Home ตั้งเวปนี้เป็นหน้าแรก

PIWAT
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Online Users
     

Custom Search

วิทยุธรรมะออนไลน์ Free counter and web stats
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add PIWAT's blog to your web]
Links
 

 

กิเลสเกิดขึ้นเพราะผัสสะโดยขาดสติปัญญา

ทำอย่างไรจึงจะไม่มีทุกข์
พุทธทาส ภิกขุ


กิเลสเกิดขึ้นเพราะผัสสะโดยขาดสติปัญญา

ทีนี้ เราได้มาพิจารณากันถึงข้อที่ว่า กิเลสเกิดขึ้นได้อย่างไร สมมติว่าเดี๋ยวนี้เรามีจิตว่าง ไม่มีกิเลส ทีนี้มันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หกอย่างในร่างกายนี้ มีหน้าที่รับอารมณ์ข้างนอก คือ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ยกตัวอย่างในทางตา พอตาเห็นรูป ก็เกิดการเห็นทางตา คือ จักขุวิญญาณ สามอย่างนี้ คือ ตากับรูปกับจักขุวิญญาณ ทำงานร่วมกันอยู่ ก็เรียกว่า ผัสสะ ถ้าผัสสะไม่มีสติปัญญา นี่แหละกิเลสจะเกิด ถ้าผัสสะมีสติปัญญา กิเลสก็ไม่เกิด นี่หัวข้อย่อ ๆ ว่าอย่างนี้

(7)



ผัสสะทำให้เกิดเวทนา

เมื่อ contact หรือผัสสะนั้นไม่มีสติปัญญา มันก็เป็นผัสสะโง่ ผัสสะโง่มันก็คลอดเวทนา (feeling) ออกมาเป็นเวทนาโง่ มันก็โง่กันหมด ก็เพราะว่ามันไม่มีสติปัญญา เมื่อผัสสะก็โง่ เมื่อเวทนามันก็โง่ นี่แหละ จิตมันไม่มีสติปัญญา มันก็ไม่รู้ มันก็หลงรักเวทนาที่น่ารัก หลงเกลียด เวทนาที่ไม่น่ารัก ไม่น่ารักหรือไม่น่าเกลียด มันก็สงสัยไม่เข้าใจ นี่แหละความรัก ความเกลียด และความหลง นี่เรียกว่ากิเลส มันเกิดมาจากผัสสะโง่ และเวทนาโง่ ขอให้รู้จักให้ดีที่สุด

(8)



เวทนาทำให้เกิดตัณหา

จากเวทนาที่น่ารัก จะเกิดกิเลสที่เราเรียกว่า ตัณหาก็ได้ ราคะ โทสะ โมหะ ก็ได้ ที่จริงเมื่อเวทนาที่น่ารัก มันก็เกิดกิเลสคือความรัก ที่เรียกว่าราคาหรือโลภะ ถ้าว่ามันเป็นเวทนาที่ไม่น่ารัก ก็เกิดกิเลสหรือตัณหาประเภทที่มันไม่รัก มันเกลียด มันโกรธ เรียกว่าโทสะบ้าง โกธะบ้าง ถ้ามันยังไม่แน่ว่าน่ารักหรือไม่น่ารัก มันก็โง่ มันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันสงสัย พะวงสงสัยอยู่นั่นแหละ ก็เรียกว่าโมหะ โง่ หลง ไม่รู้ ราคาหรือโลภะนี่มันรับเข้ามาเป็น positive (บวก) โทสะ โกธะ มันไม่รับเข้ามา มันผลักออกไปเป็น negative (ลบ) ถ้าไม่แน่ มันก็สงสัย ก็เป็นระคนกันทั้ง negative ทั้ง positive จนไม่รู้ว่าจะเอาอะไร เหล่านี้เราเรียกว่ากิเลส กิเลสนี้จะทำให้จิตเป็นทุกข์

(9)



ตัณหาทำให้เกิดอุปาทาน

เมื่อเราเกิดกิเลสประเภทบวกคือ ราคะ หรือ โลภะ มีความรัก มีความอยาก มีความต้องการนี่ มันก็เกิดความรู้สึกอีกอันหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า "กูผู้อยาก" ความรู้สึกนี้เป็นมายาล้วน ๆ ไม่มีตัวจริง แต่มีในความรู้สึกว่า "กูผู้อยาก" "กูผู้รัก" ถ้ามันเกิดกิเลสประเภทโทสะหรือโกธะ มันไม่ชอบ มันจะทำลาย มันจะตีให้ตาย มันมีความโกรธ หรือโทสะ เกิดขึ้น มันก็เกิดความรู้สึกว่า "กูผู้ไม่ชอบ" "กูผู้โกรธ" "กูผู้เกลียด" อยากจะทำลายถ้ามันเกิดกิเลสประเภทโมหะคือสงสัย ไม่รู้อะไรตามที่เป็นจริง มันก็เกิด "กูผู้สงสัย" "กูผู้ไม่รู้จะทำอะไร" นี่เรียกว่าเกิดอุปาทาน เมื่อตัณหาเกิดแล้ว อุปาทานก็เกิด มันเกิดความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว มันจะเกิดความรู้สึกว่ากูผู้รู้สึกอย่างนั้น ขึ้นมาอย่างลม ๆ แล้ง ๆ เกิดความรักขึ้นมา ก็เกิดผู้รัก เกิดความโกรธขึ้นมา ก็เกิดผู้โกรธ เกิดความสงสัยขึ้นมา ก็เกิดกูผู้สงสัยขึ้นมา นี้เรียกว่า ตัณหาให้เกิดอุปาทาน

(10)



อ่านต่อหน้า [1] [2] [3] [4] [5]




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2550
6 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2550 12:49:20 น.
Counter : 763 Pageviews.

 



หลงเข้ามาแล้ว ก็ขอรับฟังข้อคิดดีๆละกันนะคะ

 

โดย: Jikkyjang 6 สิงหาคม 2550 15:29:14 น.  

 

มาศึกษาค่ะ

 

โดย: ELiiCA 6 สิงหาคม 2550 17:35:53 น.  

 



ขอบคุณสำหรับแนวทางที่ดีค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 6 สิงหาคม 2550 18:46:14 น.  

 

ชอบอ่านค่ะ ขออนุญาติหลงเข้ามาบ่อยๆนะคะ

 

โดย: รามเกียรติ์ 6 สิงหาคม 2550 23:02:23 น.  

 

พออ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีครบเล้ยอ่ะ

 

โดย: rosy (Rati_rosy ) 9 สิงหาคม 2550 8:08:04 น.  

 

ขอcopyไปเผยแพร่หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

 

โดย: DJ.ต้อม IP: 222.123.225.38 6 ตุลาคม 2551 17:57:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.