Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
เที่ยวทั่วไทย
เบเกอรี่
ครอบครัวของฉัน
น้องถุงแป้ง พาเที่ยว คะ
คุกกี้
อาหารคาว
ชวนลูกเข้าครัว
ขนมไทย
ขนมปัง
อาหารเจ
ของทอด
ของว่าง
ข้าวกล่อง ป.4
Food For Fun 2018
<<
กรกฏาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
24 กรกฏาคม 2550
ไวท์ชอคโกแลตบลูเบอรี่ มูสเค้ก
ไวท์ชอคโกแลตโอริโอ้ มูสเค้ก
All Blogs
ขนมโตเกียว
@@@......ฟรุ๊ตเค้ก.......@@@
มาม่อนเค้ก
@@@.......แยมโรล.......@@@
@@@..........พายมะนาว...........@@@
@@@......RASPBERRY COCOUNT BARS......@@@
@@@.......วิธีการ ย้ายมูสเค้ก ออกจากพิมพ์ คะ........@@@
@@@.......Mango Mousse Cake.....(ส่งการบ้านแม่หลิ่ม)..@@@
เค้กเนยสด
เค้กใบเตย(เค้กเนย)
ทอฟฟี่เค้ก
Black Forest Cake(สำหรับคู่ชีวิต)
@@@..........Tiramis............@@@(ส่งการบ้าน แม่หลิ่ม)
@@@.........๋Japanese Souffle Cake........@@@
Strawberry Mousse Cake
คัสตาร์ด ชิฟฟ่อนเค้ก (ในตำนาน)
..............Orange Love ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Double Chocolate Cheesecake
เค้กมะพร้าวอ่อน(ไส้พายมะพร้าว)
พัฒนาการของการทำขนมอบ(มีเฉพาะรูปนะคะ)
ขนมปังเนยสด
เค้กกล้วยหอม
ไวท์ชอคโกแลตบลูเบอรี่ มูสเค้ก
ไวท์ชอคโกแลตโอริโอ้ มูสเค้ก
เค้กชอคโกแลต
New York Cheesecake ทานคู่กับ บลูเบอรี่
Blueberry Butter Cream Cake
Banoffi pie
mini shella
คัพเค้กมะพร้าว
Strawberry cake Butter cream
เค้กส้มในตำนาน
เค้กส้ม(สูตรผสม)
เค้กชอคหน้านิ่ม-ไวท์ชอค
เค้กชอคหน้านิ่ม-ดาร์กชอค(คุณครูแพร)
ไวท์ชอคโกแลตบลูเบอรี่ มูสเค้ก
ขอติดสูตรไว้ก่อนนะคะ เพราะจำไม่ได้ว่า ลอกการบ้านของใครคะ เดี๋ยวส่งผิดคน 555
Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 11:31:02 น.
12 comments
Counter : 1573 Pageviews.
Share
Tweet
วันนี้วันเกิดขอเป็นขนมเค้กสักปอนด์แทนได้ป่าวอะ
โดย:
Aui_haui
วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:11:59 น.
โอ้ น่าหม่ำอย่างแรงค่ะ
ทำขนมเก่งจังค่า
โดย: ยัยหมามุ่ย (
bon_bonkatz
) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:20:00 น.
น่าทานมากเลยค่ะ เก่งมากๆ
โดย:
มันอยู่ในปอด
วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:30:49 น.
คุณ Aui_haui อยากทานเค้กอะไรคะ เดี๋ยวจัดให้คะ
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:26:18 น.
ขอลงสูตรไว้ตรงนี้นะคะ เค้กก้อนนี้ แบ่งขั้นตอนออกเป็น 3 ส่วน นะคะ ค่อยๆ ทำคะ ไม่ต้องรีบ
ขั้นตอนที่ 1
ทำสปันจ์เค้ก 1 ก้อน ขนาด 1 ปอนด์ นะคะ
สูตรสปันจ์เค้ก แมวใช้ของ คุณแหม่มคะ อร่อยและง่าย แมวใช้เป็นสูตรหากินประจำตัวไปแล้วคะ 555 ขอบคุณ คุณแหม่ม คะ
ส่วนผสม ดังนี้ คะ(ส่วนผสมที่ลงนี้จะได้เค้ก ขนาด 2 ปอนด์นะคะ อย่าลืม หาร 2)
แป้งเค้ก ตราพักโบก 100 กรัม
ผงฟู 3/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ เบอร์2 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 120 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 40 กรัม
สารเสริม SP 10 กรัม
นมข้นจืด 30 กรัม
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เนยสดจืด 70 กรัม(ทำให้ละลาย)
วิธีการทำ(ง่ายๆ และสั้นๆ คะ)
1. เตรียมพิมพ์เค้กปูแต่ กระดาษไขไม่ต้องทาไขมัน ตามสูตรจะได้เค้กขนาด 2 ปอนด์คะ แต่มูสเค้กก้อนนี้ แมวใช้ตัวเค้กขนาด 1 ปอนด์คะ เพื่อนๆ ต้องหาร 2 นะคะ
2. เปิดเตาอบคะ ที่ 180c แล้วนำเนยวางเข้าไปในเตาเลยคะ
3. ร่อนแป้ง กับ ผงฟู สัก 2 รอบ พักไว้, นมข้นจืดผสมกับกลิ่นวานิลา ไว้ด้วยคะ
4. น้ำ เกลือ น้ำตาลทราย และ ไข่ไก่(ไข่ต้องไม่เย็นนะคะ สปันจ์เค้กใช้ไข่เย็นๆ ไม่ได้คะ มันจะขึ้นฟูยากคะ ถ้าไข่ที่ใช้แช่อยู่ในตู้เย็น ต้องนำออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องก่อนคะ) และ สารเสริม SP ใส่ลงในอ่างผสมคะ
5. เริ่มตีด้วยสปีดสูงสุด(ตะก้อไฟฟ้าของแมว มี 4 ระดับ แมวใช้ระดับที่ 4 คะ) ใช้เวลาในการตี 5-7 นาทีคะ
6. เมื่อตีไข่จนฟูข้นแล้ว ปิดเครื่องคะ ใช้พายยางปาดอ่าง แล้วเติมแป้งลงไปทั้งหมด แล้วเปิดเครื่องที่สปีดต่ำสุด ตีเพียง 1 นาที พอนะคะ ปิดเครื่องแล้วปาดอ่างคะ
7. หันไปหยิบเนยออกจากเตาอบได้แล้วคะ หากว่าเนยยังละลายไม่หมด ก็ใช้ช้อนคนๆ ให้ละลายก็ได้นะคะ แล้วพักไว้ก่อน
8. เปิดเครื่องตีอีกครั้งหนึ่ง ที่สปีด กลางนะคะ แล้วตีส่วนผสมต่อไปอีก 5-7 นาทีคะ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ทั้งสองมือช่วยกันนะคะ คือ มือหนึ่งถือตะก้อไฟฟ้าคะ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถือพายยางคะ ใช้พายยาง ปาดส่วนผสมเข้าหาตะก้อคะ จะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้เนียนคะ
9. เมื่อครบ 5-7 นาทีแล้วไม่ต้องปิดเครื่องนะคะ ก็ เติมนมข้นจืด และ เนยละลายคะ ค่อยๆ เท เป็นสายเล็กๆ นะคะ อย่าเทพรวดเดียวหมดนะคะ ไม่เป็นผลดีกับส่วนผสมคะ พอเติมทั้งสองอย่างหมดแล้ว ก็ตีต่อไปอีกสัก 2-3 นาทีคะ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำสปันจ์เค้กคะ
10. เทใส่พิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 180c นาน 40 นาที(สำหรับพิมพ์ 2 ปอนด์) หากใช้พิมพ์ 1 ปอนด์ ก็อบแค่ 25-30 นาทีคะ
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:39:10 น.
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อเราได้สปันจ์เค้กตามต้องการแล้ว เราก็มาทำตัวมูสกันคะ
ส่วนผสม บลูเบอรี่มูส คะ
บลูเบอรี่ 120 กรัม
(ใช้สด หรือ แช่แข็ง หรือ กระป๋อง ได้ทั้งนั้นคะ)
น้ำเปล่า 50 กรัม
น้ำตาลทราย 90 กรัม
เจลาตินแผ่น 4 แผ่น(แช่น้ำให้นิ่มตัดเป็นชิ้นๆ)
(หากใช้แบบผง ก็ 1 ช้อนโต๊ะละลายน้ำอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ)
วิปปิ้งครีม 200 กรัม(ประมาณ 1 ถ้วยตวง)
วิธีการทำ
1. ปั่นบลูเบอรี่กับน้ำ ให้ละเอียด
2. ปั่นเสร็จแล้ว เทใส่หม้อผสมน้ำตาล และเจลาติน นำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนตลอดจนน้ำตาลกับเจลาติน ละลายหมด ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นสนิท(แนะนำให้เปลี่ยนภาชนะคะ ส่วนผสมจะได้เย็นเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นใช้เวลาคอยนานคะ)
3. เมื่อส่วนของบลูเบอรี่เย็นแล้ว เราก็ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอด แล้วนำบลูเบอรี่มาผสมให้เข้ากันคะ(ก่อนตีวิปครีม ให้นำหัวตีกับอ่างผสมแช่เย็นไว้ก่อนนะคะ จะช่วยให้ตีวิปครีมง่ายคะ)
4. เมื่อได้ส่วนผสมของมูสบลูเบอรี่แล้ว เราก็นำไปราดบนตัวเค้กชั้นที่ 1 ราดให้กลบเนื้อเค้กไปเลยคะ แล้วนำไปแช่เย็นไว้ก่อน (ลืมบอกไปคะ เมื่อเราได้สปันจ์เค้กแล้ว เราก็สไลด์เค้กออกเป็น 2 ส่วน ความหนาไม่ควรเกิน 2 ซม. แล้วนำเค้กชั้นที่ 1 ไปวางไว้ในพิมพ์ที่ถอนก้นได้ ขนาด 2 ปอนด์นะคะ รอไว้คะ)
5. ระหว่างรอมูสชั้นที่ 1 เซ็ตตัว เราก็มาทำตัว ไวท์ชอคมูสกันต่อเลยคะ ส่วนผสมตัวไวท์ชอคมูส มีดังนี้คะ
ไวท์ชอค 120 กรัม
เฮฟวีครีม 50 กรัม(หาซื้อไม่ได้คะ ก็เลยใช้วิปครีม แทน)
วิปปิ้งครีม 200 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. หั่นไวท์ชอคเป็นชิ้นเล็กๆ คะ
2. เทไวท์ชอคใส่หม้อ เติมเฮฟวีครีม/วิปครีม 50 กรัม
3. นำไปตั้งไฟอ่อน คนตลอดจนไวท์ชอคละลายหมด ปิดไฟคะ แล้วพักไว้ให้เย็นสนิท
4. เมื่อไวท์ชอคเย็นแล้ว เราก็ตีวิปครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจะตั้งยอด แล้วนำไวท์ชอคมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็นำไปราดบนตัวเค้กชั้นที่ 2(คือมูสชั้นแรกที่เราแช่เย็นไว้เซ็ตตัวดีแล้ว เราก็วางเนื้อเค้กชั้นที่ 2 ลงไปคะ) จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเหมือนเดิมคะ รอให้ไวท์ชอคเซ็ตตัวก่อนนะคะ
การทำมูสเค้ก ใช้เวลาค้อนข้างนานคะ ใจร้อนทำไม่ได้นะคะ ไม่งั้นเค้กออกมาจะไม่สวยคะ ถ้าชั้นแรกไม่เซ็ตตัวแล้วรีบราดชั้นที่สองลงไป มีหวัง สีมูส กลืนกันหมดคะ
ช่วงนี้รอให้มูสเซ็ต ตัวเราก็นั่งเล่นเน็ตไปเพลินๆ ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาทำ ตัวเจยลี่ ที่ราดบนหน้าเค้กกันต่อคะ
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:04:52 น.
ขั้นตอนที่ 3
เป็นการทำเจยลี่ ที่ราดหน้าเค้ก คะ
ส่วนผสม ดังนี้คะ
บลูเบอรี่ 120 กรัม
น้ำนิดหน่อย
เจลาตินผง 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
ปั่นบลูเบอรี่ให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำให้ได้ 1 ถ้วยตวง แล้วเติมเจลาตินผงลงไป ทิ้งไว้สัก 2 นาที ให้เจลาตินซึมซับน้ำเล็กน้อยคะ จากนั้นก็นำไปต้ม หรือ จะเข้าไมโครเวฟ ก็ได้คะ ให้เจลตินละลายคะ แล้วพักไว้ให้เย็นสนิท สนิทจริงๆ นะคะ ไม่งั้นเค้กเราละลายแน่นอนคะ (แนะนำให้เปลี่ยนภาชนะ หลังจากเจลาตินละลายหมดแล้วคะ ส่วนผสม จะได้เย็นเร็วขึ้น)
เมื่อมูสเค้กที่เราแช่เย็นไว้ เซ็นตัวดีแล้ว และ ตัวเยลลี่หายร้อนแล้ว เราก็นำเยลลี่ไปราดบนตัวมูสเค้กได้เลยคะ แล้วนำกลับเข้าไปแช่เย็นต่อไปอีก อย่างน้อย 6 ชั่วโมงนะคะ(ถ้าหากต้องการให้เย็นเร็วๆ แช่ช่องฟรีชก็ได้คะ 1 ชั่วโมงก็น่าจะได้คะ)
ส่วนใหญ่เวลาทำมูสเค้ก แมวจะแช่ค้างคืนไปเลยคะ รุ่งขึ้นค่อยแต่งหน้าเค้กคะ
ลองทำดูนะคะ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องใช้เวลา มากกว่าเค้กอื่นๆ คะ แล้วที่สำมะคัญ คือ เราต้องใจเย็นสุดๆ คะ
ใครได้ทำแล้ว ส่งรูปมาให้ชื่นชม ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามพัฒนาการ การทำขนม ของแมวนะคะ
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:17:22 น.
ตัวเค้กตอนยังไม่ได้ราดเยลลี่
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:26:47 น.
รูปไม่ขึ้นอ่ะ สงสัยเราทำไม่เป็นอ่ะ ใครพอจะแนะนำได้บ้างคะ ว่า เราจะใส่รูปตรง ส่วน comment ได้ยังไงคะ
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:30:26 น.
คลิกเข้าไป ตรง jpg ไงคะ ว่าแต่แลก กับ เค้กก้อนโต ๆ นะคะ
โดย:
กิน ๆ เที่ยว ๆ
วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:11:21:06 น.
ลองใส่รูปใหม่ ตามคำแนะนำ ของเจ๊หลี
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:9:18:33 น.
ก็ยังใส่ไม่เป็น อยู่ดีอ่ะ เจ๊หลีช่วยด้วย
โดย:
ดวงใจพ่อแม่
วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:9:19:40 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
kat281308
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Friends' blogs
แม่สลิ่ม
ปูขาเก เซมารู
puppadoowab
Beebie
jumjee
กิน ๆ เที่ยว ๆ
Kofschip
anadiar
Tumm_Phathu
momijimi
wee_nong
its_gemmi
ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน
Lion online
@The End Of A Fairy Tale@
@ - ENYA - @
pummy_beauty
moopu
ann_scnu16
ceacar salad
Excuse..Me!
Jekyll and Hyde
jazzy-bong
Webmaster - BlogGang
[Add kat281308's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.