาขุยทิ้ง....แล้วจะได้กลับมาผลาญชาติต่อ
ก็รอดูเถอะค่ะ...ว่าจะเหม็นเน่ากันทั้งเมือง เพราะเศรษฐกิจล่มสลายคราวนี้....รากหญ้าเน่าเฟะ...แน่นอน
10 ปีที่แล้ว ยัปปี้แค่ล้มบนฟูก....10 ปีหลัง รากหญ้าจะเน่าในหลุมเลน+++





หนอนบ้านนอกจ๋าk

มาช้าไปวันเดียวเอง...
ภารกะกิจพิชิตคอมยังไม่จบ...
ฝากอุไว้ก่อนนะ....เดี๋ยวจะเอาไหปลาร้าไปใส่เอง
มันใหญ่ดี...แถมยังได้อุรสตุๆด้วย



พี่นกแสงตะวันคะ

ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้ต้องเคาะประตูนาน....
ไปอยู๋ที่เขาลูกโน้นที่สุดตาแลมาค่ะ..เลยไม่ได้ยิน..
กลับมาอ้าว...ประตูเป็นรอย ตะโกนเรียกก็ไม่ทัน
สงสัยไปหายเลยมั้งเนี่ย
แต่อาตี๋น้อยก็แอบนอนยามเข้าทางไหนเห็นแล้วค่ะ
ว่าวันนี้ยิ้มกว้างงงงงงงงงงงง......
ทะลุฝาบ้านเลย....
ไฟไหม้ตึก..ก็ยังดีกว่าไฟผลาญใจเนอะ...


สาวขอนแจ๊น

ทราบข่าวเล่าแจ้งแถลงไขแล้วเด้อ...
ข้อยสิจะไปกอยแลหน้า ในไม่ช้านี้
ว่าแต่พาผู้บ่าวหนีบสะเอวไปด้วยไหมเนี่ย
เอ...แล้วลืมของฝากไหม ดอกกะเจี๊ยวน่ะ!!


แม่เจ้าฟาง ฟาง

ใครรู้ว่ามีลูกชื่อฟาง ฟาง ก็รับไปนะก๊ะ...
บอกป้าชุด้วยนะคะว่ายังไม่สมประกอบ
ก็เลยยังไม่ได้เข้ามาเคลียร์อะไรในบล๊อค ในเมลล์เลย
ก็คงจะอีกสัก วัน ถึง สองวัน
ตอนนี้ก็นินทาข้าพเจ้ากะเจ้าหูตูบกะป้าชุไปพลางๆก่อนนะคะ....
รักษาใจ....รักษาจิต....รักษาความคิด...
สงบ....นิ่ง....เยือกเย็น นะคะ แม่ฟาง ฟาง


ฝากคิดถึงทุกๆคนค่ะ...อยากไปเยี่ยมบ้านแต่ตอนนี้ได้แต่มาชะเง้อเหยียบผ้าถูพื้นแล้ววิ่งลุบรอบบ้านแล้วออกไปจามหน้าบ้าน...เดี๋ยวคอมกะคนเรียบร้อยจะมาให้นินทากาเลค่ะ คงไม่นานหรอก.....คนปากเห่อ คันยิบๆ รอนานไม่ได้นิ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:37:52 น.  

 

เพลงสนุก ๆ ใส ๆ ดนตรีแห่งความสุข โชคดีที่วันนี้ฟังได้จนจบเพลง สัญญาณเนทที่บ้านไม่ดีฟังเพลงไม่ค่อยได้

เห็นปกหนังสืออุ่มอิ๋ม (วดีลดา)เลยเขียนมาบอกว่าเมื่อวานพบกับเธอในงานสัมนา แม่น้ำปิง พรุ่งนี้ก็จะพบ จะเปิดบล็อกนี้ให้เธอดู

เมื่อวานหนังสือเล็ก ๆ ที่เธอกับเพื่อนช่วยกันทำเสร็จเล่มหนึ่งชื่อว่า ไม่รักไม่บอก




โดย: แพรจารุ วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:25:24 น.  

 
..ว่าจะชมพี่ปลายแปรงเรื่องเพลง โดเรมอน แล้วลืมค่ะ นกชอบนะไอ้เจ้าโดเรมอนเนี่ย อย่างแรก ชอบในของเล่นของโดเรมอนที่ช่างจินตนาการเหลือเกิ๊น อีกอย่างชอบหุ่นตัวกลม ๆ ของโดเรมอน อิอิ ถ้าได้กอดคงอบอุ่นน่าดู..

..นกไม่มีคนไปโรแมนติกด้วยหรอกค่ะ ยังเป็นสาวโฉด (เฉิ่ม บวก โสด) กำลังหาอยู่เนี่ย อิอิ อิจฉาแต่พี่ปลายแปรงแหละ มีพี่ณุ อยู่ท้างคนนี่นา เหอ เหอ..

..ช่วงนี้หัวขะหมองไม่ค่อยจะแล่นค่ะ อาบูลย์เลยขาดคนลับฝีปากในเรื่องบทกวี ปล่อยคนแก่สนุกสนานกับเวบใหม่ ๆ ไปก่อนไงคะ เดี๋ยวค่อยเข้าไปป่วนใหม่..

..ไม่ได้บ่นอะไรมากมายหรอกค่ะ พี่ปลายแปรง นกก็ไม่ได้แตกต่างกับใคร ๆ นักหนา (แหะ แหะ มี 2 ตา 1 จมูก 1 ปาก เหมือนกัน อิอิ) แค่นกไม่ชอบไปเที่ยวสถานเริงรมย์ เท่าไหร่นัก ชอบอยู่เงียบ ๆ อ่านหนังสือ เล่นอินเทอร์เน็ต เพื่อน ๆ ก็เลย เรียก แม่แก่ ก็แค่นั้น..

..ต๊ายยย จะสิบโมงแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้านายเดินผ่านมาจะโดนดุ อิอิ ชะแว๊บ..


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:54:12 น.  

 
แอบมาคอมเม้นท์ในใจหลายรอบ

"พี่ปลายแปรง อัพบล็อกได้แล้ว"

ฮี่ฮี่


โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.160.2 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:34:47 น.  

 
รูปสุดท้ายขวามือ ใช่รูปพี่หมอหรือเปล่า คุ้นๆนะ


โดย: พราน IP: 222.123.43.240 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:23:02:51 น.  

 
ปกติเวลาอ่านหนังสือหรือดูรูปเคยนึกเหมือนกันว่าคนวาดคนเขียนคิดอะไรอยู่น่ะ


โดย: ฝน (Childcraft ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:52:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลายแปรง
Location :
พังงา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุดปลายของแปรง
อาจป้าย...ได้ภาพเขียนงาม
อาจปาด....ได้ภาพสะเทือนขวัญ

แปรงสุดปลาย....วาดในอากาศ
สูญญากาศของสีที่ว่างเปล่า

เพียง "ใจ" ผู้ป้ายแปรง
ว่างเปล่า....ไร้แปรง....ปราศจากปลาย
สรรพเรื่องราว...ว่างเปล่าในกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลายแปรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.