|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
สิ่งที่น่ากลัว?
สิ่งที่น่ากลัว? โดย ศ.ดร.สมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ 16 มิถุนายน 2551 12:24:18 น.
หลังการเลือกตั้งเมื่อ23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายหวังว่าการเมืองไทยจะเดินไปได้อย่างมั่นคง ท่ามกลาง "การแตกแยกของสังคม" ทั้งนี้หัวใจสำคัญ ของการบริหารประเทศที่ดีนั้น ผู้นำต้องมีศิลปะในการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชาติ ซึ่งจะทำให้พลังของคนในชาติขับเคลื่อน แต่หากยังมีความ แตกแยกถือว่า"ผู้นำล้มเหลว" ควรพิจารณาให้ผู้อื่นเข้ามาบริหารแทน
ประเทศเราตอนนี้น่ากลัว คนในประเทศแบ่งเป็น 2 ฝ่ายชัด เปรียบเสมือน "น้ำ " กับ "น้ำมัน" เราหวังว่าหลังเลือกตั้งจะดี เพราะรัฐบาลประกาศสร้าง "ความ ปรองดอง" ถ้าทำได้จะเป็นโอกาสดีของรัฐบาล แต่รัฐบาลต้องรู้ว่าชัยชนะของรัฐบาล ก็มีคนไม่เลือกเยอะ ดังนั้นการบริหารประเทศจะบริหารเพื่อคนชนะไม่ ได้ ต้องบริหารเพื่อคนไทยทั้งประเทศ
หากรัฐบาลยังดึงดันแก้ "รัฐธรรมนูญ" เชื่อว่าจะทำให้เกิดวิกฤติที่รุนแรง เพราะมีความขัดแย้งของคนสองฝ่าย เพราะหากแก้ไขโดยกลุ่มที่สนับสนุนทักษิณ อีกกลุ่มหนึ่งก็จะขอให้แก้ไขใหม่ และคัดค้านไม่จบสิ้นอีก ฉะนั้น ตรงนี้จึงขาดความชอบธรรมแต่แรก จุดหลักต้องดูว่าควรจะแก้ไขโดยใครถึงจะได้รับ ความไว้วางใจ และไม่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ทำได้ คนไทยให้ความสำคัญเรื่องที่มามาก ดังนั้น ทางที่ดีควรทำ ให้คนทุกฝ่ายยอมรับในจุดนี้ก่อน โดยต้องทำกระบวนการให้ทุกฝ่ายยอมรับได้
ทั้งนี้ "นิด้าโพล" ที่จะเผยผลสำรวจในวันที่ 16 มิ.ย. 2551นี้ ระบุว่าประชาชน 66% ไม่เห็นด้วยกับการใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อทำประชามติแก้รัฐ ธรรมนูญในทันทีทันใด มีเพียง 20% ที่เห็นด้วยนอกจากนี้ระบุว่า ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาปากท้องก่อนกว่า 70% ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องเร่งด่วนเพียง 5% ดังนั้น รัฐบาลต้องปรับท่าที หากยังยืนยันจะแก้รัฐธรรมนูญต่อไป ก็จะเกิดการเผชิญหน้า และเป็นเหตุให้รัฐบาลจะไม่ได้อยู่ บริหารประเทศ หรือหากบริหารประเทศแล้วมีสถานการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ก็จะกลายเป็น "เหยื่อ " ตกหลุมแล้วจะมีคนอ้างเข้ามาทำให้ ประชาธิปไตยหยุดเดิน สุดท้ายนักการเมืองจะถูกตำหนิว่า เป็นคนสร้างเงื่อนไขให้ประชาธิปไตยหยุดลง สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบเพราะอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้
รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับประชาชนน้อยกว่าการสนใจการใช้อำนาจที่มีอยู่ อย่างสนุกสนานโดยเฉพาะการรีบเร่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญปี 50" ใช้เวลาเป็นปีในการแก้ไขปรับปรุง แต่รัฐบาลใช้ยังไม่เท่าไร ก็จะรีบแก้ ถ้า แก้แล้วมีวัตถุประสงค์ ของประเทศก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าแก้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ในที่สุดรัฐบาลจะเป็นผู้เปิดแผลความแตกแยกให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างเอง
หากรัฐบาลไม่ยุ่งกับการเมืองมากจนเกินไป แล้วนำเวลาแก้ไขปัญหาปรับโครงสร้างทางการเกษตรอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าไม่เกิน 5 ปี เกษตรกรจะเลิกจน รัฐบาลทำได้ แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลให้ความสนใจน้อย แต่กลับใช้เวลาสร้างปม "ปัญหาทางการเมือง" ให้ขัดแย้งมากยิ่งขึ้น สนุกสนานกับการใช้อำนาจ จน จะนำให้ชาติไปสู่ความหายนะ
สิ่งที่น่ากลัววันนี้คือ "ปัญหาราคาน้ำมัน" ซึ่งรัฐบาลได้ทุ่มสรรพกำลังเรื่องการประหยัดพลังงาน การเตรียมพลังงานทดแทน การสร้างระบบต่างๆ ให้ใช้ พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่? จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นรัฐบาลทุ่มเทแก้ปัญหาจริงจัง หากปัญหาปากท้องประชาชนรุนแรงมากขึ้นกระทบกับชน ชั้นสูง ผู้ประกอบธุรกิจ เกษตรกร ผู้หาเช้ากินค่ำ แล้วรัฐบาลยังมุ่งจะมาเล่นเกมการเมือง สุดท้ายประชาชนทุกหย่อมหญ้าจะออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ รัฐบาลแก้ปัญหาประชาชน ดังนั้นถ้ารัฐบาลยังนิ่งเฉยกับปัญหาปากท้องต่อไป น่าวิตกว่าจะเกิดเหตุไม่ปกติในประเทศขึ้น " ถ้าประชาชนทนไม่ไหวแล้วออกมารวมตัวกัน ประชาชนก็จะออกมาขับไล่รัฐบาลในที่สุด!!"
//www.innnews.co.th/sombat.php?nid=116410
Create Date : 16 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2551 23:14:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 186 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|