Home ตั้งเวปนี้เป็นหน้าแรก

PIWAT
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Online Users
     

Custom Search

วิทยุธรรมะออนไลน์ Free counter and web stats
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add PIWAT's blog to your web]
Links
 

 
พุทธศาสนาพูดเรื่องทุกข์และดับทุกข์เท่านั้น

ทำอย่างไรจึงจะไม่มีทุกข์
พุทธทาส ภิกขุ


การบรรยายครั้งที่ 1
ทำอย่างไรจึงจะไม่มีทุกข์
4 ตุลาคม 2531


พุทธศาสนาพูดเรื่องทุกข์และดับทุกข์เท่านั้น

วันนี้เราจะเริ่มพูดกันโดยหัวข้อว่า "ทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นทุกข์” ถ้าท่านไม่มีความทุกข์ ก็ไม่มีเรื่องที่จะต้องพูด เพราะพุทธศาสนามีพูดแต่เรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าท่านไม่มีทุกข์ ก็ไม่ต้องพูด ถ้าท่านมีความทุกข์ นั่นแหละเราจึงจะมีเรื่องที่จะต้องพูดกัน ในแง่ของ suffering โดยเฉพาะ หรือเรียกกันในแง่ของ dissa-tisfactoriness ทั่ว ๆ ไปก็ได้ เรียกว่าความทุกข์

(1)



จิตเป็นผู้รู้สึกทุกข์

สิ่งที่ควรรู้ต่อไปอีก ก็คือว่า ใครหรืออะไรที่เป็นทุกข์ โดยหลักพุทธศาสนา ไม่มี soul (อาตมัน) ไม่มี ego (ตัวตน) มีแต่จิตแล้วก็มีร่างกาย พร้อมด้วยระบบประสาทอะไรครบถ้วน มีแต่ร่างกายกับจิต จิตกับร่างกายรวมกัน ทำหน้าที่ได้อย่างประหลาด มันทำหน้าที่ได้อย่างประหลาด จนเราโง่ไปเองว่ามันเป็น soul หรือเป็นตัวตน ที่แท้ไม่มี soul มีแต่กายกับจิต จิตนั่นเหละเป็นผู้รู้สึกทุกข์

(2)



แล้วก็ขอให้ทราบว่า มันทำงานร่วมกันจนเป็นสิ่งเดียวกัน เราจะเรียกว่า body-mind หรือ mind-body ก็ขอให้รู้ว่า มันเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าไม่มีจิต ร่างกายก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่มีร่างกาย จิตก็ทำอะไรไม่ได้ ฉะนั้น มันจึงต้องรวมกันทั้งสองอย่าง มันจึงจะทำอะไรได้ แล้วทำได้แปลก แปลกจนเข้าใจไปว่ามันเป็น soul เป็น self

(3)



จิตเดิมแท้ล้วน ๆ นั้นไม่มีทุกข์

ทีนี้ก็รู้ต่อไปว่า สิ่งที่เรียกว่าจิตล้วนๆ นั้นไม่มีความทุกข์ จิตเดิมแท้ล้วน ๆ ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นทุก แต่แล้วมันก็เป็นทุกข์ เพราะมันมีสิ่งที่เรียกว่า กิเลส นั่นแหละเกิดขึ้นมาใหม่ เกิดขึ้นมาใหม่แล้วจิตก็เป็นทุกข์ ถ้า ไม่มีกิเลส จิตก็ไม่เป็นทุกข์ จิตล้วน ๆ ไม่เป็นทุกข์ นี้ตามธรรมดาทั่วไป มันมีกิเลสเกิดจึงเป็นทุกข์ เรารู้ธรรมะก็เพื่อรู้วิธีที่จะทำให้ไม่ให้กิเลสเกิด เมื่อกิเลสไม่เกิด มันก็ไม่เป็นทุก เรื่องก็มีเท่านี้จริง ๆ

(4)



ศึกษาเรื่องจิต กิเลส และความทุกข์ให้ดี

ดังนั้น ขอพยายามทำความเข้าใจว่า จิตนั้นคืออะไร กิเลสนั้นคืออะไร แล้วมันทำให้เป็นทุกข์ได้อย่างไร สิ่งที่เรียกว่า self หรือ soul นั้นไม่มี แต่มันโง่ไปคิดว่ามีแหละ ทำความเข้าใจเรื่องจิตให้ดี และเรื่องกิเลสที่เกิดกับจิตให้ดี แล้วความทุกข์มันจะเกิดขึ้น สามคำนี้แหละ สนใจมากเป็นพิเศษคือ จิต กิเลส และความทุกข์

(5)



จิตล้วน ๆ ที่ไม่มีกิเลสนั่นก็พอจะสังเกตได้ แต่เราก็ไม่สังเกต บางทีเราก็ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่ากิเลส ก็พอใจกิเลสไปเสียอีก แทนที่จะพอใจจิตล้วน ๆ ที่ไม่เป็นทุกข์ ขอพยายามสังเกตดูให้ดี เวลาที่จิตไม่รู้สึกเป็นบวกหรือเป็นลบ ไม่ดีใจไม่เสียใจ ไม่มีอารมณ์อะไรมารบกวนจิตใจ จิตนั้นเรียกว่ามันยังเดิม ๆ อยู่ แต่มันมีขณะน้อยมาก เพราะว่ากิเลสมันมักจะเกิดขึ้นไปเสียตลอด หรือเกือบจะตลอดเวลา ขอให้พยายามสังเกตว่า จิตล้วน ๆ ที่ไม่มีกิเลสนั้นเป็นอย่างไร ให้เข้าใจยิ่งขึ้นไป แล้วก็จะพอใจ แล้วก็จะพยายามรักษาไว้ รักษาไว้ให้จิตมีสภาพอย่างนั้นเรื่อยไป ธรรมะจะช่วยได้ในข้อนี้ ช่วยรักษาจิตในสภาพเดิมไว้ได้ คือ ไม่เกิดกิเลส ไม่เกิดทุกข์

(6)



อ่านต่อหน้า [1] [2] [3] [4] [5]



Create Date : 06 สิงหาคม 2550
Last Update : 31 สิงหาคม 2550 12:48:38 น. 1 comments
Counter : 590 Pageviews.

 


ถ้าไปอ่านต่อที่บ๊อกเรา
ก็จะรับกันเนียนเหมือนกัน
ต่างกันที่บ๊อกเราเปรียบกับลิงค่ะ
และความรักที่แม่ลิงมีต่อลูกลิงค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:14:44:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.